ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0530
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0532

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0531


ตอนที่ 531 : วิญญาณเต๋าบุปผางาม

ฉินหยุนย่อมเป็นผู้คุ้นเคยกับดวงตะวันสีดำ นั่นก็คือดวงตะวันทมิฬ!

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?”

ภายในใจของเขาเกิดความกังวล เขาไม่ทราบว่าสิ่งนี้เป็นลางดีหรือร้าย

“หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เรียกขานกันว่าวิญญาณเต๋า?” ฉินหยุนมองทางดวงตะวันทมิฬบนท้องฟ้า ขณะตนเองกำลังดูดกลืนประกายแสงหลากสีสัน อย่างกะทันหัน เขากลับรู้สึกวางใจ

เขาครอบครองสามวิญญาณยุทธ์ แต่แล้ว มีเพียงตะวันทมิฬที่ปรากฏ

นี่หมายความถึง วิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬแข็งแกร่งที่สุด เพราะเหตุนั้นมันจึงควบแน่นเกิดขึ้นเป็นวิญญาณเต๋า

ฉินหยุนไม่ทราบเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณเต๋าแม้เพียงนิด เพราะเขาไม่เคยประสบพบเจอพวกมันมาก่อน ทั้งยังไม่เคยได้ฟังรายละเอียดเรื่องนี้จากผู้อื่น

เขาเพียงทราบ ว่าวิญญาณเต๋าเป็นตัวตนพิเศษอย่างยิ่ง มันเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ

นอกจากนี้ วิญญาณเต๋ายังอ่อนแออย่างยิ่ง กล่าวกันว่าแม้เป็นวิญญาณเต๋าของราชันยุทธ์ ก็ยังนับว่าอ่อนแอ

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีผู้ใดเคยปลดปล่อยวิญญาณเต๋าออกมา

จุดประสงค์ของวิญญาณเต๋า คือการเพิ่มพลังเต๋าของเจ้าของ และทำให้สามารถใช้พลังจากอักขระเต๋าแห่งชีวิตได้อย่างเต็มที่

เวลาผ่านไปทีละน้อย ความเร็วที่ดวงตะวันทมิฬบนท้องฟ้าดูดกลืนแสงทั้งเก้ากำลังเชื่องช้าลง

ที่ฉินหยุนไม่คาดคิด ก็คือตะวันทมิฬมันแปรเปลี่ยนกลายเป็นไข่มุก!

จากนั้น ที่พื้นผิวของไข่มุกสีดำ มันกลับเกิดรอยแยกขึ้น

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”

ฉินหยุนมองทางรอยปริแตกบนตัวไข่มุก อดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง

ภายในมิติจินตภาพของเขา เป็นโลกที่จิตสำนึกของเขาสร้างขึ้นหลังหลับตา

นี่เป็นเพราะฉินหยุนรู้สึกสบายราวกับแช่กายในน้ำพุร้อน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงแช่ในน้ำพุร้อนในจินตภาพของจิตสำนึกไปด้วย

นี่ถือเป็นสภาพที่พิเศษอย่างยิ่งประการหนึ่ง

กระนั้น ในมิติจิตสำนึกของเขา ไข่มุกที่เกิดขึ้นจากเมฆเก้าสีและดวงตะวันทมิฬ มันกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้

กลับกัน มันดันปรากฏขึ้นในจิตสำนึกของเขาเสมือนภาพมายาซ้อนในห้วงความคิด

ไข่มุกสีดำปริแตกเปิดออก เผยซึ่งร่างงดงามเล็กจ้อย!

ขนาดนั้นเพียงราวฝ่ามือ ทั้งยังมีปีกสีดำโปร่งแสงคู่หนึ่ง

ซึ่งเป็นคนละขั้วกับโมโม เส้นผมของภูติน้อยตรงหน้าเป็นสีดำลอนคลื่น ใบหน้าจิ้มลิ้มงดงามของนางทรงเสน่ห์ ดวงตาเพรียวบางประดุจวิญญาณจิ้งจอกที่ยั่วยวน

“เจ้าปลุกข้างั้นหรือ?” ภูติปีกสีดำบินมาทางฉินหยุน

“นี่เจ้า... เจ้าอยู่ในมิติจินตภาพของข้างั้นหรือ?” ฉินหยุนสะท้าน “นี่เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่?”

“มิติจินตภาพ? ที่นี่เรียกว่ามิติมายา เป็นสถานที่ซึ่งจิตวิญญาณเจ้าพำนัก!” น้ำเสียงของภูติน้อยอ่อนหวานขณะหัวเราะอย่างซุกซน

ฉินหยุนขมวดคิ้ว “ก็ได้ มิติมายา... แล้วเจ้ามาปรากฏตัวในมิติมายาของข้าได้อย่างไร? นี่ข้ากำลังฝึกฝนวิญญาณเต๋าอยู่!”

“ข้าคือวิญญาณเต๋า เจ้าตัวหน้าโง่!” แม้นางตัวเล็ก กระนั้นกลับมีทีท่าเป็นผู้ใหญ่ แขนของนางกำลังกอดอกขณะต่อว่าฉินหยุน

“นี่เจ้าเป็นวิญญาณเต๋าข้างั้นหรือ!?” ฉินหยุนตระหนกไม่น้อยขณะสะดุ้งโหยง

เขาไม่เคยคาดคิด ว่าวิญญาณเต๋าจะสามารถพูดจาและมีความคิดเช่นนี้ได้!

ภูติน้อยงดงามทรงเสน่ห์ กำลังม้วนเส้นผมสีดำของนางพลางหัวเราะ “ข้านามหลิงหยุนเอ๋อ เรียกข้าเป็นหยุนเอ๋อ! แม้เจ้าหน้าโง่ไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่อะไรที่ข้าสามารถแก้ไข เพราะอย่างไรก็เป็นเจ้านายของข้านี่นะ!”

ฉินหยุนอึ้งไปวูบ เขากำลังฝึกฝนวิญญาณเต๋า แต่แล้วกลับมีเจ้าตัวน้อยตรงหน้าปรากฏในมิติมายาของเขา!

ในอดีต มิติมายาของเขามีเอาไว้ก็เพื่อใช้ผ่อนคลาย เข้าสู่ห้วงความคิดที่เป็นของตนเอง

ความนึกคิดของเขา บางครั้งมันก็ปรากฏในมิติมายาดังที่อยากให้เป็น

แต่แล้วขณะนี้ กลับมีคนนอกอยู่ภายในมิติมายา!

นี่ไม่ใช่หมายความถึง หลิงหยุนเอ๋อนั้นสามารถล่วงรู้ความลับและความคิดของเขาอย่างนั้นหรอกหรือ?

ฉับพลัน ฉินหยุนเหวี่ยงกระเป๋าสีดำออก เข้าคลุมร่างหลิงหยุนเอ๋อเอาไว้

“นี่เจ้าทำอะไร?” หลิงหยุนเอ๋อได้เห็นวัตถุสีดำเข้าใกล้ นางจึงโบกมือ ป่นสลายกระเป๋าสีดำจนสิ้น

“นี่คือสถานที่ส่วนตัวที่สุดของข้า เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ฉินหยุนยังเอ่ยถามซ้ำอย่างไม่ยินดีนัก

“ข้าย่อมเกิดขึ้นจากการฝึกฝนของเจ้า นี่เจ้าคิดว่าข้าจะว่างพอมาหลอกคนหน้าโง่เช่นเจ้าอย่างนั้นหรือ?” หลิงหยุนเอ๋อไม่ยินดีเท่าใดนัก “เจ้าควรทราบ ว่าเมื่อใดฝึกฝนวิญญาณเต๋า ผู้ฝึกฝนมักปรารถนาได้ฝึกฝนวิญญาณเต๋าที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์!”

“แต่เจ้า... กลับคิดขับไล่ข้างั้นหรือ!”

หลิงหยุนเอ๋อเผยความโกรธเกรี้ยวขณะกล่าว ใบหน้าแต่เดิมที่งดงามขณะนี้ต่อว่าออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“นี่เป็นเรื่องจริง?” ฉินหยุนยังคงอาการประหลาดใจ

“แน่นอนว่าใช่ บุคคลเช่นข้าถือว่าหาได้ยากนัก!”

“ทางด้านสองหญิงสาวที่ฝึกฝนกับเจ้า หนึ่งเป็นดวงจันทร์และห้วงทะเล อีกหนึ่งฝึกฝนโลกแห่งน้ำแข็งและหิมะ!”

หลิงหยุนเอ๋อกล่าวตอบด้วยความไม่ชอบพอนัก

ฉินหยุนคาดเดา ว่ามิติมายาของเทียนรั่วเหลิง ย่อมต้องเป็นโลกน้ำแข็งและหิมะ

เพราะมันสอดคล้องกับลักษณะของตัวบุคคล ประสบการณ์ และวิญญาณยุทธ์

“เช่นนั้น... จินตภาพที่ข้านึกคิดไม่ถูกเห็นโดยเจ้าหมดหรือ?” เมื่อฉินหยุนคิดถึงเรื่องนี้ ภายในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดคำถามขึ้น

“ยังเป็นอื่นได้หรือ? ข้ารู้และเห็นทุกสิ่งทว่าไม่อาจบอกต่อ! ทั้งชีวิตของข้า สามารถอยู่ได้แต่ภายในมิติมายาของเจ้า ข้าไม่อาจออกสู่ภายนอก ข้าจะได้เห็นก็แต่จินตภาพของเจ้า และก็เป็นข้าที่ได้แต่ต้องยอมรับพวกมัน หวังว่าวันหนึ่งมันจะมีอะไรมาบรรเทาความเบื่อหน่ายให้แก่ข้าได้บ้าง!”

หลิงหยุนเอ๋อหยอกล้อพลางกล่าว “เจ้าตัวหน้าโง่ สำหรับเจ้าที่ฝึกฝนวิญญาณเต๋าซึ่งงดงามเช่นข้าขึ้นมาได้ นั่นก็ต้องเป็นเพราะบ่อยครั้งเจ้าฝันหวานถึงสาวงาม!”

“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? ข้าเป็นชายที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนะ!” ฉินหยุนบุ้ยริมฝีปาก

“เจ้าหาได้ใช่ไม่ ข้ารับประกันและสามารถพิสูจน์ได้ผ่านจินตนาการที่เจ้าคิดขึ้นมา!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะดัง

“ก็ได้! แล้วฝึกฝนวิญญาณเต๋าเช่นเจ้า จะช่วยนำผลประโยชน์ใดมาสู่ข้าได้กัน?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“มากมายเหลือล้น! ภายหน้าเจ้าย่อมได้ทราบด้วยตัวเอง!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวตอบ “หัดคิดถึงดอกไม้เสียบ้าง ข้าต้องการสิ่งงดงามเจริญตา!”

เพียงแค่คิด ฉินหยุนจึงเผยดอกไม้เบ่งบานออกทั้งภูเขา ทำเอาวิญญาณเต๋าเกิดความยินดีบินเล่นไปทั่ว

“หวังว่านี่คงไม่ใช่เรื่องลวงโลก!”

ฉินหยุนคิดเช่นนี้กับตนเอง

“ข้าจะหลอกลวงต่อเจ้าได้อย่างไร?” หลิงหยุนเอ๋อเผยเสียไม่ยินดี “อย่างแรก ข้าคือคือภูติตะวันทมิฬ และเป็นข้าที่รู้ถึงหลากหลายสิ่ง!”

“เช่นนั้น บอกต่อข้า พี่หยางขณะนี้อยู่ที่ใด?” ฉินหยุนเร่งรีบเอ่ยถาม

“อืม... เช่นนั้นให้ข้าดูเรื่องพี่หยางของเจ้าก่อน!” ขณะหลิงหยุนเอ๋อกล่าวคำจบ นางจึงเริ่มอ่านความทรงจำของฉินหยุน

ฉินหยุนรู้สึกคล้ายความทรงจำจะต้องถูกเผยออกต่อสิ่งมีชีวิตตัวน้อยตรงหน้า เขาเร่งรีบร้องตะโกน “หยุด!”

หลิงหยุนเอ๋อบุ้ยปากพร้อมกล่าว “พริบตาข้าก็อ่านความทรงจำเจ้าเรียบร้อยแล้ว!”

“เช่นนั้นบอกต่อข้า พี่หยางอยู่ที่ใด?” ฉินหยุนสบถอยู่ภายในหลายต่อหลายครั้ง ทว่า คล้ายหลิงหยุนเอ๋อทราบดีราวกับเป็นพยาธิในลำไส้

หลิงหยุนเอ๋อแค่นเสียงดัง “หยุดต่อว่าข้าได้แล้ว! ข้ามีศักดิ์เป็นข้ารับใช้ต่อจิตวิญญาณของเจ้า ดังนั้นข้าจึงรู้ทุกเมื่อว่าเจ้ารับชมอะไรอยู่และคิดอะไรบ้าง!”

“อย่างนั้น ไม่อ้างเลยเล่าว่ารู้เห็นทุกสิ่งอย่าง? และจงบอกต่อข้า พี่หยางไปที่ใดกันแล้ว?” ฉินหยุนเอ่ยถามย้ำ

“นางพบเห็นดวงจันทร์สีเลือด และจากนั้นจึงวิ่งหนีหาย ในชาติภพก่อนของนาง นางคือนายหญิงน้อยแห่งพระราชวังกวงหาน! ด้วยเหตุนั้น นางจึงทราบดีถึงความหมายของจันทร์สีเลือด!”

หลิงหยุนเอ๋ออ่านความทรงจำของฉินหยุนออกมาจริง นางกล่าวต่อ “การปรากฏขึ้นของดวงจันทร์สีเลือด หมายความถึงดวงจันทร์กำลังถูกหล่อเลี้ยงโดยจารึกวิญญาณ! นางคิดต้องการครอบครองจารึกวิญญาณดังกล่าว แม้ว่านางไม่ทราบเรื่องวิถีจารึกแห่งเต๋า แต่นางก็คิดอยากไปคว้าเอามันมาไว้ในครอบครอง”

“เพื่อให้ข้างั้นหรือ?” ฉินหยุนขมวดคิ้ว

“เจ้าก็ไม่ได้โง่นี่!” หลิงหยุนเอ๋อยิ้มกว้าง

“ข้าย่อมไม่โง่!” ฉินหยุนยื่นมือออก เข้าหยิกที่หลิงหยุนเอ๋อ แต่แล้วไม่ว่าเขาจะพยายามอย่าง่ไร ร่างกายก็คล้ายทะลวงผ่านดังภาพมายา

“เอาละ เช่นนั้นจงบอกข้าเรื่องพี่สาวเซี่ยฉีโหรว!” ฉินหยุนเอ่ยถามอีกครั้ง

“ชาติภพก่อนของพี่สาวเจ้าผู้นั้น นางคือธิดาแห่งแม่มดและจักรพรรดิเซียน เป็นนางได้ฝึกฝนร่างเซียนวิเศษที่หาได้ยากยิ่งอย่างชวนสะพรึง”

“ลือกันว่านางสามารถมีอำนาจเหนือทั้งแดนเซียนอ้างว้าง แต่ภายหลัง นางกลับถูกจักรพรรดิเซียนสังหาร กระนั้น จักรพรรดิเซียนไม่อาจทำลายร่างของนาง ทำได้แต่ผนึกนางเอาไว้อยู่ภายในเทือกเขาเมฆมังกร! เรื่องนี้เจ้าก็ควรทราบดีแล้วหรือไม่ใช่?” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวถาม

“นางกลับชาติมาเกิดแล้ว!” ฉินหยุนกล่าวต่อ “แม้อย่างนั้น นางก็ยังถูกฝังร่างเอาไว้ภายในหลุมฝังเซียนอย่างนั้นหรือ?”

“ถูกต้อง ร่างเซียนวิเศษของนางยังคงอยู่ในหลุมฝังเซียน! เพราะจิตวิญญาณของนางทรงอำนาจ หลังตื่นรู้ขึ้น ทำให้ร่างกายของนางไม่อาจทนทานรับได้ไหว ขณะนี้นางจึงกำลังอ่อนแรงอย่างยิ่ง!”

“เช่นกัน จิตวิญญาณของนางพิเศษ ทำให้ไม่อาจต้องถูกแสงตะวัน ไม่เช่นนั้นจะต้องเกิดความเจ็บปวดเหลือคนานับ!”

หลิงหยุนเอ๋อรู้เรื่องราวหลายสิ่งอย่างที่แม้แต่ตัวเขายังไม่ทราบ

ฉินหยุนเหม่อไปวูบ เขาไม่คิด ว่าเซี่ยฉีโหรวขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ยากลำบากเพียงนั้น

แต่ก็ยังมีส่วนที่เขาไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงเอ่ยถามต่อ “แล้วเหตุใดจักรพรรดิเซียนผู้นั้น จึงลงมือสังหารธิดาของตนเองกัน?”

หลิงหยุนเอ๋อตอบคำ “ข้าย่อมไม่อาจทราบได้! คาดเดาได้สองเหตุผล หนึ่งคือร่างเซียนวิเศษของเซี่ยฉีโหรวทรงอำนาจเกินไป และจักรพรรดิเซียนเกิดความกังวล ว่านางอาจสูญเสียการควบคุมในสักวัน นอกจากนี้ จักรพรรดิเซียนแห่งแดนเซียนอ้างว้าง ยังหวาดเกรงว่าสถานะของตนเองในแดนเซียนอ้างว้าง จะถูกธิดาของตนพรากเอาไป”

“พี่สาวครั้งหนึ่งกล่าว ว่าจิตวิญญาณของมารดาข้าอยู่ในหลุมฝังเซียน นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”

“พี่สาวเจ้าผู้นั้นรักตัวเจ้าเพียงนั้น เหตุใดจึงต้องหลอกลวงต่อเจ้า? ย่อมเป็นความจริง! หลังนางสิ้นชีพ นางจึงถูกสาป จิตวิญญาณของนางลอยล่องเข้าสู่หลุมฝังเซียน” หลิงหยุนเอ๋อม้วนเส้นผมตนเองพลางบอกเล่าออกมา “ยังมีเรื่องใดคิดถามอีกหรือไม่?”

“อืม... เช่นนั้น สิ่งที่ข้าและป้าเชี่ยวพบเมื่อครั้งเข้าสุสานราชวงศ์เทียนเชี่ยว มันคืออะไรกัน?” นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องค้างคาใจที่เขาและเชี่ยวเสวียนฉินยังไม่ทราบกระจ่าง

“ตระกูลเชี่ยว เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดสายเลือดมังกร พวกเขาเข้าร่วมการก่อสร้างหลุมฝังเซียนกันมากมายนัก! และโลงศพว่างเปล่าเบื้องล่างสุสานราชวงศ์เทียนเชี่ยว พวกมันได้ย้ายร่างคนตายสู่หลุมฝังเซียน ตราบเท่าที่เข้าไปอยู่ภายในนั้น จิตวิญญาณของพวกเขาจะไม่สูญสลาย ผู้คนของตระกูลเชี่ยวต่างคิด ว่าทำเช่นนี้จะทำให้ตระกูลเชี่ยวของพวกเขาฟื้นคืนได้ในภายหน้า”

ฉินหยุนคิดตาม พบว่าเรื่องราวค่อนข้างมีเหตุผล เขาเอ่ยถามต่ออีกครั้ง “เหตุใดเจ้าทราบเรื่องราวมากมายเพียงนี้?”

หลิงหยุนเอ๋อยืดอก “เพราะข้าคือภูติดวงตะวันทมิฬ และดวงตะวันทมิฬก็คงอยู่มาโดยตลอด เป็นประจักษ์พยานถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเก้าแดนอ้างว้างของเก้าดวงตะวัน ข้าเพียงใช้ความทรงจำของเจ้ามากระตุ้นและคาดเดาเรื่องเป็นส่วนน้อย!”

“จะบอกว่าที่เจ้าพูดมาเป็นเรื่องคาดเดางั้นหรือ?” ฉินหยุนตะคอกถาม

“แม้เป็นการคาดเดา แต่ก็กล่าวได้ว่าใกล้เคียงอย่างยิ่ง! จริงด้วย พี่สาวของเจ้าผู้นั้น นางคิดอยากให้เจ้าเข้าร่วมสำนักเซียน นั่นก็เพราะต้องการให้เจ้าฉกชิงต้นกำเนิดเซียนออกมา เพราะสิ่งนั้นคือเส้นชีวิตของสำนักเซียน!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะ “อย่าได้กังวลไป ด้วยข้าช่วยเหลือ เจ้าพยายามเพียงครึ่งหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ได้จะกลายเป็นสองเท่า!”

“อย่างนั้นแล้ว ต้นกำเนิดเซียนนั้นใช้เพื่ออะไร?” ฉินหยุนเร่งรีบเอ่ยถาม

“ประโยชน์ของมันมากล้น! มันสามารถช่วยให้เจ้าได้กลายเป็นเซียน และได้เข้าสู่แดนเซียนอ้างว้าง! แน่นอนว่าคิดฉกชิงสิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้ เจ้ามีถึงสามแก่นเต๋า เท่ากับว่าต้องใช้ต้นกำเนิดเซียนฝึกฝนถึงสามเท่า หนทางของเจ้านับว่ายาวไกลนัก!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวไปพร้อมถอนหายใจยาว

2 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด