ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0564 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0566 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0565 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 565 : จารึกวิญญาณจ้าวดวงดาว

เหลียวฉงเจิ้งทราบ ว่าตนเองหาได้แข็งแกร่งดังฉินหยุน แต่เขาก็หาได้หวั่นเกรงไม่ เนื่องจากเขามั่นใจว่าฉินหยุนไม่กล้าลงมือสังหารตนเอง

“ฉินหยุน หากเจ้ามีความกล้า เช่นนั้นจงสังหารข้า! ด้วยสภาพตอนนี้ คนของนครเซียนยุทธภัณฑ์ที่มีน้อยกว่า หาได้ใช่คู่ต่อสู้ของหุบเขาเซียนโอสถและขุนเขาเซียนอัคคีครามไม่!” เหลียวฉงเจิ้งสำลักเลือดทั้งยังหัวเราะดัง

ฉินหยุนตบใบหน้าอีกฝ่ายอีกครั้ง “รีบนำเอากระดูกสัตว์สวรรค์สองแสนจินออกมา!”

“ฝันเฟื่อง! ข้าให้กระดูกสัตว์สวรรค์พวกนั้นแก่ผู้อาวุโสสำนักไปแล้ว!”

ใบหน้าของเหลียวฉงเจิ้งบิดเบี้ยว คำพูดกล่าวแต่ละคำล้วนยากลำบาก กระนั้นภายในหัวใจกลับยินดี “ฉินหยุน เจ้ารอข้าก่อนเถอะ ข้าจะตัดศพเจ้าออกเป็นหมื่นชิ้น เป็นเจ้าต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ทำกับข้าวันนี้อย่างสาสม!”

ฉินหยุนยิ้มเย็น “เหลียวฉงเจิ้ง เจ้าช่างจินตนาการกว้างไกลนัก! คิดหรือว่าข้าจะปล่อยให้เจ้ารอดชีวิต?”

“ว่าอะไร คิดสังหารข้างั้นหรือ? หากเป็นคนฉลาด เจ้าย่อมเก็บข้าเป็นตัวประกันต่อรองกับหุบเขาเซียนโอสถ ให้พวกเขาได้หยุดมือ มีแต่วิธีนี้เจ้าจึงค่อยมีชีวิตรอดในนครเซียนยุทธภัณฑ์ได้!” เหลียวฉงเจิ้งตอบโต้กลับมา

“ชะตาเจ้าคือจบชีวิตที่วันนี้ และจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์หลังจากนั้น!” ฉินหยุนกล่าวคำจบ เขาจึงตบที่ใบหน้าเหลียวฉงเจิ้งอีกครั้ง

เหลียวฉงเจิ้งใช้ยันต์ที่มีไปหมดสิ้นแล้ว เมื่อถูกฉินหยุนทำร้ายบาดเจ็บรุนแรง เข้าไม่มีทางสู้กลับ เขาได้แต่ต้องรับการตบตี

“ฉินหยุน จงปล่อยเหลียวฉงเจิ้ง! เจ้าหาญกล้ายั่วยุตระกูลหลงและตระกูลหยางแล้ว หากยังกล้ายั่วยุหุบเขาเซียนโอสถของพวกเรา เจ้ามีแต่ชะตาต้องตาย!”

จากที่ไกลออกไป ชายชราเผยเสียงเย็นเยือกกราดเกรี้ยว เสียงนี้อัดแน่นด้วยความคุกคาม

ฉินหยุนจับตัวเหลียวฉงเจิ้งเอาไว้ ใบหน้าแม้บวมปริ่มแต่ก็ยังเผยยิ้มอัปลักษณ์ออกมา “ฉินหยุน ได้ยินแล้วใช่หรือไม่? หุบเขาเซียนโอสถของพวกเรามีผู้อาวุโสระดับครึ่งเซียนที่แกร่งกล้าอยู่!”

“เหลียวฉงเจิ้ง เจ้าพ่ายแพ้ต่อข้า ใช้งานอาวุธ และยังใช้ยันต์เต๋าทำร้ายหัวหน้ากับเจี้ยนหมาง! ทั้งยังไม่คิดส่งกระดูกสัตว์สวรรค์สองแสนจินแก่ข้า ยังคิดหรือว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดพ้น?”

“เช่นกัน เจ้าทำข้าสูญเสียหนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วงไปเมื่อครั้งนั้น ทำให้ข้าไม่อาจเข้าร่วมหุบเขาเซียนโอสถเป็นคนสวนโอสถ เรื่องนี้ถือว่าต้องสะสางบัญชีหนี้รวมกัน!”

ฉินหยุนคว้าจับคอของเหลียวฉงเจิ้งไว้แน่นพร้อมแค่นเสียง

“เจ้าไม่มีทั้งเหรียญม่วง กระดูกสัตว์สวรรค์ และยังไม่คิดขออภัยต่อหัวหน้าและเจี้ยนหมาง อย่างนั้นก็มีทางเดียวที่เจ้าสามารถชดใช้ จงตาย!”

“ฉินหยุน นี่เจ้ากล้า?” เหลียวฉงเจิ้งพบเห็นเจตนาสังหารในดวงตาฉินหยุน เขาเร่งร้อนตะโกนดัง

ผู้คนที่อยู่ไกลออกไป กำลังรับชมอย่างเงียบงัน พวกเขาต่างเชื่อ ว่าฉินหยุนไม่มีทางกล้าลงมือสังหารเหลียวฉงเจิ้ง

“ฉินหยุน จงหยุด!” จากที่ไกลออกไป ชายชราเร่งรีบทะยานร่างเข้ามา เขาคือผู้อาวุโสของหุบเขาเซียนโอสถ

พร้อมกันนี้ ผู้อาวุโสหลายคนของนครเซียนยุทธภัณฑ์ก็เร่งรีบทะยานร่างเข้ามา

“เหลียวฉงเจิ้ง รับความตาย!”

ฉินหยุนคำรามดัง ค้อนเทวะเก้าตะวันในมือฟาดหวดออก เปลวเพลิงร้อนแรงสะกดลงมา

ตู้ม!

อัคคีเพลิงลุกท่วมร่างของเหลียวฉงเจิ้ง

กระทั่งเป็นร่างอัคคีลึกล้ำที่แข็งแกร่ง เมื่อถูกเผาไหม้ด้วยอัคคีเพลิงที่เหนือชั้นกว่า เหลียวฉงเจิ้งจึงร่างเลือนหายไร้ร่องรอย

ก่อนหน้านี้ ผู้คนต่างเชื่อว่าฉินหยุนไม่กล้าสังหารเหลียวฉงเจิ้ง ขณะนี้พวกเขาค่อยทราบว่าคิดผิด!

ได้เห็นเหลียวฉงเจิ้งตายตก ผู้อื่นต่างนิ่งอึ้ง

ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณเยาว์วัย ครอบครองร่างอัคคีลึกล้ำ รวมถึงโทเทมอัคคี ต้องถูกสังหารด้วยสภาพเช่นนี้

บุคคลพรสวรรค์มากล้นหาได้ยากยิ่ง ย่อมมีความสำคัญต่อสำนักเซียน

กระนั้น ขณะนี้แม้ร่างอีกฝ่ายก็ไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว!

“ฉินหยุน รับความตายเสีย!”

ชายชราจากหุบเขาเซียนโอสถคำรามดังแต่ไกล เป็นเขากราดเกรี้ยวประดุจฟ้าคำรามพุ่งเข้าหา

ฉู่ปินอวี้รวดเร็ว เร่งรีบทะยานร่างเข้าขวางชายชราจากหุบเขาเซียนโอสถ ส่งร่างอีกฝ่ายกระเด็นด้วยฝ่ามือระเบิด

“หุบเขาเซียนโอสถ นี่คือผลลัพธ์จากความโลภของพวกเจ้า!! หากเจ้ายอมซื่อตรงส่งมอบกระดูกสัตว์สวรรค์ที่เหลียวฉงเจิ้งคดโกงไปต่อพวกเรา มันก็คงไม่ต้องตายอนาถเพียงนี้!”

ขณะฉินหยุนกล่าว ชายชราหลายคนจากหุบเขาเซียนโอสถทะยานร่างลงมา พวกเขาต่างเป็นยอดยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ

ทันทีเมื่อพวกเขาลงถึงพื้น การโจมตีรุนแรงจึงระดมออกอย่างดุดัน!

นับเป็นโชคดี ฉู่ปินอวี้แกร่งกล้ามากพอ เขาสามารถต้านรับการโจมตีดุดันของกลุ่มคนเอาไว้ได้

คนของนครเซียนยุทธภัณฑ์มีน้อยกว่า พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสองสำนักเซียนถือว่าเสียเปรียบ ขณะนี้ประคองสถานการณ์เอาไว้ได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

อย่างกะทันหัน กลุ่มคนจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ

ออร่านี้แกร่งกล้า มองเพียงครั้งเดียว ผู้คนกล้าบอกว่าอย่างน้อยก็เป็นราชันยุทธ์

“สำนักใดคิดช่วยเหลือ?”

เมื่อผู้คนได้เห็นราชันยุทธ์ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน พวกเขาเกิดความตระหนกตกใจเกาะกุม

บุคคลที่มาเยือนนี้ หาได้มาจากสำนักใด แต่เป็นคนของตำหนักจารึกเทวะ

ฉินหยุนจดจำหนึ่งในนั้นได้ หนึ่งในกลุ่มคน เป็นจ้าวตำหนักใหญ่ของตำหนักจารึกเทวะในแดนยุทธ์อ้างว้าง หานเฝิงหู่!

หานเฝิงหู่สวมใส่ชุดสีขาว ข้างกายเขาเป็นชายชราแกร่งกล้าผู้หนึ่ง

ทันทีเมื่อมาถึง เขามองไปยังความวุ่นวายที่บังเกิด ใบหน้ายังคงความสง่างามไว้

“ข้ามาจากตำหนักจารึกเทวะ ทุกคนจงหยุดมือ!” หานเฝิงหู่ตะโกนดัง

ไม่ช้า เขาและชายชราต่างเข้ายับยั้งเหตุการณ์ในสมรภูมิโกลาหล ทำการแยกยอดยุทธ์และราชันยุทธ์หลายคนที่กำลังต่อสู้กัน

ความวุ่นวายหยุดลง ความสงบกลับคืนมา

ผู้คนจากหุบเขาเซียนโอสถจับจ้องที่ฉินหยุน พวกเขาเผยความคุกคามต่อฉินหยุนอย่างเห็นได้ชัด

ขณะนี้เอง ชายชราจากหุบเขาเซียนโอสถพลันทะยานร่างเข้าใส่ฉินหยุน ปลดปล่อยพายุพลังออกมามวลหนึ่ง

ฉู่ปินอวี้รวดเร็ว เข้าขวางพายุพลังที่แกร่งกล้านี้ปัดทิ้งให้พ้นทาง

คนของตำหนักจารึกเทวะ ไม่คิดว่าคนของหุบเขาเซียนโอสถจะไม่ไว้หน้าพวกตนถึงเพียงนี้!

ความวุ่นวายที่หยุดลง ขณะนี้เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

ฉินหยุนและคณะกำลังถูกล้อมด้วยคลื่นพลังในอากาศปลิวว่อน!

คนของขุนเขาเซียนอัคคีคราม และหุบเขาเซียนโอสถเมื่อครู่ลงแรงกันไปมาก ฝ่ายพวกเขายังสามารถต้านรับ ทว่าพอคนจากหุบเขาเซียนโอสถลงมืออย่างกะทันหัน พวกเขาแทบไม่อาจต้านทานอีกฝ่ายไว้

กระทั่งว่าฉู่ปินอวี้ได้รับบาดเจ็บ ก็ยังไม่อาจสกัดคนของหุบเขาเซียนโอสถผู้นี้ไว้ได้

ชายชราจากหุบเขาเซียนโอสถ เมื่อทะยานร่างเข้ามาใกล้ เขาหาได้เข้าถึงตัวฉินหยุนไม่

กลับกัน เป็นการพุ่งเข้าหาเจี้ยนหมางและเก๋อหมิงเจียง!

ทั้งเจี้ยนหมางและเก๋อหมิงเจียงต่างได้รับบาดเจ็บ คิดหลบหนีย่อมไม่อาจทำได้

แม้ฉินหยุนอยู่ไม่ไกล แต่เขาไม่อาจต้านทานคลื่นพลังรุนแรงของราชันยุทธ์

ราชันยุทธ์เร่งรีบพุ่งทะยานเข้าไป หาได้คิดโจมตี แต่ใช้ความเร็วมากล้ำจับกุมตัวเก๋อหมิงเจียงเอาไว้พร้อมลอยขึ้นกลางอากาศ

“ฉินหยุน ส่งมอบอุปกรณ์เต๋าโบราณสี่ชิ้นมาโดยเร็ว แล้วข้าจะปล่อยมันผู้นี้ไป!”

ราชันยุทธ์จากหุบเขาเซียนโอสถคำรามร้องเสียงดัง

หุบเขาเซียนโอสถสูญเสียไปมาก ศิษย์หลายคนเสียชีวิต ขณะนี้พวกเขายังสร้างความแค้นกับนครเซียนยุทธภัณฑ์ เป็นเขาต้องหาทางนำผลประโยชน์ใดกลับคืนสู่หุบเขาเซียนโอสถบ้าง

“ฉินหยุน อย่าได้ให้พวกมัน!” เก๋อหมิงเจียงตะโกนดัง “หากให้พวกมันได้อุปกรณ์เต๋าโบราณ ก็มีแต่จะทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้น อย่าได้มอบให้!”

อุปกรณ์เต๋าโบราณของฉินหยุน ล้วนได้รับมาจากบรรดาศิษย์ของสำนักเก้าตะวัน พวกมันไม่นับว่าดี แต่อย่างไรแล้วอักขระเต๋าโบราณก็มีมูลค่าไม่อาจประเมิน

ผู้คนจากนครเซียนยุทธภัณฑ์เผยความกราดเกรี้ยว กระนั้นพวกเขามีจำนวนคนน้อยกว่า ย่อมไม่มีทางต้านราชันยุทธ์จากหุบเขาเซียนโอสถผู้นี้ได้

ฉินหยุนเร่งรีบนำเอาอุปกรณ์เต๋าโบราณออกมา พร้อมหันมองทางกลุ่มคนจากตำหนักจารึกเทวะ เขากล่าวต่อหานเฝิงหู่ “ผู้อาวุโส ท่านเป็นคนของตำหนักจารึกเทวะ! ข้าจะส่งอุปกรณ์เต๋าเหล่านี้แก่ท่านก่อน แล้วรอให้ตัวบัดซบนั่นปล่อยตัวคนของพวกเราลง จากนั้นท่านค่อยให้อุปกรณ์เต๋าแก่มัน!”

หานเฝิงหู่รับฟังก่อนพยักหน้ารับ “ตกลง!”

ฉินหยุนเป็นกังวล ว่าเก๋อหมิงเจียงจะถูกสังหาร ดังนั้นจึงแต่ต้องจำยอม

อุปกรณ์เต๋าสามารถสร้างใหม่ แต่หากเก๋อหมิงเจียงตาย เขาจะรู้สึกผิดไปอีกนานนับ

เหลียวฉงเจิ้งถูกสังหาร คนของหุบเขาเซียนโอสถล้วนคลั่ง พวกเขาอาจสังหารเก๋อหมิงเจียงได้ทุกเมื่อ

หานเฝิงหู่ที่ได้รับอุปกรณ์เต๋าโบราณทั้งสี่ชิ้น เขาหันมองทางชายชราจากหุบเขาเซียนโอสถพร้อมกล่าว “พวกเรารับหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างสำนักเซียน! เมื่อได้รับอุปกรณ์สี่ชิ้นนี้ไปแล้ว เจ้าต้องจากไปโดยทันที หากมีเรื่องใดคิดพูดกล่าว จงไปหารือกันในภายหลัง!”

ราชันยุทธ์จากหุบเขาเซียนโอสถ ขณะนี้ปล่อยตัวเก๋อหมิงเจียง พร้อมเข้าไปรับเอาอุปกรณ์เต๋ามาสี่ชิ้น เขาหัวเราะออกเสียงดัง “ฉินหยุน เจ้าไม่มีอุปกรณ์เต๋าโบราณแล้ว คราวนี้จะเอาหัวของผู้นำตระกูลหลงและหยางมาได้อย่างไร?”

ราชันยุทธ์ผู้นี้เป็นคนของตระกูลหลง นี่ยิ่งทำให้ฉินหยุนเกลียดชังตระกูลหลงมากยิ่งขึ้น!

“หุบเขาเซียนโอสถ ความผิดพลาดใหญ่หลวงของเจ้าคือการเอาอุปกรณ์เต๋าข้าไป เรื่องนี้เจ้าจะต้องสำนึกเสียใจ!” ภายในน้ำเสียงของฉินหยุน มันเจือปนด้วยจิตสังหารอัดแน่น

“ฮ่าฮ่า ฉินหยุน ตัวตนเล็กจ้อยเช่นเจ้า กล้าที่จะสร้างปัญหาให้แก่หุบเขาเซียนโอสถของพวกเรางั้นหรือ? อย่าว่าแต่เจ้า กระทั่งจ้าวสำนักนครเซียนยุทธภัณฑ์ก็ยังไม่กล้า!”

หุบเขาเซียนโอสถได้รับอุปกรณ์เต๋าไปสี่ชิ้น เรื่องนี้ทำเอาคนของขุนเขาเซียนอัคคีครามริษยาจนแทบตายแล้ว

ศิษย์พวกเขาหลายคนเสียชีวิต กระนั้นพวกเขากลับไม่ได้รับอะไร

หุบเขาเซียนโอสถได้รับกระดูกสัตว์สววรรค์ไปมากจากเหลียวฉงเจิ้ง ขณะนี้ยังจะได้รับอุปกรณ์เต๋าโบราณอีกสี่ชิ้น

คนของนครเซียนยุทธภัณฑ์เร่งรีบเข้าคุ้มกันฉินหยุน เก๋อหมิงเจียง และเจี้ยนหมาง

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดิม หานเฝิงหู่จึงมายืนทางด้านกลุ่มคนของนครเซียนยุทธภัณฑ์ด้วย

“นครเซียนยุทธภัณฑ์ หากเจ้าคิดอยากเจรจา เช่นนั้นจงส่งตัวฉินหยุนมา ไม่เช่นนั้นความแค้นนี้จะไม่มีวันถูกสะสาง!”

ชายชราจากหุบเขาเซียนโอสถ ยังเผยถ้อยคำหยาบคายทิ้งไว้ก่อนนำกลุ่มคนจากไป

คนของขุนเขาเซียนอัคคีครามได้เห็นมังกรกระดูกของฉินหยุน ดวงตาพวกเขาแทบเป็นประกาย พวกเขาคิดอยากจับเก๋อหมิงเจียงใช้ข่มขู่ฉินหยุนให้ส่งมังกรกระดูกมา

กระนั้นพวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้ลงมืออีกต่อไปแล้ว

“นครเซียนยุทธภัณฑ์จงฟัง! ศิษย์ที่ถูกสังหารของขุนเขาเซียนอัคคีคราม ล้วนเป็นฝีมือของฉินหยุน หากยอมส่งมอบตัวฉินหยุนแก่พวกเรา ข้อพิพาทที่มีจะถือเป็นโมฆะ!” คนของขุนเขาเซียนอัคคีครามเผยเสียงดัง “หากเจ้าคิดถี่ถ้วนแล้ว ให้มาพูดคุยกับพวกเราได้ทุกเมื่อ!”

คนของขุนเขาเซียนอัคคีครามพอกล่าวจบ ก็เร่งรีบไปให้พ้นจากที่นี่

เจี้ยนหมางเผยความเกรี้ยวกราด “เป็นพวกมันที่ผิด! หากพวกมันไม่คิดสังหารพวกเรา ฉินหยุนก็ไม่ต้องลงมือสังหารพวกมัน!”

“เหลียวฉงเจิ้งตัวบัดซบ! ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่เป็นแล้วยังคิดอยากเล่นเดิมพัน!”

เก๋อหมิงเจียงสบถออกหลายคำ ภายในใจขณะนี้เกิดความไม่สบายใจอย่างยิ่ง เพราะฉินหยุนต้องสูญเสียอุปกรณ์เต๋าโบราณไปถึงสี่ชิ้นด้วยกัน

ฉู่ปินอวี้เผยยิ้ม “ไม่เป็นไร อย่างน้อยทุกคนยังอยู่รอด พวกมันต่างหากที่ตายกันไปมาก!”

“กลุ่มคนบัดซบจากหุบเขาเซียนโอสถ พวกมันได้อุปกรณ์เต๋าโบราณไปถึงสี่ชิ้น!”

เก๋อหมิงเจียงพอคิดถึงเรื่องนี้ ภายในใจยิ่งเจ็บปวด เพราะฉินหยุนส่งอุปกรณ์เต๋าเหล่านั้นไปก็เพื่อช่วยตัวเขาเอาไว้

ชายชราตาเดียวเข้ามาเอ่ยคำ “หมิงเจียง กลับไปพักฟื้นได้แล้ว!”

ฉู่ปินอวี้มองทางหานเฝิงหู่ พร้อมทำท่าคำนับอีกฝ่าย “ขอบคุณที่มาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงตกอยู่ในปัญหาใหญ่แล้ว!”

“เป็นหน้าที่ของพวกเรา!” หานเฝิงหู่โบกมือไหววูบ จากนั้นสายตาจึงย้ายมองที่ฉินหยุน เขากล่าว “ข้าขอพูดคุยกับฉินหยุนตามลำพังได้หรือไม่? ข้าคิดอยากทราบว่าเรื่องราวใดกันแน่ที่เกิดขึ้น เมื่อกลับไปแล้ว ข้าจะได้รายงานต่อเรื่องราวนี้ถูกต้อง!”

ฉู่ปินอวี้พยักหน้ารับ

หานเฝิงหู่นำฉินหยุนบินขึ้นบนฟ้าสูง ก่อนจะเคลื่อนออกมาไกลจากภูเขาน้ำแข็ง

“ฉินหยุน ครั้งเจ้าอยู่ในแดนยุทธ์อ้างว้าง แม้มีข้อพิพาทกับพวกเราตำหนักจารึกเทวะ แต่ขณะนี้ทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว!” หานเฝิงหู่กล่าว

“เป็นเช่นนั้น” ฉินหยุนพยักหน้ารับ

“ดังนั้น พวกเราไม่นับเป็นศัตรูกันแต่อย่างใดอีก!” หานเฝิงหู่เผยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโสหาน ท่านคิดอยากพูดคุยเรื่องสำคัญไม่ใช่หรือ?” ฉินหยุนทราบ ว่าหานเฝิงหู่มีเรื่องสำคัญคิดบอกกล่าว

“หยางฉีเย่ว์ได้รับจารึกวิญญาณที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เป็นจ้าวดวงดาว!” หานเฝิงหู่เผยเสียงเคร่งเครียด “ขณะนี้หลายคนได้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและหยางฉีเย่ว์! พวกนั้นคิดอยากจับตัวเจ้าเพื่อข่มขู่ให้หยางฉีเย่ว์ปรากฏตัวออกมา และบังคับให้นางยอมส่งมอบจ้าวดวงดาว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด