ตอนที่แล้วบทที่ 133 - ทีมรีไวเวิร์ล (7)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 135 - ทีมรีไวเวิร์ล (9)

บทที่ 134 - ทีมรีไวเวิร์ล (8)


บทที่ 134 - ทีมรีไวเวิร์ล (8)

ฉันตกใจมาก แต่ว่าฉันก็ไม่ตกใจซะจนจะพลาดโอกาสอันมีค่าในตอนนี้ ในตอนนี้เดรกมันแทบจะไร้ซึ่งการป้องกันโดยสิ้นเชิง เมื่อพวกเราได้อยู่ใกล้ๆกับเดรก ริยูก็ได้เริ่มด้วยการบีบอัดคริสตัลน้ำแข็งที่หมุนอยู่ในพายุปกป้องพวกเรา และยิงมันเข้าไปใส่เดรก เลือดที่ยังคงไหลออกมาจากใบหน้าของมันก็ยังแข็งตัวไปเมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง

[ก๊าซซซซ]

"ฉันขอรับตาแกไปนะ!"

การโจมตีครั้งสุดท้ายของเส้นทางวายุ ฉันได้หมุนวงจรเพรูต้าและเสริมพลังลมของเส้นทางวายุให้กับหอกของฉัน

และได้รั้งหอกกลับมา เลือดที่ถูกแช่แข็งบนตัวของเดรกไม่สามารถจะตนต่อความร้อนได้และระเหยออกไป ในเวลาเดียวกันฉันก็แทงหอกออกไปครั้งหน้า

[ติดคริติคอล]

[ก๊าซซซซ!]

"นี้มันคือพลังของนักทำลายกระโหลก"

ในเวลานั้นหอกสายฟ้าก็ได้แทงทะลุเข้าไปในตาซ้ายฉีกม่านบาเรียมานาของมันที่ปกป้องเอาไว้ ในเวลาเดียวกันที่ฉันตระหนักถึงการโจมตีติดคริติคอลดวงตาของมันได้ระเบิดเป็นชิ้นๆ

มันมีโบนัสจากการโจมตีประเภทพุ่งอยู่แล้ว และด้วยผลของฉายานักทำลายกระโหลกทำให้เกิดความเสียหายแบบคริติคอล แม้แต่ดวงตาของบอสระดับ SS+ ก็ยังคงไม่ปลอดภัยเมื่อเจอการโจมตีแบบนี้ และเพราะประสิทธิภาพของการโจมตีที่ไม่คาดคิดนี้มันทำให้ตัวฉันเปียกไปด้วยเลือด

[คุคุคุ ฮีโร่นี่น่าทึ่งอย่างที่ข้าคิดเอาไว้เลย]

"บินกลับไปก่อน! เจ้านั่นจะต้องอาระวาดอีกรอบแน่ๆ!"

"เคี๊ยกฮ่าฮ่าฮ่า! เจ๋งนี่ นายเจ๋งนี่นา! พาฉันไปด้วยสิ!"

เมื่อฉันกำลังจะบินกลับไปพร้อมกับล็อทเต้ ทันใดนั้นก็ได้มีคนๆหนึ่งกระโดดมาทางพวกเราจากคอของเดรก นั่นก็คือเยอึน! มีดสั้นในสองมือของเธอได้เปล่งประกายด้วยอ่อร่าสีดำ เธอได้มาอยู่ข้างหลังของฉันอย่างง่ายดาย ล็อทเต้ได้พยายามจะสลัดเยอึนลงไปโดยที่ไม่สนใจการต่อสู้อยู่ เยอึนเธอได้มาลูบหลังของฉันและถามขึ้น

"นายชื่ออะไร? หืม? บอกฉันมาซิ"

มันเป็นเสียงของเยอึนแน่ๆ แต่ว่ามีบางอย่างที่ต่างออกไป ถ้าเป็นเยอึนพูดจะเหมือนกับเด็กสายนักเรียน แต่ว่าเธอคนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับหญิงสาวที่โตเต็มที่แล้ว ความจริงแล้วทท่าทางที่เธอมองมาที่ฉันมันทำให้ฉันไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

"เธอ เธอคืออาจารย์ของเยอึน"

"โอ้? นายรู้จักศิษย์ของฉันหรอ? หือ? อืมมม ฉันเข้าใจแล้ว ไม่สิ ฉันขึ้นมาได้ไหม?"

ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันสามารถจะเข้าใจสิ่งที่เธอกับเยอึนกำลังคุยกัน...ฉันได้หยักหน้าเบาๆและตอบกลับไป

"ฉันจะปล่อยมันไปเพราะมันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ว่าเธอไม่ควรจะกระโดดขึ้นมาบนไวเวิร์นของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต"

"อะไรนะ? ฮ่าๆ นายนี่ตลกจังเลยนะ! อืมม อย่างที่ฉันคิดเลยฉันชอบนาย"

[ข้าจะฆ่าผู้หญิงคนนี้]

"ใจเย็นก่อนล็อทเต้ อ่า หลบ!"

อย่างที่คาดเอาไว้เดรกที่บ้าคลั่งได้ฟาดหางเข้ามาทางพวกเรา ล็อทเต้ได้หลบมันอย่างรวดเร็้วและหางของเดรกก็ได้ฟาดเข้ากับพื้นที่ให้เกิดรอยแยกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ร่างกายของเดรกก็กลายเป็นสีแดงและปล่อยก๊าซที่มีสีแดงออกมาจากร่างกาย

"นั่นมันอะไรนะ?"

"นายคิดว่าจะอะไรล่ะ? มันหมายความว่ามันทำให้ยากที่จะกระโดดไปบนคอและเฉือนมันนะสิ"

แม้ว่าไวเวิร์นส่วนใหญ่จะถูกจัดการไปแล้วแต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ใช้พลังคนอื่นๆที่จะต่อสู้กับเดรก พื้นดินได้เกิดรอยแยกและมีลาวาปะทุออกมา ตอนนี้ร่างกายของเดรกได้อยู่บนเพลิงและแม้ว่าจะมีผู้ใช้พลังโจมตีระยะไกลโจมตีมันอยู่ก็ตาม แต่ว่าไอน้ำสีแดงก็จะป้องกันการโจมตีพวกนี้ทั้งหมด 'นั่นมันโกงเลยนะ...ป้องกันทั้งการโจมตีระยะไกลและใกล้'

[ทุกคนปลอดภัยนะ?]

[ฉันปลอดภัย หางของเจ้านี่มันมีขนาดใหญ่พอๆกับบอสประจำชั้นเลย]

[ฉันก็ปลอดภัยเหมือนกันคุณฮวาหยา!]

[ฉัน...ยังอยู่...!]

เพราะรูเดียไม่ได้เป็นนักสำรวจของโลกจึงไม่ได้อยู่ในช่องสนทน เธอได้ส่งข้อความมาหาฉันแยกต่างห่าง เธอบอกว่าเธอได้ป้องกันแผ่นดินไหวด้วยพลังของเธอและตอนนี้เธอกำลังมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนระยะใจ มีผู้ใช้พลังรักษษแบบเธอไม่มากนัก ดังนั้นเธอจะช่วยเพิ่มจำนวนของผู้รอดชีวิตให้มากขึ้น

"คุฮ่า! กระสุนจะถูกละลายเพียงแค่เข้าไปใกล้มัน!"0

เฮลิคอปเตอร์ของเป็ปเปอร์ได้บินเข้ามาใกล้ๆฉัน แม้ว่าเขาจะพูดด้วยรอยยิ้มแต่เขาดูไม่ได้มีความสุขเลย มันดูเหมือนว่ากระสุนของเขาจะไม่สามารถเจาะผ่านไอน้ำสีแดงได้เลย ยังไงก็ตามหลังจากเห็นเยอึน เป็ปเปอร์ก็ได้ร้องออกมาด้วยเสียงที่ตกใจ

"อืมม? คุณผู้หญิงคุณยังดูเหมือนเดิมเลยนะ แต่ว่าคุณนั้นเซ็กซี่มากๆ! ฉันตกหลุมรักคุณแล้วหรอ"

"ฮ่าฮ่า อย่างที่คิดเลยการปรากฏตัวของฉันมันไม่สามารถจะซ่อนเสน่ห์ของฉันได้ แต่ว่าโทษนะ ฉันเลือกเขาไปแล้ว"

"เป็ปเปอร์นายมีวิธีจะโจมตีมันไหม?"

ในฐานะที่เป็นผู้ใช้พลังระดับ SS เป็ปเปอร์ก็คงจะไม่ยอมแพ้กับเพียงแค่นี้ เมื่อฉันขัดจังหวะการคุยของพวกเขา เป็ปเปอร์ก็ได้ยิ้มขึ้น

"ปกติแล้วฉันจะพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับบาซูก้าของฉัน แต่ฉันคิดว่ามันก็ไม่น่าจะเจาะเจ้านั่นได้แน่ เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถจะใช้ได้ดีในสถานการณ์นี้ ดังนั้นเพื่อน ฉันมาที่นี่เพื่อส่งมอบการ์ดความกล้าหาญของฉัน"

เขาได้โยนอะไรบางอย่างมาให้ฉัน เมื่อฉันได้รับมันมาและมองดูมันเป็นลูกโลหะสีดำที่มีปุ่มสีแดงอยู่

"มันเป็นระเบิดชนิดพิเศษที่สร้างขึ้นมาสำหรับฉัน มันจะถูกใช้เพียงแค่มอนสเตอร์ระดับ S หรือเหนือกว่า ดังนั้นนายก็ควรจะสามารถจินตนาการถึงพลังของมันได้นะ เนื่องจากว่ามันไม่สามารถจะเปิดใช้งานได้โดยการที่ไม่มีมานาของฉันได้ มันจึงไม่มีหมุดนิรภัยหรืออะไรแบบนั้น โดยปกติแล้วถ้าใส่่มานาไว้และกดปุ่มมันจะระเบิดไปใน 3 วินาที แต่ว่า..."

"นายใส่มานาทั้งหมดไว้ข้างในแล้วใช่ไหม?"

"ใช่แล้ว!"

แม้ว่ามันจะดูเหมือนเรียบง่าย แต่มานาที่ฉันรู้สึกได้อยู่ภายในมันไม่ใช่เรื่องตลกเลย มานาทั้งหมดของผู้ใช้พลังระดับ SS อยู่ภายในนั้น

"มันเป็นระยะเวลา 3 วินาทีหลังจากที่นายกดมันนะเพื่อน ฉันขอมอบความไว้วางใจนี้ให้กับนาย!"

"เวรเอ้ย นายนี่มัน....ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันละกัน ฉันจะดูแลมันเอง"

"เยี่ยม ถ้างั้นฉันจะไปช่วยคนอื่นๆละนะ ไว้ไปดื่มด้วยกันใหม่หลังจากนี้นะพวก โชคดี!"

เป็ปเปอร์ได้ยิ้มออกมาและไขว้นิ้วของเขาเหนือที่นั่งคนขับ จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ก็หันไปทางอื่นเพื่อไปช่วยผู้ใช้พลังคนอื่นๆ เวรล่ะ ชายคนนี้มันจะเท่ไปแล้ว...สำหรับตอนนี้ฉันได้เก็บระเบิดเอาไว้

จากนั้นสถานการณ์ก็ได้เปลื่ยนไปอีกครั้ง

[ฮีโร่! มอบตัวกับข้าซะ!]

"ฮีโร่นั่น ฮีโร่นี่อยู่นั่นแหละ น่ารำคาญ"

เมื่อเดกได้ตะโกนขึ้นก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ลาวาประทุขึ้นมา ฮวาหยาก็ได้ตะโกนกลับไปในวินาทีถัดมาลาวาที่ประทุขึ้นมาจากพื้นดินได้พุ่งเข้าไปหาเธออย่างน่าประหลาดใจ ฉันกำลังจะพุ่งเข้าไปหาเธอด้วยความงุนงง ในตอนนั้นเองฮวาหยาก็ได้ชูมือทั้งสองข้างจึ้น

"ตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว! กองทัพเพลิง!"

พร้อมกันกับการเคลื่อนไหวมือของเธอ ลาวาที่ลอยเข้ามาหาเธอได้ตกลงไปและเริ่มมีรูปแบบขึ้นแตกต่างกัน อินทรีย์ เหยี่ยว อีกา... นกทุกชนิดที่มีลักษณะที่ก้าวร้าวได้เริ่มปรากฏกันขึ้นมาเป็นพันๆตัว อาณาจักรสัตว์...ไม่สิ นี่มันก็คือกองแห่งเปลวเพลิง ฝนได้ตกลงบนร่างกายของเหล่าสัตว์และกลายเป็นไอ แต่ว่าพวกสัตว์เหล่านี้ก็ไม่ได้หดไปแม้แต่น้อยและยังคงเผาไหม้อยู่

ราวกับว่ามันยังไม่พอ กลุ่มก้อนลาวาที่ใหญ่ที่สุดได้กลายเป็นไวเวิร์นยักษ์ ฮวาหยาได้ขึ้นไปบนหลังมันและหันหน้ามายิ้มให้ฉัน แม้ว่าจะอยู่ในสายฝนแต่ฉันก็ยังคงเห็นรอยยิ้มของเธออย่างชัดเจน จากนั้นเสียงของเยอึนก็ได้ดังมาจากข้างอึน

"อึก พวกหน้าอกใหญ่ทุกคนควรจะไปนรก"

'เยอึนเธอไม่ใช่ว่าแบนนะ...เธอไม่มีเลยต่างหาก...' แม้ว่าความคิดนี้จะเข้ามาในหัวของฉัน ฉันก็คือว่าเธอคงจะเชือดคอฉันแน่ๆถ้าฉันพูดออกไป ฉันเลยเก็บมันเอาไว้

หลังจากฮวาหยาได้เปลื่ยนลาวาให้กลายเป็นกองทัพของเธอ การตีโต้ของผู้ใช้พลังก็ยังได้เริ่มต้นขึ้น

"มารวมกลุ่มกันเถอะ ช่วยป้องกันพวกเราด้วยบาเรีย"

"ถอนผิวมันอย่างน้อยซักเกล็ดนึง!"

"ปกป้องแผ่นดินของเรา! พวกเราจะปกป้องอเมริกา"

ผู้ใช้พลังที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประเทศ บ้านเกิดของตนทำให้พวกเราดูสูงส่ง

[พวกมนุษย์มักจะชอบรวมกันเป็นก้อนเสมอ! และพวกมันก็ยังตายกันเป็นก้อนเสมอ]

เสียงคำรามของเดรกได้ดังขึ้น ไอน้ำได้หดตัวเปลื่ยนเป็นเข็มที่ยาวและบบาง จากนั้นมันก็ได้ยิงออกมาเหมือนกับฝนที่ตกลงมา

กองทัพเพลิงของฮวาหยาได้ป้องกันศรไอน้ำทันทีหลังจากนั้น มีไม่กี่อันที่เล็ดรอดผ่านมาได้และพุ่งเข้าใส่ผู้ใช้พลัง

ตูม

ทันใดนั้นศรไอน้ำที่ลอยออกมาก็ได้ถูกออกไปด้วยเสียงตูม ฉันได้เอียงหัวลงด้วยความรู้สึกว่าเหมือนเคยเห็นความสามารถนี้มาก่อน จากนั้นผู้ใช้พลังที่ถูกปกป้องก็ได้ตะโกนขอบคุณ

"อัศวินดำ นั่นเป็นอัศวินดำ!"

"โอ้ว ทั้งอัศวินสายฟ้าและอัศวินดำอยู่ที่นี่แล้ว"

พลังของพ่อได้ทำการเปิดเผยให้โลกได้เห็น

[เพลงิงของฉันจะเป็นเหยื่อบนท้องฟ้าให้เอง]

เพลิงของเดรกก็ยังคงแข็งแกร่งขึ้นต่อไปอีก ยังไงก็ตามบรรยากาศมันได้แตกต่างไปจากเดิม ความวุ่นวายที่สร้างขึ้นจากบอสไวเวิร์นและไวเวิร์นปกติได้ถูกหยุดลงและทุกๆคนในตอนนี้ได้เล็งไปที่เดรก

[เจ้าจะต้องถูกแผดเผาไปจนตาย!]

"อึก ลูกสาวคนใหม่ช่วยที!"

"ค่ะ!"

รูเดียได้ใช้พลังแห่งดินและป้องกันผู้ใช้พลังคนอื่นในขณะที่พ่ออยู่ด้านหน้ายิงคลื่นกระแทกออกไปหยุดการโจมตีของเดรก การโจมตีที่พ่อไม่สามารถจะป้องกันด้วยคลื่นกระแทกได้โดยสมบูรณ์จะถกป้องกันโดยมินามิ

"พลังผู้พิทักษ์! ฮ่าาาห์!"

ถึงแม้ว่าพ่อจะป้องกันส่วนหนึ่งของพวกนั้น แต่พลังในการป้องกันของเธอก็ไม่ธรมมดาเลย ยังไงก็ตามศรไอน้ำของเดรกที่โจมตีเข้ามาดูเหมือนจะเป็นการซ่อนการโจมตีที่แท้จริงด้วยหางที่ใหญ่โตของมันที่ฟาดลงมาที่มินามิ ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะหลบไปในทันเวลา มินามิก็ยัง...ถึง เมื่อฉันได้เริ่มพุ่งเข้าไปหาเธอมินาก็ตะโกนออกมา

"เอจิส"

ฉันได้ขมวดคิ้วขึ้น เอจิส? ไม่ใช่ว่านั่นมันเป็นโล่ของอาเธน่าหรอ..? ไม่นานหลังจากที่ได้มีความคิดเข้ามาในหัวของฉัน โล่ในมือของเธอก็ได้ส่องแสงสว่างสีทองออกมา ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สิ่งได้ถึงความรู้สึกว่าฉันได้มีการพัฒนามาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่สถานที่ๆฉันจะพูดว่าฉันเป็นเจ้าของชื่อเทพพระที่แท้จริง นักสำรวจดันเจี้ยนที่สองระดับทองมินามิเป็น...อัจฉริยะ!

"มินามิได้รับชื่อที่แท้จริงของอาเธน่า"

"ฉันไม่รู้ว่าอาเธน่าคือใคร แต่เธอจะต้องเป็นเทพเจ้าที่น่าอัศจรรย์แน่ๆ ฉันรู้สึกได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่จากตัวเธอ!"

อาจารย์ของเยอึนได้หยักหน้าและตั้งข้อสังเกตขึ้น ในขณะที่เราสองคนคุยกันอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นบนพื้นดินก็คือหางของเดรกได้ชนกับเอจิสในมือของมินามิ หางของบอสระดับ SS ได้เริ่มที่จะกลายเป็นหิน มันเหมือนกับผลของหัวเมดูซ่าซึ่งว่ากันว่ามันได้ถูกว่าไปบนเอจิส มันมีประสิทธิภาพที่มากอย่างแน่นอน

[ก๊าซซซซ! เจ้าเด็กกระจ่อยร่อย]

เดรกได้โกรธขึ้นและเหวี่ยงหางทำลายส่ววนที่แข็งเป็นหิวน เพราะว่าการสละหางที่เด็ดขาดของมันทำให้การกลายเป็นหินไม่ได้ดำเนินต่อไป แม้อย่างนั้นหนึ่งในสี่ของหางของมันก็ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆและเลือดก็ได้ไหลออกมาจากแผลเหมือนกับน้ำพุ ด้วยเหตุนี้ทำให้มันเสียความแข็งแรงและมานาไปอย่างมาก นอกจากนี้มันก็ควรจะเป็นไปไม่ได้สำหรับมันที่จะโจมตีด้วยหางอีก ตามที่คาดเอาไว้เลยจากพลังของเทพเจ้า...

"ไปกันเถอะ ยิ่งศัตรูเดือดดาลเท่าไหร่ยิ่งทำให้แทงมีดเข้าไปได้ง่ายเท่านั้น"

"โอเค"

ฉันก็คิดแบบเดียวกัน เมื่อบอสระดับ SS ได้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกมันได้มีศักดิ์ศรีที่สูงส่ง แต่ว่าในตอนนี้มันเป็นแค่จิ้งเหลนที่มีตาข้างเดียวและหางของมันก็ได้หายไป แต่แม้อย่างนั้นพลังเวทย์ของมันก็ยังคงเป็นอันตรายเช่นเดิม

[ฝน! ข้าเปียกโชกในสายฝน!]

"ระ เริ่มโจมตี!"

กองหนุกพ่อและมินามิรวมไปถึงผู้ใช้พลังระยะประชิดบางคนได้ไปบนตัวของเดรกและโจมตีมัน แม้ว่าความแตกต่างในความแข็งแกร่งของพวกเขาจะชัดเจน แต่ว่าเดรกก็ไม่ได้มีการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงโดนโจมตีได้อยู่

[เจ้ากล้าที่จะเข้ามาหาข้า! ฮีโร่ ส่งฮีโร่มาให้ข้า]

ไอน้ำที่ปกคลุมร่างกายออกมันได้ขยับปรับเปลื่ยนอย่างอิสระและกวาดออกไปในขณะที่ยังคงมีความร้อนอย่างมาก ผู้ใช้พลังหลายคนไม่สามารถจะหลบได้ได้ตกลงไปพร้อมกับบาดแผลขนาดใหญ่ เมื่อได้เห็นชัดว่ามันทำให้ผู้ใช้พลังระดับ S ต้องถอยไปด้วยการโจมตีง่ายๆ ฉันได้เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับพลังของพวกเขา

"แก จิ้งจกเพียงตัวเดียวหล้าที่จะมาโลภกับมนุษย์งั้นหรอ!?"

เมื่อเห็นผู้ใช้พลังที่กำลังต่อสู้อยู่ได้ล่วงไปทีละคน พ่อก็ได้กัดฟันแน่นและแทงเท้าของเดรกด้วยหอกที่บรรจุพลังคลื่นกระแทกเอาไว้ มินามิก็ดูเหมือนจะเสียพลังของเอจิสไปแล้วจากการโจมตีก่อนหน้านี้ แต่ว่าเธอก็ยังคงขยับไปรอบๆอย่างรวดเร็วและป้องกันคนอื่นจากการโจมตีของเดรก ตอนนั้นเองเราก็ได้เข้ามาใกล้

"นายจะก่อกวนมันใช่ไหม?"

"ฉันจะไม่เพียงแค่ทำให้มันเสียสมาธิ แต่ว่าฉันจะฆ่ามัน"

อาจารย์ของเยอึนได้กระซิบข้างหูฉันและฉันก็ตอบกลับไปง่ายๆในขณะที่กระชับหอกแน่น ฉันได้มองไปที่เดรกด้วยความรู้สึกว่าวงจรเพรูต้าได้หมุวนอย่างรุนแรง สายฝนและสายฟ้าที่ตกลงมามันทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นและเป็ดย่ำแย่ลง ฉันไม่สนใจว่ามันจะเป็นระดับ SS+ หรือจะต้องใช้คน 100 คน ฉันสนแค่ว่ามันคือศัตรูของฉัน นั่นก็คือสิ่งที่สำคั

"นายนี่มันสเปคของฉันจริงๆเลย ดีล่ะ ฉันชื่อดูก้า อีไลค์ จำเอาไว้ให้ดีล่ะ"

"ฉันคังชิน แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเราจะได้พบกันอีกไหมก็ตาม"

"ฉันเพียงแค่ขอศิษย์ของฉัน ครั้งต่อไปพวกเราควรจะสนุกกับค่ำคืนที่อบอุ่นนะ"

ด้วยแบบนั้นดูก้าก็ได้กระโดดออกไปจากหลังของล็อทเต้ เมื่อเดรกได้สังเกตุเห็นเราและยกหัวขึ้น ฉันก็ได้ตะโกนออกไปในขณะที่ดื่มมานาโพชั่นระดับสูง

"ริยู"

[ฝนคริสตัล]

สายฝนที่ตกมาได้รุนแรงขึ้นและกลายเป็นศรน้ำแข็งที่ถูกเสริมพลังด้วยเวทย์ธาตุยิงเข้าไปทางเดรก เดรกได้เปิดปากของมันเพื่อโจมตีดูก้า แต่ว่ามันได้รับการต้อนรับด้วยศรน้ำแข็งนับไม่ถ้วน ไม่เพียงแค่ปากของมันเท่านั้น แต่ส่วนหัว ลำตัว และหางของมันได้ถูกโจมตีอย่างไร้ปราณี มานาของฉันก็เช่นกันได้ถูกดูดออกไปอย่างไร้ปราณี

[ข้าสามารถพุ่งไปในตอนนี้ได้เลยไหมฮีโร่?]

"ยัง...."

คลื่นไอน้ำสีแดงได้ออกมาจากร่างกายของมันเป็นการป้องกันฝนคริสตัล แต่ว่าดูก้าก็สามารถที่จะไปยืนบนนั้นได้อย่างปลอดภัยด้วยเหตุนี้ เธอได้ลงไปที่คอของเดรกพร้อมด้วยมีดสั้นทั้งสองเล่มที่มีออร่าสีดำ ในขณะที่เธอได้ทำลายบนคอของมันทีละอัน เธอได้ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

"คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นี้มันสนุก สนุกจริงๆเลย!"

เธอเป็นผู้หญิงที่คลั่งอะไรแบบนี้...อะแฮ่ม ยังไงก็เถอะตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว

[ก๊าซซซซซ]

ในขณะที่ล็อทเต้เร่งความเร็วเข้าไปหาเดรก นกเพลิงก็ยังพุ่งเข้ามาหาพวกเราจากทุกทิศทาง นกเพลิงได้ปะทะเข้ากับไฟของเดรกเพื่อป้องกันไม่ให้มันมาถึงพวกเรา ฮวาหยาได้ป้องกันการโจมตีของบอสระดับ SS ด้วยไฟของตัวเองได้ยังไง? นี่มันน่าประทับใจมาก

"วูว นี้มันสนุกจริงๆ! ฉันจะปล่อยที่เหลือไว้ให้เป็นหน้าที่ของนายนะ!"

ในทางกลับกัน ล็อทเต้ก็ได้เร่งความเร็วมากขึ้นไปอีก เปลวเพลิงสีแดงได้ประกายออกมาจากร่างของเดรก มันราวกับว่ามันมีพลังเวทย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังจะออกไปจากการควบคุม 'ฉันได้ยินผู้ใช้พลังใกล้ๆกรีดร้อง มินามิปกป้องพวกเราได้ดี ฉันจะ...!'

"เล็งไปที่คอที่ๆดูก้าได้เลาะเกล็ดของมัน

[ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ]

สภาพแวดล้อมโดยรอบของฉันได้บิดเบี้ยวไป นกเพลิงไม่สามารถที่จะตามล็อทเต้ได้อีก ในทันทีจากนั้นพวกเราก็ได้มาอยู่ที่คอของเดรก ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์โดยที่ไม่ลังเลใจและใช้ฮีโรอิค สไตรค์ หอกสายฟ้าสีขาวที่ถูกเร่งความเร็วด้วยความเร็วศักดิ์สิทธิ์ได้แทงเข้าไปในคอของเดรกโดยไร้ซึ่งแรงต้านทานทำให้หลุมค่อยๆขยายขึ้น เยี่ยม

"กินนี่ไปซะ"

ฉันได้หยิบเอาระเบิดของเป็ปเปอร์ออกมาและกดปุ่มลงไป จากนั้นก็โยนเข้าไปในหลุมที่ฉันเพิ่งจะเจาะด้วยหอก ล็อทเต้ได้รีบบินกลับไปด้วยความเร็วในทันที แม้แต่เฟรมเดรกก็ไม่น่าจะทนต่อพลังทั้งหมดของเป็ปเปอร์ได้...เอ๋? ทำไมมันถึงไม่ระเบดิ

[ก๊าซซซซ! แกกล้าที่จะสร้างหลุกขึ้นมาที่คอของข้า!? ข้าจะต้องให้เจ้าชดใช้ไม่ว่าอะไรก็ตาม!]

"เป เป็ป...! เป็ปเปอร์!"

เจ้าหมอนั่นมันให้ระเบิดด้านกับฉัน เจ้าสารเลวเอ้ย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด