ตอนที่แล้วGE385 สังหารเจ้าเยี่ยงสุนัข [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE387 หยูฉงเอ๋อร์ [ฟรี]

GE386 สายลม หิมะ และการสังหาร [ฟรี]


สายลมพัดพา หิมะโปรยปราย หนิงฝานพักอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรับรองผู้ที่มาหุบเขามังกร เป็นอีกสถานที่ที่แยกจากที่พักของชายชราผมแดง

หุบเขามังกรคือนิกายแห่งหนึ่งของแคว้นหิมะ ภายในนิกายมีศิษย์นับล้าน แต่ศิษย์ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่นอกนิกาย มีบางส่วนที่อยู่ภายในเพื่อทำหน้าที่รับใช้

“ประมุขหุบเขามังกร… ฉูฉางเอ๋อร์ เป็นคนที่มีนิสัยประหลาด แต่หากข้าแข็งแกร่งพอ น่าจะเป็นสหายกับคนผู้นี้ได้… ส่วนองค์ชายเจ็ด… ‘องค์ชายรุ้งเมฆา’ หยุนนจิงหง คนผู้นี้จิตใจคับแคบ โหดเหี้ยมอัมหิต แค่ได้ยินชื่อว่าข้าคือซัวหมิงก็คิดจะสังหาร ที่มันทำตัวเย่อหยิ่งได้แบบนี้ ก็เป็นเพราะมันมีบิดาเป็นกษัตริย์พิรุณ...ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 6 คอยหนุนหลัง”

หนิงฝานขบคิดทบทวนเรื่องการปะทะกันของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่เกิดขึ้น เพราะเป็นโอกาสที่หาได้ยาก

เขายังไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดหยุนเทียนเฉวถึงพาเขามาที่นี่ อีกอย่างการที่หยุนเทียนเฉวปะทะกับหยุนจิงหง แม้จะดูน่ากลัวแต่ก็ผ่านมันมาได้อย่างง่ายดาย

เหตุใดหยุนเทียนเฉวต้องให้เขาลงไปแช่ในสระโลหิตมังกร มันมีประโยชน์ยังไง?

หนิงฝานนำเอาโลหิตมังกร 3 หม้อหยกที่ได้มาจากชายชราผมแดงออกมา เมื่อลองแผ่สัมผัสเทพเข้าไป เขากลับขมวดดคิ้วแน่น

หากดูดซับโลหิตมังกรทั้ง 3 หม้อนี้ อย่างน้อยจะได้ปราณ 5000 เกราะ แต่หากปรุงพวกมันเป็นโอสถ อย่างน้อยจะได้ปราณเพิ่มขึ้นมาหมื่นเกราะ! แม้จะยังไม่เทียบเท่าสุราของหยุนเทียนเฉวก็ตาม

“บางที… โลหิตมังกรที่ว่าอาจจะเป็น ‘โลหิตโอสถ’... ที่ถูกสร้างขึ้นจากโลหิตอสูรขึ้นด้วยวิธีการบางอย่าง... มนุษย์ไม่สามารถดูดซับโลหิตอสูรได้ตรงๆแม้โลหิตอสูรจะมีปราณที่อุดมสมบูรณ์ แต่ด้วยการเปลี่ยนให้มันเป็นโลหิตโอสถ มนุษย์ย่อมดูดซับได้… ถ้าไม่ได้ผู้อาวุโสหยุนพาข้ามาที่นี่ ไม่รู้ว่าข้าจะมีโอกาสยกระดับพลังได้มากขนาดนี้หรือเปล่า”

“หากยืมน้ำเต้าโลหิตของผู้อาวุโสได้ แล้วนำโลหิตมังกรในสระใส่ลงไป น่าจะดีไม่น้อย... แต่ก่อนหน้านี้ หยุนจิงหงกล่าวว่าน้ำเต้าโลหิตเป็นสมบัติล้ำค่าของวิหารพิรุณ แม้ระดับจะไม่ได้สูงที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจะให้ยืมหรือเปล่า”

“จากที่ผู้อาวุโสหยุนกล่าว พรุ่งนี้ข้าต้องลงสระโลหิตมังกร บางทีที่นั่นอาจมีอันตรายซ่อนอยู่...”

หนิงฝานสูดหายใจลึกเพื่อสงบใจ เขาหวนนึกถึงสิ่งที่หยุนจิงหงกล่าว

ผนึกสยบปีศาจ… ตัดแขน… สังหารเพื่อสตรี ทั้งหมดนี้คือเบาะแสสำคัญของเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต

หนิงฝานและหยุนนเทียนเฉวมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือยอมทำเพื่อสตรีของตน… การที่หยุนเทียนเฉวสังหารเพื่อสตรีนางนั้น นางสมควรสำคัญกับมันมาก บางทีองค์ชายสี่อาจทำร้ายสตรีนางนั้น มันจึงลงมือสังหาร...

เดิมทีหนิงฝานเป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องชาวบ้าน แต่เขากลับสนใจเรื่องของหยุนเทียนเฉว

หยุนจิงหงกล่าวว่าหยุนเทียนเฉวยอมตัดความรู้สึกเพื่อให้ตนเองบรรลุเจตจำนงค์กระบี่ หากนั่นเป็นเหตุผลให้ลืมคนที่ตนรักย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

“หนิงเฉียน...” หนิงฝานตำหนิตนเองว่าไม่อาจช่วยมารดาได้

แม้โอกาสจะอยู่ตรงหน้า แต่ยังไม่อาจไขว่คว้า… ตั้งแต่ยังเล็กที่เขาไม่เคยได้สัมผัสกับไอรักของมารดา แม้เป็นเรื่องน่าอับอายที่จะไขว่คว้าในยามโต แต่มันคือสิ่งที่หนิงฝานถวิลหา

หนิงฝานเป็นกังวลและห่วงหนิงเฉียนมาก เขาไม่รู้ว่าต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับใดถึงได้ปิดกั้นการทำนายดวงชะตาได้ หรือผู้ที่คิดร้ายกับหนิงเฉียนคือเซียนบนแดนสวรรค์?

“เท่าที่ข้าจำได้… ข้ามีแซ่หยุน ผู้อาวุโสตงสู่กล่าวว่า หากข้าอยากตามหาหนิงเฉียน ข้าต้องตามหาหยุนเทียนเฉว… หรือว่าบิดาข้าก็เป็นคนของวิหารพิรุณ การที่ดวงชะตาของข้าและมารดาถูกบดบังอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ในวิหารพิรุณสมควรมีศัตรูของบิดาและมารดาของข้าอยู่ แต่ไม่ว่ายังไงข้าก็จะหาท่านแม่ให้พบ”

หลังจากหนิงฝานขบคิด เขาก็ได้ข้อสรุปว่าจะไม่บอกเรื่องหนิงเฉียนกับผู้ใด

ในเมื่อไม่อาจพึ่งพาหยุนเทียนเฉวได้ ก็ยังเหลือหยุนโร่วเวยที่อาจจะพอให้คำตอบ แต่นอกเหนือจากสองคนนี้แล้ว หนิงฝานก็ไม่รู้จักผู้ใด

“ฮ่าฮ่า… เจ้าคือซัวหมิงผู้สังหารผู้คนมามากมายราวกับปีศาจร้าย คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีอารมณ์สุนทรีย์ชื่นชมบรรยากาศเช่นนี้ ช่างน่าขันนัก” น้ำเสียงเย้ยหยันล่องลอยมาตามสายลม พร้อมกับเงาร่างของผู้เชี่ยวชาญ 4 คนปรากฏ

พวกมันทั้งหมดมีอายุกระดูกมากกว่า 3 พันปี อยู่ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง

“พวกเจ้าเป็นใคร?” แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา

“ผู้อาวุโส 5 ธาตุแห่งวังวิหคสวรรค์” พวกมันกล่าวตอบเย้ยหยัน

หนิงฝานขมวดคิ้ว เมื่อได้รับฉายาว่าเป็นผู้อาวุโสซัวแห่งวิหารพิรุณ หนิงฝานก็สืบหาข่าวของพวกมันมาบ้าง

หนิงฝานจะได้เข้าร่วม ‘วังสวรรค์’ ซึ่งมีหยุนเทียนเฉวเป็นประมุข

ส่วนหยุนหยานที่ถูกเขาสังหารไป สังกัดวังสวรรค์แดง โดยมีหยุนจิงหงเป็นประมุข

ในวังสวรรค์แดง หยุนหยานเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในเรื่องเพลิงมากที่สุด จนกลายเป็นคนสำคัญของวิหารพิรุณ

แต่นอกจากมันแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีก 4 คนที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน โดยเรียกพวกมันทั้งหมดว่า ผู้อาวุโส 5 ธาตุ ในหมู่พวกมัน 5 คน หยุนหยานคือผู้ที่อายุกระดูกน้อยที่สุด แต่ก็แข็งแกร่งไม่แพ้คนอื่นๆ

ผู้อาวุโลหะ ผู้อาวุโสไม้ ผู้อาวุโสพิภพ และผู้อาวุโสวารี… ทั้ง 4 คนคือผู้ที่ปรากฏตัวต่อหน้าหนิงฝาน

ในทะเลไร้สิ้นสุด ผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงคือตัวตนที่ทรงพลังอย่างที่สุด แต่ในวิหารพิรุณ พวกมันเป็นเพียงผู้อาวุโสระดับสูงเท่านั้น

การที่ผู้อาวุโสแห่งวิหารพิรุณ 4 คนปรากฏตัว พวกมันย่อมไม่ได้มาเพราะจะแก้แค้นให้หยุนหยาน แต่สมควรจะมาหาเรื่องหนิงฝาน

“เจ้าเหรอซัวหมิง? มีข่าวลือเรื่องร่างต้านเพลิงของเจ้า ซ้ำเจ้ายังสังหารหยุนหยานได้… แต่ก็นับเป็นเรื่องดี เพราะชื่อเสียงของพวกข้าจะได้เพิ่มพูน”

หนิงฝานจ้องมองพวกมันแต่ไม่กล่าว ถึงพวกมันจะมาหาเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่เพราะต้องการแก้แค้นให้หยุนหยานจริงๆ

“ส่งโลหิตมังกรทั้งหมดของเจ้ามาซะ..ไม่อย่างนั้น!”

ผู้อาวุโสโลหะก้าวออกมา มันพลิกฝ่ามือ เส้นแสงสีทองตรงเข้าหาหนิงฝานด้วยความเร็วสูง

หนิงฝานขมวดคิ้ว แต่เขาไม่คิดหลบแม้แต่น้อย

เส้นแสงแปรเปลี่ยนเป็นอัสนีห้อมล้อมกายหนิงฝาน ปิดกั้นเขาออกจากโลกภายนอก ก่อนที่พวกมันทั้ง 4 จะเจ้าเข้าล้อมหนิงฝาน

ที่มือของผู้อาวุโสโลหะปรากฏแหวนเปล่งแสงสีทอง ดูเหมือนแหวนนั้นจะเป็นตัวควบคุมมิติ

“ซัวหมิง! ส่งโลหิตมังกรมาซะ แล้วพวกข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!” ผู้อาวุโสโลหะกล่าว

“คิดจะสังหารข้า? เจ้าคิดว่าทำได้เหรอ?”

หนิงฝานหลับตา สีหน้าแปรเปลี่ยนเย็นชาอย่างที่สุด

การที่หนิงฝานเข้าร่วมวิหารพิรุณโดยที่ตนเองไม่มีผู้หนุนหลัง เขาจึงคิดจะอยู่อย่างสงบ ไม่ระรานผู้ใด

แต่เมื่ออีกฝ่ายสร้างมิติที่ตัดขาดจากโลกภายนอกเพื่อหวังสังหาร เขาย่อมแสดงพลังได้เต็มที่

เมื่อหนิงฝานไร้ซึ่งความหวาดกลัว พวกมันทั้ง 4 จึงร่วมมือกันจู่โจม

“กระบี่พิภพ!”

“แส้อัสนี!”

“หุบเหวน้ำแข็ง!”

“วายุแห่งความตาย!”

พวกมันทั้ง 4 ใช้วิชาที่ทรงพลังจู่โจม วิชาทั้งหมดล้วนเป็นวิชาในระดับตัดวิญญาณขั้นสูงสุด

“ซัวหมิง ร่างต้านเพลิงของเจ้าสะกดข่มได้เพียงหยุนหยาน แต่ไม่อาจรับมือกับวิชาของพวกข้าได้!” ผู้อาวุโสโลหะกล่าวเย้ยยัน

“พิภพสะท้าน! อัสนีสลาย! น้ำแข็งทะลาย! วายุสาบสูญ!”

หนิงฝานชูมือไปบนท้องนภา ทำท่าคว้าจับอากาศ ทันใดนั้น เสียงมังกรคำรามดังสนั่น ป้ายศิลาสีดำขนาดยักษ์ 5 ป้ายปรากฏกลางนภา

หนิงฝานเสริมพลังด้วยโลหิตฟู่ลี่ ทำให้วิชาของเขาทรงพลังจนเกือบจะเทียบเท่าวิชาระดับกึ่งไร้ดัดแปลง

ป้ายทั้ง 5 เป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 วิชานี้สามารถทำลายได้แม้กระทั้งวิชาเสียงห้าธาตุของซีเหมินเย่ ย่อมสามารถทำลายวิชาของศัตรูยามนี้ได้ไม่ยาก

เมื่อป้ายหลุมศพทั้ง 5 ปรากฏ หนิงฝานควบคุมป้ายทั้ง 5 เข้าปะทะกับวิชาของผู้อาวุโสทั้ง 4

พวกมันทั้งหมดตกตะลึง เพราะพวกมันรู้ว่าหนิงฝานใช้วิชาลับที่สืบทอดกันสายเลือกของเผ่าพันธ์ุมังกรทมิฬ!

วิชาห้าธาตุของเผ่ามังกรทมิฬนั้นทรงพลังเหนือว่าธาตุทั้ง 5 แต่วิชานี้ได้หายสาบสูญไป เหตุใดหนิงฝานถึงมีในครอบครอง

แต่ถึงหนิงฝานจะครอบครองวิชาจริง หากไม่มีโลหิตอสูร ไม่มีโลหิตโบราณของเผ่าพันธุ์มังกรทมิฬ ก็ไม่สามารถใช้วิชาได้เช่นกัน

วิชาป้ายหลุมศพมังกรทมิฬนี้ คือวิชาที่ใช้สยบธาตุทั้ง 5 ในโลก แต่หากเป็นในแดนสวรรค์หรือหากเป็นวิชาธาตุอื่น อาจจะต้านทานไม่ได้

ตูม!

เสียงระเบิดดังสนั่น แรงกระแทกทำให้พวกมันทั้ง 4 กระอักโลหิต

พวกมันทั้ง 4 เป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง แต่ถึงพวกมันจะประสานพลังจู่โจม แต่กลับทำอะไรหนิงฝานไม่ได้ หากเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง การผสานการจู่โจมของพวกมันทั้ง 4 ย่อมทำให้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงบาดเจ็บได้

หนิงฝานทรงพลัง แม้ระดับพลังจะอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด แต่กลับแข็งแกร่งไม่แพ้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง

“บัดซบ! หนีเร็ว ถ้าไม่รีบออกจากที่นี่ได้ถูกมันสังหารแน่!” พวกมันตกตะลึง หากหนิงฝานใช้ป้ายหลุมศพจู่โจมพวกมันอีกครั้ง พวกมันไม่มั่นใจว่าจะรับมือได้หรือเปล่า

“คิดจะหนีเหรอ? ข้าว่าสายเกินไปแล้ว!”

ปีกขนาดใหญ่ปรากฏที่แผ่นหลังหลิงฝาน พัดกระพือส่งร่างจนกลายเป็นเส้นแสงสีดำที่ยากจะมองเห็น เมื่อเข้าประชิดพวกมันทั้ง 4 ร่างของหนิงฝานสลายเป็นเส้นแสงสีดำจะนวนมากตรงเข้าหาพวกมัน

วิชาวารีผันแปร!

เมื่อสัมผัสเทพของหนิงฝานยกระดับ วิชาวารีผันแปรย่อมทรงพลังขึ้น จนเทียบได้กับการจู่โจมเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง!

ปราณเพิ่มพูนยาก แต่จิตใจเพิ่มพูนได้ยากยิ่งกว่า แต่หากจิตใจของหนิงฝานบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง สัมผัสเทพของเขาก็จะทะลวงขอบเขต ทำให้เขาแข็งแกร่งไม่แพ้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงจริงๆ

“นี่มันวิชาร่างวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก!”

ปราณกระบี่สีดำจำนวนมหาศาลทะลวงร่างพวกมันทั้ง 4 จนระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต ปราณกระบี่จำนวนมากผสานคืนร่างเป็นหนิงฝานในอาภรณ์ขาว ในมือมีกระเป๋าและดวงจิตของพวกมันทั้ง 4

สังหารแล้วช่วงชิงสมบัติ… นอกจากหนิงฝานแล้ว คงน้อยนักที่จะทำได้

แต่เมื่อแผ่สัมผัสเทพสำรวจกระเป๋าของพวกมันเขากลับขมวดคิ้ว เพราะพวกมันมีหยกสวรรค์รวมกันเพียง 10 ล้าน ดูเหมือนผู้อาวุโสของวิหารสาบสูญจะไม่ได้มั่งคั่งอย่างที่คิด การเข่นฆ่าสังหารเพื่อชิงสมบัติทำให้ร่ำรวยเร็วกว่า

ถึงหยกสวรรค์จะน้อย แต่โอสถและสมบัตินับว่าไม่ธรรมดา นั่นหมายความว่า แม้จะไม่ค่อยได้ผลึกศิลา แต่ผลประโยชน์ด้านอื่นได้พิเศษจนน่าอิจฉา

ไม่นานนัก เส้นแสงสีทองจำนวนมากผสานก่อตัวเป็นผลไม้แห่งเต๋าสีทอง ซึ่งน่าจะเกิดจากการตายของผู้อาวุโสโลหะ นับว่าหนิงฝานโชคดีไม่น้อย

เมื่อหมอกโลหิตของพวกมันจางไป กลุ่มไอความเย็นสีขาวได้ก่อตัวเป็นเหมือนดวงจิต สิ่งนั้นคือปราณเยือกแข็งสวรรค์!

ปราณเยือกแข็งสวรรค์ชนิดนี้มีนามว่า ‘ดวงจิตเยือกแข็ง’ จัดอยู่ในอันดับ 3

ช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะนอกจากจะได้ผลไม้แห่งเต๋า กระเป๋าของพวกมัน ยังได้ปราณเยือกแข็งสวรรค์ด้วย

“ซัวหมิง! เจ้าจะเอาของของข้าไปไม่ได้ เจ้าจะสังหารพวกข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้น องค์ชายจิงหงไม่ปล่อยให้เจ้าออกไปจากหุบเขามังกรแน่!”

“ขอบคุณที่เตือน” หนิงฝานเย้ยหยันพลางนำทาสทั้ง 3 ตนออกมา

การปรากฏตัวของทาสไร้ดัดแปลงทั้ง 3 ทำให้พวกมันยิ่งหวาดกลัว

หนิงฝานแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ทั้งยังมีทาสไร้ดัดแปลงอีก 3 ตน ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 4 คน ก็รับมือได้ไม่ยาก

ช่างน่าขันที่พวกมันทั้ง 4 หวังจะสังหารหนิงฝาน ช่างไม่ประมาณตน

“เจ้า… เจ้าจะทำอะไร?” พวกมันคิดว่าหนิงฝานไม่กล้าสังหาร แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่ใช่แบบนั้น

“พวกเจ้าพูดถูก… หากข้าสังหารพวกเจ้า คงออกจากหุบเขามังกรไม่ได้ แต่ถ้าข้าสังหารพวกในนี้ ใครจะรู้ว่าข้าเป็นคนสังหาร? อ่านความทรงจำ!”

หนิงฝานใช้วิชาอ่านความทรงจำของพวกมันอย่างโหดเหี้ยม เมื่อผ่านไปชั่วธูปไหม้หมดดอก พวกมันทั้ง 4 ก็กลายเป็นดวงจิตที่เสียสติ และกลายเป็นแหล่งพลังงานให้กับทาสทั้ง 3 ไป

ผู้อาวุโสระดับสูงแห่งวิหารพิรุณแล้วยังไง? ในเมื่อพวกมันรนหาที่ตาย เขาก็ไม่เกี่ยงที่จะสงเคราะให้ แค่ไม่ให้หยุนจิงหงรู้ว่าเขาเป็นคนทำก็สิ้นเรื่อง

ส่วนเรื่องเหรียญตราประจำตัวพวกมัน หนิงฝานใช้ดรรชนีหมอกเมฆาม่วงทำลายทิ้ง ก่อนจะออกจากมิติที่พวกมันสร้างไว้

ยามนี้ตัวเขาดูเหมือนคนทั่วไป ไร้ซึ่งปราณใดๆเล็ดรอด จึงไม่มีกลิ่นอายของพวกมันทั้ง 4 แผ่ออกมา

หนิงฝานกลับไปที่ห้องพัก แต่จู่ๆก็มีเสียงสายหนึ่งลอยมาตามลม

“เจ้าฆ่าพวกมันเหรอ?”

ดูเหมือนเจ้าของเสียงจะรู้ว่าหนิงฝานสังหารพวกมัน

หนิงฝานตกตะลึง แต่เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร เขาก็ผ่อนคลาย เพราะคนผู้นั้นคือหยุนเทียนเฉว

ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ หนิงฝานก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง เพราะเขาถือเป็นผู้เยาว์ในความดูแลของหยุนเทียนเฉว หยุนจิงหงย่อมไม่กล้าล่วงเกิน

“ข้าสังหารพวกมันจนไม่เหลือกระทั่งร่างและดวงจิต พวกมันรนหาที่ตายเอง” หนิงฝานกล่าว

“ดีมาก… ในเมื่อพวกมันคิดลงมือกับเจ้า เจ้าก็ต้องตอบโต้… ในเมื่อพวกมันคิดสังหาร ก็จงอย่าไว้ชีวิตพวกมัน... เจ้าคือคนของวังสวรรค์ข้า ย่อมไม่ใช่คนที่จะยอมให้ผู้อื่นข่มเหงได้!”

แม้หยุนเทียนเฉวจะกล่าวอย่างเย็นชา แต่หนิงฝานก็รู้สึกอบอุ่น

คาดไม่ถึงว่าปีศาจกระบี่ผู้บ้าคลั่ง จะมีมุมความรู้สึกเช่นนี้อยู่

เมื่อรู้ว่าหนิงฝานไม่เป็นอะไร มันก็เตรียมจะหันกายจากไป แต่จู่ๆหนิงฝานกลับกล่าวขึ้น

“ผู้อาวุโส ข้าขอยืมน้ำเต้าโลหิตของท่านได้หรือเปล่า?” หนิงฝานยิ้มเจื่อน

เขารู้สึกแปลกๆกับความรู้สึกของตน ส่วนใหญ่เขาจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ผู้อื่น แต่ยามนี้กลับต้องเป็นผู้กล่าวขอเสียเอง

หยุนเทียนเฉวก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน เดิมทีมันเป็นคนที่เกลียดผู้ที่กล่าวขอบางสิ่งกับมัน

แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มเจื่อนของหนิงฝาน มันกลับชงักฝีเท้า ขบคิด และเข้าใจในเจตนา

“เจ้าอยากได้สุราโลหิตเหรอ?”

“เปล่า... ข้าไม่กล้าคิดอยากได้สุราของท่านหรอก” หนิงฝานส่ายหน้า

หยุนเทียนเฉวขมวดคิ้ว ปกติแล้วมันไม่เคยกล่าวกับผู้ใดเกิน 3 คำ ยิ่งจะมอบสุราให้ผู้อื่นยิ่งเป็นไปไม่ได้

หากใครก็ตามที่กล่าวขอสิ่งใดจากมัน มันจะสังหารทิ้งทันที แต่กับหนิงฝานมันกลับไม่อยากทำเช่นนั้น ราวกับมีบางสิ่งในตัวหนิงฝานที่ทำให้มันประทับใจ

หากมันไม่ถูกใจหนิงฝาน มันคงไม่แบ่งสุราให้ ไม่ยอมขัดต่อคำสั่งของกษัตริย์พิรุณ เพื่อพาหนิงฝานมาที่นี่

มันรู้ตัวว่ามันไม่ใช่คนดี ไม่เคยรับศิษย์ แต่ดูเหมือนยามนี้ หนิงฝานจะกลายเป็นศิษย์คนแรกของมัน

“เอาไปสิ!” มันนำน้ำเต้าโลหิตออกมา โยนให้หนิงฝานแล้วจากไปพร้อมกับคำกล่าว

“ทุกสิ่งที่ใส่ลงไปจะกลายเป็นสุราในระยะเวลา 10 ปี… พอครบกำลังแล้วก็คืนข้าด้วย!”

“อืม...” หนิงฝานตกตะลึง ปีศาจกระบี่ผู้บ้าคลั่งเหตุใดยอมตนง่ายขนาดนี้

หนิงฝานเขย่าขวดน้ำเต้า ภายในเหลือสุราอยู่เล็กน้อย “แล้วสุราพวกนี้หล่ะ?”

“ข้ายกให้!”

“พรุ่งนี้เจ้าจะได้ลงสระโลหิตมังกรแล้ว อย่าได้ทำให้ข้าเสียหน้าเชียวหล่ะ!”

“ข้ารู้” หนิงฝานป้องมือไปยังทิศทางที่หยุนเทียนเฉวจากไป

แม้ชื่อเสียงของหยุนเทียนเฉวจะไม่ดี แต่ชื่อเสียงของหนิงฝานก็เลวร้ายไม่แพ้กัน บางทีคงดูคนจากชื่อเสียงไม่ได้

ไม่รู้ว่าน้ำเต้าขวดนี้ จะทำให้เขาทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงในเวลา 10 ปีได้หรือเปล่า...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด