เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0523 [อ่านฟรี]
ตอนที่ 523 : เดือนแห่งการล้างแค้น
หลงอวี้ฟาน ผู้ซึ่งกำลังหัวเราะอย่างโฉดชั่ว ขณะนี้เมื่อได้เห็น ว่าฉินหยุนหาได้คุกเข่าลงไม่ เขาคำรามอย่างกราดเกรี้ยว!
เขาใช้งานเคล็ดวิชาลึกลับดาบทรราชอีกครั้งหนึ่ง มันก่อเกิดขึ้นเป็นดาบขนาดใหญ่ สับฟันเข้าใส่ฉินหยุนและคณะ!
“เศษเดนทั้งสามเอ๋ย ข้าจะทำให้พวกเจ้าไม่อาจเดินได้อีก!”
หลงอวี้ฟานโกรธเกรี้ยว ขณะนี้เขาคิดทุ่มกำลังออกสุดแรงผ่านเคล็ดวิชาที่ฝึกฝนมา
ครืน!
หลงอวี้ฟานปลดปล่อยพละกำลังทั้งหมดมออกมา เริ่มใช้งานเคล็ดวิชาลึกลับดาบทรราชอย่างสุดแรง
เป้าหมายของดาบ ก็คือฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลัน!
พลังอำนาจของเคล็ดวิชาลึกลับดาบทรราช ถือว่าทรงพลังชวนสะพรึงอย่างแท้จริง
ขุมพลังแกร่งกล้าโหมเข้าใส่ แรงระเบิดสามารถผ่านปราการป้องกัน ทำร้ายฉินหยุนจนบาดเจ็บได้
หลังผ่านการฟันไปหลายสิบครั้ง หลงอวี้ฟานจึงหอบหนัก สีหน้าขณะนี้ซีดเผือด!
ร่างกายฉินหยุนมีแต่รอยแผลปริแตกจากแรงปะทะ กระนั้น เขายังคงยืนยัดไม่ไหวติง และยังปลดปล่อยม่านพลังสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ร่างกายของเขาได้พลังเก้าดวงตะวันบำรุงเลี้ยง และเขายังครอบครองสามแก่นเต๋า เป็นเขาทรงพลังเหนือล้ำ พละกำลังทางร่างกายของเขา หาได้อ่อนด้อยกว่าอาจารย์ยุทธ์ไม่
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดยามได้เห็นฉินหยุนที่มีแต่รอยแผลเปื้อนเลือด
พวกนางกำลังโคจรถ่ายเทพลังให้แก่ฉินหยุน เพื่อคงสภาพม่านพลังสั่นไหวเอาไว้ด้วยกัน
“หลงอวี้ฟาน ให้ข้าสังหารเจ้า!”
เทียนรั่วเหลิงกำลังกำกระบี่เมฆน้ำค้างแข็งในมือแน่น มันกำลังปลดปล่อยไอเย็นเยือกออก ทั้งร่างกายของนางสั่นเทิ้ม เป็นนางปรารถนาพุ่งทะยานออกไป ลงมือสังหารหลงอวี้ฟานด้วยกระบี่เดียวเสียเดี๋ยวนี้
“เจ้ามีความกล้าออกมาลงมือหรือไม่เล่า? หากเจ้าที่เป็นฝ่ายป้องกันกล้าดีโจมตีตอบโต้ กระทั่งว่าพวกเราสังหารเจ้า ก็ไม่จำเป็นต้องแบกรับผลที่ตามมาแต่อย่างใด นอกจากนี้ แต้มทั้งหมดของพวกเจ้าจะตกเป็นของพวกเรา!” หลงอวี้ฟานหัวเราะดัง “ทุกคน จงเข้ามาและสังหารพวกมันเสีย!”
คนที่เหลือทั้งเจ็ดเร่งรีบเข้ามา พวกเขาต่างเรียกพลังแกร่งกล้าที่สุดของตนเองออกมาสับฟันเข้าใส่ม่านพลังสั่นไหว!
ผู้อื่นล้วนอดไม่ได้ ที่จะเผยความอัศจรรย์ใจต่อความทรงพลังของม่านพลังสั่นไหวของฉินหยุน
ใบหน้าของหลงอวี้ฟาน ขณะนี้ยิ่งมายิ่งเคร่งเครียด
หากพวกเขาไม่อาจชนะ ไม่เพียงแต่จะสูญเสียแปดแต้ม แต่ยังต้องสูญเสียหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญม่วง!
“อวี้ฟาน จงเร่งรีบจัดการพวกมันโดยเร็ว!” ผู้อาวุโสตระกูลหลง เวลานี้ร้อนใจจนต้องตะโกนออกเสียงดัง
การโจมตีจากดาบกว่าสิบครั้งของหลงอวี้ฟานเมื่อครู่ มันทำเอาเขาใช้พลังออกไปจนแทบหมดสิ้น
เขานึกว่าม่านพลังสั่นไหวของฉินหยุนจะอ่อนแรงลง ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ ขณะนี้มันยังคงอยู่ดีเช่นเดิม ไม่คล้ายจะมีทีท่าว่าพังทลายแต่อย่างใด
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” อย่างกะทันหัน ฉินหยุนหัวเราะดังขึ้น
“ตระกูลหลง ครั้งนี้พวกเจ้าพ่ายแพ้แล้ว! หนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญม่วงตกเป็นของข้า! มองดูพวกเจ้า แต่ละคนล้วนเต้นแร้งเต้นกาเป็นลิงคลั่ง นอกจากนั้นแล้วพวกเจ้ายังทำอันใดได้?”
แม้ร่างกายฉินหยุนโชกเลือด แต่เสียงหัวเราะนี้ บ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงดังที่เห็น
เมื่อเทียนรั่วเหลิงได้ทราบว่าฉินหยุนยังมีกำลังใจมากล้น นางค่อยวางใจลงได้มาก
ฉินหยุนเพียงแค่บาดเจ็บที่ร่างกายภายนอกเท่านั้น
ร่างกายของเขาแกร่งกล้า ถูกบำรุงเลี้ยงมาเป็นเวลายาวนาน และภายในแก่นเต๋าตะวันทมิฬ มันยังมีโทเทมต้นไม้ที่พร้อมจะปล่อยพลังงานแห่งชีวิต เพื่อช่วยรักษาบาดแผลให้แก่เขาอย่างรวดเร็ว
ตราบเท่าที่เขามีเวลาให้ฟื้นฟูสภาพ ร่างกายเลือดเนื้อย่อมไม่มีวันถูกทำลาย!
หลงอวี้ฟานร้อนใจประดุจอัคคีแผดเผา สีหน้าขณะนี้กลายเป็นน่าเกลียด เป็นเขาไม่กล้าหันกลับไปมองผู้อาวุโสตระกูลหลง
ก่อนหน้า พวกเขากล่าววาจาเย้ยหยันอีกฝ่ายอย่างมาดมั่น ครานี้ สีหน้าพวกเขาน่าเกลียดเกินบรรยาย ทั้งโกรธเกรี้ยว กดดัน และสิ้นหวัง...
ไม่ช้า ก้านธูปก็ไหม้จนสิ้น!
“สถาบันฟานเต๋าชนะ ได้รับแปดแต้ม รวมขณะนี้มียี่สิบสี่แต้ม และในเวลานี้ ถือเป็นอันดับหนึ่ง!”
เซียงเต๋าเผยความยินดีขณะประกาศเสียงดังก้อง
ผู้คนจากสถาบันดาบฟ้า เวลานี้สีหน้าที่เผยออกน่าเกลียดเกินบรรยาย!
เมื่อวานพวกเขาลงแรงอย่างหนักหนา ได้รับมาทั้งสิ้นสี่แต้ม แต่วันนี้ พวกเขาต้องสูญเสียมากมายถึงแปดแต้ม!
สถาบันดาบฟ้า ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสถาบันดาบที่มีแต้มติดลบ
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน กำลังช่วยกันตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉินหยุน
“ข้าไม่เป็นไร!” ฉินหยุนปาดเช็ดเหงื่อที่ใบหน้า เผยรอยยิ้มออกให้แก่ทั้งสอง
เซียงเต๋าเดินเข้ามาใกล้ ส่งมอบดาบเต๋าโบราณ และหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญม่วงแก่ฉินหยุน
ผู้คนล้วนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจดังยาวอยู่ภายใน!
ด้วยคนเพียงสาม สถาบันฟานเต๋าป้องกันได้สำเร็จอีกครั้ง แม้เผชิญหน้ากับหลงอวี้ฟาน ก็ยังต้านรับไว้ได้!
แม้หลงอวี้ฟานเป็นอาจารย์ยุทธ์ ที่ทราบแม้กระทั่งเคล็ดวิชาลึกลับ แต่แล้วก็ยังไม่อาจทะลายปราการม่านพลังสั่นไหวของฉินหยุน
เท่ากับว่า แม้มีสถาบันแห่งอื่นกล้าบุกโจมตีอีกครั้ง ก็ไม่มีทางที่จะทำได้สำเร็จ
ข่าวคราวชวนตื่นตะลึงนี้ แพร่กระจายไปทั่วทั้งหอขุนเขาดาบกระบี่!
สามครั้งติด ที่สถาบันดาบไม่อาจจัดการสถาบันกระบี่ระดับต้นได้!
เรื่องนี้ทำเอาทั้งหอดาบเกิดรู้สึกถูกหยามเหยียดอย่างรุนแรง
และตระกูลหลง ถือว่าเสียหายหนักหนาที่สุด พวกเขาถึงกับต้องสูญหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญม่วง!
ฉินหยุนเร่งรีบกลับห้องลับ ทำการพักผ่อนฟื้นคืนพลัง
หากในช่วงบ่ายพวกเขายังต้องเผชิญหน้าสถาบันดาบที่กล้าแกร่ง เช่นนั้นคงต้องเผชิญพบความยากลำบากแล้ว
เจี้ยนหมางและคณะ รอบที่ผ่านมาได้จัดการสถาบันกระบี่ลงได้ จึงได้รับอีกสี่แต้ม
แต้มของพวกเขา ถือเป็นอันดับที่สอง
แต่อันดับสองนั้นไร้ค่า มีแต่อันดับที่หนึ่งจึงสามารถได้รับรางวัล
หลังจากที่เจี้ยนหมางและพรรคพวกบุกโจมตีเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็ต้องพบเรื่องราวชวนตื่นตะลึงใหม่จากสถาบันฟานเต๋า
“กระทั่งเคล็ดวิชาลึกลับดาบทรราช ที่อาจารย์ยุทธ์อย่างหลงอวี้ฟานใช้งาน ยังไม่อาจกำราบฉินหยุนลงได้! ต่อให้พวกเราไป ผลลัพธ์ก็คงไม่ต่างกัน!”
จากนั้น เขาจึงมองทางหลงอู่เฉินและหยางมู่เทียน “พวกเจ้าสองคนจงระวัง ในเดือนหน้า จะเป็นสถาบันกระบี่พลิกผันเป็นฝ่ายบุกโจมตีสถาบันดาบของพวกเรา พวกเจ้าทั้งสองย่อมเป็นปลาใหญ่ในสายตาพวกเขาแน่!”
“ข้า หลงอู่เฉิน ไม่เคยหวาดกลัวพวกมัน! อีกทางหนึ่ง เป็นเจ้าที่ขลาดเขลา ไม่กล้ายั่วยุต่อฉินหยุน!” หลงอู่เฉินแค่นเสียง เป็นเขาไม่หวาดกลัวฉินหยุนอย่างแท้จริง
นี่ก็เพราะภายในใจของเขา ฉินหยุนอย่างไรแล้วก็เป็นเพียงบุคคลที่ครอบครองหนึ่งชีพจรวิญญาณ ตัวตนของอีกฝ่าย ไม่ต่างอะไรกับเศษเดนมนุษย์ผู้หนึ่ง
เจี้ยนหมางส่ายศีรษะ เขาได้แต่หวังว่าหยางมู่เทียนและหลงอู่เฉิน จะออกจากสถาบันโดยเร็วและไม่คิดเข้ายั่วยุฉินหยุนมากไปกว่านี้
ในช่วงบ่าย หาได้มีสถาบันดาบชั้นหัวกะทิบุกโจมตีสถาบันฟานเต๋า กลับกัน เป็นสถาบันดาบระดับต้นเช่นเดียวกับพวกเขา
ตลอดสามรอบที่ผ่านมา สถาบันดาบชั้นแนวหน้าไม่อาจโค่นล้มสถาบันฟานเต๋า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดกล้าลองดีในชั่วขณะนี้ เพราะหากไม่อาจจัดการ เท่ากับพวกเขาต้องสูญเสียกันมากมายถึงแปดแต้ม!
สำหรับสถาบันดาบ พวกเขาจำเป็นต้องจัดการสถาบันกระบี่ถึงสี่ครั้งรวดเพื่อชดเชย นั่นก็เป็นการเสียเวลาถึงสองวันแล้ว
ฉินหยุนและคณะ คิดเอาชนะการบุกโจมตีของสถาบันดาบระดับต้นถือเป็นเรื่องง่าย หาได้มีเรื่องยากลำบากอันใดเกิดขึ้นใหม่
ก่อนหน้านี้ สถาบันดาบหลายแห่งต่างสู้แย่งชิงเพื่อสิทธิ์การบุกโจมตีสถาบันฟานเต๋าเป็นผู้แรก
ครานี้ หาได้มีสถาบันดาบใดคิดอยากเลือกสถาบันฟานเต๋าอีก
กระนั้น ในทุกรอบของการบุกโจมตี ก็จะต้องมีสถาบันดาบผู้โชคร้าย ที่ไร้ซึ่งทางเลือก จนต้องบุกเข้าโจมตีสถาบันฟานเต๋าทั้งน้ำตานองหน้า
แม้ว่าอีกฝ่ายมีกันเพียงสาม แต่คะแนนของพวกเขาขณะนี้ถือเป็นอันดับหนึ่ง!
ผู้คนค่อยตระหนัก ว่าการแข่งขันครั้งนี้ กลายเป็นเอื้ออำนวยให้สถาบันฟานเต๋าได้ก้าวทะยาน
นี่เป็นเพราะฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลันตั้งปราการป้องกันได้อย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ พวกเขายังมีอุปกรณ์เลิศล้ำ และเคล็ดวิชาแปลกประหลาด ที่สามารถปลดปล่อยพลังสั่นไหวมาสร้างเป็นปราการคุ้มกันได้
บรรดาผู้ซึ่งบุกโจมตีสถาบันฟานเต๋า ล้วนได้เห็นกระบี่ในมือของทั้งเทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน พวกเขาเพียงมองวูบเดียวก็ทราบ ว่าทั้งสองเล่มเป็นกระบี่วิญญาณระดับราชันที่แข็งแกร่ง
กระทั่งอาจารย์ยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณที่มีอุปกรณ์ลึกล้ำ ก็ยังต้องรู้สึก ว่ากระบี่ทั้งสองเล่มนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าอุปกรณ์ลึกล้ำในมือของตน
เพราะในความเป็นจริงแล้ว กระบี่เมฆน้ำค้างแข็ง และกระบี่หลิวจันทรา ทั้งสองถูกสร้างขึ้นจากวัสดุสำหรับสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำระดับสูง ทั้งยังถูกหลอมขึ้นโดยค้อนเทวะเก้าตะวัน
ในด้านของความแข็งแกร่ง พวกมันย่อมเหนือล้ำกว่าอุปกรณ์ลึกล้ำธรรมดาอย่างเทียบไม่ติด
อย่างรวดเร็ว หนึ่งเดือนผันผ่าน!
อันดับการแข่งขันดาบกระบี่บุกโจมตีและตั้งรับ อันดับหนึ่งยังคงเป็นสถาบันฟานเต๋า ด้วยแต้มมากมายถึงหนึ่งร้อยหกสิบหก!
ในช่วงเดือนนับแต่นี้ หอกระบี่เป็นฝ่ายได้บุกโจมตี!
ความกังวลของหลายคน ขณะนี้ได้บังเกิดขึ้นแล้ว
นี่ก็เพราะพลังอำนาจการต่อสู้ของสถาบันฟานเต๋าสูงล้ำ ฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลัน ทั้งสามต่างครอบครองอาวุธที่ดีเลิศ
กลางดึก ฉินหยุนนั่งในห้องโถงกำลังจิบชา
เทียนรั่วเหลิงกำลังเช็ดขัดเงาให้แก่กระบี่เมฆน้ำค้างแข็ง
“วันรุ่งขึ้น ถือเป็นคราวพวกเราบุกโจมตี สถาบันดาบคมประกาย สถาบันดาบอสนีบาตคราม และสถาบันดาบฟ้า พวกเราควรเลือกสถาบันใดก่อนดี?”
ใบหน้าของเย่ว์อู่หลันเผยความตื่นเต้นเด่นชัด
เทียนรั่วเหลิงมองที่ฉินหยุนและกล่าว “เสี่ยวหยุน ให้เจ้าตัดสินใจ!”
“พวกเราจะบุกโจมตีสถาบันดาบฟ้าในตอนเช้า และสถาบันดาบอสนีบาตครามในตอนบ่าย!” ฉินหยุนกล่าวตอบ “ในสถาบันดาบฟ้ามีอาจารย์ยุทธ์ของตระกูลหลง พวกเราจำเป็นต้องตัดสินมันโดยเร็ว อย่าปล่อยให้มันได้หนีรอด!”
“กลุ่มคนสารเลวจากสถาบันดาบอสนีบาตคราม... ย้อนกลับไปตอนนั้น พวกมันทำพวกเราไว้หนักไม่ใช่น้อย ครานี้ ได้เวลาตอบแทนเรื่องราวเมื่อครั้งก่อนแล้ว!” เทียนรั่วเหลิงมองกระบี่ในมือของนางและกล่าวออก
เย่ว์อู่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกมันจะหนีหรือไม่?”
“ไม่น่า! ขณะนี้ไม่มีผู้ใดสามารถออกไปจากหอขุนเขาดาบกระบี่ หากมีผู้ใดหายตัวไปจากการแข่งขันดาบกระบี่บุกโจมตีและตั้งรับ เช่นนั้นพวกมันจะถูกลงโทษสถานหนัก อาจถึงขั้นคุมขังและโดนทัณฑ์ทรมาน”
ก่อนหน้านี้ ฉินหยุนเคยสอบถามเซียงเต๋าไว้ก่อนแล้ว
ถัดจากนี้ พวกเขาจะสามารถโจมตีสถาบันดาบได้อย่างไร้ซึ่งกังวล
“หลงอวี้เฉินและหยางมู่เทียน พวกมันอยู่สถาบันเดียวกับเจี้ยนหมาง พวกเราควรโจมตีหรือไม่?” เย่ว์อู่หลันกล่าวถาม “เจี้ยงหมาง ไม่ใช่ตัวตนที่รับมือได้ด้วยง่าย!”
“พวกเราจะไม่ไปจัดการทางเจี้ยนหมาง เป้าหมายหลักของพวกเราคือหลงอู่เฉิน และหยางมู่เทียน!” ฉินหยุนกล่าว “ปล่อยให้พวกนั้นชนะสองแต้มจะเป็นไรไป? พวกเราจะได้ไม่จำเป็นต้องปะทะกับเจี้ยนหมาง พวกเราขณะนี้มีแต้มในมือมากล้น!”
“หลงอวี้เฉินและหยางมู่เทียน ชะตาพวกมันใกล้ขาดแล้ว!” เสียงแค่นดังจากใบหน้างดงามสีน้ำตาลข้าวของเทียนรั่วเหลิง
นางเคยถูกกลั่นแกล้งโดยตระกูลหลงและตระกูลหยาง เป็นนางเกลียดชังบุตรหลานของทั้งสองตระกูลเข้ากระดูก
ฟ้าสาง ณ ลานกว้างที่ตั้งภายในหอกระบี่
ขณะนี้ สถาบันกระบี่ทั้งหมดมารวมตัวกันที่ลานกว้าง
พวกเขากำลังตระเตรียมสุ่มจับหมายเลข โดยหมายเลขดังกล่าว จะเป็นตัวบ่งบอกว่าผู้ใดอยู่อันดับที่เท่าไหร่ในการเลือกสถาบันดาบเพื่อบุกโจมตี
ตั้งแต่พวกเขามาถึง เทียนรั่วเหลิง เย่ว์อู่หลัน และฉินหยุน ทั้งสามตกเป็นเป้าสายตาของทุกผู้คนในที่นี้!
ช่วงเดือนมานี้ ชื่อเสียงพวกเขาโด่งดัง เพราะกำราบสถาบันดาบไปแห่งแล้วแห่งเล่า!
ต้องทราบว่าภายในหอกระบี่ ตำแหน่งของสถาบันฟานเต๋าถือว่าต่ำเตี้ยที่สุด
ขณะนี้ สถาบันฟานเต๋าสามารถต้านรับทั้งอาจารย์และศิษย์ของสถาบันดาบมากมายมาได้ เรื่องนี้ทำเอาอาจารย์และศิษย์ของหอกระบี่เกิดความยินดีกันขึ้นมา
และครานี้ ในที่สุดก็ถึงคราวหอกระบี่ได้บุกโจมตีหอดาบ!
ศิษย์ของสวนฝึกราชัน หอโอสถ และคนของหอจารึก ขณะนี้มาถึงลานกว้างในหอกระบี่แต่เช้าตรู่
พวกเขาคิดอยากทราบ ว่าสถาบันฟานเต๋าจะตัดสินใจโจมตีผู้ใดก่อน!
ทุกคนคิดอยากเห็นกับตาตนเอง ว่าสถาบันฟานเต๋าจะโจมตีสถาบันดาบอย่างไร ทุกกระบวนการที่ดำเนินอยู่ มีแต่ผู้คนตื่นเต้นยามรับชม
เดือนนี้ เรียกขานกันเป็น “เดือนแห่งการล้างแค้นของหอกระบี่!”
ศิษย์หลายคนของหอกระบี่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังถูกกดขี่ไว้โดยสถาบันดาบ
ครานี้ ในที่สุดค่อยถึงคราวพวกเขาหอกระบี่ได้บุกโจมตี!
“การประมูลอันดับแรก เริ่มที่หนึ่งล้าน!” เซียงเต๋าประกาศดังขึ้น
“สองล้าน!” ฉินหยุนโพล่งเสียงออกโดยทันที
เป้าหมายแรก คือการจัดการตระกูลหลงโดยเร็วที่สุด!
ฉินหยุนก่อนหน้านี้ได้รับมาหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญม่วงจากตระกูลหลง ดังนั้นเพียงเท่านี้เขาไม่สะดุ้งสะเทือน
ผู้คนในหอกระบี่ล้วนทราบ ว่าฉินหยุนและคณะหิวกระหายการล้างแค้นมากมายเพียงใด
นอกจากนี้ สถาบันกระบี่ชั้นหัวกะทิ ยังยินดีไว้หน้าให้แก่สถาบันฟานเต๋า ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดเสนอแข่งขันด้านราคา
อันที่จริง ศิษย์ทั้งหลายของหอกระบี่เรียกได้ว่าข้นแค้นด้วยซ้ำ
กล่าวไปแล้ว ศิษย์ของหอดาบ ส่วนใหญ่จะเป็นคนจากตระกูลใหญ่
ทุกครั้งที่ผ่านการทดสอบ มักมีผู้เลือกใช้ดาบมากกว่ากระบี่เสมอมา
ดังนั้น หอดาบจึงมีศิษย์ในสังกัดจำนวนมาก
เพียงแค่เรื่องนี้ หอกระบี่ก็ถือว่าเสียเปรียบแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ระหว่างการศึกตั้งป้องกัน สถาบันกระบี่ทั้งหลายจึงไม่อาจต้านรับไว้ได้ไหว
