ตอนที่แล้วSM:บทที่ 11 การคัดเลือก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSM:บทที่ 13 กุหลาบแดง

SM:บทที่ 12 เริ่มการประเมิน


SM:บทที่ 12 เริ่มการประเมิน

ตั้งแต่ตอบรับในสัญญาผู้พิชิตทั้งสิบร่วมกับฝ่ายพยัคฆ์ขาวของคุณหนูซีไป เซี่ยเย่มีสิทธิ์ที่จะเลือกเวลาและเป้าหมายในการประลองได้

ในความรู้สึกของตี้หยุน เซี่ยเย่เป็นคนบ้าอย่างแท้จริง เขาไม่แสดงความอ่อนแอแม้จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นถึงผู้พิชิตสิบทิศ อย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครแข็งแกร่งเท่ามังกรพิษเลย หลังจากนั้น มังกรพิษเป็นนักรบระดับกลางถึงสูงในบรรดาผู้พิชิตทั้งสิบ การฆ่าใครสักคนในนั้นจะทำให้สังเวียนได้รับความเสียหายอย่างมาก

ในช่วงกลางเดือน เซี่ยเย่สะสมเงินโบนัสได้ประมาณ 10 ล้านหยวน โดยที่ค่าพลังของเขาขึ้นไปถึงระดับ 6.1 ซึ่งถึงจุดสูงสุดของขีดความสามารถชีวิตเขาแล้ว

ในเรื่องของการใช้จ่ายเงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย เซี่ยเย่เรียนท่าเก้าดาราในขั้นที่สองและสามเพียงแค่ลมหายใจเดียวไปแล้ว แต่ราคาค่าเรียนขั้นต่อไปค่อนข้างแพง ซึ่งขั้นที่สี่ต้องใช้เงินมากถึง 10 ล้านหยวนเลยทีเดียว

“ในช่วงที่ผ่านมา ฉันเก็บโบนัสได้เยอะ ในเวลาที่เร็วเกินไป เงิน 3.1 ล้านหยวนสำหรับการเพิ่มค่าพลัง, 11 ล้านหยวนสำหรับท่าเก้าดารา และ 2 ล้านหยวนในการฟื้นตัวจากบาดเจ็บ ตอนนี้ ฉันมีเงินรวมทั้งหมด 16 ล้านหยวน”

หลังจากนับเงินที่มีอยู่ในขณะนี้ เซี่ยเย่แยกเสื้อผ้าของเขาออกมาและพูดกับจินตั๋วในใจว่า “ตั่วตั๋ว ช่วยฉันเพิ่มแรงดึงดูดเป็นสองเท่าด้วยเถอะ”

ทันใดนั้น ยอดเงินของเซี่ยเย่ลดลงจำนวน100,000 หยวนอีกครั้ง และเขารู้สึกได้ว่าร่างกายกำลังจะล้มลง แรงดึงดูดต่อร่างกายเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ไม่เพียงแค่กล้ามเนื้อและกระดูกเคุณั้น แต่ยังรวมไปถึงเลือดและอวัยวะภายในต่างๆล้วนสูบฉีดอย่างแข็งขัน

นี่เป็นวิธีที่เซี่ยเย่ใช้ในการเอาชนะความผิดปกติเพื่อเพิ่มค่าพลังให้ได้โดยเร็ว หากไม่สามารถควบคุมค่าพลังที่เพิ่มขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เขาจะไม่สามารถแข่งขันกับผู้แข็งแกร่งที่สุดได้ในการต่อสู้ แรงดึงดูดทั้งหมดของร่างกายไม่เพียงแค่ทำให้สามารถฝึกฝนได้ตลอดเวลา แต่ยังทำให้เซี่ยเย่ควบคุมร่างกายทุกส่วนในร่างกายได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

“ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือน วันนี้เป็นวันประเมินวรยุทธ แม้ว่าความแข็งแกร่งของฉันจะสูงกว่าระดับปกติ แต่ฉันยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันทางทหาร และมีหลายสิ่งที่ไม่เอื้ออำนวยต่อฉันเลย”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเซี่ยเย่ ซึ่งกำลังทอดมองดูแสงอาทิตย์บนท้องฟ้า เดือนนี้ ชี้วิตของเซี่ยเย่เปลี่ยนไปมากและที่สำคัญที่สุดคือเขามีความเด็ดเดี่ยวและความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

วันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งสำหรับทุกฐานที่ตั้งและทุกเมืองในจีนตอนใต้และแม้แต่ในระดับโลก หลังจากที่ผ่านการประเมินทางทหารแล้ว พวกเขาจะกลายเป็นนักรบที่ผ่านการรับรองจากกองทัพ โดยสถานะของพวกเขาจะแตกต่างจากเดิมทันที พวกเขาอาจได้รับเงินเพิ่มเติม ในทางเดียวกัน พวกเขามีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเพื่อนมนุษย์จากเหล่าปีศาจและผีดิบต่างๆ จอมยุทธจากทุกศาสตร์การต่อสู้ที่เข้าร่วมการประเมินผลครั้งนี้จะได้รับการพิจารณาจากกองทัพก่อนเวลา 9.00 น. จากนั้นจึงจะต้องนั่งรถไฟจากกองทัพไปยังพื้นที่ทำการประเมินต่อไป

ขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟ เซี่ยเย่ถือดาบใหญ่ของตนเองด้วยมือทั้งสองข้างและมองไปยังจอมยุทธคนอื่นๆ บางคนดูท่าทางแข็งแกร่งและบางคนดูมีจิตใจที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์ผ่านศึกความเป็นความตายมากันแล้ว

“ฟู่!!...”

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เสียงรถไฟดังขึ้นปลุกเหล่านักรบที่อยู่ในรถไฟ พวกเขามองไปข้างนอกผ่านหน้าต่างพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ

ที่นี่เป็นพื้นที่ยึดครองและพื้นที่หวงห้ามสำหรับมนุษย์ในช่วงยุคใหม่ โดยอาจกล่าวได้ว่าหากเมืองนี้เป็นฐานที่ตั้งสุดท้ายที่มนุษย์จะอยู่ พื้นที่แห่งนี้คงกลายเป็นสวรรค์สำหรับเหล่าปีศาจและผีดิบเช่นกัน

อีกทั้ง พื้นที่ที่ศัตรูยึดครองไปนั้นไม่ใช้สถานที่รกร้างว่างเปล่า แต่เป็นสถานที่ที่คนเคยอยู่อาศัยมาก่อน ภายหลังจากการโจมตีของเหล่าผีดิบและปีศาจ ทำให้พื้นที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่ที่ศัตรูยึดครอง

“ขอให้คุณทราบว่าสถานที่ที่รถไฟผ่านเข้ามานี้เรียกว่าเมืองหนานยาง ซึ่งมีความอันตรายระดับ E เหมาะสำหรับผู้มีค่าพลังตั้งแต่ระดับ 1-10 สิ่งที่คุณจะต้องทำในช่วง 3 วันหลังจากนี้ คือ มีชีวิตรอดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และได้เก็บนิวเคลียสของผีดิบ ปีศาจให้ได้อย่างน้อย 10 อัน ขอเรียนให้ทราบอีกว่าใน 3 วันนี้ กองทัพจะไม่ทำการอะไรในพื้นที่ศัตรูยึดครอง สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคุณโชคดี”

บูม !! ทันทีที่เสียงจากวิทยุดับลง ประตูรถไฟแต่ละบานเปิดออกมาบานแล้วบานเล่า ผู้เข้าร่วมการประเมินกว่าพันคนรีบเข้าไปเมืองที่เต็มไปด้วยผีดิบและปีศาจ เซี่ยเย่ตามฝูงชนออกจากรถไฟเช่นกัน ทันทีที่แยกออกจากคนอื่น เขากลับมีความคิดว่ากองทัพบอกว่าจะไม่เข้ามาก้าวก่ายทุกสิ่งในเมืองนี้ ดังนั้น ผู้ทำการประเมินจึงอันตรายมากกว่าผีดิบและปีศาจเสียอีก เพราะฉะนั้น ในช่วง 3 วันนี้การอยู่คนเดียวจะเป็นการดีกว่าการกังวลเรื่องการถูกโจมตีจากการหลบซ่อนและผู้ทำการประเมินซึ่งไม่น่าไว้ใจ

วู!!...เขาใช้ท่าเก้าดาราขั้นที่ 3 ที่ได้เรียนมา ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ทำให้ความเร็วของเซี่ยเย่เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าในชั่วพริบตา ซึ่งเร็วกว่าจอมยุทธคนอื่น

เซี่ยเย่ยื่นบนหลังคาที่ชั้นบนสุด ณ ตึกสูงแห่งหนึ่ง เขาสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างระมัดระวัง และไม่ไกลจากฝั่งที่เขาอยู่ ร่างไร้หัวเหี่ยวแห้งและดุร้ายร่วงลงมาด้านข้างเขา

“นี่คือนิวเคลียสหรือ มันออกมาจากตัวผีดิบและปีศาจ ซึ่งประกอบด้วยพลังงานคุณภาพจำนวนมหาศาล”เซี่ยเย่ถูคริสตัลทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดในมือของเขา พร้อมกับพึมพำกับตนเอง “ผีดิบธรรมดาพวกนี้อ่อนแอมาก จริงอยู่ แม้ว่าผีดิบพวกนี้จะแข็งแกร่งเกินไป แต่ต้องมีผู้ประเมินเพียงไม่กี่คนจะต้องรอดชีวิต”

“พักก่อนแล้วกัน มีเวลา 3 วัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว สิ่งสำคัญคือรักษาร่างกายให้แข็งแรงไว้ เพื่อไม่ให้ผู้ทำการประเมินจับตัวไป”

เซี่ยเย่เริ่มเอนหลังพิงกับมุมกำแพง พร้อมกับถือดาบใหญ่ของเขาในมือ ขณะนี้ เมืองหนานยางทั้งหมดไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้ว ผู้ร่วมการประเมินเข้ามาในเมือง ซึ่งอาบไปด้วยเลือด

ผู้ร่วมการประเมินบางคนจะรวมกลุ่มกันเพื่อล่าปีศาจและผีดิบ ซึ่งค่อนข้างปลอดภัย แต่ในทางเดียวกัน ผลที่ได้อาจมีไม่มากนัก ผู้ร่วมประเมินบางคนจะทำเช่นเดียวกับที่เซี่ยเย่ทำและผู้ที่เดินทางคนเดียวเหล่านี้เป็นกลุ่มคนธรรมดาที่มีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเอง การเผชิญกับการฆ่าปีศาจและผีดิบอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั้น ทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตรายจากความตายได้ทุกเมื่อที่มีความเสี่ยง

ขณะนี้ ลมพัดโชยกลิ่นเลือดไปทั่ว อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเลือดคละคลุ้ง ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย

เวลากลางคืนคืบคลานมาอย่างช้าๆ ในห้องชั้นบนสุดของตึกสูง เซี่ยเย่ค่อยๆเปิดตาขึ้น จิตใจและความแข็งแกร่งของร่างกายกลับมาอยู่ในสภาพยอดเยี่ยมดังเดิม เซี่ยเย่พร้อมกับดาบใหญ่ที่ด้านหลังทรุดตัวลงช้าๆ เพื่อสัมผัสถึงงานเลี้ยงฉลองการฆ่ายามค่ำคืน