ตอนที่แล้วSM:บทที่ 7 สังหาร! และกระบวนการต่อสู้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSM:บทที่ 9 แพ้และชนะในคราเดียว

SM:บทที่ 8 กระบวนเดียว


SM:บทที่ 8 กระบวนเดียว

เห็นคนที่เดินเข้ามา เซี่ยเย่ก็รู้สึกขนลุกชันขึ้นมาวูบหนึ่ง มุมปากของเขาเบ้ไปข้าง ๆ “อู๋เสีย”

เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซี่ยเย่ที่เกิดในปีเดียวกัน แต่คนทั้งสองต่างกันราวฟ้ากับดิน เธอไร้มลทินและปราดเปรื่องมาตั้งแต่ยังเล็ก เธอมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งในด้านวรยุทธ์ ผ่านการประเมินวรยุทธ์ตั้งแต่อายุ 16 และล่าปีศาจกับผีดิบในแดนอันตรายที่เต็มไปด้วยศัตรูมาสองปี เธอมีชื่อเสียงอย่างมากในการเป็นรองผู้นำของบ้าน

เซี่ยเย่มักตีตนออกห่างจากลูกพี่ลูกน้องผู้ดีเลิศคนนี้ เนื่องเพราะเขารู้ว่ามันไม่มีทางที่คนสองคนจะมาเจอกันได้ และตระกูลเซี่ยก็ไม่อยากเห็นรอยด่างพร้อยอย่างเขามีพลังอำนาจมากเกินไป

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เซี่ยอู๋เสียกลับเป็นห่วงเซี่ยเย่อย่างยิ่ง ในปีที่เขาตกต่ำ แม้เธอจะรู้สึกคลั่งแค้น เธอก็พยายามอย่างเป็นที่สุดในการปกป้องเซี่ยเย่และคอยสกัดปัญหาหลายอย่าง ไม่อย่างนั้นเซี่ยเย่ก็ไม่รู้ว่าเขาต้องทุกข์ทรมานมากเเค่ไหน

เเต่เซี่ยเย่หวาดกลัวลูกพี่ลูกน้องคนนี้มาก แม้เขาจะรู้ว่าเธอเป็นคนดี แต่วิธีที่เธอทำไม่อ่อนโยนเลย เธอมักจะสอนบทเรียนของเขา อย่างไร้ปรานี จากนั้นก็ดูแลเขาอย่างอ่อนโยนจนเซี่ยเย่ทั้งรักและหวาดกลัวเธอ

เซี่ยอู๋เสียจ้องมองเซี่ยเย่ รู้สึกได้เสมอว่าเซี่ยเย่เหมือนจะมีความเปลี่ยนเเปลงไป แต่เธอก็มองอย่างระมัดระวัง เขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องตัวน้อยคนนั้นอยู่เสมอ เธอเข้ามาใกล้และคว้าแขนของเซี่ยเย่ไว้ “ตอนนี้นายอายุสิบแปดแล้ว และนับว่าเป็นผู้ใหญ่ อย่าทำตัวเหลวไหลอีกเลย ตอนนี้นายควรจะตามฉันมาฝึกฝนวรยุทธ์ให้หนัก อย่างน้อยก็ขอให้เป็นจอมยุทธ์คนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นนายจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอานะ”

พูดจบแล้ว เซี่ยอู๋เสียก็ดึงตัวเซี่ยเย่ไปยังเรือนพำนักของพวกเขา เมินใบหน้าจนใจของเซี่ยเย่ สำหรับญาติผู้โหดร้ายคนนี้แล้ว เซี่ยเย่ไม่มีทางอื่นจริง ๆ

ในตอนนี้กลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวก็เดินมาแต่ไกล เมื่อพวกเขาเห็นคนทั้งสองคือเซี่ยเย่กับเซี่ยอู๋เสีย พวกเขาก็เดินมาขวางทางไว้

เมื่อถูกขวางทาง เซี่ยอู๋เสียก็อารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด คิ้วเรียวขมวดมุ่นพร้อมกับที่เธอเอ่ยขึ้น “เซี่ยลิ่วจื่อ ออกไป”

เซี่ยลิ่วจื่อผู้มีชื่อเดิมว่าเซี่ยอวี้ชิงคือทายาทคนแรกของตระกูลเซี่ย กล่าวได้ว่าพวกเขาคือผู้ประสบความสำเร็จคนแรกของตระกูลเซี่ย

ถูกเซี่ยอู๋เสียเรียกตัวแล้ว ใบหน้าของเซี่ยลิ่วจื่อพลันเปลี่ยนสี แต่พวกเขายังเอ่ยด้วยความโกรธเคือง “อู๋เสีย ฉันอยากจะแนะนำอาจารย์หมิงไห่ อาจารย์อาวุโสของตระกูลหมิงในเมืองฐานทัพเจียงหนาน”

“ในตอนนี้เซี่ยเย่ก็เพิ่งเห็นชายหนุ่มแปลกหน้ายืนอยู่ข้างกายเซี่ยลิ่วจื่อ ด้วยสีหน้าภาคภูมิและดวงตาฉายประกายดุจปีศาจ เขาจ้องมองร่างระหงและอวบอัดไร้ที่ติ

“อวี้ชิง ญาติของเจ้าดูดีไม่น้อย ฉันรู้สึกพอใจกับรูปร่างหน้าตาของเธอนัก ฉันไม่มีอะไรจะพูดเลย ฮ่า ๆ…” หมิงไห่ตบบ่าของเซี่ยลิ่วจื่อ และเอ่ยเกี่ยวกับเซี่ยอู๋เสีย

เซี่ยอู๋เสียเป็นบุตรสาวที่น่าภาคภูมิของตระกูลเซี่ยตั้งแต่ที่เธอยังเด็ก เธอหรือจะทนต่อคำพูดล้อเลียนนั้นได้ เธอตวาดอย่างโกรธเคือง “ทำไมฉันต้องมาเจอกับหมาพวกนี้ด้วย? ฉันไม่อาจหลบการเห่าหอนของพวกแกได้เลยหรือ”

“อู๋เสีย อย่างี่เง่าน่า!” เซี่ยลิ่วจื่อพลันชี้หน้าเซี่ยอู๋เสียให้สงบคำพูด หน้าของเขาปรากฏเหงื่อเย็นผุดขึ้น เนื่องเพราะเขาหวาดกลัวตัวตนของคนใกล้ตัว

“อวี้ชิง ไม่จำเป็นหรอก ญาติของเจ้ารับรู้รสเพียงพอแล้ว ฉันจะสั่งสอนม้าป่าตัวนี้เอง” หมิงไห่มองเซี่ยอู๋เสียด้วยแววตาชั่วร้าย ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด

เมื่อเซี่ยอู๋เสียกำลังจะสั่งสอนบทเรียนชายคนนี้ เซี่ยเย่ก็คว้ามือเล็กของเธอไว้และเอ่ยขึ้น “อู๋เสีย เธอไม่อยากฝึกวิชาให้ฉันหรือ? เราไปกันเถอะ”

ในตอนนั้นเซี่ยเย่ที่มักถูกสาธารณชนเมินก็ปริปากเอ่ยขึ้น ทุกคนในห้องนั้นพลันอึ้งไป จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็แสดงสีหน้าเหยียดหยาม

“สวะ แกได้สิทธิ์ได้เสียงมาจากไหนกัน? ้ฉันไม่ปล่อยให้เเกไปหรอก” เซี่ยอวี้ชิงมีใบหน้าเขียวคล้ำเย็นชา

เซี่ยเย่กำลังจะดึงตัวเซี่ยอู๋เสียออกไป เนื่องเพราะสัมผัสได้ว่าพลังของหมิงไห่ช่างแข็งแกร่งยิ่ง แข็งแกร่งกว่าเซี่ยอู๋เสียหลายเท่าตัว ถ้ามีเรื่องขัดเเย้งกันมันก็จะเป็นเรื่องขายหน้า เขาจึงไม่เห็นด้วยกับการมีเรื่องในตอนนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเซี่ยเย่กำลังกลัว เพียงแต่ว่าเวลานั้นยังไม่มาถึงเท่านั้นเอง

เห็นเซี่ยเย่แล้วเธอก็ไม่ได้สนใจตัวเอง กลับดึงตัวเซี่ยเย่เดินจากไป เซี่ยอวี้ชิงเตรียมตัวสกัดไว้ แต่หมิงไห่ก็ก้าวเท้าออกมาขวางคนทั้งสองไว้ก่อน มองเซี่ยเย่แล้วเขาก็แสดงท่าทีดูถูก “อย่างไรล่ะ? อยากจากไปแบบนี้น่ะหรือ?”

เซี่ยอู๋เสียเตรียมตัวจะพูด แต่เซี่ยเย่ก็เอ่ยออกมาก่อน “นี่คือที่ของตระกูลเซี่ยฉัน ต่อให้แกมีพลังล้นเหลือก็ไม่ควรจะข่มเหงเด็กที่เป็นหน้าตาของตระกูลเซี่ยเราโดยไม่มีเหตุผล ไม่งั้นจะเป็นการดูถูกตระกูลเซี่ยอย่างเปิดเผย เเกคิดว่าแกจะได้จากไปง่าย ๆ หรือ?”

คำพูดของเซี่ยเย่ทำให้หมิงไห่อึ้งไปเล็กน้อย เป็นเรื่องจริงที่เซี่ยเย่พูด พลังอำนาจของเขาใหญ่เพียงพอ แต่เมื่อดูตระกูลมู่กับอีกสามตระกูลในเมืองหนานจง พลังของตระกูลเซี่ยก็ไม่อาจประมาทได้ ยิ่งกว่านั้นเขายังมีธุรกิจที่ต้องทำกับตระกูลเซี่ยในครั้งนี้ มันไม่คุ้มค่ากับเขาหรอกที่จะทำเรื่องผิดพลาดเพียงคำพูดดูถูกบางประโยค

แต่หมิงไห่ก็ไม่ใช่คนโง่ ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกพูดถูก แต่ไม่ง่ายสำหรับฉันเลยที่จะปล่อยแกไป ไม่อย่างนั้นแกก็รับมือฉันกระบวนหนึ่ง หลังจากหนึ่งกระบวนแล้วฉันจะไม่รังควาญแกอีก แกคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

ได้ยินคำท้าหนึ่งกระบวนจากหมิงไห่ เซี่ยอู๋เสียก็คัดค้านในทันที “ไม่ ให้ฉันรับกระบวนนี้เอง”

เธอรู้พลังของลูกพี่ลูกน้องดี และเธอก็รู้พลังของหมิงไห่ แม้เธอจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่เพียงกระบวนยุทธ์เดียว แต่หมิงไห่ก็คงจะยั้งมือให้เธอ แต่ถ้าเป็นเซี่ยเย่อีกฝ่ายจะต้องนอนซมแน่

ในตอนนี้ เซี่ยอวี้ชิงก็เดินออกมาและพูดขึ้น “น้องสาว อาจารย์หมิงไห่ตัดสินเรื่องนี้แล้ว ตามกฏของตระกูลเซี่ย ถ้าเจ้าไม่สามารถรับมือได้กระบวนเดียวมันก็จะทำให้ตระกูลเราขายหน้าคนอื่น ปล่อยให้เซี่ยเย่รับมือเองเถอะ”

“เจ้า…”

เซี่ยอู๋เสียขัดใจขึ้นมา ในตอนนี้เซี่ยเย่ก็ได้เอ่ยขึ้น “เอาล่ะ หนึ่งกระบวนก็หนึ่งกระบวน ฉันหวังว่าแกจะพอใจนะ”

“ตกลง”

บนลานประลอง มีเพียงเซี่ยเย่กับหมิงไห่ยืนประจันหน้ากัน เซี่ยอู๋เสียกับเซี่ยอวี้ชิงยืนอยู่ข้าง ๆ แต่คนอื่นๆ เพียงมองว่ามันเป็นเรื่องตลกและไม่มีเจตนาจะออกไปหยุดยั้งมัน

“ไอ้หนุ่ม ฉันนับถือความกล้าหาญของเเก แต่แกโง่มากนะ”

สิ้นเสียงของเขา เงาร่างของหมิงไห่ก็เข้ามาประชิดกับเซี่ยเย่ เพียงหมัดเดียวมันก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น

“ช่างแข็งแกร่งจริง ๆ!” ในใจของเซี่ยเย่ตกตะลึง แต่เขาก็ไม่กล้าลังเลใด ๆ เขาก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าว พร้อมกับพลังที่เพิ่มเป็นสองเท่าในชั่วพริบตา จากนั้นก็ซัดหมัดเข้าใส่หมิงไห่

ปั้งงง… หมัดทรงพลังปะทะกับหมัดของเซี่ยเย่ด้วยพลังทำลายล้างปางตาย และมันก็ซัดเขาตรงกลางอกอย่างหนักหน่วง

เซี่ยเย่แค่นเสียง ทั้งร่างของเขาไถลครูดไปข้างหลังจนพื้นดินปรากฏรอยเท้าเป็นทางยาว

“อึก” เลือดพุ่งกระฉูดออกจากปาก เซี่ยเย่กุมอกด้วยความเจ็บปวด มองหมิงไห่ด้วยสายตาเย็นชา

“กลับกลายเป็นว่ามันก็เเค่สวะ” หมิงไห่สบถเย็นชา เขาหันหลังกลับเเละเดินจากไป เขาสั่งสอนเซี่ยเย่แล้ว เขาไม่ทำอะไรผิดซ้ำสอง ไม่อย่างนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการ ตระกูลเซี่ยก็จะเป็นฝ่ายต่อสู้

เซี่ยอู๋เสียรีบมาพยุงตัวเซี่ยเย่ ใบหน้าปรากฏแววกังวล “นายโอเคไหม?”

เซี่ยเย่ยิ้ม ในอกรู้สึกเจ็บปวด แล้วเขาก็เป็นลมไปในที่สุด

อีกด้านหนึ่ง เซี่ยอวี้ชิงมองเซี่ยเย่ด้วยดวงตาเป็นประกาย จากนั้นมันก็ค่อย ๆ จางหายไปพร้อมกับเขาที่จากไปพร้อมกับหมิงไห่