ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0523 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0525 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0524 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 524 : จ้าวหอดาบ

สถาบันฟานเต๋าได้รับสิทธิ์การเลือกเป็นอันดับแรกอย่างราบลื่น

ศิษย์ของหอกระบี่ต่างรู้สึกเสียดาย เพราะพวกเขาไม่อาจไปรับชมการบุกโจมตีของสถาบันฟานเต๋าได้

ศิษย์หลายคนอาการบาดเจ็บยังไม่หายดีเลยด้วยซ้ำ

ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการแข่งขันตั้งป้องกัน มันส่งผลลากยาวจนถึงการบุกโจมตีหอดาบ

พอคิดถึงเรื่องนี้ บรรดาศิษย์หลายคนของหอกระบี่ ต่างรู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นพวกตนเสียเปรียบอย่างเต็มประตู กระนั้น พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรกับเรื่องนี้ได้

บรรดาศิษย์ของหอดาบ ล้วนอยู่ในสภาพที่ดีพร้อม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่าย ที่พวกเขาจะสามารถป้องกันศิษย์กลุ่มใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ

ทุกคนล้วนรู้สึก ว่าหอผู้อาวุโส ค่อนข้างลำเอียงไปทางด้านหอดาบ

“สถาบันฟานเต๋า เจ้าต้องการเลือกโจมตีสถาบันดาบใด?” เซียงเต๋าเอ่ยถาม

“สถาบันดาบฟ้า!” เทียนรั่วเหลิงประกาศดัง

ผู้คนต่างสะท้าน การบุกโจมตีรอบแรก ถึงขั้นเป็นสถาบันดาบฟ้า ที่ซึ่งมีอาจารย์ยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ!

หากพวกเขาสามารถจัดการสถาบันดาบฟ้าได้โดยง่าย เช่นนั้นสถาบันดาบทั้งหมด ย่อมต้องไม่มีทางต้านรับสถาบันฟานเต๋า

“ได้ พวกเจ้าไปได้แล้ว!” เซียงเต๋ายังไม่อาจตามไป เพราะเขายังต้องจัดแจงเรื่องการบุกโจมตีของสถาบันกระบี่แห่งอื่น

ขณะเต๋าฟานเดินออกนำหน้า ขณะนี้เขาเกิดความตื่นเต้นซ่อนเร้นอยู่ภายใน

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาทราบดีถึงพละกำลังของฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลัน

หากพวกเขามีกระบี่ที่ดีในมือ คิดจัดการสถาบันดาบฟ้าถือว่าไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด

เบื้องหลังฉินหยุนและคณะ ตามติดด้วยฝูงชนกลุ่มใหญ่คิดไปรับชมเรื่องสนุก

พวกเขาเหล่านี้ เป็นเพียงกลุ่มคนที่เพียงต้องการหาความบันเทิงเพื่อรับชม ถือเป็นกลุ่มพิเศษในหอขุนเขาดาบกระบี่

เป้าหมายหลักของหอโอสถ คือการขัดเกลาเม็ดยาโอสถ และปลูกสมุนไพรโอสถ ไม่มีทางที่พวกเขาจะเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องของผู้อื่น

ทางด้านหอจารึก พวกเขารับหน้าที่ติดตั้งค่ายอาคม สร้างยันต์ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอักขระ พวกเขาไม่เคยเข้าร่วมการศึกใดมาก่อน

ศิษย์ของสวนฝึกราชัน ถือเป็นกระดูกสันหลังของหอขุนเขาดาบกระบี่

และยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือหอโอสถ และหอจารึก งานของพวกเขาคือการรวบรวมวัสดุและวัตถุดิบ

ตามปกติ จะต้องมีศิษย์กลุ่มหนึ่งถูกทิ้งให้อยู่โยงเพื่อเฝ้าสถานที่

บรรดาผู้อาวุโสแห่งหออาวุโส ทั้งหมดถือเป็นผู้จัดการเรื่องราว ระหว่างการแข่งขัน พวกเขาค่อนข้างว่างงาน

สถาบันดาบฟ้ากว้างใหญ่ สิ่งปลูกสร้างสดใหม่และยังใหญ่โต กระทั่งมีทะเลสาบ ภูเขาหิน สะพานข้าม และอื่น ๆ ประดับตกแต่งงดงามหลากหลาย

ลานฝึกยุทธ์ของพวกเขา กว้างกว่าร้อยเมตรด้วยกัน!

ฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลัน ทราบนานแล้วว่าสถาบันดาบแห่งนี้ครอบครองความหรูหราเพียงใด

กระนั้นพอได้เห็นผ่านตาตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะมองสถาบันระดับต้นของตนเองว่าซอมซ่อ

อย่างกะทันหัน คนผู้หนึ่งตะโกนขึ้น “จ้าวหอดาบอยู่ที่นี่แล้ว!”

จ้าวหอดาบ แท้จริงมีรูปลักษณ์ยังเยาว์!

ฉินหยุนค่อนข้างประหลาดใจ อีกฝ่ายเป็นจ้าวหอแห่งหอดาบ ทั้งที่อายุเพียงเท่านี้ นามคือเจี้ยนหลาง เป็นคนของตระกูลเจี้ยน

เจี้ยนหลางสูงราวหนึ่งเมตรเจ็ดสิบ คิ้วเปรียบดังดวงดาวยืดยาว รูปลักษณ์ตัวเขาเป็นเด็กหนุ่มยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ ขณะนี้มีมงกุฎสีทองม่วงประดับบนศีรษะ ร่างกายสวมใส่ด้วยชุดสีขาวงดงาม พร้อมกับปลอกดาบสีทองม่วงแขวนไว้ตรงช่วงเอว

ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ อีกฝ่ายเผยออกซึ่งรัศมีที่เหนือล้ำ แสดงตัวเป็นผู้สง่างามสูงส่ง

ที่น่าประทับใจที่สุด คือหูซ้ายของเขา มันมีต่างหูรูปดาบประดับเอาไว้

“เจ้าคือฉินหยุนหรือ? ตัวเจ้ามีดาบเต๋าโบราณในครอบครอง?” น้ำเสียงของเจี้ยนหลางราบเรียบและเฉยชา

ร่างกายอีกฝ่ายไม่เผยออร่าใด แม้ตั้งใจยังไม่อาจสัมผัสถึงออร่าของอีกฝ่าย

ผู้นำของหอดาบ แท้จริงเป็นคนไม่เผยสีหน้าใด ยิ่งทำให้ผู้อื่นรับรู้ถึงแต่ความลึกลับ

“ใช่!” ฉินหยุนตอบกลับ

“หอดาบของพวกเราสูญเสียแต้มให้แก่สถาบันฟานเต๋าของเจ้าไปมาก ข่าวลือว่าเจ้าใช้สถาบันฟานเต๋า ตระเตรียมทวงหนี้แค้นแก่หอดาบงั้นหรือ?” เจี้ยนหลางเอ่ยถามเสียงเชื่องช้า

“ขณะนี้ยังไม่ แต่ท่านควรทราบ ว่าหอดาบของพวกท่านคิดทำพวกเราพิการ! ดังนั้นพวกมันจึงมีหนี้ที่ต้องชดใช้!” เทียนรั่วเหลิงเผยเสียงเย็น

“หากข้าทำพวกเจ้าสามคนพิการ ข้าจะได้รับหนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วง! ในเมื่อข้อเสนอดีงามเพียงนี้ ข้าจึงอยากมารับชมพละกำลังของพวกเจ้าด้วยตนเอง!”

“ฉินหยุน เจ้าใช้ดาบเต๋าโบราณ เป็นค่าจ้างแลกกับหัวของสองผู้นำตระกูลหลงและตระกูลหยางงั้นหรือ?”

เจี้ยนหลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย

เจี้ยนหลางอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ดังนั้นเขาย่อมต้องสนใจในตัวอุปกรณ์เต๋า!

“ดาบ กระบี่ หอก และโล่ ท่านสามารถเลือกไปได้สองชิ้น!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง “แต่นั่นจำเป็นต้องนำหัวของพวกมันมาแลกเสียก่อน!”

ผู้คนต่างมองพลางสูดลมหายใจเข้าลึก พวกเขาคิด ว่าเจี้ยนหลางอาจคิดลงมือ

“ข้าเพียงถาม หาได้ใช่คิดไปสังหารสองผู้นำตระกูลนั่น!” เจี้ยนหลางยิ้ม

ผู้อาวุโสตระกูลหลง และหลงอวี้ฟาน ขณะนี้ถอนหายใจออกอย่างโล่งอก

“จ้าวหอดาบย่อมมีดาบต้นกำเนิดในครอบครอง ข้าไม่คิดว่าเขาจะต้องการอุปกรณ์เต๋า!” ผู้อาวุโสตระกูลหลงแค่นเสียง

“นั่นก็ไม่ถูกต้อง! ดาบเต๋าโบราณ มันอาจมีอักขระดาบในตำนานคงอยู่ นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ!” เจี้ยนหลางมองทางฉินหยุนพลางถาม “เจ้าให้ข้ารับชมดาบเต๋าโบราณนั้นได้หรือไม่?”

ฉินหยุนย่อมแสดงความผ่าเผย เขานำเอาดาบเต๋าโบราณออกมา ส่งให้แก่เจี้ยนหลาง ก่อนจะเอ่ยปากถาม “จ้าวหอดาบ ข้าเองได้เห็นศิษย์ตระกูลเจี้ยนหลายคนเข้าร่วมการทดสอบ เหตุใดท่านไม่ให้พวกเขาเข้าร่วมหอดาบโดยตรงเสียเลยเล่า?”

“พวกเรา ศิษย์ของตระกูลเจี้ยน ย่อมใช้ความสามารถของตนเองเพื่อก้าวเดินไปทั่วแดนวิญญาณอ้างว้าง พวกเราไม่คิดพึ่งพาอำนาจเบื้องหลัง!”

เจี้ยนหลางพิจารณาดาบเต๋าโบราณและถอนหายใจ “ไม่มีอักขระดาบ!”

เขาส่งดาบกลับคืนแก่ฉินหยุน

“หากมีอักขระดาบ เช่นนั้นท่านยินดีไปสังหารผู้นำตระกูลหลงและตระกูลหยางหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามขณะเก็บดาบเต๋าโบราณกลับคืน

ผู้คนต่างจ้องมองที่เจี้ยนหลาง ถึงกับกลั้นลมหายใจเพื่อรอรับฟังคำตอบ

“เป็นเช่นนั้น!” เจี้ยนหลางหัวเราะ “ทว่า อักขระดาบมีกล่าวถึงเพียงแต่ในตำนาน พวกมันไม่เคยปรากฏในแดนวิญญาณอ้างว้างมาก่อน! กระทั่งว่ามี ก็คงถูกผู้อื่นซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี”

“ไม่ต้องพูดกล่าวกันเพิ่มเติมแล้ว เตรียมเริ่มงานได้!” เจี้ยนหลางกล่าวเสร็จ จึงเดินออกจากลานฝึกยุทธ์ไป

สถาบันดาบฟ้า นำทัพโดยหลงอวี้ฟาน

ด้วยดาบยาวในมือและชุดเกราะแกร่ง พวกเขาก้าวเดินออกจากศาลาอีกฝั่งหนึ่ง

พวกเขาพอได้เห็นฉินหยุนและสองโฉมงาม ความประหลาดใจพลันบังเกิด ทั้งยังเกิดลอบริษยาฉินหยุนอยู่ภายใน

เย่ว์อู่หลัน ถือเป็นหนึ่งในห้าโฉมงามแห่งแคว้นมหาดวงดาว เป็นนางได้รับคัดเลือกโดยตำหนักจารึกเทวะ

ไม่มีผู้ใดทราบว่าการคัดเลือกนี้มีเพื่ออะไร แต่โดยสรุปแล้ว มันเป็นตำแหน่งที่สตรีทั้งหลายคิดครอบครอง

ณ ตอนนี้ เย่ว์อู่หลันและเทียนรั่วเหลิง ต่างอยู่สถาบันกระบี่เดียวกันกับฉินหยุน

กระทั่งว่าระหว่างพวกเขาไม่มีอันใดต่อกัน ผู้อื่นล้วนไม่คิดเช่นนั้นเป็นแน่

“ไม่นึกฝัน เศษสวะทั้งสามตัวเช่นพวกเจ้า จะกล้าดีถึงขั้นกล้าบุกโจมตีพวกเราแต่รอบแรกเช่นนี้! คงจ่ายไปไม่ใช่น้อยเลยกระมัง?” หลงอวี้ฟานแค่นเสียง “เกรงว่าพวกเจ้าคงสูญเสียเหรียญม่วงกันโดยเปล่าแล้ว!”

เมื่อเทียนรั่วเหลิงได้ยินคำ “สวะ” ใบหน้าของนางเริ่มดำมืด ขณะนี้เผยออกซึ่งจิตสังหาร

ทางด้านฉินหยุนกลับยังสงบ เพราะอีกไม่ช้า เขากำลังจะได้สอนสั่งบทเรียนแก่หลงอวี้ฟาน

“พวกเราเพียงใช้ไปสองล้านเหรียญม่วง! เทียบกับหนึ่งพันห้าร้อยล้านจากตระกูลหลง แทบไม่นับเป็นอะไรสำหรับข้า!” ฉินหยุนหัวเราะดัง “จริงด้วย ต้องกล่าวขอบคุณตระกูลหลงแล้วที่มอบเหรียญม่วงมากมายแก่ข้าให้มาใช้จ่ายเล่นได้!”

เย่ว์อู่หลัน สายตามองทางผู้อาวุโสชุดสีทองจากตระกูลหลง นางเผยยิ้มกว้างออก “ผู้อาวุโสหลง ยังคิดอยากได้รับอุปกรณ์เต๋าโบราณรวมถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญม่วงหรือไม่?”

“ว่าอะไร คิดอยากเดิมพันอีกงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสตระกูลหลงเอ่ยถามสีหน้าเย็นเยือก

“ย่อมใช่ แต่ข้าเกรงว่าท่านคงไม่อาจรับไหวแล้วกระมัง!” เย่ว์อู่หลันยิ้มซุกซน ดวงตาของนางเผยความเหยียดหยันอีกฝ่ายออก

“ข้าเสียไปแล้วหนึ่งพันห้าร้อยล้าน เจ้ายังคิดว่าข้าจะวางเดิมพันอีกงั้นหรือ?”

ผู้อาวุโสตระกูลหลงนึกโกรธแค้น พวกเขาคิดอยากกล่าว ทว่าคำติดที่ลำคอไม่อาจเผยออก

พวกเขาสูญไปแล้วหนึ่งพันห้าร้อยล้าน และยังได้รับการต่อว่ารุนแรงจากตระกูลหลง!

“เป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่เสียเปล่า! ช่างเป็นกลุ่มคนชวนเวทนานัก สูญเสียหนึ่งพันห้าร้อยล้าน ก็ไม่อาจทานทนรับได้ไหวเสียแล้ว!” เย่ว์อู่หลันหัวเราะเสียงใสดังกังวานอย่างมีชัยเหนือกว่า

เจี้ยนหลางเปิดการทำงานม่านพลังพร้อมตะโกนดัง “เริ่มได้แล้ว!”

ลานฝึกยุทธ์วงกลม มีขนาดกว้างกว่าหนึ่งร้อยเมตร

ด้วยพื้นที่กว้างขวาง ชายวัยกลางคนทั้งแปดของสถาบันดาบฟ้า ขณะนี้จึงกระจายตัวออกกันเป็นแปดทิศทาง

เช่นนี้ ฉินหยุนและคณะจำเป็นต้องจัดการพวกเขากันไปทีละคน หมายความถึงต้องใช้เวลายาวนานอย่างยิ่ง

หลังจากที่ก้านธูปไหม้หมดสิ้น ตราบเท่าที่มีแม้เพียงหนึ่งคนของสถาบันดาบฟ้ายืนหยัด การตั้งรับของพวกเขาจะถือว่าชนะ

“พี่สาวใหญ่ พี่สาวรอง หลงอวี้ฟานให้ข้าจัดการเอง!” ฉินหยุนยิ้มสงบ “จ้าวหอดาบอยู่ที่นี่ ดังนั้นช่วยเบามือกับศิษย์ของหอดาบเพื่อไว้หน้าด้วย!”

เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียง รอยยิ้มของนางเผยออกพร้อมจิตสังหารรุนแรง

ร่างของนางทะยานออก เพียงพริบตาจึงเผชิญหน้ากับชายวัยกลางคนร่างอ้วน กระบี่เมฆน้ำค้างแข็งในมือโบกสะบัด สับฟันออกอย่างรุนแรงไร้ปรานี!

กระบี่เมฆน้ำค้างแข็งทั้งยาวและใหญ่โต มันสับฟันลง ปลดปล่อยคลื่นพลังเยือกแข็งรุนแรง ร่างของอีกฝ่ายขณะนี้ กลับกลายเป็นปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งตั้งแต่หัวจรดเท้า

เคร้ง!

ชายอ้วนท้วนร่างเตี้ย กำลังถือดาบในแนวนอน พยายามเคลื่อนไหวเพื่อตั้งรับกระบี่เยือกแข็งจากอีกฝ่าย

ดาบเล่มนี้เรียกได้ว่าบางอย่างยิ่ง มันไม่มีตรงใดที่คล้ายสามารถต้านรับกระบี่เมฆน้ำค้างแข็ง หลังเสียง “เคร้ง” ดังขึ้น รอยร้าวก็ปรากฏที่ตัวดาบแล้ว!

เทียนรั่วเหลิงเพียงใช้หนึ่งกระบวนท่าจนเกิดรอยร้าวบนตัวดาบขึ้น!

ที่ชวนตื่นตะลึงที่สุด คือกระบี่เมฆน้ำค้างแข็งสามารถดูดกลืนกำลังภายใน ของชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยผ่านตัวดาบ

เทียนรั่วเหลิงไม่คิดเสียเวลา ดังนั้นคำเดียวที่สามารถบรรยายตัวนางในขณะที่บุกโจมตี ย่อมเป็น “โหดเหี้ยม!”

วูบ วูบ วูบ แขนของชายร่างอ้วนเตี้ยถูกตัดหั่นออกจากร่าง

กระบี่ขาวนวลจ้วงแทงเข้าใส่หน้าท้อง กระบี่สีขาวขณะนี้เมื่อดึงออกกลับกลายเป็นกระบี่สีแดง

เพียงครู่หนึ่ง ชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยพลันต้องล้มลงนอนกับพื้น สภาพเวลานี้ครึ่งเป็นครึ่งตาย!

ชุดเกราะที่พวกเขาสวมใส่ กล่าวได้ว่าไร้ค่า ราวกับมันเป็นกระดาษบางที่พร้อมจะถูกทะลวงได้ทุกเมื่อ

ทางด้านเย่ว์อู่หลันก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก เมื่อกระบี่เพรียวบางของนางสับฟันออก มันปลดปล่อยพลังที่พร้อมทำให้ผู้คนเกิดห้วงภวังค์ ชายร่างใหญ่ที่โดนโจมตีเข้าใส่ ขณะนี้ชะงักงันไปวูบ

ขณะอยู่ในสภาพชะงักงัน ร่างสูงใหญ่นั้นจะไม่อาจใช้พลังจากภายในร่างเพื่อปกป้องตนเองได้

ด้วยเหตุนี้ เย่ว์อู่หลันจึงทำลายการป้องกันชุดเกราะของอีกฝ่าย โดยเพียงการสับฟันกระบี่หลิวจันทราอย่างเบามือ

กระบี่หลิวจันทราสับฟันผ่านชายร่างใหญ่ เกิดเป็นโลหิตสาดกระเซ็นออก โลหิตเหล่านั้นพุ่งไกลเป็นทางยาวกับพื้น!

“จ้าวหอ... หากเป็นแบบนี้ต่อ อัจฉริยะของพวกเราคงสิ้นค่า ขอให้เร่งรีบช่วยเหลือพวกเขา!”

อาจารย์สถาบันดาบฟ้ากล่าวร้องขอด้วยสีหน้าขื่นขม

“เฮอะ! เมื่อตอนพวกเจ้าบุกโจมตีสถาบันฟานเต๋าของเด็กสามคนนั่น พวกเจ้ากระทั่งคิดทำพวกเขาพิการ ครานี้จงลิ้มรสความรู้สึกนั้นกลับคืนไปเสียบ้าง!” เต๋าฟานแค่นเสียงดัง

เจี้ยนหลางเอ่ยคำเชื่องช้า “ในการแข่งขันบุกโจมตีและตั้งรับครั้งนี้ ผู้ใดพิการ ถือว่ามันไม่ใช่อัจฉริยะที่ควรค่า!”

คำกล่าวของเขา ทำเอาใบหน้าของอาจารย์สถาบันดาบฟ้าซีดเผือด!

เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน ทั้งสองต่างทำอีกฝ่ายสิ้นสภาพไปคนละหนึ่ง ขณะนี้กำลังมองหาเป้ากระบี่รายถัดไป

ชายวัยกลางคนที่เหลือในลานฝึกยุทธ์ ครานี้พวกเขาค่อยเผยความหวาดกลัวผ่านทางสีหน้า

ฉินหยุนถือกระบี่สีดำในมือ กำลังก้าวเดินเชื่องช้าไปทางหลงอวี้ฟาน

หลงอวี้ฟานได้เห็นสภาพสหายร่วมสถาบันที่โรยรา กระนั้นก็ยังคงมีจิตใจสงบ

นี่เป็นเพราะ เขาคืออาจารย์ยุทธ์ ผู้ซึ่งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ตราบเท่าที่เขาไม่ล้มลง สถาบันดาบฟ้าอย่างไรแล้วก็ต้องได้รับชัยชนะ!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด