ตอนที่แล้วบทที่ 123 - ในโลกที่มีพระอาทิตย์ตก (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 125 - ในโลกที่มีพระอาทิตย์ตก (3)

บทที่ 124 - ในโลกที่มีพระอาทิตย์ตก (2)


บทที่ 124 - ในโลกที่มีพระอาทิตย์ตก (2)

การล่าเวนติโก้ด้วยตัวคนเดียวมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ แต่ว่าฉันจะได้รับคริสตัลเยือกแข็งถ้าหากเพิ่มคนเข้ามาในปาตี้ ดังนั้นฉันก็เลยตัดวสินใจที่จะล่าเวนติโก้ในรูปแบบปาตี้ เมื่อนักสำรวจที่ติดอยู่ในชั้นที่ 50 เห็นชั้นพวกเขาก็ตระหนักถึงฐานะเจ้าชายในทันที

"เจ้าชายรัชทายาทได้อยู่ในชั้นที่ 50 แล้ว"

"ไม่น่าเชื่อเลย เขาอยู่ชั้นที่ 50 แล้ว"

"แม้แต่เจ้าชายก็ควรจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทะลวงชั้นที่ 50 แน่ๆ เขาน่าจะติดอยู่ที่นี่เหมือนกัน"

"ถ้าพวกนายพูดเรื่องไร้สาระหมดแล้วก็ตามมา"

ในการต่อสู้กับเวนดิโก้ ทุกๆคนทำเพียงแต่หน้าที่ของตัวเองอย่างเดียว มันสามรถจะพูดได้ว่าอยู่ให้ไกลจากเวนดิโก้เท่าที่เป็นไปได้ ฉันไม่รู้เพรา.ะว่าพลังของริยูป้องกัน แต่พลักเชื่อแข็งของเวนดิโก้ที่ปล่อยออกมามันไม่ใช่เรื่องตลกเลยสำหรับคนอื่นๆ แม้แต่นักเวทย์ที่ร่ายเวทย์ป้องกันด้วยพลังทั้งหมด หรือนักรบมือฉมังก็ยังคงมีปัญหากับมัน

[ก๊าซซซซซซ]

[ชินนั่นเป็นการโจมตีด้วยความเย็น]

"โอเค"

แน่นอนว่าบอสเวนดิโก้ชั้นทรา 50 ยังมีทักษะโจมตีพิเศษอยู่ ด้วยมือที่ย้อมด้วยสีขาวมันไว้วาดเส้นทางขึ้น ถ้าหากมีใครโดนมันเข้าก็จะถูกแช่แข็งในทันทีโดยที่ไม่สนถึงพลังป้องกันเลย ในครั้งแรกที่ฉันไม่มีประสบการณ์กับมันฉันได้ถูกมันแช่แข็งเขา แต่โชคดีที่ฉันยังมีริยูที่คอยปกป้องกันในตอนที่ถูกแช่แข็ง

นอกจากนี้ด้วยพลังต้านทานของฉันที่สูงทำให้ฉันถูกแช่แข็งเพียงแค่ 5 วินาที ดูเหมือนว่าเวนดิโก้จะไม่สามารถใช้มันอย่างต่อเนื่องได้ ด้วยใบหน้าที่งุนงงมันพยายามที่จะเตะฉันซึ่งทำให้ฉันต้องโจมตีมันเข้าไป ในความจริงแล้วนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่ได้มองไปข้างหน้าเพื่อทักษะของบอสประจำชั้น

ยังไงก็ตามช่องว่างในนาฬิกาของฉันเหลืออยู่แค่ 3 ช่อง ตั้งแต่นั้นฉันก็รู้สึกว่ารองของฉันจะเปลื่ยนแปลงไปเมื่อทักษะเต็ม ฉันได้ว่างแผนที่จะเอาทักษะทุกสิ่งที่ฉันสามารถจะได้รับได้ ถ้าฉันไปที่ชั้นที่ 60 มันก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่ฉันคาดไว้ ดังนั้นฉันก็เลยมีความคิดที่จะใส่ทักษะเสียงคำรามสีชาดของเกราะเกล็ดมังกรสีชาดลงไปในนาฬิกาพกพาเช่นกัน

"ฮ่าห์"

เมื่อเวนดิโก้พยายามจะฟาดฉันด้วยแขนที่ยาวของมัน ฉันก็ได้สร้างแผ่นน้ำแข็งขึ้นมาด้วยพลังของริยูและกระโดดขึ้นไป ในขณะที่เวนดิโก้เงยหน้าขึ้นมามองอย่างงงๆ ฉันก็ได้ยิ้มและตะโกนออกมาว่า 'หอกสายฟ้า'

[เลือกรางวัลของคุณ]

[1.เสื้อขนเวนดิโก้

2.โพชั่นเพิ่มพลังชีวิตระดับสูง

3.คริสตัลเยือกแข็ง

4.ลูกดอกเยือกแข็ง]

เอ๊ะ? ไม่ใช่ว่าพวกเรามากัน 6 คนหรอ? เมื่อฉันได้หันไปมองรอบๆในขณะที่กินคริสตัลเยือกแข็ง ฉันก็เห็นนักสำรวจกำลังกอดกันและเขย่า

"จะ จะ เจ้าชาย ทำสำเร็จสมบูรณ์โดยที่ไม่เป็นอะไรได้ยังไง?"

"ขะ ขะ ขะ เขาพูดว่าเขามีภูติธาตุ"

"มัน มันหนาวจัง ฉัน ฉันกำลังจะตาย"

"...อีกสองคนล่ะ?"

"นะ หนาว ตะ ตายไปแล้ว."

"...."

ปาตี้ล่าเวนดิโก้ของฉันมักจะจบลงแบบนี้สเมอ ความจริงแล้วฉันต้องการที่จะกวดขันพวกเขาและจบมันไปด้วยกัน

รูเดียก็ได้มีอาการที่ดีขึ้นเมื่อฉันอยู่ข้างๆเธอ แต่ว่าเมื่อฉันพยายามจะแยกตัวจากเธอ เธอก็แสดงท่าทางจิตใจที่ไม่มั่นคงในทันที ฉันหวังว่าเธอจะกลับไปเป็นตัวตนของเธอเองให้ได้สักวันหนึ่ง

ไม่ว่าจะตอนกินข้าว อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดื่มชา หรืออะไรก็ตาม เมื่อฉันได้พยายามออกไปจากสายตาของเธอ เธอก็จะกรีดร้องท้วงออกมา แน่นอนฉันคิดว่านี่คงเป็นการลงโทษสำหรับฉันที่ฆ่าน้องสาวของเธอ และฉันก็ยอมรับมัน แถมฉันก็ยังดีใจมากที่สามารถจะช่วยเธอได้

แต่ว่าฉันไม่สามารถจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ได้ สำหรับตอนนี้มันไม่เป็นไรเพราะฉันมีเวลาว่างเยอะเพราะกำลังล่าเวนดิโก้เพียงแค่ 3 ครั้งต่อวัน แต่ว่าเมื่อฉันเสร็จสิ้นการเคลียร์ทั้งหมด ฉันก็ได้วางแผนที่จะไปอเมริกาและฉันไม่สามารถจะพาเธอไปด้วยได้

"นะ นายจะทิ้งฉันหรอ?"

"ไม่ ฉันจะกลับมา"

"หลอกลวง"

"เธอไม่ได้เป็นคนเดียวที่อยู่ที่นี่นะ ครอบครัวของฉันและยุยก็อยู่ด้วยเหมือนกัน"

"โกหก โกหก เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในวันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจะหายไป ฉันจะเหลือเพียงคนเดียวในโลกใบนี้"

"รูเดีย"

"อ่า ใช่แล้ว นายจะทิ้งฉันไปและกลับไปสู้กับใครบางคนอีกครั้ง ดะ เดม่อนลอร์ดได้ไล่ตามเรามา"

"ไม่ ไม่ใช่เลย"

"พะ พาฉันไปกับนาย ได้โปรดพาฉันได้ด้วย ฉันไม่อยากจะถูกทิ้งเหมือนกับคนโง่อีกแล้ว"

เธอดูเหมือนว่าจะไม่ยอมฟังไม่ว่าฉันจะพูดอะไรก็ตาม ฉันได้ปิดปากและจับมือของรูเดียและรูเดียก็ได้ใช้โอกาสนี้เข้ามากอดฉันเอาไว้ไม่ยอมไปไหน เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นโดยที่ไม่รู้จะทำอะไรแม่ก็ได้เปิดประตูเข้ามาอย่างเหมาะเจาะพร้อมกับจานที่เต็มไปด้วยผลไม้ จากนั้นแม่ยิ้มออกมาและปิดประตูลงไป เวรเอ้ย สถานการณ์แบบนี้มันน่าเข้าใจผิดมาก

"อย่าไป ถ้านายจะไปไหนนายก็ต้องพาแนไปด้วย"

"มันจะอันตรายถ้าเธอไป"

"ชินพาฉันไปกับนาย ปล่อยให้ฉันไปเถอะ"

เธอไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยจริงๆ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยฉันจนกว่าฉันจะตกลง ในที่สุดฉันก็ถอนหายใจและตอบกลับไป

"ถ้างั้นก็มีสองเงื่อนไข"

"อือ"

"อยากแรกเธอจะต้องซ่อนตัวตนของเธอ นี้มันเป็นเรื่องง่ายเพราะเธอสามารถจะซื้อไอเทมที่มีชื่อว่าเลนส์แห่งความลับได้จากร้านขายของ"

"อือ"

"อย่างที่สองเธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ฉันไม่สามารถจะพาเธอไปได้ถ้าเธอยังไม่ผ่านชั้นที่ 40 เป็นอย่างน้อย"

"....ชั้นที่ 40?"

ดวงตาของรูเดียได้สั่นเล็กน้อย

"ฉันอยู่ที่ทางเข้าชั้นที่ 36"

"ยังคงมีเวลาเหลืออยู่ 3 สัปดาห์จนกว่าฉันจะหมดธุระในชั้นที่ 50 ฉันแน่ใจว่าเธอทำมันได้"

"ถะ ถ้าแบบน้นฉันจะต้องอยู่ห่างจากนาย"

"ใช่แล้ว เพราะฉันไม่สามารถจะกลับไปที่ชั้น 36 ได้"

"ฉันทำไม่ได้ ไม่สิ ฉันไม่ต้องการทำมัน"

"ถ้างั้นฉันจะทิ้งเธอไว้เบื้องหลัง"

"อา อ้าาา"

รูเดียมองฉันเหมือนกับว่าโลกกำลังพังลงไป ช่วงเวลาถัดมาทันใดนั้นเธอก็ดูสดใสขึ้นในขณะพูดออกมา

"ในตอนนี้ฉันไม่ได้มีปาตี้เลย ชูนะยังตงไม่สามารถออกมาจากบริเวณพื้นที่พักอาศัยได้"

จริงๆแล้วฉันได้ลืมเกี่ยวกับชูนะไปแล้ว รูเดียรู้เกี่ยวกับชินะ แต่ว่าเธอไม่ได้กลับเข้าไปในดันเจี้ยนแม้แต่ครั้งเดียวและตอนนี้เธอก็ได้ใช้ชูนะเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าเราแย่กันมาก แต่ว่าก็ไม่ได้พูดออกไปเพราะมันจะเป็นไปได้ว่าจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก

"แต่ว่าปาตี้ของเอลลอสกำลังรอเธออยู่"

"คะ คือคาซิน่า...?"

รูเดียได้โต้แย้งออกมาเหมือนกับว่าเธอไม่ได้คิดมาก่อน 'ดังนั้นเธอก็ไม่ได้สนิทกับเอลลอส...' ฉันได้คิดกับตัวเองและหยักหน้า เอลลอสได้ส่งข้อความมาหาฉันเมื่อเร็วๆนี้

"ใช้แล้ว เขากำลังรอเธอกลับไปบนชั้นที่ 36"

"มะ ไม่ ฉันทำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ฉันหมดความมั่นใจไปแล้ว"

"แต่ถ้าเธอไม่สามารถจะผ่านชั้นที่ 40 ไปได้ ฉันก็จะไม่พาเธอไปกับฉัน ในเรื่องนี้ฉันไม่ได้โกหกแน่ๆ"

"มะ ไม่....ชะ ใช่แล้ว ฉันไม่สามารถจะกลับไปหาพวกเขาคนเดียวได้"

"ชูนะก็จะอยู่ที่นั่นเหมือนกัน"

"ชูนะไม่สามารถจะไต่ดันเจี้ยนได้อีกแล้ว"

ชูนะไม่มีบ้านหรือกิลด์ มันไม่น่าเป็นไปได้ที่กิลด์อื่นๆจะพาเธอเข้านั้นก็คือสิ่งที่รูเดียอยากจะบอก

ตั้งแต่ตอนนี้ฉันก็ได้ตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับรูเดีย

"รูเดียรู้อะไรไหม..."

เมื่อมองไปรอบๆ คฤหาสน์พิเศาของฉันรูเดียได้ทำท่าทางว่างเปล่า เธอเห็นห้องร้อยกว่าห้อง สระว่ายน้ำและห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ห้องฝึกซ้อม และห้องประชุมที่ใหญ่โต รวมทั้งห้องดินเนอร์ ห้องเก็บของ และท้ายที่สุดหมูป่าเหล็กยักษ์ เมื่อพูดถึงหมูป่าเหล็กยักษ์แล้วตอนนี้ขนาดตัวของมันลดเหลือเพียง 20 เมตรจาก 60 เมตร รูเดียได้ตะโกนออกมา

"ฉันจะอยู่ที่นี่กับนาย!"

"ฉันกำลังจะไปหากิลด์นะ"

"...."

รูเดียได้ทำท่าเหมือนกับเพิ่งจะสะดุดล้มและพูดออกมา

"เราไม่สามารถทำให้มันเป็นบ้านของเราได้หรอ?"

"ไม่ พวกเราทำแบบนั้นไม่ได้ แล้วชูนะล่ะ? ชูนะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอหรอ?"

"ฉันจะมอบบ้านให้กับชินะ มันง่ายที่จะเปลื่ยนเจ้าของ ด้วยวิธีนี้ชูนะก็สามารถจะกลับมาเป็นนักสำรวจได้อีกครั้ง"

"แล้วเธอล่ะ?"

"อะ อืม ฉัน...แน่นอน..."

หน้าของรูเดียได้เปลื่ยนไปเป็นสึแดงในขณะที่มองลงต่ำและดึงแขนของฉัน ฉันได้ดึงแขนฉันกลับมาเบาๆและพูดขึ้น

"ดูสิ พูดไม่ออกใช่ไหมล่ะ? ฉันกำลังจะไปสร้างกิลด์"

"...ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดนายที่สุด"

"ใช่แล้ว เธอสามารถจะเกลียดฉันได้เท่าที่ต้องการเลย แต่ว่านะฉันจะไม่เกลียดเธอ"

"นายมันเป็นไอโง่ที่สุดเลย! ฉันอยากจะฆ่านายจริงๆ...!"

"ครับ ครับ"

การสร้างกิลด์นั้นง่ายกว่าที่ฉันคิด ฉนเพียงแค่ต้องไปหาผู้ดูแลพื้นที่พักอาศัยและส่งเอกสารที่จำเป็น แต่ว่าเมื่อฉันเห็นเมลาเดล เขาก็ได้เปิดปากออกมาหลังจากมองเห็นรูเดียเกี่ยวแขนกับฉัน

"นะ นาย คุณผู้หญิงคนนั้นใครนะ?"

"เพื่อนนะ"

"โอ้ท่านลอร์ดที่รัก นี้คือชะตากรรมของฮีโร่หรอ...? นายท่านที่น่าสงสารของฉัน...!"

"หยุดพูดไร้สาระและเปิดระบบสร้างกิลด์ได้แล้วน่า"

เมื่อเมลาเดลได้ยอมรับการสมัคร เขาก็ยังคงพูดสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจได้ เช่น 'นายชอบแบบเรือสวยสินะ?' หรือไม่ก็ 'ฉันขอแนะนำให้นายใส่เข็มขัดไว้ช่วงท้องนะ' จากนั้นข้อความก็ได้เด้งขึ้นา

[คุณได้สร้างกิลด์! คุณได้กลายเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลระดับ F 'รีไวเวิร์ล']

[สมาชิกกิลด์: คังชิน (กิลมาสเตอร์ ทอง) เพลรูเดีย เกล็น อีเฮอร์ (สมาชิกกิลด์ เงิน) รวม: 2]

[คุณสามารถจะยกระดับของกิลด์ได้ด้วยการเพิ่มจำนวนสมาชิกในกิลด์หรือทำความสำเร็จโดยการเคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนหรือเหตุการการจู่โจม ด้วยกิลด์ระสูงๆขึ้นไปกิลด์ก็จะกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในดันเจี้ยน ทำให้คุณได้รับรางวัลที่ดีขึ้นในเหตุการการจู่โจมและได้รับอิสระมากขึ้นในดันเจี้ยน]

มันไม่ได้มากนัก มันไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งของฉัน ในฐานะที่ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรเลยทำให้ฉันไม่ได้รู้สึกผิดหวังใดๆ

"นายสามารถจะขอสัญลักษณ์ได้เมื่อกลายเป็นระดับ D ผู้คนจากกิลด์ที่มีชื่อเสียงตามปกติมักจะใส่เข็มกลัดหรือไม่ก็หมวกที่มีสัญลักษณ์ของกิลด์เพื่อแสดงสถานะของพวกเรา"

"เหมือนเครื่องแบบ?"

"มากกว่าไม่มีอะไรจะโชว์"

แม้ว่าในขณะที่ฉันคุยกับเมลาเดล รูเดียก็ยังคงยืนอยู่ เธออาจจะได้ยินข้อความเหมือนกัน จากนั้นเธอก็พึมพัมเบาๆ

"รีไวเวิร์ล..."

อืม...มันเป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษที่หมายความว่าการฟื้นคืนชีพ การฟื้นตัว หรือการฟื้นฟู ฉันอยากที่จะใช้คำในภาษาเกาหลีแทน แต่มันได้แจ้งว่ามีกิลด์ที่มีชื่อนี้แล้ว"

"อุหว่า มันหมายถึง 'ของเล่น' ในภาษาของทวีปเซียนอร์"

"ทำไมพวกนายถึงสร้างกิลด์ที่มีความหมายแบบนี้กัน!? สมาชิกกิลด์จะเป็นของเล่นของกิลด์มาสเตอร์งั้นหรอ? อี้"

ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกหนักที่แผ่นหลัง ฉันได้หันกลับไปและมองไปที่หน้ารูเดียที่มาวางบนหลังของฉัน ฉันไม่สามารถจะเห็นหน้าของเธอได้ ฉันได้พูดกับเธอไปแบบลนๆ

"ระ รูเดีย?"

"...."

"รูเดีย...รูเดีย?"

"...ฉันจะพยายาม"

รูเดียได้พูดออกมาเบาๆ

"เธอ..."

"ฉันจะพยายาม...ปีนดันเจี้ยน ฉันจะติดต่อชูนะ...แล้วก็คาชิน่าเช่นกัน ฉันจะพยายาม"

ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมีความตั้งใจขึ้นมาอย่างฉับพลัน บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในกิลด์เดียวกับฉัน บางทีเธอก็อาจจะได้รับความมุ่งมั่นขึ้นมาในบางเวลา บางที...

ฉันได้คิดถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่่ฉันก็ไม่ได้ถามเธอออกไป เพราะว่าในตอนนี้มันดีมากแล้ว

"ใช่แล้ว ขอบใจนะสำหรับการก้าวไปข้างหน้ารูเดีย"

"อือ....อือ"

****

ฉันมีความฝัน

ท้องฟ้าที่ดผาไหม้และควันสีดำฟุ้ง

ตอนเช้าไม่ตื่นและตอนกลางคืนไม่หลับ

แฟรี่ที่หลงเหลืออยู่ในจิตนการได้ถูกไล่ล่าให้ออกมาสู่ความเป็นจริง ถือปีกของพวกเขาที่ขาดและสาปแช่งมนุษย์

"XXX ฉันคิดมาเสมอว่าทำไมฉันจะต้องทนทุกข์อยู่ตลอดเวลาเมื่อฉันข้องเกี่ยวกับนาย"

"X นั่นมันไม่ถูกต้อง คนพวกนั่นสามารถจะพูดได้ว่าพวกเขาต้องผ่านความยากลำบากหลังจากได้เกี่ยวข้องกับ X ที่เป็นผู้รอดชีวิต มันมักจะยากที่จะรอดชีวิตมาได้หลังจากที่เกี่ยวข้องกับ X"

ภายใต้พระอาทิตย์ตกดินที่ย้อมด้วยเลือด ชายหนุ่มหล่อเหล่าและยักษ์กำลังคุยตลกกัน หนึ่งคนได้ถือเครมอร์ขนาดมหิมาและอีกคนได้ถือดาบยาวซึ่งทั้งคู่ต่างก็เหมาะสมกับการใช้อาวุธขนาดใหญ่ทั้งสองอย่าง

"พวกนายทั้งหมดนี่เสียงดังจริงๆ ออกไปฆ่ามอนสเตอร์ได้แล้ว จงระวังด้วยอย่าให้ลือดมันมาโดนฉันล่ะ นอกจากนี้ ถ้านายสาปแช่ง X อีก ฉันจะฆ่านาย"

"แม่มดเงียบและเตรียมไฟของเธอไปเถอะ เพราะว่าทัศนคติที่ผ่อนคลายของเธอ ฉันคิดว่าฉันจะได้เห็นชีวิตหลังความตายในสวันนี้"

"เฮ้พวก ฉันเพียงแค่คิดเรื่องตลกๆขึ้นมาเอง อย่าต่อสู้กันและก็ใจเย็นลงเถอะ! ราชาริซาร์ดคือราชาแห่งริซาร์แมนใช่ไหม? แต่ถ้ามีราชาริซาร์ดวิ่งเข้ามาหาพวกเรา 5 ตัว! เธอจะคิดว่าานี่คืออะไร? อาณาจักรเล็กๆได้เข้ามาร่วมแล้ว!"

"Xa พร้อมยัง?"

"XX เกราะของนายนี่เท่จริงๆเลย!"

"ฮ่าๆ นั่นมันเรื่องจริงเลย อย่างน้อยมันก็จะดึงดูดความสนใจอย่างเต็มที่ ฉันจะขอสรรเสริญในความกล้าหาญนั้นนะ"

ใครบางคนที่ใส่เกราะที่เรืองแสงห้าสีได้เดินมาข้างหน้าพวกเขาทุกคน แม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขา แต่หัวใจของฉันก็ได้เต้นแปลกๆ ฉันได้มีปฏิกิริยาเหมือนแบบนี้ทุกๆครั้ง จากครั้งแรกที่ฉันเห็นเข้าแม้แต่ตอนนี้

"ไม่ว่ายังไงที่นี่ฉันมีร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด จริงๆแล้วอาจจะไม่มีกิลด์อืนที่มาสเตอร์จะถูกทำเหมือนกับถุงกระสอบทรายอีกแล้วก็ได้ เอาเถอะ....ริไวเวิร์ล พวกเรากำลังจะไปแล้ว"

"X!"

"อ่า ใช่แล้ว XXX... ฉันสามารถทิ้งไว้ให้นายได้ใช่ไหม?"

ยืนสูงขึ้นในโลกที่มีพระอาทิตย์ตกเพียงลำพัง เขาได้หันกลับมาและยิ้มให้ฉัน ฉันได้หยุดตัวเองจากธระและงานส่วนตัวที่ผสมผสานกันอยู่และตะโกนออกไปอย่างมั่นใจว่า "แน่นอน!" พร้อมกับคำอธิฐานในใจเพื่อหวังว่ามันจะช่วยคนที่ฉันรัก

"โอ้ พลัง โอ้ ขอให้พรตกมาสู่โลก! พวกเราจะต่อสู้เพื่อปกป้อง ได้โปรดให้เราได้ยืมพลังของคุณ! โอ้ มิทารัสได้โปรดอวยพรและระเบิดพลังนี้!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด