ตอนที่แล้ว2 เครื่องโฮโลแกรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป4 ดาบปีศาจเผิงห่าย

3 ฝันประหลาด


3 ฝันประหลาด

“ฟั*ค หลี่เย้า ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนเรียกนายว่า”มือไร้เงา“! โมเดลมัสแตง จีที 2011ที่นายปรับแต่ง สามารถเร่งจากศูนย์ไปร้อยได้ภายในสามวินาที มันอย่างกับนายเปลี่ยนรถเป็นอีกคันไปเลย! มันอย่างกับจรวดแน่ะ! ฉันล่ะปลื้มจริงๆ!”

“...”

“1.59 วินาที! 1.59 วินาที! สวรรค์โปรด ฉันอ่านถูกแล้วใช่ไหม? เทพแห่งสนามแข่งรถคนใหม่ได้เกิดขึ้นมาแล้ว!”

“...”

“สัญญากับฉันนะ ว่านายจะไม่ไปแข่งรถอีก ทำงานซ่อมรถด้วยความซื่อสัตย์ ไม่มีใครจะมาดูถูกนายได้หรอก มันต้องมีสักวัน ที่เราจะมีร้านเป็นของตัวเอง!”

“...”

“พี่เย้า พี่เย้า ผมข้อร้องพี่ล่ะ ช่วยผมด้วย พุ่งทะยานไปเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากพี่แล้ว จะมีใครทำเวลา 1.59 วินาทีได้อีก? ผมติดหนี้เตาปาเฉียงสามแสน ถ้าวันนี้ผมไม่มีเงินจ่ายให้มัน ผมตายแน่ ผมตายแน่!”

“...”

“หมอ! หมอ! รีบช่วยเขาเร็วเข้า! เขายังอายุแค่ 23 ปีเท่านั้นเอง!”

“...”

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องเสียดแทงหูนั้น หลี่เย้าก็ผลุนผลันลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับร่างกายที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

ที่นอกหน้าต่าง แสงของวันใหม่ได้สาดส่องไปทั่วทุกพื้นที่ เครื่องโฮโลแกรมยังคงทำงานฉายภาพของการบรรเลงเพลงคลาสสิกอยู่ หลี่เย้ามีท่าทางราวกับหุ่นยนตร์ที่ไร้ชีวิตอยู่เกือบครึ่งนาที แล้วเขาก็ค่อยๆกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริง

ฝันร้ายคือความลับที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ลึกที่สุดของเขา และแม้แต่ตาแก่ก็ไม่รู้เกี่ยวกับมัน ตั้งแต่ที่เขาจำความได้ เขาก็มักจะฝันถึงเรื่องที่แปลกประหลาดนี้อยู่เสมอ มันคล้ายกับช่วงเวลาหนึ่งของความทรงจำ...ที่ไม่สามารถลบมันให้หายไปจากใจได้

ในฝันที่แปลกประหลาดนี้ เขายังคงมีชื่อว่าหลี่เย้า แต่กลับมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาอยู่ในโลกที่แปลกประหลาดอีกใบหนึ่ง และทำงานเป็น “ช่างซ่อมรถ” อยู่ในร้านที่เรียกว่า ร้าน“4S” ช็อป

และภายใต้ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสีสันของโลกใบนั้น เขายังเป็นส่วนหนึ่งของ “สนามแข่งรถใต้ดิน” ในฐานะของช่างแต่งรถและนักแข่งรถซิ่งมือพระกาฬ ทุกๆเสียงกระหึ่มและเสียงเร่งเครื่องยนตร์ในทุกค่ำคืน เขาได้พุ่งทะยานออกไปเพื่อสร้างสถิติใหม่ จนกระทั่งเขาได้พุ่งทะยานไปสู่ความตาย!

เขาตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ภายในโลกแห่งความฝัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่ทรมาน แต่หลี่เย้าก็ไม่ได้รังเกียจมันเลย กลับกัน เขายังรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ หากโลกแห่งความฝันไม่ได้มอบประสบการณ์ชีวิตอีกด้านหนึ่งให้กับเขา เขาก็คงจะไม่อาจเอาตัวรอดอยู่ในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์จนถึงตอนนี้ได้

จะเรียกสิ่งนี้ว่าฝันร้ายหรือความทรงจำในชีวิตก่อน ก็ไม่สำคัญทั้งนั้น

คำว่าเมื่อวานนั้นมีอยู่หลายอย่าง เช่น ความตายของเมื่อวาน และวันนี้ก็มีอยู่หลายอย่างเช่นกัน เช่น ชีวิตของวันนี้

มันไม่สำคัญว่าหลี่เย้าในเมื่อวานนั้นเป็นคนแบบไหน แต่ในวันนี้ หลี่เย้าเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆในเมืองฝูเกอเท่านั้น

และวันหนึ่ง เขาจะกลายเป็นผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์ระดับมาสเตอร์!

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก เขาจัดการเก็บห้องของเขาอย่างลวกๆ จากนั้นก็ล้างหน้าล้างตาและแปลงฟัน เวลาเพิ่งจะหกโมงกว่าเล็กน้อยเท่านั้น บนไหล่ของหลี่เย้าแบกกระเป๋าที่ใส่เครื่องโฮโลแกรมเอาไว้ และเขาก็ก้าวยาวๆออกไปจากประตูบ้าน

วันนี้เป็นวันจันทร์ แสงตะวันเพิ่งส่องแสงได้ไม่นาน แต่เขาต้องรีบไปให้ถึงโรงเรียนก่อนเจ็ดโมงครึ่ง

หมู่บ้านเจ้าหยางซุนอยู่ห่างจากโรงเรียนของเขา 50 กิโลเมตร เขาสามารถนั่งรถไฟคริสตัลใต้ดินสายสามและเปลี่ยนไปสายเจ็ด เพื่อเดินทางไปยังโรงเรียนของเขาได้ แต่เขาต้องจ่ายเงิน 8 เหรียญเพื่อเป็นค่าเดินทาง

ซึ่งหลี่เย้านั้นเกลียดการที่เขาต้องใช้จ่ายเงินออกไป เขาขยับขายาวๆทั้งสองข้างของเขา เพื่อใช้ทักษะบอดี้อาร์ทออฟสปิริตเซอร์เปี้ยน ที่โรงเรียนสอนมา แล้วจึงพุ่งตัวตรงไปยังตัวเมืองราวกับสายฟ้า

ในเวลานี้ แสงอาทิตย์กำลังส่องแสงประกายเจิดจ้าและแสงสีมากมายที่ส่องสว่างโดยไร้ซึ่งขอบเขต มันเป็นรุ่งอรุณของแสงแห่งจิตวิญญาณ

ไกลออกไป เมืองฝูเกอนั้นดูราวกับสัตย์ร้ายที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ทุกๆนิกายได้ปลดปล่อยแสงยานุภาพของพวกเขาออกมา จนกลายเป็นแสงสีรุ่งสว่างสดใส

ผู้ฝึกตนมากมายกำลังบินอยู่กลางงอากาศ พวกเขาดูดซับพลังจากแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจากกลางคืนไปเป็นเวลากลางวัน บนร่างกายของพวกเขาได้เปล่งแสงของอักขระดาวแปดเหลี่ยมออกมา บางคนก็ได้มาพร้อมกับนกกระเรียนและอีกาเพลิง ที่บินผ่านไปมาราวกับดาวตกพร้อมกับเสียงที่ดังกระหึ่ม เพื่อเป็นการแสดงถึงอำนาจของพวกเขา

มียานบินขนาดใหญ่พร้อมกับหางที่พ่นไฟออกมา ตัวยานได้ลอยลำอยู่กลางอากาศ และเปลวไฟที่ถักทอเข้ากับท้องฟ้าและเมฆขาวจนกลายเป็นตาข่ายพลังงาน ยานบินส่วนตัวที่ออกแบบได้อย่างปราณีตและงดงามพุ่งผ่านตาข่ายพลังงาน พร้อมกับส่งเสียงหวีดหวิวที่ไพเราะออกมา

นี่คือรุ่งอรุณของเมืองแห่งการบ่มเพาะฝูเกอ!

หลี่เย้าเด้งไปเด้งมาราวกับติดสปริงค์ ในทุกๆก้าวจะส่งให้เขาพุ่งไปไกลเกือบ 20 เมตรด้วยความเร็วสูง ถึงแม้ท่าทางของเขาจะดูน่าเกลียด จนแม้แต่คนที่เดินผ่านไปมาพากันจับจ้อง แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจและจดจ่อไปที่การใช้ท่าทักษะของเขา ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง เขาก็เดินทางมาถึงโรงเรียน หมอกสีขาวหมุนวนอยู่เหนือศีรษะ พร้อมกับเม็ดเหงื่อสีขาวที่ผุดออกมาจนเต็มหลังของเขา

เขาไม่ได้ตรงไปที่ประตูโรงเรียนในทันที ร่างกายของเขาโฉบไปโฉบมาและพุ่งเข้าไปในตรอกซอยเล็กๆที่อยู่ข้างๆตัวโรงเรียน

ในส่วนลึกของซอยมีป้ายที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงแขวนเอาไว้ และเขียนไว้ว่า “ร้านของมือสองเหล่าหวัง” ข้างใต้ชื่อร้าน มีตัวหนังสือตัวเล็กๆเขียนติดกันเป็นแพรด้วยว่า “เชี่ยวชาญในทุกเรื่องของอาร์ติเฟ็กซ์มือสอง และรับปรับแต่งอาร์ติเฟ็กซ์, ขัดเกราะรบ, ฝึกสัตย์อสูร, ซ่อมแซมอักขระ, ทำพิธีทางศาสนา, และบริการด้านอื่นๆอย่างผู้ชำนาญการ”

ราวกับรู้ว่าหลี่เย้าจะมา บานหน้าต่างถูกเลื่อนเปิดออกให้เห็นหัวล้านเกลี้ยงและแววตาเจ้าเล่ห์ของชายแก่คนหนึ่ง

“ฮ่ะ เมื่อคืนฉันเสียไพ่ไปตั้งสองพันเหรียญ ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับเมียฉันยังไงดี แต่แล้วเทพพระเจ้าแห่งความมั่งคั่งก็เข้าข้างฉัน ไอ้หนู คราวนี้เธอเอาของดีอะไรมาให้ตาแก่คนนี้ล่ะ?” ชายแก่ยิ้มออกมาอย่างน่าขนลุก

“รับไปสิ! ถึงลุงจะไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน ก็อย่าหวังว่าฉันจะยอมลดราคาให้เลย!” หลี่เย้าโยนของเขาสู่กรงเล็บของชายแก่อยากไม่อาจจะหักห้ามใจตัวเองได้ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาต้องรู้สึกเจ็บปวดใจแค่ไหน แต่เขาก็ยังเอาเครื่องโฮโลแกรมออกมาและส่งมันไปให้ชายแก่

ใจหนึ่งของเขาอยากจะยื้อเจ้าเครื่องนี้กลับคืนมา เพื่อที่เขาจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีคริสตัลโฟลดิ้งเพิ่มเติม แต่ที่สุดแล้ว เงินก็คือสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อที่จะสามารถทำการบ่มเพาะได้ ผู้ฝึกตนจำเป็นต้องซื้อยาวิเศษและสิ่งของที่สามารถนำมาใช้สนับสนุนการบ่มเพาะของพวกเขาได้

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สุดท้ายแล้ว ถึงจะมีผลการศึกษาที่เลวร้ายขนาดไหน แต่หากมีการบ่มเพาะที่สูงส่ง ก็สามารถมุ่งสู่เส้นทางแห่งการเป็นผู้ฝึกตนได้เช่นกัน ขอแค่เพียงมีเหรียญเงินเป็นกอง ทุกอย่างก็จะสมดังหวัง

“ของดีนี่!”

เห็นได้ชัดว่าชายแก่นั้นรู้จักของสิ่งนี้ เมื่อรับของมาถือไว้เองแล้ว แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นฉายแสงแห่งความชื่นชม เขาไม่ได้ลองทดสอบมันดู และพูดออกมาว่า “9,500 เหรียญ ไม่มีต่อรอง!”

ความอบอุ่นได้แผ่ซ่านอยู่ในหัวใจของหลี่เย้า ราคานี้ไม่ได้ต่างไปจากราคาจริงในตลาดของมือสองเลย ตาแก่หวังได้ให้ราคาดีกับหลี่เย้าอีกครั้งแล้ว

ถึงแม้ว่าตาแก่คนนี้จะมีนัยน์ตาเจ้าเล่ห์อย่างคนที่ไม่น่าไว้ใจ แต่ความจริงแล้ว เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ดูแลหลี่เย้าเป็นอย่างดี ในทุกๆครั้ง เขามักจะให้ราคาของหลี่เย้าเพิ่มเล็กน้อย และในบางวัน เขาก็มักจะหางานที่มีค่าจ้างสูงให้กับหลี่เย้าด้วย

หลังจากที่ตาแก่ตายไป หากไม่มีตาแก่หวังคอยช่วย หลี่เย้าคงไม่สามารถหาเงินมาจ่ายเป็นค่าเล่าเรียนในโรงเรียนเอกชนแบบนี้ได้

“ฉันเอาไม่เยอะหรอก ขอแค่ 9,000เหรียญก็พอแล้ว อีก 500 เหรียญลุงเอาให้ป้าหวัง แล้วบอกว่าลุงเล่นไพ่ชนะมาเถอะ ไม่ต้องขอบคุณกันหรอกนะ ใครใช่ให้ฉันเป็นคนเคารพคนชราและเอ็นดูเด็กๆล่ะ? ฉันทนดูลุงกับร่างแก่ๆของลุงต้องไปนั่งซักผ้าไม่ไหวหรอก ฉันต้องไปเรียนแล้ว โอนเงินเข้าบันชีให้ฉันด้วยล่ะ!” หลี่เย้าโบกมือ แล้วเด้งตัวออกไป

จู่ๆตาแก่หวังก็ตะโกนตามหลังเขาไป “เดี๋ยวก่อน ไอ้หนู”

หลี่เย้าหยุดและพูดขึ้นว่า “โว้ว ให้ตายสิ ตาแก่ อย่าบอกนะว่า 500 เหรียญมันน้อยไปน่ะ?”

“เหอะ เมื่อก่อน ตอนที่ตาแก่คนนี้ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของนักดัดแปลงอาร์ติเฟ็กซ์ระดับมาสเตอร์แล้ว แค่เวลาไม่กี่นาที ฉันก็หาเงินได้เป็นล้านแล้ว ไอ้หนู ฝีมือเธอแค่นี้ก็เป็นได้แค่ขี้เล็บของฉันเท่านั้นแหละ ฉันแค่อยากจะบอกว่า การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหลืออีกแค่หนึ่งร้อยวันเท่านั้น เด็กน้อยอย่างเธอต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีดีให้ได้ล่ะ อย่าคิดว่า ตัวเองมีซ่อมอาร์ติเฟ็กซ์ได้แล้ว จะไม่สนใจอย่างอื่นล่ะ! โลกนี้มันกว้างใหญ่มาก และเธอจะได้รู้ก็ต่อเมื่อเธอได้เข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วเท่านั้น ต่อหน้าผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์ระดับมาสเตอร์อย่างฉันแล้ว ความสามารถของเธอมันไร้ค่า รู้ไว้ซะด้วย!” ตาแก่หวังคุยโม้

อีกครั้งที่หัวใจของหลี่เย้ารู้สึกอุ่นวาบ แล้วเขาก็ชูกำปั้นขึ้น “ผมต้องได้เข้ามหาวิทยาลัยแน่นอน ลุงหวัง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด