ตอนที่แล้วSM:บทที่ 15 เล้งเซียงหนิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSM:บทที่ 17 ความประหลาดใจ

SM:บทที่ 16 วันต่อมา


SM:บทที่ 16 วันต่อมา

หลังจากที่หญิงสาวจากไปแล้ว เซี่ยเย่นำลูกเต๋าทรงแปดเหลี่ยมสีม่วงออกมาจากแขนของเขา จากนั้นมีคำ 8 คำ ได้แก่ ทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

“ฉันไม่คิดเลยว่าลูกเต๋านำโชคจะมหัศจรรย์เช่นนี้”

เซี่ยเย่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเช่นนั้นในใจ เมื่อเขาพบกับเซว่อู๋ฉาง การรับรู้อันตรายที่มองไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้นั้นยังคงอยู่ในใจเขาตลอดเวลา ทำให้เซี่ยเย่รู้สึกกังวล

แต่ตอนนี้ จินตั๋วได้ให้คำปรึกษากับเซี่ยเย่ สิ่งนั้นคือการเลี่ยงความรู้สึกนั้นโดยใช้ลูกเต๋านำโชค

ด้วยการนำทางของลูกเต๋านำโชคนี้เอง ทำให้เซี่ยเย่พบกับซินเซียวเลียน ซึ่งเป็นคนที่ราชสีห์ทองคำนัยต์ตาฟ้าตามไล่ฆ่า โชคดีที่เล้งเซียงหนิงปรากฎตัวขึ้น ซึ่งสามารถช่วยเขาจากอันตรายในตอนแรกไว้ได้

คลิก...เสียงเบาดังขึ้น ลูกเต๋านำโชคแตกละเอียดเป็นผงจากนิ้วของเซี่ยเย่

“มุมปากของเซี่ยเย่กระตุกอย่างช่วยไม่ได้” แม้ว่าจะเป็นสิ่งดี แต่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เนื่องจากความต้องการเงินจำนวนมากสัก 1 ล้านหยวน ทำให้หลายคนเป็นนักธุรกิจหน้าเลือดจริงๆ คำพูดของเซี่ยเย่ไม่ได้ทำให้จินตั๋วโกรธแม้แต่น้อย ในอีกทางหนึ่ง เขานับเงินที่ลงทุนไปกับเซี่ยเย่ในช่วงนี้แทน

“แต่มันก็มีสิ่งตอบแทน” เซี่ยเย่ตรงไปยังร่างของราชสีห์สีทองนัยต์ตาฟ้า และขุดเอาแกนกลางออกมา

นิวเคลียสของราชสีห์สีทองนัยต์ตาฟ้าเป็นแสงสีเขียว ซึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นเด็กทารก แต่ก็ยังมีขนาดใหญ่มากกว่านิวเคลียสอันก่อนของเซี่ยเย่มาก

“นิวเคลียสเพียงอันเดียวน่าจะมีราคาแพงนะ” ในขณะเดียวกัน เซี่ยเย่เก็บนิวเคลียสลงและถามจินตั๋ว “ตั่วตั๋ว หากฉันดูดพลังชีวิตของราชสีห์สีทองนี้ ค่าความสามารถของฉันจะเพิ่มขึ้นเท่าไร”

“นายท่าน ความแข็งแกร่งของราชสีห์สีทองตัวนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งจะเพิ่มพลังชีวิตท่าน 1 คะแนน หากพิจารณาจากการสะสมของท่านในอดีต พลังชีวิตของท่านอยู่ที่ระดับ 7.9 แต่ด้วยเงินบัญชีของท่านมีไม่มากนักในตอนนี้ ข้าจึงไม่แนะนำให้ท่านเพิ่มค่าความแข็งแกร่งของท่านตอนนี้” จินตั๋วกล่าวช้าๆ

เซี่ยเย่เคาะที่หน้าผากตนเอง ตอนนี้ เขาใช้เงินจำนวนมากกับการรักษาตัวจากการบาดเจ็บ ดาบ และโล่ ซึ่งใช้เงินถึง 2 ล้านหยวน ทำให้ตอนนี้เขามีเงินเหลือในบัญชีเพียงแค่ 5 ล้านหยวนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เซี่ยเย่เพิกเฉยต่อคำแนะนำของจินตั๋ว หลังจากได้พบยอดฝีมือ เช่น เซว่อู๋ฉางและเล้งเซียงหนิง เซี่ยเย่รู้ว่าความแข็งแกร่งของเขายังมีไม่พอ แม้ว่าเขาเพิ่มความแข็งแกร่งจนถึงระดับสูงสุด แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับของศัตรู แต่ถ้าหากว่าเขาแข็งแกร่งกว่านี้ เขาก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

“ตั่วตั๋ว เพิ่มค่าพลังของฉันให้ถึงระดับสูงสุดเลย” เซี่ยเย่บอกจินตั๋วในใจ

“เริ่มการเลื่อนขั้นตอนนี้จะถูกหักเงินจำนวน 1.8 ล้านหยวน”

พลังจำนวนมากปรากฏในตัวของเซี่ยเย่ทันที ไม่เพียงแค่พลัง แต่รวมถึงลมปราณในร่างกายด้วย เซี่ยเย่รับรู้ว่าขั้นตอนการเพิ่มพลังนั้นผ่านไปได้ด้วยดี

การพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เช่นนั้น อาจจะก่อให้เกิดหายนะได้ เซี่ยเย่บอกจินตั๋วให้เพิ่มค่าแรงถ่วงน้ำหนักให้เขาอีก 1.5 เท่า เพื่อให้เขาสามารถมีประสบการณ์และปรับตัวเข้ากับความแข็งแกร่งใหม่นี้ได้ในเวลาเดียวกัน

จากนั้น เขาควงดาบไปรอบๆและแบกดาบไว้บนหลังตนเอง พร้อมทั้งมองหาสนามรบพลางๆ เซี่ยเย่ยิ้มขึ้นและท่าเก้าดาราก็ เปร่งแสงออกมา ผู้คนหายตัวไปจากบริเวณนั้น ทิ้งไว้เพียงที่รกร้างแห่งหนึ่ง

ค่ำคืนค่อยๆสลายหายไปด้วยแสงอาทิตย์บนท้องฟ้า ในเมืองเล็กของหนานยาง มีการหยุดการฆ่าชั่วคราว ในการฉลองการฆ่าครั้งนี้ มีผู้คนถูกฝังในที่ต่างๆจำนวนกี่คน ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของหนุ่มสาวต้องจ่ายด้วยราคาเท่าไร เพื่อที่จะไล่ตามหาความแข็งแกร่ง

ภายในห้องที่ผุพัง เซี่ยเย่ลืมตาขึ้นและพักไปหลายชั่วโมง จิตใจและร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติ

“วันต่อไป ความเร็วในการฆ่าจะเพิ่มขึ้น” เซี่ยเย่พึมพำ “การประเมินครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการทดสอบค่าวรยุทธ์ แต่ยังเป็นการทดสอบการเอาตัวรอดของจอมยุทธ์ ไม่ว่าวรยุทธ์นั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับเกียรติยศ”

หลังจากสลัดใบมีดที่มีน้ำค้างออก เซี่ยเย่มองไปยังพระอาทิตย์ยามเช้าบนท้องฟ้า ร่างของเขาลุกขึ้นและลงหลายครั้ง จากนั้น เขาจึงหายตัวไปจากตึกสูง

ผีดิบมีวิวัฒนาการที่เร็ว และแปลกกว่าอสูร วิธีการพัฒนาก็แปลกเช่นกัน ผีดิบที่กลายพันธุ์จะมีพลังมากกว่าผีดิบปกติ

โฮก...เสียงคำรามดังขึ้น เพียงแค่เห็นว่าหมาป่าถูกจับในมือขนาดใหญ่ของผีดิบ การดิ้นรนเอาชีวิตรอดของหมาป่านั้นไร้ความหมาย

ผีดิบตัวโตกัดเข้าที่หัวของหมาป่า เคี้ยวเพียงสองครั้ง จากนั้นจึงเขวี้ยงร่างหมาป่าออกไป

เหมือนว่าพวกมันจะไม่อิ่ม ผีดิบตัวโตมองหาเหยื่อตัวต่อไป จากนั้นไม่นาน ร่างหมาป่าที่เหลือถูกผู้ล่าตัวอื่นแบ่งกันกินต่อไป

เซี่ยเย่ซ่อนตัวอยู่ตึกสูงพร้อมทั้งมองไปยังผีดิบยักษ์สูงมากกว่า 7 เมตร เขาถามจินตั๋วในใจ “ตั่วตั๋ว เธอแน่ใจหรือไม่ว่าแหล่งพลังของผีดิบยักษ์ตนนี้จะเป็นประโยชน์กับฉัน”

“นายท่าน ตั่วตั๋วเก็บเงินค่าธรรมเนียมข้อมูลกับท่านไปแล้ว แล้วข้อมูลจะผิดได้อย่างไร” จินตั๋วตบที่อกตนเองและสัญญา

เมื่อมองเห็นว่าร่างของผีดิบยักษ์เคลื่อนไหวช้าลง เซี่ยเย่มีความคิดชั่ววูบขึ้น ไม่มีวิธีอื่นแล้ว แรงกดดันจากภายนอกทำให้เขาต้องพัฒนาความแข็งแกร่งตนเอง นอกจากนี้ เพื่อนำเงินมาพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาเองโดยตรงจากตั่วตั๋ว แหล่งกำเนิดพลังจากวัตถุธรรมชาติและทรัพยากรบนโลกหรือผีดิบหรืออสูรนั้นจะเป็นประโยชน์มาก เพียงเวลาไม่นาน เซี่ยเย่ใช้เงินจำนวนมากในการหาข้อมูลที่เขาจำเป็นต้องใช้จากจินตั๋วและเป้าหมายของเขาคือผีดิบยักษ์

เซี่ยเย่ปรากฏตัวจากบนฟ้า ในการเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง การโจมตีที่มีพลังมากที่สุดคือการโจมตีแบบธรรมชาติ

ผีดิบยักษ์เหมือนจะสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง และเงยหน้ามองฟ้า พร้อมส่งเสียงคำราม

วู... ในตอนนั้น กรงเล็บของผีดิบยักษ์แยกออกไปจากนิ้วได้และยิงมาที่เซี่ยเย่เหมือนกระสุนปืน

กรงเล็บของมันนี้มีความเร็วมาก ในชั่วพริบตาเดียว เมื่อเซี่ยเย่จะเคลื่อนมาด้านหน้า กรงเล็บก็มีความสามารถที่จะบุกทะลวงผ่านทุกสิ่ง

โล่ดาบ!

เซี่ยเย่ไม่ต้องการปะทะกับกรงเล็บนั้น จึงยกโล่ดาบขึ้นสูง

ติ้ง...กรงเล็บที่แหลมคมของผีดิบโจมตีที่โล่ดาบ ซึ่งทำให้โล่ดาบเบี้ยวเสียหายอย่างมาก เซี่ยวเย่ขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อความแข็งแกร่งในร่างกายหลั่งไหล โล่ดาบฝั่งด้านหน้าเขาคลายตัวลง ทำให้กรงเล็บผีดิบที่อีกด้านของโล่แข็งแกร่งขึ้น

วู...แสงสีม่วงสว่างออกมาจากกรงเล็บจากด้านของเซี่ยเย่ ปลายแหลมคมและพิษของกรงเล็บทำให้เซี่ยเย่รู้สึกเย็นยะเยือก

"ผีดิบกลายพันธุ์นั้นต่างจากผีดิบธรรมดาทั่วไปและมีการโจมตีที่แตกต่างไป ดังนั้น หากท่านไม่มีสมาธิกับเหล่าผีดิบนี้ ท่านจะต้องออกไปจากการต่อสู้นั้นเสีย"

เซี่ยเย่ต้องการที่จะหยุดการโจมตีนี้ ท่าเก้าดาราเคลื่อนไหวเบาๆ จากอากาศถึง 3 ครั้งติดๆ ด้วยความเร็วเท่าที่จะเป็นได้

เขาใช้ทั้งสองวิธีร่วมกันและพลังของเซี่ยเย่เพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด

ปัง...เซี่ยเย่ผ่านผีดิบยักษ์ไป ทิ้งไว้เพียงดาบนับพันเล่มที่เปร่งประกายบนร่างของมัน

โฮก...เสียงคำรามอย่างเจ็บปวดดังขึ้นไปทั่วโลกอีกครั้ง กรงเล็บทั้งสองข้างของผีดิบบ้าคลั่งกวัดแกว่งในที่ว่าง ตึกหลายแห่งพังทลายลงในทันที ไม่รู้ว่าผีดิบ อสูร และผู้เฝ้าดูที่ตายไปมีจำนวนมากแค่ไหน

ดาบลมปราณแผลงฤทธิ์ในร่างของผีดิบยักษ์และเลือดพิษจำนวนนับไม่ถ้วนถูกพ่นออกจากร่าง อย่างไรก็ตาม ร่างของผีดิบยักษ์นั้นใหญ่โตและแข็งแกร่ง ขนาดที่ดาบนับพันเล่มยังไม่สามารถฟันร่างได้ มีเพียงรอยดาบนับพันแผลที่อยู่บนตัวมันเท่านั้น

หลังจากการโจมตีด้วยดาบ ผีดิบยักษ์ย่อมต้องรู้สึกเกลียดชังศัตรูที่ทำร้ายมันอย่างสาหัสเช่นนี้ กรงเล็บขนาดใหญ่ของผีดิบยักษ์จับตัวเซี่ยเย่จากพื้นดิน พร้อมทั้งบังแสงแดดและลมแรง ซึ่งพัดอยู่รอบตัวเซี่ยเย่ในทันที

บูม...พลังของผีดิบยักษ์น่ากลัวมาก แผ่นดินแยกออกโดยใช้แค่ฝ่ามือข้างเดียว แต่ไม่ได้ทำให้ศัตรูได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มีเพียงประกายแสงสว่างจากตัวเซี่ยเย่ปรากฎขึ้นที่ด้านหลังฝ่ามือของผีดิบยักษ์

ดาบใหญ่แทงลึกเข้าไปที่หลังฝ่ามือของผีดิบยักษ์ เซี่ยเย่รีบวิ่งขึ้นไปที่แขนของผีดิบ โดยที่มือทั้งสองข้างจับดาบไว้ ดาบใหญ่ทิ้งร่องรอยไว้บนแขนของผีดิบยักษ์

โฮก...ผีดิบยักษ์สะบัดแขนของมันและโยนเซี่ยเย่ออกจากตัว แต่ดาบใหญ่ปักลึกที่กระดูกของมันทำให้ไม่สามารถเอาดาบออกจากแขนได้

จากนั้นไม่นาน เซี่ยเย่เคลื่อนตัวมาที่ส่วนหัวของผีดิบ ดาบใหญ่แกว่งลงมาโดยตรงที่หน้าผากของมัน

ชึบ...ไม่น่าเชื่อว่าดาบจะหล่นลงมาและปรากฏเพียงรอยแผลบางบริเวณหน้าผากของผีดิบเท่านั้น แต่ไม่ทำให้ผีดิบยักษ์บาดเจ็บแม้แต่น้อย

ปิ้ง...ในตอนนั้น ฝ่ามือของผีดิบยักษ์พุ่งมาและเซี่ยเย่ได้ถอยกลับไป ฝ่ามือนั้นมีฤทธิ์ขนาดทำให้ร่างที่โดนแตกเป็นเสี่ยงๆได้

จุดอ่อนของผีดิบยักษ์อยู่ที่หัวของมันและผลกระทบจากการโจมตีในสถานที่อื่นไม่เป็นผล อีกทั้ง การโจมตีโดยใช้สิ่งยั่วยุก็ไม่เป็นผลเช่นกัน