ตอนที่แล้ว15 ไร้ความเกรงกลัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป17 คุณน้าในตลาดมืด

16 ปลิงทะเลหนึ่งตัว


16 ปลิงทะเลหนึ่งตัว

“วูซซซซซ-----”

มือของเฮ่อเหลียนเลี่ยรวดเร็วราวกับสายฟ้าและรถไฟคริสตัลที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ มือของเขายังไม่ทันได้ถึงตัวหลี่เย้า แต่คลื่นพลังที่รุนแรงก็ส่งผ่านไปถึงตัวของหลี่เย้าก่อนแล้ว

ดวงตาของหลี่เย้านั้นราวกับเข็ม เขารู้สึกได้ถึงความเย็นที่กระดูกสันหลัง และพุ่งเข้าสู่หัวใจของเขา อยู่ๆ มันก็คล้ายกับว่า “ประตู” ภายในจิตใจของเขาได้เปิดออก ประสาทสัมผัสทั้งห้าที่คมกริบอย่างหาตัวจับยาก ที่เคยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากความฝันอันยิ่งใหญ่ ได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง

ภายในเวลา 10 วินาที เขาสามารถมองเห็นใบหน้าตกตะลึงของชายหนุ่มสามคน ที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้อย่างชัดเจน เขามองเห็นทุกรายละเอียดของก้าน กิ่ง ใบ และดอกไม้ของพันธ์ไม้ทุกต้นโดยรอบ เขาได้กลิ่นหอมของอาหารหลายชนิดที่ลอยออกมาจากห้องครัว และถึงขนาด สามารถมองเห็นยุงตัวหนึ่ง ที่กำลังบินอยู่ไกลออกไปเจ็ดถึงแปดเมตร

ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังเห็นปลิงทะเลนอนอยู่บนพื้นกั้นกลางระหว่างเขากับเฮ่อเหลียนเลี่ย ซึ่งเป็นปลิงทะเลที่เขาเพิ่งจะทำตกไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

ลึกลงไปในจิตใจของเขา ตัวเลขมากมายได้ระเบิด ระเบิด และระเบิดออก พวกมันได้รวมตัวกันกลายเป็นสูตรการคำนวนแรงหมุน, วิถีการเคลื่อนไหว, ทิศทางของแรง, และข้อมูลมากมายต่างไหลเวียนอยู่ภายในนั้น

หลังจาก 10 วินาทีผ่านไป หลี่เย้ากระพริบตาและกระพริบตา ร่างกายของเขาขยับไปก่อนความคิด จิตสำนึกของเขาสั่งให้เขาก้าวขาขยับไปทางซ้ายเล็กน้อย

ทันทีที่หลี่เย้าขยับตัว เฮ่อเหลียนเลี่ยก็พุ่งมาถึง ร่างของเขาเปลี่ยนทิศทางการโจมตีไปอีก 0.1 เมตร ดังนั้น เมื่อเท้าขวาของเขาย้ำลงพื้นอย่างแรง ก็ทำให้เขาเหยียบลงไปบนตัวปลิงทะเลได้อย่างเหมาะเจาะ และสูญเสียการทรงตัว!

หากเขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ต่างไปจากหลี่เย้า เฮ่อเหลียนเลี่ยก็คงจะไม่ประมาทแบบนี้ แต่สำหรับหลี่เย้าแล้ว เขาก็ไม่ต่างไปจากขยะในสายตาของเฮ่อเหลียนเลี่ย เขาจึงไม่ได้เตรียมใจที่จะได้รับความเจ็บปวด จากการลื่นล้ม

หลี่เย้าหลบไปด้านข้าง เฮ่อเหลียนเลี่ยไถลลื่นผ่านหน้าหลี่เย้าห่างกันเพียงแค่เส้นผมเท่านั้น หลี่เย้าเห็นสีหน้าตกตะลึงและเสียใจของเฮ่อเหลียนเลี่ยได้อย่างชัดเจน ดวงตาที่เบิกกว้างของเฮ่อเหลียนเลี่ยแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า หลังจากที่ไถลไปเกือบสามเมตร เฮ่อเหลียนเลี่ยก็ชนเข้ากับโต๊ะอาหารจนพลิกคว่ำ จานใส่อาหารหลายใบได้ร่วงหล่นใส่ศีรษะของเขาดัง “เพล้ง!”

น้ำเหนียวข้นของปลิงทะเลที่มีกลิ่นคล้ายกับหอยแครง ลูกชิ้นปลาไข่มุกรสชาติเยี่ยม...ไม่ได้เสียเปล่า อาหารทั้งหมดทั้งมวลติดอยู่บนเส้นผม, ใบหน้า, ไหล่,และเสื้อผ้าราคาแพงของเฮ่อเหลียนเลี่ย มันดูคล้ายกับว่า เฮ่อเหลียนเลี่ยเพิ่งจะอาบน้ำด้วยน้ำคาวปลามา

เขาเงียบไป มันเป็นความเงียบที่น่าสะพรึงกลัว ราวกับป่าช้า!

เฮ่อเหลียนเลี่ยรู้สึกตกตะลึง ใบหน้าของเขาแข็งทื่อ สีหน้าของเขามีอารมณ์มากมายผสมปนเปกันไปหมด ทั้งสับสัน อับอาย โมโห และบ้าคลั่ง

หลี่เย้ากระพริบตา เขามองไปที่ปลิงทะเลตัวหนึ่งที่ติดอยู่บน “คิ้วเข้มและดวงตาแวววาว” ของเฮ่อเหลียนเลี่ย มันคืองานศิลปะชัดๆ ปลิงทะเลค่อยๆไหลตกลงไปบนพื้น ด้วยท่าทีราวกับไม่อยากจะแยกจากเฮ่อเหลียนเลี่ยไป

“เรื่องสนุกกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปซะแล้วสิ เจ้านั่นมันโผล่มาจากที่ไหนกัน? เขาใจร้อนจริง!” ไม่ไกลจากตรงนั้น เจิ้งตงหมิงตัวสั่นอย่างรุนแรงราวกับคนเป็นโรคลมชัก จากใบหน้าที่สดสุขภาพดี กลับกลายเป็นสีม่วงจากการที่เขาหัวเราะมากเกินไป

เขาดึงตัวชายหนุ่มอีกสองคนให้ถอยหลังออกไปสองสามก้าวอย่างใจเย็น และรักษามารยาทเอาไว้เช่นเดิม เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกลั้วหัวเราะออกมาว่า “ฉันไม่คิดเลยว่า การมาดูคนกินอาหารจะน่าดูกว่าระบำเปลื้องผ้าได้  พวกนายคิดว่า เฮ่อเหลียนเลี่ยตั้งใจทำโชว์นี้ขึ้นมา สำหรับงานวันเกิดของฉันโดยเฉพาะรึเปล่า?”

ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดออกมาอย่างลังเล “มันคงจะไม่ใช่หรอกมั้ง? ฉันจำได้ว่า เฮ่อเหลียนเลี่ยเป็นคนที่รักความสะอาดมาก คุณชายเจิ้งลองดูสิ จากสีหน้าของเฮ่อเหลียนเลี่ยแล้ว ดูเหมือนว่าจะอยากจะร้องไห้ออกมามากกว่า เราควรเข้าไปช่วยเขาดีไหม?”

“แน่นอนว่าไม่ควร โชว์สุดวิเศษแบบนี้นานๆจะมีมาสักที เราต้องดูจนจบเรื่องถึงจะถูก!” คุณชายเจิ้งพูดออกมาโดยไม่มีความเห็นใจแม้แต่น้อย

ในตอนนี้ เฮ่อเหลียนเลี่ยได้หายจากอาการตกตะลึงแล้ว เขาในเวลานี้ ราวกับภูเขาไฟที่ตื่นจากการจำศีล ลาวาที่เดือดพล่านพร้อมจะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ เขาปลดปล่อยพลังแห่งเพลิงออกมา และลุกไหม้อยู่รอบตัวเขา จนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อุณหภูมิภายในห้องพุ่งสูงขึ้น!

“แกร็ก! แกร็ก!” เสียงระเบิดที่คล้ายกับเสียงประทัดดังออกมาจากร่างกายของเขา จนทำให้คนที่เฝ้าต้องสั่นไหวไปด้วยความกลัว

สมองของหลี่เย้าประมวลผลด้วยความเร็วสูงสุด ความทรงจำมากมายไหลเวียนอยู่ภายในหัวของเขา ภาพความทรงจำแต่ละภาพ สะท้อนให้เห็นภาพการต่อสู้ที่บ้าคลั่งจำนวนมาก

เมื่อดูจากภายนอก มันคล้ายกับว่าเขาได้ถูกพลังที่ปล่อยออกมาของเฮ่อเหลียนเลี่ย กดทับและข่มขู่เขาอยู่ จนทำให้เขายืนทื่อราวกับรูปปั้น

แต่ภายในร่างกายของเขานั้น กล้ามเนื้อทุกมัดรัดแน่นขึ้น เขาเป็นเหมือนกับสปริงที่ถูกบีบอัดจนถึงขีดสุด เพื่อสะสมพลังเอาไว้รอการปลดปล่อย

มือของเขาคว้าจับความว่างเปล่า แต่เขาก็ดึงมือกลับมาไว้ข้างกายโดยอัตโนมัติ มันราวกับว่า มือทั้งสองข้างของเขากำลังถือค้อนหนักห้าร้อยกิโล ข้างละอันอยู่ เขาโยกเล็กน้อยและรอคอยที่จะปลดปล่อยพลังของเขาออกไป

ในตอนที่ชั้นบรรยากาศกำลังถูกแยกออก ในตอนที่เขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย—

มือที่อวบอ้วนข้างหนึ่งโผล่ออกมาและจับไปที่ไหล่ของเฮ่อเหลียนเลี่ยเอาไว้ ชายวัยกลางคนร่างอ้วนที่หนักประมาณ 100 กิโล อยู่ในชุดของผู้จัดการ ได้ปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังเฮ่อเหลียนเลี่ยโดยปราศจากเสียงใดๆ เขายิ้มและพูดออกมาว่า “คุณชายเฮ่อเหลียน คุณเมาแล้วนะครับ”

เฮ่อเหลียนเลี่ยเหลือบไปมองเขา แล้วหมุนตัวกลับ 180 องศาไปเผชิญหน้ากับชายร่างอ้วน

ผู้จัดการร้านอาหารคนนี้ดูไม่เหมือนกับคนที่เป็นผู้ฝึกตนที่เชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาใดๆเลย แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับ สายตามุ่งร้ายจากเฮ่อเหลียนเลี่ย เขากลับปัดมันทิ้งไปราวกับสายลม และไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากสายตานั้นเลย

เขาพูดออกมาอย่างสงบ “แน่นอนที่สุดว่า แขกที่มาทานอาหารที่ร้านเขตแดนทะเลสาบเร้นลับทุกคน จะต้องได้รับการบริการชั้นเยี่ยม และพวกเขาคือลูกค้าคนสำคัญ จุดนี้ คือสิ่งที่ทางร้านยึดถือปฏิบัติมานานหลายปี จะมีใครในเขตชานตงไม่รู้ถึงความสำคัญนี้บ้าง? ถ้าคุณชายเฮ่อเหลียนไม่ได้เมา คุณจะทำตัวแบบนี้ไปเพื่ออะไร? หรือคุณต้องการจะลงไม้ลงมือกับแขกผู้มีเกียรติของทางร้าน?”

“นายกำลังขู่ฉันอยู่เหรอ?” หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของผู้จัดการ เฮ่อเหลียนเลี่ยก็ชะงักไปและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงข่มขู่

ผู้จัดการร้านหัวเราะออกมาเบาๆ และไขมันบนหน้าของเขาก็สั่นไหวตามไปด้วย เขาพูดออกมาด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ “ถึงจะกินหัวใจหมีเข้าไป ผมก็ไม่กล้าไปขู่คุณชายเฮ่อเหลียนหรอกครับ มันเป็นเพียงแค่การเตือนเท่านั้น ที่ด้านหลังของคุณชายเฮ่อเหลียน โต๊ะหมายเลข 22 คือนักข่าวของบันเทิงรายวันของเมืองฝูเกอน่ะครับ”

“มีนักข่าวเหรอ?” ใบหน้าของเฮ่อเหลียนเลี่ยกลายเป็นน่าเกลียดในทันที เขาก้มหน้าลงและมองดูร่างกายที่เปรอะเปื้อนของเขา ถ้าหากรูปที่ “สวยงาม” นี้ถูกถ่ายโดยนักข่าวสายบันเทิงละก็ เขาจะต้องกลายเป็นคงดังที่สุดของเมืองฝูเกออย่างแน่นอน และเขาก็ไม่อยากจะเด่นดังด้วยเรื่องแบบนี้ด้วย

เขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลี่เย้า เขากัดฟันอดทนกับความเจ็บปวด และเดินออกไปจากร้านอาหาร โดยไม่พูดอะไรหรือหันกลับไปมอง

มันเป็นตอนนั้นเอง ที่ผู้จัดการได้หันกลับไปมองดูหลี่เย้า และแอบประเมินหลี่เย้าอยู่เงียบๆ

การแต่งกายของหลี่เย้านั้น ต่างไปจากท่าทีสงบและเยือกเย็นของเขาโดยสิ้นเชิง ซึ่งมันทำให้ผู้จัดการรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากที่มองอยู่คร่าวๆแล้ว ผู้จัดการก็ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งออกมา “ท่านแขกผู้มีเกียติร ผมต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะครับ ทั้งหมดเป็นเพราะความสะเพร่าของเรา จึงทำให้คุณลูกค้าถูกคุกคามภายในร้านของเรา ผมจึงอยากจะชดเชยความเสียหายให้กับคุณลูกค้า โดยการไม่คิดเงินค่าอาหารของคุณในวันนี้ ถือว่าเราเลี้ยงคุณลูกค้าก็แล้วกันนะครับ ผมหวังว่า เรื่องในวันนี้จะไม่ทำให้ความประทับใจของคุณลูกค้าที่มีต่อทางร้านลดน้อยลง และหวังด้วยว่า คุณลูกค้าจะมาใช้บริการกับทางเราอีกนะครับ”

การที่ร้านอาหารยังคงสามารถตั้งอยู่ภายในเขตชางตงได้นานหลายปี ก็เป็นเพราะการใส่ใจในรายละเอียดยิบย่อยและการตกแต่งที่งดงาม พนักงานจะไม่ตัดสินลูกค้าจากการแต่งกายภายนอก พวกเขาจะให้บริการแขกอย่างเท่าเทียม และเป็นเพราะการบริการที่ยอดเยี่ยม จึงทำให้พวกเขาได้รับคำชื่นชมจากประชาชน ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากับทองหลายชั่ง

หลี่เย้ามองดูเขา และในตอนที่เขากำลังจะพยักหน้านั้นเอง กลิ่นที่มึนเมาของไวน์ก็ไหลผ่านเข้าไปในจมูกของเขา ชายวัยรุ่นตาแมวพร้อมกับผมปาดน้ำมันเรียบแปร่ และใบหน้าที่ลงแป้งเอาไว้ ได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของหลี่เย้า บนใบหน้าของชายวัยรุ่นยังมีรอยยิ้มกว้างประดับเอาไว้ด้วย

“เพื่อนนักเรียน ฉันมีชื่อว่า เจิ้งตงหมิง นายจะเรียกฉันว่าคุณชายเจิ้ง หรือเรียกฉันว่าต้าตงก็ได้ แต่แม้เวลาจะผ่านไปกี่ล้านปีก็ห้ามเรียกฉันว่า เสี่ยวหมิง เด็ดขาด ฉันได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว ฉันรู้สึกว่า นายคือยักษ์ใหญ่ในหมู่คน เป็นหนึ่งในหมื่นคน เป็นสินค้าชั้นยอดในหมู่ชั้นยอด เรามาเป็นเพื่อนกันดีไหม?”

ภายใต้สายตาที่ระแวดระวังของหลี่เย้า เจิ้งตงหมิงก็ได้ยื่นมือออกมาอย่างวางท่า ที่ระหว่างนิ้วมือของเขามีนามบัตรลวดลายสวยงามอยู่ด้วยหนึ่งใบ “ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก ฉันไม่ได้มีความคิดซ่อนเร้นอะไรเลย ฉันก็แค่อยากจะแนะนำนายหน้าประกันภัยที่ดีที่สุดและมีความเชี่ยวชาญให้กับนายก็เท่านั้น ฉันแนะนำให้นายรีบถอนเงินทั้งหมดของนายออกมา และรีบเอาเงินไปซื้อประกันภัยป้องการการบาดเจ็บที่ดีที่สดเท่าที่นายจะจ่ายไหว เพราะว่า—”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง มีรอยยิ้มที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณชายเจิ้ง เขาพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อยว่า “เชื่อฉันเถอะ ว่าพรุ่งนี้นายจะต้องได้ใช้มันอย่างแน่นอน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด