ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0528 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0530 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0529 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 529 : ประชันยุทธ์

สำนักดาบดวงดาว เป็นหนึ่งในห้าสำนักดวงดาว พวกเขาเรืองอำนาจ ท่ามกลางห้าสำนักดวงดาวด้วยกัน ถือเป็นตัวตนชั้นแนวหน้า

จั๋วอี้ซง ถือเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าซึ่งแข็งแกร่งที่สุดของสำนักดาบดวงดาว

นี่หมายความถึง เขาเป็นตัวตนสุดแกร่ง

“ฉินหยุน เจ้าคล้ายโด่งดังไม่น้อยนี่! ไม่เพียงแต่ตบหน้าเหลียวฉงเจิ้ง ยังกระทั่งเป็นที่หมายหัวของตระกูลหลงและตระกูลหยางด้วย!” เห็นได้ชัด ว่าจั๋วอี้ซงริษยาต่อชื่อเสียงของฉินหยุนเพียงใด

ฉินหยุนหาได้สนใจชื่อเสียงเช่นนี้ไม่

ในแดนวิญญาณอ้างว้าง ย่อมต้องมีผู้อาวุโสสำนักเก้าตะวันทราบเรื่องเขา หากเรื่องของเขาแพร่กระจายออก เมื่อนั้นจะยิ่งเป็นที่เลื่องลือกว่านี้

“ศึกตัดสินเป็นตายระหว่างข้าและเจ้าเริ่มขึ้นแล้ว เลิกพล่ามไร้สาระ!” ฉินหยุนนำกระบี่ออกเผยเสียงเย็นเยือก

“เห็นเจ้ากำลังจะตาย ข้าจึงคิดให้ได้พูดต่ออีกเสียหน่อย ในเมื่อเร่งรีบคิดอยากตายนัก ข้าจะทำให้สมหวังเอง!” ดาบยาวในมือจั๋วอี้ซง ขณะนี้เรืองรองด้วยอักขระลึกล้ำ

มันเป็นดาบลึกล้ำ!

อย่างไรแล้ว นี่ถือเป็นศึกชี้เป็นตาย หาได้ใช่การประลองยุทธ์ทั่วไป

“ฉินหยุน จงนำอุปกรณ์เต๋าเจ้าออกมา!” จั๋วอี้ซงแค่นเสียง “ข้าหาได้หวั่นเกรงอุปกรณ์เต๋าของเจ้าไม่!”

จั๋วอี้ซงเพียงใช้งานอุปกรณ์ลึกล้ำ กระนั้นกลับอวดอ้างว่าไม่หวาดกลัวต่ออุปกรณ์เต๋า หลายคนตื่นตะลึง

ฉินหยุนไม่แปลกใจ เพราะเขากล้าบอก ว่าดาบในมือของจั๋วอี้ซง เป็นการสร้างขึ้นโดยเฉพาะบุคคล

หากแสงจากตัวพื้นผิวของอาวุธสาดส่องมาก มันก็หมายถึงผ่านการขัดเกลาจนสามารถใช้งานพลังส่วนใหญ่

อุปกรณ์ลึกล้ำในมือจั๋วอี้ซง ย่อมถูกขัดเกลาไปแล้วเจ็ดถึงแปดในสิบจากพลังดั้งเดิมที่มันควรมี

อย่างน้อยมันก็สมควรเป็นระดับสูง หากเป็นอุปกรณ์เต๋าที่ไม่ผ่านการขัดเกลา ย่อมด้อยกว่าอุปกรณ์ลึกล้ำในมืออีกฝ่าย

ด้วยเหตุนี้ ฉินหยุนจึงใช้เพียงกระบี่วิญญาณระดับราชัน เพราะมันเหมาะสมกับเขามากกว่า

“ข้าคิดใช้เพียงกระบี่นี้ และเป็นข้าเกรงว่า ดาบลึกล้ำในมือเจ้าจะต้านรับไว้ไม่ไหว!”

ขณะฉินหยุนกล่าว เขาจึงชิงเป็นฝ่ายบุกก่อน เข้าสับฟันใส่ร่างจั๋วอี้ซง

กระบี่เมื่อฟาดฟันออก เขาเรียกใช้วิชาวายุสังหารเข้าโจมตี!

หกกระบวนท่าต่อเนื่อง กระบวนท่าที่เพิ่งผ่านพ้น สร้างความอึกทึกครั้งใหญ่ไว้ เป็นกระบวนท่าสุดท้าย ที่ฟันออกเปรียบดังสายฟ้าอสนีบาตฟาดฟันลงมา!

ทางด้านจั๋วอี้ซง เขาสับฟันดาบในมือ เข้าต้านรับกระบี่ของฉินหยุนเอาไว้

ทุกกระบี่ที่ฉินหยุนฟาดฟันออก จั๋วอี้ซงจะสลายพลังตัวกระบี่เอาไว้ได้

ผู้คนต่างตื่นตระหนก ยามได้เห็นว่าจั๋วอี้ซงสามารถสลายการโจมตีของฉินหยุนอย่างง่ายดาย

โดยเฉพาะหยางมู่เทียน เขาคือผู้ที่ตื่นตระหนกที่สุด

นี่ก็เพราะเขาทราบดีกว่าผู้ใด ว่าเคล็ดกระบี่ที่ฉินหยุนใช้งานมันน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

ทางด้านจั๋วอี้ซง เขาเพียงต้านรับอย่างง่ายดาย สลายพลังรุนแรงของการโจมตี ผู้ได้พบเห็นต่างต้องเผยดวงตาเบิกกว้าง

“นี่คือกำลังของห้าสำนักดวงดาวงั้นหรือ? ฉินหยุนสมควรเรียกได้ว่าเป็นขอบเขตวรยุทธ์เต๋าชั้นแนวหน้าของหอขุนเขาดาบกระบี่แล้ว ทว่าเขาก็ยังถูกสะกดข่มได้เพียงนี้!”

“งั้นหรือ? เพราะเหตุนี้การเข้าร่วมห้าสำนักดวงดาวจึงยากเย็นเพียงนั้น?”

“ฉินหยุนสมควรมีชัยได้แค่ในหอขุนเขาดาบกระบี่ เมื่ออยู่ต่อหน้าศิษย์เลิศล้ำของห้าสำนักดวงดาว เขาไม่คล้ายจะคู่ควรให้ถือรองเท้ารับใช้อีกฝ่ายด้วยซ้ำ!”

หลายคนเริ่มเหยียดหยันฉินหยุนพร้อมเผยรอยยิ้มกว้าง

เจี้ยนหมางกล่าว “ไม่ใช่ ดาบของจั๋วอี้ซงแข็งแกร่ง อย่างไรแล้ว นั่นก็เป็นดาบลึกล้ำ และยังเหมาะสมกับตัวจั๋วอี้ซงอย่างมาก พลังที่ปลดปล่อยออกมาจึงแกร่งกล้า!”

“ฉินหยุนไม่ได้ใช้อุปกรณ์เต๋า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ขัดเกลาอุปกรณ์เต๋าใดในครอบครอง ดังนั้นเขาจึงไม่อาจรีดเร้นประสิทธิภาพพวกมันออกมาได้!”

แม้พลังโจมตีทั้งหมดถูกสลาย ทว่าฉินหยุนยังคงโจมตีออกอย่างไม่ย่อท้อ

และการโจมตีของเขา ก็หาได้ช้าหรือว่ารวดเร็วจนเกินไป

เจี้ยนหลางพยักหน้ารับ “ดาบของจั๋วอี้ซง ถือว่าเป็นดาบที่แข็งแกร่ง!”

อุปกรณ์ลึกล้ำที่แกะสลักด้วยอักขระลึกล้ำ ย่อมมีพลังในการสลายอำนาจการโจมตีจากคู่ต่อสู้

เมื่อใช้งาน มันจะมีส่วนช่วยได้อย่างมหาศาล

ฉินหยุนยังคงโจมตีต่อเนื่อง ค้นหาหนทางบุกฝ่าปราการตรงหน้า

จั๋วอี้ซงค่อนข้างแกร่ง โดยเฉพาะความเร็วการตอบสนอง ไม่ว่าเขาโจมตีรวดเร็วเพียงใด อีกฝ่ายจะหลบเลี่ยงหรือสกัดเอาไว้ได้หมดสิ้น

ในทางกลับกัน ฉินหยุนก็หาได้ด้อยกว่าจั๋วอี้ซงไม่

นอกจากนี้ เมื่อจั๋วอี้ซงโจมตีใส่ฉินหยุน เขายังสามารถหลบเลี่ยงได้อย่างไม่ยากเย็น!

พละกำลังของทั้งสองค่อนข้างทัดเทียมกัน ทั้งสองต่างมีอำนาจในการรุกและรับเท่าเทียมกัน

ฉินหยุนเพิ่งใช้วิชาวายุสังหารหกกระบวนท่า มันปลดปล่อยออกพร้อมพลังเต๋าสั่นไหวและอสนีบาตอัคคีผสาน

กระนั้น ก็ยังถูกสลายพลังด้วยดาบลึกล้ำของจั๋วอี้ซง

“ดาบลึกล้ำนั่นโฉดชั่วนัก!”

ฉินหยุนตระหนักได้ หากเขาไม่ปิดฉากจั๋วอี้ซงโดยเร็ว ท้ายที่สุดเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

จั๋วอี้ซงยิ่งตื่นตระหนกกว่าฉินหยุน กระทั่งในสำนักดาบดวงดาว ยอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋าผู้อื่น ยังไม่อาจต่อสู้กับเขาได้นานเพียงนี้

และเขายังทราบ ว่าเหตุผลที่ยังสามารถต้านรับการโจมตีดุดันของฉินหยุน ก็เพราะดาบลึกล้ำในมือที่แข็งแกร่ง

หากฉินหยุนครอบครองอุปกรณ์ลึกล้ำที่ทัดเทียมกัน เช่นนั้น จั๋วอี้ซงคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว

นี่เป็นศึกชี้เป็นตาย ไม่มีข้อห้ามใดทั้งสิ้น

จั๋วอี้ซงถูกบีบบังคับถอยร่นจนถึงมุมขอบ ขณะนี้เร่งรีบขว้างยันต์วิญญาณระดับราชันออกไป!

ยันต์วิญญาณพุ่งทะยาน จุดประกายเพลิงระเบิดออก!

“นี่ใช้ยันต์ได้ด้วย?”

ฉินหยุนขณะนี้ถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิง ทั้งยังต้องสกัดการโจมตีของจั๋วอี้ซง เขาคำรามถามออกอย่างเกรี้ยวกราด

“เหตุใดจึงไม่ได้?” จั๋วอี้ซงหัวเราะเสียงเย็น

ขณะคำเพิ่งกล่าวจบ เขาจึงได้เห็นฉินหยุนโยนยันต์จำนวนหนึ่งออก เป็นยันต์สะกดกาย!

จั๋วอี้ซงรับรู้ถึงอำนาจยันต์สะกดกาย เขาถามออกด้วยความประหลาดใจไม่น้อย “ยันต์สะกดกายงั้นหรือ?”

ฉินหยุนเร่งรีบสับฟันกระบี่ ทว่าก็ถูกดาบของจั๋วอี้ซงสกัดเอาไว้ได้

จั๋วอี้ซงไม่คล้ายสะทกสะท้านต่ออำนาจยันต์ ชัดเจนว่าเขาครอบครองชุดเกราะแกร่งกล้า

“กระทั่งมีชุดเกราะลึกล้ำ!”

ฉินหยุนสบถอยู่ภายใน เขาถึงกับลืมเลือน ว่านี่เป็นศึกชี้เป็นตาย หาได้มีข้อจำกัดดังเช่นการแข่งขันก่อนหน้านี้

จั๋วอี้ซงหัวเราะเสียงดัง “ยันต์สะกดกาย หาได้ส่งผลอันใดกับข้าไม่!”

คำพอกล่าวจบ เขาจึงได้เห็นมีดบินขนาดเล็กทะยานพุ่งมา!

มีดบินเหล่านี้รวดเร็ว พุ่งแทงเข้าใส่ดวงตาของจั๋วอี้ซงที่ไม่ทันตั้งตัว!

“อ๊าก!” จั๋วอี้ซงกรีดร้อง

“ศิษย์ข้า!” หยางหยานชิงคำรามร้องกราดเกรี้ยว “ฉินหยุน นี่เจ้ากล้าดีใช้อาวุธลับงั้นหรือ!”

“มีดใหญ่เพียงนั้น มองไม่เห็นหรืออย่างไร? อาวุธลับมารดาเจ้า!”

ฉินหยุนควบคุมมีดบินขนาดเล็กทะยานออก

หยางหยานชิงทะยานออกด้วยโทสะ เสียงคำรามร้องดังก้อง “เจี้ยนหลาง ถอนค่ายอาคมออกให้ข้า!”

“หากพวกเขายังไม่ตัดสินว่าผู้ใดเป็นและตาย ข้าจะไม่เปิดค่ายอาคมเว้นแต่จ้าวสำนัก หรืออดีตจ้าวสำนักจะมาด้วยตนเอง!” เจี้ยนหลางกล่าวเฉยชา “ไม่เช่นนั้น กระทั่งว่าเจ้าสังหารข้า ก็อย่าได้คิดว่าม่านพลังนี้จะเปิดออกได้!”

“ศิษย์ข้า จงใช้อาวุธเต๋า!” หยางหยานชิงตะโกนดัง

จั๋วอี้ซงเร่งร้อนนำอาวุธเต๋าออกมา มันเป็นดาบสีดำเงินเล่มยาว!

เมื่อดาบปรากฏ หมอกจึงปรากฏฟุ้งออก เผยซึ่งขุมพลังแกร่งกล้าออกมา!

“เป็นดาบของอดีตจ้าวสำนัก! ดาบนั่นอัดแน่นด้วยเจตจิตแห่งดาบของอดีตเจ้าสำนัก!” เจี้ยนหลางเผยความตื่นตะลึง

“ถูกต้องแล้ว อดีตจ้าวสำนักมอบมันให้แก่ข้า หยิบยืมเพื่อให้ศิษย์ข้าใช้งานเมื่อถึงเวลา!” หยางหยานชิงเผยรอยยิ้มอหังการ “ศิษย์ข้า จงเร่งรีบสังหารมันเสีย!”

ฉินหยุนเร่งรีบควบคุมมีดบินจำนวนหนึ่งทะยานออก!

จั๋วอี้ซงโบกสะบัดดาบในมือ เกิดเป็นคลื่นพลังดึงดูดแปลกประหลาด ชักนำมีดบินเหล่านั้นเข้าหาตัวดาบ ก่อนจะหายวับเข้าไปภายในตัวดาบ

ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่ามีดบินเหล่านั้นจะสูญเสียอำนาจเช่นนี้

ด้วยไร้ทางเลือก เขาจึงได้แต่ทะยานร่างออก สับฟันกระบี่ในมือ!

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

ฉินหยุนรับรู้ ว่าแรงฟาดฟันต่อเนื่องของตนเอง ถูกดาบของอีกฝ่ายสกัดเอาไว้ได้หมดสิ้น

ขณะนี้ตัวกระบี่รับรู้ถึงแรงประหลาด เพราะดาบในมือของจั๋วอี้ซง มันเผยพลังดึงดูดแกร่งกล้าออกมา

“ดาบเต๋าของมัน สมควรเป็นดังแม่เหล็กที่มีศักยภาพซ่อนเร้น? เหมือนมันจะถนัดเรื่องดูดกลืนอาวุธผู้อื่น?”

ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวยากจะเชื่อ

หลังทำการสับฟันออกไปหลายครั้ง ด้วยเขาพลั้งมือ กระบี่ขณะนี้ถูกดึงดูดออกไปไกล

จั๋วอี้ซงเผยเสียงหัวเราะเหี้ยมโหด “กระบี่เจ้าไม่มีอีกต่อไปแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า ครานี้เป็นข้าควักเอาดวงตาเจ้าออกมาใส่แทนของข้าแล้ว!”

หยางหยานชิงค่อนผ่อนคลายได้ ขณะนี้เผยรอยยิ้มภาคภูมิ

ผู้คนของตระกูลหยาง รวมถึงหลงอู่เฉินและหยางมู่เทียน ต่างถอนหายใจกันอย่างโล่งอก สายตาของพวกเขาทวีความโหดเหี้ยม จ้องมองทางเย่ว์อู่หลันและเทียนรั่วเหลิง

จั๋วอี้ซงเร่งรีบทะยานร่าง เข้าใส่ฉินหยุนที่ถูกปลดอาวุธ ดาบมือคิดฟาดฟันออก

ความเร็วของเขามากล้ำ เพียงไม่กี่อึดใจ ดาบก็แทงออกไปนับพันครั้งแล้ว

แม้หลบเลี่ยง แต่ร่างกายของฉินหยุนก็ถูกทิ่มแทงไปหลายครั้ง โชคยังดีที่เหล่านั้นไม่ใช่จุดตาย

เขานำเอากระบี่เต๋าเล่มใหญ่ออกมา ขณะนี้คิดสับฟันออก เป้าหมายคือดาบของจั๋วอี้ซง!

เพื่อป้องกันไม่ให้จั๋วอี้ซงดูดกลืนกระบี่เข้าไป ฉินหยุนจึงใช้งานพลังสั่นไหว

เขาคิดอยากใช้ดาบสั่นไหว สลายอำนาจประหลาดจากตัวดาบของอีกฝ่าย

“ฉินหยุน จงเลิกดิ้นรน และรับความตาย!” จั๋วอี้ซงหัวเราะดังคนคลั่ง “ข้าจะควักดวงตาเจ้าออกมาก่อน!”

กล่าวคำจบ จั๋วอี้ซงจึงฟาดฟันออกไปอีกนับพันครั้ง

เงาดาบเร่งประกายวูบวายขึ้นฟากฟ้า ลำแสงดาบร่วงหล่นลงมาเปรียบดั่งพายุฝน บีบบังคับให้ฉินหยุนต้องถอยร่นถึงขอบสนาม หลังต้องพิงม่านพลัง

ฉินหยุนกวัดแกว่งกระบี่เข้าต้านรับต่อเนื่อง เป็นเขาไม่คาดคิด ว่าดาบของจั๋วอี้ซงสามารถพิสดารได้เพียงนี้ ไม่นานหลังดิ้นรนหลายครั้ง กระบี่ของเขาเริ่มถูกดึงดูดออกไป

กระบี่ถูกสูบหายเข้าไปในตัวดาบแล้ว!

ทันใดนี้ จั๋วอวี้ซงใช้ดาบเต๋า เข้ารั้งไว้ที่ลำคอของฉินหยุน จากนั้น เขานำเอามีดสั้นออกจากตัวดาบ คิดจ้วงแทงเข้าใส่ดวงตาของฉินหยุน!

ดวงตาฉินหยุนพลันเบิกกว้าง เปลวเพลิงสีดำสองสายทะลักล้น พุ่งเข้าลุกท่วมใส่ร่างของจั๋วอี้ซง!

ดวงตาของเขาเป็นยาเหลวตะวันโชติช่วง มันทำให้ดวงตาของเขาสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงออก

จั๋วอี้ซงไม่คาดคิด ว่าดวงตาของฉินหยุนสามารถปะทุเอาเปลวเพลิงรุนแรงออกมาได้ โดยทันที เขาถูกบังคับให้ถอยร่นไปหลายสิบเมตร เส้นผมขณะนี้ถูกเผาไหม้ดำฟูฟ่อง ใบหน้ามีแต่คราบเขม่า

“คิดอยากสู้กันด้วยอาวุธอย่างนั้นหรือ?”

ฉินหยุนนำเอาค้อนทองคำออกมา ทุบฟาดมันเข้าใส่จั๋วอี้ซง

จั๋วอี้ซงเร่งร้อนยกดาบเข้าขวางไว้!

เคร้ง!

ทันทีเมื่อค้อนเทวะเก้าตะวันของฉินหยุนฟาดหวดออก เปลวเพลิงรุนแรงทะยาน เผาไหม้ตัวดาบจนแดงฉาน จนมันเกิดการงอบิดเบี้ยว!

ได้เห็นภาพฉากที่เกิดขึ้นนี้ ผู้คนต่างกายแข็งทื่อ!

ดาบเต๋าถึงกับงอ!

เมื่อดาบได้รับความเสียหาย มีดบินและกระบี่สองเล่มที่ถูกดูดกลืนไปก่อนหน้านี้ จึงถูกคายออกมา

ฉินหยุนเร่งรีบควบคุมมีดบินเหล่านี้ จ้วงแทงมันทั้งด้านหน้าและหลังของร่างจั๋วอี้ซง แทบในพริบตา รูเลือดได้ปรากฏบนร่างอีกฝ่ายนับสิบรู!

จั๋วอี้ซงเร่งร้อนนำดาบก่อนหน้านี้ของตนออกมา ทว่ากลับถูกฉินหยุนขัดขวางเอาไว้ ด้วยการฟาดหวดค้อนเข้าใส่!

หลงอวี้เฉินและหยางมู่เทียน ผู้ซึ่งเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ได้เห็นจั๋วอี้ซงที่เป็นฝ่ายเหนือกว่าเมื่อครู่ ขณะนี้กลับกลายเป็นถูกสะกดข่ม ความหวาดกลัวเกาะกุมหัวใจพวกเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“เจี้ยนหลาง จงรีบปลดม่านพลังให้ข้าเข้าไป!” หยางหยานชิงแตกตื่น เข้าคว้าคอเสื้อของเจี้ยนหลางพร้อมคำรามใส่

“หากกล้า จงสังหารข้า!” เจี้ยนหลางเผยสีหน้าอหังการแค่นเสียงตอบกลับ

จั๋วอี้ซงกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง “อาจารย์ ช่วยข้าด้วย! แก่นเต๋าข้าแหลกสลายแล้ว!”

คำพอกล่าวจบ ใบหน้าของเขาจึงถูกฉินหยุนฟาดตบรุนแรง!

จั๋วอี้ซง ร่างปลิวกระเด็น จนถึงขอบสังเวียน ร่างปะทะกับม่านพลังอย่างรุนแรง

1 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด