ตอนที่แล้วตอนที่ 98 เห็นสัญลักษณ์อีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 100 เรื่องเศร้า

ตอนที่ 99 ฟื้นคืนสติ


ตอนที่ 99 ฟื้นคืนสติ

หลังจากเสียงหยางเฉ่วดังขึ้น ดวงตาที่ปิดสนิทไม่ขยับของผีผู้หญิงที่ไม่ได้สลบอยู่นั้น ตอนนี้มันกลับเริ่มสั่นเล็กน้อย

จากนั้น ผีผู้หญิงก็เริ่มลืมตาขึ้นมาทีละนิด

เมื่อเห็นยัยผีได้สติ ผมก็อดไม่ได้ที่จะหวาดระแวง

ยังรู้สึกกลัวเธออยู่ จึงเตรียมตัวตั้งรับ เผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น

แต่ขณะที่มองตาของอีกฝ่าย ก็พบว่าตาที่เคยเหมือนปลาตาย ในตอนนี้กลับเผยให้เห็นนัยน์ตาสีดำ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ใจที่ตื่นกลัวของผมก็ค่อยๆลดลง

นัยน์ตาสีขาวซีด ได้มีตาดำปรากฎขึ้น ลักษณ์แบบนี้หมายความว่าพลังชั่วร้ายได้หายไปหมดแล้ว ตอนนี้เธอได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว

ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยืนมองยัยผีจากที่เดิมเท่านั้น

และหลังจากผีผู้หญิงลืมตาขึ้น ดูเหมือนเธอจะยังรู้สึกมึนๆอยู่

เธอดูหวาดระแวงเล็กน้อย รีบกวาดสายตามองรอบๆทันที

ขณะที่สายตาของเธอมาหยุดอยู่ที่พวกเราสามคน เธอกลับแสดงท่าทางตกใจ

เท้าทั้งสองข้างดันพื้นถีบตัวเองไปข้างหลังทันที ขณะเดียวกันก็พูดด้วยความหวาดกลัว “พวก พวกคุณเป็นใคร อย่า อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา……”

ขณะที่พูด ผีผู้หญิงก็ได้ถอยไปจนติดผนังแล้ว เธอนั่งขดตัว กอดขาทั้งสองข้างเอาไว้ ดูท่าทางหวาดกลัวมาก

แม้แต่ร่างกายก็ยังสั่นเทา เมื่อพวกผมสามคนเห็นท่าทางแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากัน

แม้ว่าพลังชั่วร้ายของผีผู้หญิงจะจางหายไปแล้ว แต่ในใจก็ยังคงมีความหวาดกลัวเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่

ส่วนเรื่องความทรงจำหลังตายและกลายเป็นผีร้ายนั้น ก็อาจจะยังจำไม่ได้

ผมลดระดับเสียงลง จากนั้นก็พูดกับยัยผีว่า “เธอไม่ต้องกลัวนะ พวกเราไม่ใช่คนเลว พวกเรามาเพื่อช่วยเธอ !”

เสียงของผมอ่อนโยนมาก หลังจากผีผู้หญิงได้ยิน ก็ไม่ได้ตอบกลับมาทันที

เธอเงียบไปพักหนึ่ง แล้วค่อยๆมองมาที่พวกเรา

จากนั้นก็ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเธอพูดว่า “พวกคุณ พวกคุณเป็นตำรวจเหรอ”

“พวกเราไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นนักพรต พวกเรามาช่วยเธอ !” จู่ๆหยางเฉ่วก็พูดออกมา

แต่ผีผู้หญิงตนนั้นกลับงง “นักพรต”

มองจากท่าทาง และความคิดของอีกฝ่ายแล้ว เกรงว่าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว

ทันใดนั้นหานเฉ่วเฟิงที่อยู่อีกด้านหนึ่งกลับเดินเข้ามา มองท่าทีของอีกฝ่าย และพูดออกมาทันที “น้องสาว ดูเหมือนจะมีบางเรื่องที่เธอยังจำไม่ได้นะ ฉันจะทำให้เธอนึกออกเอง เธอตายไปแล้ว ตอนนี้ก็คิดให้ดีๆซะ !”

เมื่อผีผู้หญิงได้ยินคำพูดของหานเฉ่วเฟิง ทันใดนั้นร่างของเธอก็เริ่มสั่น ม่านตาขยายออก

บางทีวินาทีนั้น ความทรงจำก่อนตายของเธออาจผุดขึ้นมาในหัว

จากนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเสียง “หือ” ดังขึ้นเธอก็ร้องไห้ออกมาทันที

เสียงนั้นดังมาก เศร้ามาก และให้ความรู้สึกปวดใจมาก

เธอทั้งร้อง ทั้งพูดในเวลาเดียว “ฉัน ฉันไม่อยากตาย ฉันไม่อยากตาย ย่า ปู่ขอ ขอโทษ ฮือฮือฮือ……”

“ไม่ เหมือนฉันจะฆ่าคน ฆ่าไปเยอะมาก ไม่ ไม่ เขาโดนฉันผลักตกดาดฟ้า สมควร สมควร ฮ่าฮ่าฮ่า…….”

ผีผู้หญิงเจ็บเจียนขาดใจ โศกเศร้าผิดปกติ บางครั้งก็ไม่พูดอะไรออกมา แต่หัวเราะเหมือนกับคนโง่อย่างต่อเนื่อง

เรื่องที่ทำไมผีผู้หญิงตนนี้ถึงเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน พวกเราก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด

เพราะหลังจากได้สติกลับคืนมา ความทรงจำตอนเป็นผีร้ายก็ย่อมผุดขึ้นมาอย่างกระทันหัน เมื่อความทรงจำที่แตกต่างกันระหว่างสองสิ่งมาปะทะกัน จึงทำให้เธอต้องใช้เวลายอมรับมันบ้าง

ตอนนี้ได้รับความเจ็บปวดและความทรงจำพวกนั้นกลับมาอีกครั้ง ทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ และก็ไม่อาจหนีจากมันไปได้

ผมและเฟิงเฉ่วหานหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบคนละมวน และยืนพักผ่อนอยู่ข้างๆ

ส่วนหยางเฉ่วนั้นเข้ามาข้างตัวผีผู้หญิง เธอคุกเข่าลง ใช้มือสองข้างจับไปที่ไหล่ผีผู้หญิงเอาไว้ “หยุดร้องได้แล้ว พวกเรามาที่นี่ ก็เพื่อช่วยเธอ”

“ไม่ ไม่เธอช่วยฉันไม่ได้ ฉันตายไปแล้ว ตายแล้ว…….” ผีผู้หญิงตนนั้นยังร้องไห้ต่อ

แต่หยางเฉ่วมุ่งมั่นมาก “การตายเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เธอยังไปเกิดใหม่ได้ ยังเป็นคนได้อีกครั้ง ถ้าเธอมีเรื่องที่ยังอยากทำอยู่ พวกเราจะเป็นคนทำมันแทนเธอให้สำเร็จเอง !”

ผีผู้หญิงที่เคยร้องไห้และหัวเราะในเวลาเดียวกัน ราวกับคนบ้านั้น

วินาทีที่เธอได้ยินสิ่งที่หยางเฉ่วพูด จู่ๆเธอก็หยุดทันที

จากนั้นก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้น ดวงตาสองข้างเต็มไปด้วยความคาดหวังและความปรารถนา

เธอมองตาของหยางเฉ่ว หลังจากนั้นประมาณ 2 วินาที ก็พูดด้วยความคาดหวัง “จริงเหรอ”

หยางเฉ่วพยักหน้าอย่างหนักแน่น “จริงสิ ! ถ้าเป็นเรื่องที่พวกเราช่วยได้ พวกเราก็จะช่วยเธอให้สุดความสามารถ !”

เมื่อผีผู้หญิงได้ยินคำพูดนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะ ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

เธอพูดด้วยความท้อแท้ “ฉัน ฉันอยากเจอคุณปู่ คุณย่า ฉันอยากจะขอโทษพวกเขา……”

“เรื่องนี้ทำได้ พวกเราจะเป็นคนไปเจอแทนเธอเอง !” ผมยืนอยู่ข้างๆ ตอบกลับไปตรงๆ

ทันใดนั้นผีผู้หญิงก็ทำหน้าดีใจ “จริงเหรอ ดีจังเลย”

แต่เสียงพึ่งจางหาย เธอก็เผยสีหน้าสิ้นหวังอีกครั้ง “แต่ แต่ดูเหมือนฉันจะออกจากที่นี่ไม่ได้ ! ทุกครั้งที่เดินออกจากตึกนี้ ก็จะถูกพลังบางอย่างดึงกลับมา”

“น้องสาว เธอลืมไปแล้วรึเปล่า ว่าพวกเราเป็นนักพรต ใช้ชีวิตอยู่กับเรื่องพวกนี้ ปัญหาที่เธอพูดมันไม่ได้เป็นปัญหาเลยสักนิด ! เธอเพียงแค่ตอบคำถามพวกเรานิดหน่อยเท่านั้น แล้วพวกเราจะรีบพาเธอไปเจอปู่กับย่าของเธอทันที !” หานเฉ่วเฟิงพูดได้อวดดีมาก ทำหน้าไม่แยแสเรื่องนั้นเลยสักนิด

แต่หลังจากผีผู้หญิงได้ยิน มันกลับได้ผล เธอกลับมามีความหวังอีกครั้ง

“มีเรื่องอะไร พวกคุณถามมาได้เลย! ถ้าฉันรู้ ฉันจะบอกพวกคุณทุกอย่าง !” ผีผู้หญิงรีบพูด

เมื่อเห็นผีผู้หญิงมั่นใจ และเริ่มให้ความร่วมมือ

ผมก็ดับบุหรี่ทันที จากนั้นก็พูดกับยัยผีตรงๆ “งั้นเธอชื่ออะไร เริ่มพูดเรื่องของตัวเองก่อน ! ทำไมถึงถูกขังในตึกนี้ และทำไมต้องฆ่าคนไปมากขนาดนั้น”

เมื่อผีผู้หญิงได้ยินผมถามว่าทำไมต้องฆ่าคนเยอะขนาดนั้น เธอก็เงียบไปพักหนึ่ง แล้วเผยสีหน้าเสียใจและรู้สึกผิดออกมาทันที

ผ่านไป 3 วินาที เธอก็เริ่มพูดว่า “ฉันชื่อเจ้าเชี่ยนเชี่ยน เป็นนักศึกษาในมหาลัยแห่งนี้ ส่วนเรื่องที่ทำไมฉันถึงฆ่าเพื่อนร่วมมหาลัยที่บริสุทธิ์เยอะขนาดนั้น ฉันจะเริ่มเล่าจากเรื่องอาจารย์ที่ปรึกษาโกวเจี่ยนของฉัน……”

จากนั้น ยัยผีเจ้าก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด

ภายในนี้ยังรวมถึง เรื่องที่ทำไมเธอถึงถูกผนึกวิญญาณเอาไว้ในตุ๊กตา

และเรื่องบริเวณลำคอ ทำไมถึงมีสัญลักษณ์ผีสามตาอยู่บนนั้นได้

เรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน

ตอนเจ้าเชี่ยนเชี่ยนยังเล็กแม่ของเธอเสียชีวิตเพราะรถคว่ำ เธอจึงมีปู่และย่าเลี้ยงเธอมาจนโต

เพราะตอนเรียนหนังสือเธอไม่มีใครช่วยสอนช่วยทบทวนบทเรียน  ตอนมัธยมปลายผลการเรียนของเธอจึงออกมาไม่ดี ดังนั้นเมื่อ 5 ปีก่อนเธอจึงเข้ามาเรียนที่มหาลัยศิลปะระดับกลางแห่งนี้ โดยวิชาที่เลือกเรียนเป็นวิชาเอกก็คือการเต้น

แม้ว่าคะแนนวิชาทั่วๆไปของเธอจะแย่ แต่เธอกลับหลงไหลการเต้น เมื่อมาเรียนที่นี่เธอก็ขยันมาก

ไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ที่ทุกๆวันเอาแต่เข้าผับเล่นเน็ตนัดเจอกัน แต่เธอกลับฝึกฝนอยู่ทุกๆวัน

ความฝันของเธอคือเป็นครูสอนเต้นที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง หลังจากเรียนจบก็จะเปิดคลาสสอนเต้น หลังเลิกงานก็จะกลับไปดูแลคุณปู่คุณย่า

แต่ใครจะไปคิด สถานที่ที่เริ่มความฝันของเธอ กลับเป็นสถานที่ที่เกิดฝันร้ายขึ้น

ตอนนั้นเธอมีครูที่ปรึกษาวัยกลางคนชื่อโจวเจี่ยนอายุประมาณ 40 กว่าๆคนหนึ่ง ดูท่าทางเป็นคนใจดี แต่ที่จริงเขามันเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ

เขาเห็นเจ้าเชี่ยนเชี่ยนรูปร่างหน้าตาดี ตรงสเปคของเขา ดังนั้นทุกครั้งที่มองเจ้าเชี่ยนเชี่ยนแววตาของเขาจะเปลี่ยนไป

แต่เจ้าเชี่ยนเชี่ยนสนใจแต่การเรียนเต้น เธอจึงไม่ได้ใส่ใจเขา

ผลลัพธ์ก็ดีเหลือเกิน เจ้านี้ยิ่งทะลึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ทุกครั้งที่ใช้ข้ออ้างช่วยเจ้าเชี่ยนเชี่ยนซ้อมเต้น เขาก็ถือโอกาสแตะเนื้อต้องตัวเจ้าเชี่ยนเชี่ยน จับตรงโน้นจับตรงนี้ หรือแม้แต่ทำเรื่องที่ลามกกับเธอ…….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด