ตอนที่แล้วGE395 ใครคือกษัตริย์พิรุณที่แท้จริง [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE397 เจอแล้ว! [ฟรี]

GE396 ป้ายทองคำ [ฟรี]


ในขณะที่กษัตริย์พิรุณกำลังสงสัยว่าใครเป็นผู้บรรลุปราณกษัตริย์ หนิงฝานก็ออกจากส่วนที่ 2 ของบ่อโลหิตมังกรไปยังส่วนที่ 1

เขานำหยูฉงเอ๋อร์อกมาจากแหวน คลายวิชาดรรชนีคลายหยิน ประครองร่างนางไว้เพื่อรอให้นางตื่น

*อื้ม~*

นางเปล่งเสียงราวกับคนที่เพิ่งตื่นนอน ค่อยๆลืมตาขึ้น นางยังคงจำเรื่องก่อนที่นางจะหมดสติได้ ว่านางงับเข้าที่ไหลหนิงฝานอย่างแรง

“ซัวหมิง เจ้าข่มเหงข้า เจ้าทำให้หมดสติ… เจ้ามันชั่วร้าย...”

นางบ่นกล่าวราวกับละเมอก่อนจะเอนกายพิงหนิงฝาน ใบหน้าซุกที่ลำคอ แขนทั้งสองข้างที่โอบรอบลำคอไม่ปล่อย ราวกับเขาเป็นหมอนข้างแล้วหลับไป

หนิงฝานส่ายหน้า แม้นางจะดูเหมือนเกลียดเขา แต่นางไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ยามนี้นางเหมือนเด็กสาวที่กำลังกอดหมอนนอนอย่างมีความสุข

“หยูฉงเอ๋อร์ ข้าให้เวลาเจ้า 3 ลมหายใจ รีบตื่นเดี๋ยวนี้” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย

“น่ารำคาญ...คนจะหลับจะนอน” นางขยี้ตา แต่เมื่อตั้งสติได้ กลับพบว่าตนเองกอดหนิงฝานแน่นจึงสะดุ้ง

“ซัวหมิง เจ้ามันไร้ยางอาย! เจ้าทำให้ข้าหมดสติแล้วฉวยโอกาสข้า!”

“ข้าว่าเจ้ามากกว่าที่ฉวยโอกาสข้า” หนิงฝานยิ้ม นางทั้งจูบตอนเขาหลับ ทั้งโอบกอดราวกับว่าเขาเป็นหมอนข้าง… เขาไปล่วงเกินนางตอนไหน?

“ใครจะไปรู้ว่าเจ้าจะฉวยโอกาสตอนที่ข้าหลับแล้ว...”

นางอายจนหน้าแดง เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดนางยังจำได้ดี นางเร่งถอยห่างจากหนิงฝาน สำรวจอาภรณ์ของตนอย่างละเอียด และแผ่สัมผัสเทพตรวจสอบร่างกายว่าหนิงฝานพรากพรหมจรรย์ไปหรือยัง… เมื่อทุกสิ่งอยู่ครบ นางจึงผ่อนคลาย

โชคดีที่หนิงฝานไม่ได้ล่วงเกินนาง นับว่าเขาเป็นคนดีในระดับหนึ่ง

นางจ้องมองหนิงฝานแต่ไม่กล่าว หากหนิงฝานคิดจะล่วงเกินนางจริงๆ นางคงไม่รอดมาถึงขนาดนี้

“ตื่นแล้วใช่มั้ย?”

“อืม...”

“ไปกันเถอะ”

“ไปไหน? ข้าไม่กล้าไป ข้ากลัว!” นางไม่กล้าไปพบพี่ชายและคนอื่นๆ เพราะนางเป็นผู้ที่ทำให้ทุกคนต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

“ไม่มีอะไรต้องกลัว… เจ้าไปขโมยสมุนไพรจากราชาอสูร ซ้ำยังหนีจากอสูรไร้ดัดแปลงได้ นับว่าเจ้าเป็นผู้กล้าหาญ แต่เรื่องแค่นี้กลับไม่ยอมรับผิด เจ้าจะกลัวไปทำไม?” หนิงฝานจ้องมองนาง

“ข้า… ข้าไม่ได้กลัวเรื่องรับผิด แต่ข้ากลัวว่าท่านพี่จะเกลียดข้า...” นางก้มหน้า ขบริมฝีปาก ใบหน้าซีดขาว สิ่งที่ทำให้นางกลัวที่สุดคือการถูกพี่ชายเกลียด

“เจ้ากล้างับคอข้า แต่กลัวพี่ชายเกลียดเนี่ยนะ?”

“ฮึ่ม! ข้าไม่ได้งับคอเจ้า!”

“งั้นสุนัขที่ไหนทำ?”

“เจ้าบ้า!”

แม้นางจะชอบด่าทอหนิงฝาน แต่นางรู้ว่าเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตพี่ชายและคนอื่นๆ ตัวนางเองก็ถูกเขาช่วยเช่นเดียวกัน

เมื่อนางคิดได้ นางนำกระเป๋าของตนออกมาหนึ่งใบ แล้วเดินมุ่งไปยังทางที่พี่ชายนางและคนอื่นๆอยู่

“ซัวหมิง เจ้าพูดถูก ข้าไม่ควรกลัวว่าท่านพี่จะเกลียดข้า ข้าต้องไปขอโทษพวกเขา… ขอบคุณที่ช่วยข้า ขอบคุณที่ปกป้องข้า เจ้าออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ ข้าจะไปหาท่านพี่กับคนอื่นๆเอง”

หนิงฝานพยักหน้าให้ การที่นางยอมรับความผิดและไปขอโทษนับเป็นเรื่องดี

แต่ก่อนที่นางจะไปนั้น หนิงฝานกลับคว้าแขนนาง ดึงร่างนางมาไว้ในอ้อมกอด แล้วทะยานไปบนท้องนภา

นางตกตะลึงกับการกระทำของหนิงฝาน

“ปล่อยข้านะ! เจ้าจะพาข้าไปไหน?” นางดิ้นขัดขืนเล็กน้อยแล้วหยุด ดูเหมือนนางจะเริ่มชินที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขา

“ข้าจะพาเจ้ากลับ ถ้าพวกนั้นเห็นข้าคงไม่กล้าตำหนิเจ้า”

เหล่าอสูรระหว่างทางที่เห็นหนิงฝาน พวกมันหวาดกลัวราวกับประสบกับฝันร้าย เพราะกลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้น มีกลิ่นอายของอสูรจำนวนมหาศาลที่ถูกสังหาร

ฉงเอ๋อร์เข้าใจเจตนาของหนิงฝาน เขาแค่อยากจะช่วยนางลดแรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ และทำให้คนอื่นๆไม่ติดใจเอาความนาง

นางใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของหนิงฝาน

นอกจากมารดาและพี่ชายแล้ว หนิงฝานเป็นคนแรกที่ดีกับนางมากขนาดนี้

“ขอบคุณ...” นางกล่าวอย่างแผ่วเบาจนหนิงฝานไม่ได้ยิน

ผ่านไปชั่วธูปไหม้หมดดอก หนิงฝานก็พานางไปถึงสถานที่ที่คนอื่นๆอยู่

หยูเป่ยและผู้เชี่ยชาญคนอื่นๆยังไม่จากไป เพราะหนิงฝานที่ออกไปตามหาฉงเอ๋อร์ยังไม่กลับมา คนเหล่านี้จึงเป็นห่วง

สถานที่แห่งนี้ไม่มีอสูรตนใดกล้าเข้ามา เพราะอสูรตัดวิญญาณและอสูรที่ทรงพลังอื่นๆถูกสังหารไปหมดแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 12 ขุดถ้ำเพื่อรักษาตัว เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของขอบเขตตัดวิญญาณตรงเข้ามา สีหน้าทั้งหมดแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ทั้งหมดไม่ได้หวาดกลัวที่จะถูกจู่โจม เพราะยังไงก็ไม่มีทางอยู่แล้ว

แต่เมื่อปราณตัดวิญญาณสองสายที่กำลังตรงเข้ามาให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย ทั้งหมดจึงวางใจ เพราะเจ้าของกลิ่นนั้นคือซัวหมิงและหยูฉงเอ๋อร์

“ท่านหมิงกลับมาแล้ว!” ชายชรากึ่งไร้ดัดแปลงผุดลุกยืน

ทั้งหมดเร่งออกมาจากถ้ำ เห็นหนิงฝานพาฉงเอ๋อร์มา ภาพที่เห็นทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญนับถือ โดยเฉพาะกับชายชรากึ่งไร้ดัดแปลง

ชายชราเห็นหนิงฝานทะยานเข้าสู่ส่วนที่ 2 ด้วยตาของตน และในนั้น มีกลิ่นอายของอสูรไร้ดัดแปลงอยู่

คาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะรอดออกมาจากส่วนที่ 2 พร้อมกับช่วยฉงเอ๋อร์ออกมาได้

สมแล้วกับชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อหันมองฉงเอ๋อร์ แววตาทุกคนกลับเปลี่ยนไป

เหตุที่ทั้งหมดต้องตกอยู่ในอันตรายที่เสี่ยงต่อชีวิตเป็นเพราะนาง

หลังจากวันที่หนิงฝานสังหารเหล่าอสูรในส่วนที่ 2 ไปจนเกือบหมด ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 12 พักรักษาร่างกายและมุ่งไปยังสถานที่ที่ราชาอสูรอยู่ ทั้งหมดพบเจอสมุนไพรมากมาย และเห็นร่องรอยของหญ้ามังกรโลหิต เพียงแต่มันถูกเก็บไปแล้ว

ดังนั้นหยูเป่ยจึงเจ้าใจถึงเหตุผลที่น้องสาวของตนทำเช่นนั้น

ที่นางกล้าเข้าไปชิงหญ้ามังกรโลหิตจากราชาอสูร เป็นเพราะมันคือสมุนไพรที่จำเป็นต่อการรักษามารดาของนาง หากเป็นมัน มันคงทำเช่นเดียวกัน

หยูเป่ยจึงได้อธิบายเรื่องราวให้ทุกคนฟัง ทำให้ทุกคนคลายความโกรธแค้นลงไปได้ส่วนหนึ่ง

ยามนี้แม้ทุกคนจะยังไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะเอาความ แค่อยากจะตำหนินางเท่านั้น

หากนางพูดคุยกับคนอื่นๆก่อน ขอให้ทุกคนช่วย คงไม่เกิดเรื่องเลวร้ายขนาดนี้

ดังนั้นแม้นางจะทำผิด แต่ไม่ใช่เรื่องที่อภัยให้ไม่ได้

“คารวะท่านหมิง!”

ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 12 ป้องมือให้หนิงฝานด้วยความนอบน้อม

หากทั้งหมดไม่ได้หนิงฝานช่วย พวกมันคงตายไปแล้ว

“อืม… สหายเต๋าหยู ข้าพาน้องสาวเจ้ากลับมาแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”

หนิงฝานปล่อยนาง ให้นางได้ไปหาพี่ชาย

หยูเป่ยมีความสุขที่ได้เห็นน้องสาว แต่ด้วยที่นางทำผิด จึงแสร้งทำสีหน้าเย็นชา

ตอนแรกนางไม่กล้าสบตาพี่ชาย แต่เมื่อรวบรวมความกล้าได้ นางก็หันกลับมาแล้วก้มหัวให้ทุกคน

“ข้าฉงเอ๋อร์ทำให้สหายเต๋าทุกคนเป็นอันตราย ข้ายอมรับผิดทุกอย่าง!”

“ฮึ่ม!” ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ

แต่ทันใดนั้น หนิงฝานกลับก้าวมาข้างหน้า โอบประครองนางไว้เบาๆแล้วกล่าว

“ถือว่าเห็นแก่หน้าข้า!” เขากล่าวโดยไม่อธิบายใดๆ แต่ถึงอย่างนั้น การกระทำของเขาก็ชัดเจนไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะเขากำลังขอให้คนอื่นๆอภัยให้นาง

หนิงฝานเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สูงชั้นกว่าทุกคนมาก ในเมื่อเขากล่าวถึงขนาดนี้ เหตุใดพวกมันจะไม่ไว้หน้า

“เรื่องมันแล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ!” ชายชรากึ่งไร้ดัดแปลงกล่าว เหล่าผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆทำได้เพียงถอนหายใจ เพราะดูเหมือนฉงเอ๋อร์จะกลายเป็นสตรีของหนิงฝานไปแล้ว

สตรีนางนี้ พวกมันแตะต้องไม่ได้

หยูเป่ยตกตะลึง แค่คำกล่าวไม่กี่คำก็ช่วยให้น้องสาวของมันพ้นผิด มันรู้สึกขอบคุณหนิงฝานจากใจ แต่เรื่องที่น้องสาวกลายเป็นสตรีของหนิงฝานนั้น มันเองก็ไม่ทราบมาก่อน

ฉงเอ๋อร์สั่นสะท้าน เป็นอีกครั้งแล้วที่หนิงฝานยื่นมือเข้าช่วยนาง

นางทำความผิดใหญ่หลวงจนไม่น่าให้อภัย แต่คำกล่าวเพียงไม่กี่คำของหนิงฝาน กลับทำให้ทุกคนยกโทษให้

ถือว่าเห็นแก่หน้าข้า!

คำกล่าวจากบุรุษผู้ทรงพลังทั้งยังเป็นผู้ช่วยชีวิต เหตุใดคนเหล่านั้นจะกล้าปฏิเสธ

บุญคุณที่หนิงฝานทำเพื่อนาง นางไม่รู้จะชดใช้ยังไง สิ่งที่นางทำได้ตอนนี้ คือไม่ปฏิเสธอ้อมกอดของเขา

หนิงฝานพูดคุยกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญครู่หนึ่ง เพื่อทำให้ทุกคนผ่อนคลาย ก่อนทั้งหมดจะกลับออกจากบ่อโลหิตมังกร

หนิงฝานยังคงโอบประครองร่างนางไว้ นางเองก็กอดพลางจ้องมองรอยยิ้มที่อบอุ่นของเขา

วันนี้นับเป็นวันที่มีค่าที่สุดของนาง ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมที่กล้าหาญ กล้าปกป้องนาง ทั้งยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมะนับถือ

“หยูฉงเอ๋อร์… เจ้าติดหนี้ข้าแล้ว”

“ฮึ่ม...” นางแค่นเสียงเบาๆก่อนกระซิบที่ข้างหู

“ข้าเป็นของเจ้าแล้ว...”

นางให้โลหิตกษัตริย์กับหนิงฝานไปแล้ว ให้ผ้าคลุมลวงสวรรค์ไปแล้ว จึงไม่มีสิ่งใดมีค่าพอจะมอบให้หนิงฝานอีก ดังนั้น… จึงเหลือแค่ร่างกายของนาง

นางขบคิดร้อยแปด นอกจากวิธีนี้นางไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะชดใช้บุญคุณหนิงฝานได้

*เพี้ยะ!*

มือขนาดใหญ่ฟาดเข้าที่ก้นของนางอย่างแรง นางแตกตื่นจนทำอะไรไม่ถูก เพราะหนิงฝานตีก้นนาง

“เจ้าคนบ้า!”

เมื่อเห็นสีหน้าของนางกลับมาเป็นเหมือนเดิม หนิงฝานก็ยิ้ม...

ในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ฉูฉางเอ๋อร์และหยุนเทียนเฉวนั่งรออยู่ข้างนอกบ่อโลหิตมังกร

วันนี้จะเป็นวันตัดสินว่าหยุนเทียนเฉวหรือฉูฉางเออร์จะเป็นผู้ชนะเดิมพัน

หากราชาอสูรทั้งหมดที่ตาย และอสูรไร้ดัดแปลงทั้งหมดที่ตายเป็นฝีมือของหนิงฝาน เขาย่อมได้โลหิตมังกรมากกว่า 50 หม้อ

โลหิตมังกรจำนวนขนาดนี้ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงยังยากที่จะทำได้ แต่หนิงฝานทำได้

ชายชรานำตะเกียงสีทองออกมา ภายในนั้นมีเปลวเพลิงสีเหลืงลุกไหม้

เพลิงชนิดนี้คือของล้ำค่าของวังที่ชายชราดูแล แม้หยุนหยานจะเคยมาขอ แต่ชายชราไม่ให้

และยามนี้ มันได้กลายเป็นของเดิมพันแล้ว

“บางทีอาจจะไม่แพ้อย่างที่คิด ต่อให้ซัวหมิงเก่งกาจ แต่ก็ใช่ว่าจะสังหารอสูรตัดวิญญาณได้ถึง 500 ตัว...”

ชายชรากล่าวกับตนเอง แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม

เส้นแสงทั้ง 14 เส้นพุ่งออกมาจากทางเข้าบ่อโลหิตมังกร เป็นหนิงฝานและเหล่าผู้อาวุโสของวังชายชรา

เมื่อชายชราเห็นว่าคนของตนไม่เป็นอันตรายก็โล่งใจ

ผู้เชี่ยวชาญของหยุนจิงหงเองก็กลับออกมาอย่างปลอดภัย ไม่มีใครตายสักคน

แค่ได้โลหิตมังกรกลับมา แม้จะไม่มากแต่ก็นับว่าดีแล้ว เพราะสิ่งล้ำค่าที่ทุกคนได้คือประสบการณ์

แต่ยามนี้ ชายชราเริ่มร้อนใจและกล่าวถามหนิงฝาน “สหายน้อย เป็นไงบ้าง? โลหิตมังกร 50 หม้อคงหามาไม่ได้ง่ายๆใช่มั้ย?”

“ถูกอย่างท่านว่า” หนิงฝานพยักหน้าและปล่อยฉงเอ๋อร์ออกจากอ้อมแขน

“งั้นหมายความว่าเจ้าหาโลหิตมังกรมาได้ไม่ครบ 50 หม้อใช่มั้ย?”

เมื่อได้ยินหนิงฝานกล่าวเช่นนั้น ชายชราแสดงสีหน้ามีความสุข

แต่แล้วรอยยิ้มของชายชราก็ต้องค้างอยู่เช่นนั้น เพราะหนิงฝานนำโลหิตมังกรทั้งหมดที่ได้มาออกมาตั้งไว้ นับคร่าวๆได้มากกว่า 100 หม้อ

“117 หม้อ! นี่แค่เดือนเดียวเจ้าหามาได้ขนาดนี้เลยเหรอ?” ชายชราไม่อยากเชื่อสายตา

“ข้าแค่โชคดีที่ได้มา!” หนิงฝานยิ้มและป้องมือให้หยุนเทียนเฉว

หยุนเทียนเฉวลืมตามองหนิงฝาน แม้แววตาจะอยู่เรียบเฉย แต่ก็แฝงไว้ด้วยความชื่นชม

“ดูเหมือนเจ้าคงแพ้แล้วหล่ะ...”

หยุนเทียนเฉวเก็บกระบี่ของตนแล้วหันมองชายชรา

ชายชราถอนหายใจ แม้จะเสียดายเพลิงแต่ก็ต้องยอมมอบให้

เพลิงของชายชราคือ ‘เพลิงเหลืองซ่อนสวรรค์’ เป็นเพลิงระดับที่เหนือกว่าเพลิงปีศาจของหนิงฝาน

หยุนเทียนเฉวรับเอาเพลิงก่อนจะโยนให้หนิงฝานพร้อมกับแผ่นป้ายทองคำ

“เจ้าผ่านการทดสอบ… ถือเป็นรางวัล”

“รางวัล?” หนิงฝานตกตะลึง ป้ายทองคำที่หยุนเทียนเฉวให้มา เป็นเหมือนบัตรผ่านทางที่หนิงฝานสามารถเข้าออกทุกแคว้นทั่วโลกได้อย่างอิสระ แค่นี้ก็นับเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่แล้ว

แต่คาดไม่ถึงว่าหยุนเทียนเฉวจะมอบเพลิงให้ด้วย!

เมื่อครั้งที่หยุนเทียนเฉวกล่าวว่าจะเดิมพันกับชายชรา หนิงฝานไม่เข้าใจในเจตนาของอีกฝ่าย

หยุนเทียนเฉวเป็นมือกระบี่ จะเอาเพลิงไปทำอะไร? ดังนั้นการกระทำของมันจึงดูไม่สมเหตุสมผล

แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าหยุนเทียนเฉวจงใจจะมอบให้แต่แรก

“ทำไมท่านถึง...” หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบที่มีคนมาหยิบยื่นสิ่งใดๆให้ เขามักจะเป็นผู้ให้กับคนของตน แต่การที่ต้องรับสิ่งต่างๆจากหยุนเทียนเฉว ทำให้เขาไม่สบายใจ

“ถ้าเจ้าไม่อยากได้ก็ทิ้งมันไป” แววตาหยุนเทียนเฉวแปรเปลี่ยนเย็นชา มันเอ่ยปากว่ามอบให้ เหตุใดต้องขัดขืนสงสัย?

ตัวมันเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดตัวมันที่เย็นชาไร้ความรู้สึก ถึงได้ต้องชะตากับหนิงฝานมากขนาดนี้

หรือเป็นเพราะรอยยิ้มที่มั่นใจของหนิงฝานเหมือนกับคนผู้นั้น… เป็นรอยยิ้มที่ตรึงอยู่ในใจของมัน

แต่คนผู้นั้นเป็นใคร…

หยุนเทียนเฉวกำหมัดแน่น ต้องมีสักวันที่ความทรงจำของมันจะฟื้นกลับมา

มันยอมทิ้งความรู้สึกเพื่อฝึกฝนกระบี่ เต๋าแห่งกระบี่จึงลบล้างความรู้สึกมันไป ทำให้มันกลายเป็นเหมือนปีศาจตนหนึ่ง

มันต้องฟื้นคืนความทรงจำให้ได้… มีวิชาลับอยู่วิชาหนึ่งที่ทำให้ฟื้นคืนความทรงจำ ‘วิชาอัสนีอ่านความทรงจำ’ ของกษัตริย์อัสนีปู้ซัว วิชานี้จะทำให้ความทรงจำทั้งหมดของมันฟื้นคืนมา

เหตุที่มันท่องตระเวณไปยังแคว้นต่างๆเพื่อชิงเศษเสี้ยวกระบี่เซียน ก็เพราะจะได้ไปยังสุสานกษัตริย์อัสนี ท้าประลอง และช่วงชิงวิชาอัสนีอ่านความทรงจำมา

“ข้าให้เวลา 1 วันจัดการสิ่งต่างๆให้เรียบร้อย แล้วพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้ากลับทะเลไร้สิ้นสุด!” หยุนเทียนเฉวกล่าวเสร็จแล้วจากไป

แต่ก่อนที่หยุนเทียนเฉวจะไปนั้น มีลำแสงสีทองสองสายพุ่งตรงมา เป็นกระบี่บินที่ใช้ถ่ายทอดข้อความ

กระบี่บินทั้งสองเล่มนั้นนั้นมีรูปร่างคล้ายมังกร แฝงด้วยปราณกษัตริย์

หนิงฝานรู้ว่าเจ้าของกระบี่บินทั้งสองเล่มนี้คือ...กษัตริย์พิรุณ!

“กระบี่บินของกษัตริย์พิรุณ! หรือจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น?” สีหน้าฉูฉางเอ๋อร์แปรเปลี่ยน เพราะกษัตริย์พิรุณจะไม่ถ่ายทอดข้อความมาเองหากไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น

หยุนเทียนเฉวขมวดคิ้วพลางรับกระบี่บิน

เสียงของกษัตริย์พิรุณส่งตรงไปยังทะเลสติของหยุนเทียนเฉวและชายชรา

เมื่อได้ทราบข้อความ สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง หยุนเทียนเฉวขมวดคิ้วแน่น

“ปราณกษัตริย์! มีใครบางคนสร้างปราณกษัตริย์ได้!”

นั่นหมายความว่ามีกษัตริย์คนใหม่ปรากฏตัว ใครบางคนที่บรรลุวิชาพิรุณแรกเริ่มแล้วสร้างปราณกษัตริย์ได้สำเร็จ

ดังนั้นกษัตริย์พิรุณจึงสั่งให้หยุนเทียนเฉวและฉูฉางเอ๋อร์กลับไปยังวิหารพิรุณเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้

คำกล่าวของชายชราทำให้ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆตกตะลึง

แม้หนิงฝานไม่รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญกับกษัตริย์พิรุณยังไง แต่จากสีหน้าของฉูฉางเอ๋อร์และหยุนเทียนเฉวแล้ว คงไม่ใช่เรื่องดี

ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นเสี้ยนหนามของกษัติย์พิรุณไปแล้ว หากเรื่องที่หนิงฝานครอบครองปราณกษัตริย์แพร่ออกไป คงนำพาหายนะมาให้เขาอย่างแน่นอน

“จะให้ผู้ใดรู้เรื่องปราณกษัตริย์ไม่ได้!”

แม้ปราณกษัตริย์ของเขาจะเอาชนะผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ แต่เขาจะไม่ใช้มันเด็ดขาด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด