ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0517 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0519 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0518 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 518 : เทียบเชิญจันทราปีศาจ

พลังอำนาจของสามสำนักจันทราถือว่าเร้นลับ บางคนกล่าวว่าพวกนางเป็นสำนักที่เป็นตัวตนเปรียบดั่งสำนักเซียน ขณะที่ผู้อื่นก็บอกว่าไม่ต่างอะไรกับห้าสำนักดวงดาว

โดยสรุป สามสำนักจันทรามีแต่ศิษย์หญิง และห้าสำนักเซียนก็ไม่เคยมีข้อพิพาทกับพวกนางมาก่อน

หากเกาะจันทราปีศาจคิดช่วยเหลือเรื่องการว่าจ้าง ก็เท่ากับเป็นหลักประกันได้ ผู้คนในแดนวิญญาณอ้างว้าง ย่อมต้องเชื่อถือพวกนาง

ในช่วงบ่าย สตรีจากเกาะจันทราปีศาจเดินทางมาถึง นางเป็นยอดยุทธ์ หรือก็คือขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ

นางสวมใส่ชุดสีขาวราวหิมะ มีผ้าปิดบังที่ใบหน้า และมีหางยาวสีขาวฟูออกจากช่วงเอว นางเป็นภูติจิ้งจอก

แม้ว่ายอดยุทธ์จากเกาะจันทราปีศาจจะมีผ้าคลุมปิดบังใบหน้า กระนั้นดวงตาจิ้งจอกทรงเสน่ห์ของนางก็ไม่อาจปิดบังได้มิด

“นายน้อยฉิน ข้าคือผู้อาวุโสของเกาะจันทราปีศาจ ฮูจิงเซียน!”

“พวกเราขอคุยกันเป็นส่วนตัวได้หรือไม่? แม้ว่าข้าเป็นภูติจิ้งจอก แต่ก็ไม่เคยคิดกินเนื้อมนุษย์ ดังนั้นอย่าได้หวาดเกรงอะไรไป!”

เสียงของฮูจิงเซียนนุ่มนวล รอยยิ้มหวานปรากฏที่ใบหน้าของนาง

“ย่อมได้!”

ฉินหยุนทำท่าเชื้อเชิญนางเข้าสู่ด้านใน ก่อนจะนำนางสู่ห้องของเขา

เมื่อนางเข้ามาแล้ว นางจึงกล่าวหัวเราะคิกคัก “ฉินหยุน ข้าไม่นึกว่าพอเจ้ามาที่นี่แล้วยังเป็นเช่นเดิม!”

“ท่านรู้จักข้าหรือ?” ฉินหยุนเผยสีหน้าดำมืดขณะเอ่ยถาม

“คงเป็นเรื่องยากนักที่พวกเราจะไม่ทราบวีรกรรมของเจ้าที่แดนยุทธ์อ้างว้าง!” ฮูจิงเซียนหัวเราะเบา “อย่าได้กังวลไป! แม้ว่าขั้วอำนาจใหญ่ทั้งหลายทราบเรื่อง แต่พวกเขาหาได้มีเวลามาจัดการเจ้าไม่ พวกเขามีเรื่องอื่นสำคัญกว่าให้ต้องทำ!”

“ในสายตาพวกเขา เจ้าก็เป็นมารน้อยที่อ่อนแอ ตราบเท่าที่ยังไม่ใช่ราชันยุทธ์ พวกเขาก็จะไม่นำเรื่องของเจ้ามาใส่ใจ!”

“สายเลือดราชสีห์สววรรค์ของข้า รวมถึงโทเทมราชสีห์สวรรค์ และหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรก็ด้วยหรือ? พวกเขาไม่คิดกังวลเรื่องพวกนี้?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างไม่อาจเชื่อ

“เรื่องนั้นข้าคงไม่ทราบ! แต่โดยสรุปแล้ว พวกเขากำลังวุ่นวายถึงเรื่องอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บงำเรื่องของเจ้าที่แดนยุทธ์อ้างว้างเอาไว้ พวกเขาคงคิดจัดการเจ้าภายหลังหากรับมือเรื่องราวขณะนี้เรียบร้อยแล้ว!”

ฮูจิงเซียนยิ้มกว้างอย่างซุกซนขณะนั่งเก้าอี้

“ฉินหยุน เหตุใดไม่เข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจของพวกเรา? พวกเราสามารถสร้างข้อยกเว้นแก่เจ้า เพื่อให้เจ้าที่เป็นบุรุษสามารถเข้าสู่ตัวเกาะได้!”

สายตาของนางจับจ้องที่ฉินหยุน รอยยิ้มซุกซนเลือนหาย ขณะนี้เผยแต่ความจริงจัง

“เป้าหมายของข้าคือเข้าร่วมหนึ่งในห้าสำนักเซียน!” นี่เป็นสิ่งที่เซี่ยฉีโหรวบอกต่อเขาให้กระทำ

ทางด้านเหตุผล เซี่ยฉีโหรวหาได้บอกกล่าวใด และเขาก็ไม่อาจติดต่อนางในช่วงนี้ได้

“เกาะจันทราปีศาจของพวกเรา ย่อมมีความร่วมมือกับวิมานเซียนปีศาจ หลังเจ้าเข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจ เมื่อใดถึงเวลา พวกเราจะแนะนำเจ้าให้เข้าร่วมวิมานเซียนปีศาจ!”

ฮูจิงเซียนทราบว่าฉินหยุนครอบครองศักยภาพเพียงใด หากไม่แล้ว เกาะจันทราปีศาจคงไม่ตัดสินใจมอบข้อยกเว้นเรื่องศิษย์ชายให้แก่เขา

“ข้ายังไม่คิดไป เมื่อคิดได้แล้ว ข้าจะติดต่อท่านอีกครั้งหนึ่ง!”

แม้ฉินหยุนคิดอยากไป ทว่าเขายังคิดอยากเรียนรู้มรดกของหอขุนเขาดาบกระบี่ไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ความเร็วที่เขาใช้เพื่อก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า ถือได้ว่ามากล้น และเขาก็ยังไม่มีเวลาจัดการเรื่องการปรับพื้นฐานการฝึกฝนในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

“โดยสรุปแล้ว เกาะจันทราปีศาจของพวกเรายินดีต้อนรับเจ้าทุกเมื่อ!”

นางถอดผ้าคลุมหน้าออก เผยซึ่งใบหน้าขาวนวลชวนสัมผัส

“ฉินหยุน เชี่ยวเย่ว์หลานเป็นภรรยาเจ้า นางขณะนี้อยู่ในตำหนักจันทราทมิฬ นี่ถือเป็นการสูญเสียพรสวรรค์ของนางยิ่งนัก! หากได้พบนาง ทางที่ดีช่วยเกลี้ยกล่อมนางให้เข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจ พวกเราจะมอบการดูแลที่ดีแก่นาง และรับประกันได้ว่าจะต้องดีกว่าตำหนักจันทราทมิฬ!”

“แม้ว่าเกาะจันทราปีศาจของพวกเรามีปีศาจอยู่มาก แต่มนุษย์หญิงก็ยังมีไม่น้อย! ตราบเท่าที่เป็นหญิงใดซึ่งเจ้าแนะนำให้เข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจ พวกเราจะยินดีรับพวกนางทั้งหมดเอาไว้!”

ฉินหยุนจับจ้องใบหน้าอ่อนโยนของฮูจิงเซียนและเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เหตุใดท่านเชื่อใจข้าเพียงนั้น?”

“เพราะศักยภาพของเจ้า! สายเลือดราชสีห์สวรรค์ในกายเจ้า เป็นหนึ่งในสายเลือดจากครั้งโบราณกาล! กระทั่งว่ามีสายเลือดวิหคอมตะ สายเลือดมังกร และสายเลือดกิเลนในแดนวิญญาณอ้างว้าง รวมถึงสัตว์โบราณแกร่งกล้าอื่นที่ส่งต่อสายเลือดสืบทอดกันมา แต่มีตัวตนหนึ่งเดียวที่ไม่เคยปรากฏ นั่นก็คือสายเลือดราชสีห์สวรรค์!”

“พวกเราต้องการค้นหาความลับเบื้องหลังเรื่องนี้!”

ฉินหยุนย่อมไม่เชื่อคำกล่าวของนาง เขานำเอาบัตรผลึกม่วงออกมาและกล่าว “ข้าต้องการหัวของผู้นำตระกูลหลงและตระกูลหยาง ตราบเท่าที่ได้รับหัวพวกมัน ข้าจะมอบอุปกรณ์เต๋าให้สองชิ้น!”

“ข้าหาได้ต้องการเหรียญม่วงไม่ เรื่องใบประกาศล่าค่าหัวพวกมัน ข้าจะจัดการให้!”

มืออ่อนนุ่มงดงามราวกับไร้กระดูก ขณะนี้เกาะกุมพร้อมเขย่ามือของฉินหยุน

ฉินหยุนสาปแช่งภูติจิ้งจอกตนนี้อยู่ภายในใจ เขาทราบดีว่านางทำเช่นนี้เพราะมีจุดประสงค์อื่น

ภูติจิ้งจอกย่อมอดไม่ได้ ที่จะหยอกล้อกับวิญญาณชายหนุ่มเล่น

“จริงด้วย แล้วขั้วอำนาจใหญ่เหล่านั้น พวกมันยุ่งกับเรื่องอันใดกันอยู่หรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ข้าไม่อาจบอก!” ฮูจิงเซียนยิ้มอย่างซุกซน

กล่าวจบ นางจึงเร่งร้อนออกจากห้องลับไป

ฉินหยุนตามติดนางไม่ห่าง เขาคิดสอบถามอีกหลายคำถาม ทว่านางก็เร่งรีบออกไปจากสวนแล้ว

ตัวเขาขณะนี้คล้ายสูญเสียสมาธิ เอาแต่ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ฮูจิงเซียนบอกกล่าวออกมา

“น้องหยุน เจ้ากำลังคิดอันใด? หรือทำอะไรกับพี่สาวจิ้งจอกผู้นั้นจนสบายตัวไปแล้ว?” เย่ว์อู่หลันเผยใบหน้าริษยาขณะตบที่ไหล่ของฉินหยุน

“ย่อมไม่ใช่!” ฉินหยุนเร่งรีบส่ายศีรษะ

ท่าทีของเกาะจันทราปีศาจต่อตัวเขา มันดีเกินไปจนเกิดความเคลือบแคลง!

เขายังไม่ทราบสถานการณ์โดยรวม ดังนั้นจึงไม่คิดเข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจ

“แล้วสนทนากันเป็นอย่างไรบ้าง?” เทียนรั่วเหลิงเอ่ยถาม

“เรียบร้อยแล้ว!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ มองทางเต๋าฟาน “ขอขอบคุณเหล่าฟานยิ่งนักขอรับ!”

“จริงด้วย ผู้อาวุโสฟาน ข้ามีเรื่องคิดรบกวนท่าน! ขอท่านประกาศออกไป ว่าในการแข่งขันบุกโจมตีและตั้งรับที่จะถึงนี้ ตราบเท่าที่บุตรหลานตระกูลหลงและตระกูลหยางพิการทางใดทางหนึ่ง ข้าจะตบรางวัลให้แก่คนผู้นั้นด้วยอุปกรณ์ลึกล้ำ!”

คำกล่าวของฉินหยุนทำเอาเต๋าฟานถึงกับอึ้งไปวูบ

เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน พบว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เพราะพวกนางทราบว่าฉินหยุนคืออาจารย์จารึกวิญญาณราชัน

ตราบเท่าที่ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ เขาย่อมสามารถสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำ

ย้อนกลับไปครั้งฉินหยุนอยู่ในนครโบราณยุทธ์เต๋า เขาได้สังหารผู้ฝึกตนไปมาก ดังนั้นจึงมีอุปกรณ์ลึกล้ำจากการเก็บเกี่ยวครั้งนั้นไม่ใช่น้อย

“ย่อมได้!” หลังตื่นตะลึงไปครู่ เต๋าฟานจึงยิ้มรับ “ตระกูลหลงและตระกูลหยางเสนอค่าหัวต่อเจ้า และเจ้าเองก็เสนอค่าหัวพวกมันเช่นกัน!”

สถาบันกระบี่ที่เต๋าฟานเป็นผู้นำ มีศิษย์เพียงสามคน แต่แล้วพวกเขายังมีการตามล่าโดยตระกูลหลงและตระกูลหยาง เป็นปกติที่เต๋าฟานจะมีโทสะ ทว่าเขาไม่มีทางเลือกใดให้โต้ตอบ

ขณะนี้ ฉินหยุนคิดใช้อุปกรณ์ลึกล้ำเป็นรางวัล แก่ศิษย์ที่สามารถล่าตัวศิษย์ของตระกูลหยางและตระกูลหลงมาได้!

การแข่งขันดาบกระบี่บุกโจมตีและตั้งรับกำลังจะเริ่มขึ้น ขณะนี้มีประกาศออกมา ส่งผลให้ศิษย์หลายคนของทั้งหอกระบี่และหอดาบเกิดความตื่นเต้นกันขึ้นมา!

คราแรก ตระกูลหลงและตระกูลหยาง ได้ประกาศล่าค่าหัวทำฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลันให้พิการ

ผู้ใดมีส่วนร่วม จะได้รับยี่สิบล้านเหรียญม่วง

แต่แล้วเพียงไม่นาน คำประกาศล่าค่าหัวของฉินหยุนจึงปรากฏ

ตราบเท่าที่คนของตระกูลหลงหรือตระกูลหยางพิการ เช่นนั้นจะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์ลึกล้ำ!

หากเป็นสถาบันใหญ่ที่มีศิษย์กว่าสิบคนและได้รับอุปกรณ์ลึกล้ำ เมื่อใดพวกเขานำออกขาย พวกเขาจะได้รับเหรียญม่วงหลายสิบล้าน

ค่ำคืนหลังคำประกาศล่าค่าหัวของฉินหยุนถ่ายทอดออก ผู้คนของตระกูลหลงและตระกูลหยาง จึงไม่คิดเข้าร่วมการแข่งขันเป็นการชั่วคราว

ที่สามารถไม่เข้าร่วมเป็นการชั่วคราว ก็เพราะมีผู้อาวุโสของทั้งสองตระกูลอยู่ภายในหออาวุโส พวกเขาจึงสามารถถอนตัวออกมาได้

หากเป็นผู้อื่น คงไม่มีทางถอนตัวออกมาได้ง่ายดายเพียงนี้เป็นอันขาด

ชัดเจนว่าตระกูลหลงและตระกูลหยาง ไม่อาจรับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้ไหว

คำประกาศล่าค่าหัวของฉินหยุนจูงใจจนเกินไป มันมากพอขนาดที่จะทำให้ผู้อื่นยินดีเสี่ยงเพื่อลอง

“สารเลวนัก ศิษย์ตระกูลหยางและตระกูลหลงถอนตัวได้อย่างไรกัน?” เต๋าฟานสบถรุนแรงอยู่ในห้องโถงเล็ก

“เหล่าฟาน ผลกระทบที่ข้าต้องการถือว่าสำเร็จผลแล้วขอรับ!”

“ข้าคิดอยากให้ตระกูลหลงและตระกูลหยางได้ทราบ ว่าพวกเราก็ไม่ใช่รังแกได้ง่าย!”

ฉินหยุนรินน้ำชาให้แก่เหล่าฟานขณะยิ้มกล่าวอธิบายไป

เต๋าฟานพยักหน้ารับ “ตลอดมา พวกมันเป็นฝ่ายที่ได้แต่รังแกผู้อื่น ด้วยเพราะผู้อื่นไม่มีอำนาจพอให้ตอบโต้พวกมัน! ครานี้ ด้วยตัวเจ้าตอบโต้อย่างรุนแรง จึงส่งผลกระทบต่อพวกมันอย่างหนักหนา!”

“น่าเสียดายนัก” เทียนรั่วเหลิงเผยเสียงเย็นเยือก “ไม่เช่นนั้น พวกเราอาจได้เห็นพวกมันสังหารกันเองระหว่างการแข่งขันก็เป็นได้”

“เหล่าฟาน นี่ไม่ถือเป็นการอยุติธรรมหรือที่มีแต่พวกมันสามารถถอนตัวจากการแข่งขัน หอขุนเขาดาบกระบี่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน? ถึงกับให้ผู้ที่มีอำนาจถอนตัวได้ตามใจนึกเช่นนี้”

“แล้วบทลงโทษของการแข่งขัน หากพวกมันถอนตัว ไม่เท่ากับพวกมันไม่อาจหลบเลี่ยงการไปขุดเหมืองหรือ?”

เย่ว์อู่หลันขณะนี้หงุดหงิดไม่น้อย เดิมนางคิด ว่าจะใช้กระบี่หลิวจันทราของนางในการแข่งขันบุกโจมตีและตั้งรับ เพื่อสังหารบรรดาศิษย์ของตระกูลหลงและตระกูลหยาง

“เรื่องนี้ย่อมต้องมีศิษย์หลายคนทักท้วงและต่อว่าเข้าไป!” ฉินหยุนกล่าว “ตามปกติ พวกผู้อาวุโสสามารถหลับตาข้างหนึ่งต่อเรื่องใหญ่เช่นนี้ แต่ข้าไม่เชื่อ ว่าพวกผู้อาวุโสของตระกูลหลงและตระกูลหยางจะสะกดเรื่องนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง!”

เต๋าฟานกล่าว “พรุ่งนี้พวกเราคงได้ทราบกัน! คืนนี้พวกเราควรตัดสินใจเรื่องนามสถาบันกระบี่ของพวกเราก่อน ข้าจะได้ไปนำป้ายชื่อมาแขวนไว้ที่ด้านนอกของสวนฝึก”

“เรียกหาเป็น สถาบันฟานเต๋า อย่างไรแล้วพวกเราก็กำลังฝึกฝนเคล็ดวิชากระบี่พื้นฐานพอดี!” ฉินหยุนบอกกล่าวออกมา

*ฟานเต๋า หมายความถึง กระบี่พื้นฐาน*

“ข้าเห็นด้วย!” เย่ว์อู่หลันกล่าวขึ้น

เทียนรั่วเหลิงร่วมพยักหน้ารับ

“ตกลงตามนั้น!” เต๋าฟานเองก็ยินดีกับชื่อนี้ เขายิ้มกล่าว “เช่นนั้นพวกเจ้าไปพักผ่อน พรุ่งนี้ถึงจะเริ่มศึกบุกโจมตีและตั้งรับ!”

เช้าตรู่วันถัดมา ฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลันสวมใส่ชุดสีดำ ยืนหยัดอยู่ภายในลานกว้างที่เป็นสังเวียนอาคมวิญญาณ พวกเขากำลังรอคอยให้ผู้อื่นบุกเข้าโจมตี

เต๋าฟานยืนอยู่ที่ภายนอกของลานกว้าง “เมื่อพวกเจ้าโจมตีหรือว่าตั้งรับ พวกเจ้าจะสามารถใช้งานอาวุธเพื่อป้องกันตัว! ทว่า อาวุธนั้นต้องอยู่ระดับต่ำกว่าอุปกรณ์ลึกล้ำ!”

“หากอาวุธที่เจ้าใช้มีพลังของอักขระลึกล้ำ ค่ายอาคมจะตรวจพบ!”

เต๋าฟานขณะนี้เป็นกังวลถึงศิษย์ทั้งสาม จำนวนศิษย์เท่านี้ถือว่าน้อยนิด สวนฝึกแห่งอื่นล้วนขนาดใหญ่กว่า อย่างน้อยพวกเขาก็มีสิบคนขึ้นไป

กลุ่มคนชุดขาวฉับพลันปรากฏตัวเดินเข้ามาผ่านทางเข้าสวนฝึก!

กลุ่มศิษย์ที่เข้ามาในสวนฝึกขณะนี้ ทั้งหมดต่างสวมใส่ชุดสีขาว!

เมื่อกลุ่มคนชุดขาวเดินเข้ามาใกล้ ชายคนหนึ่งในชุดดำที่ครอบครองออร่าแข็งแกร่งจึงเดินเข้ามา

เซียงเต๋าถึงกับมาที่นี่!

นอกจากพวกเขาเหล่านั้น ยังมีผู้อาวุโสชุดสีทองอีกหลายคนจากหออาวุโส ขณะนี้กำลังเดินเข้ามาภายในสถาบันกระบี่ของพวกเขา

“สถาบันดาบอสนีบาตคราม พวกเจ้าเป็นสถาบันระดับที่สูงกว่า ถึงกับมีหน้าบุกเข้าโจมตีสถาบันกระบี่ที่ด้อยกว่าเช่นพวกเรา ไม่กลัวกลายเป็นที่หัวเราะของผู้คนหรืออย่างไร?”

เมื่อเต๋าฟานได้เห็นกลุ่มคนชุดขาวปรากฏตัว เขาจึงหัวเราะเสียงเย็น

แท้จริงแล้ว ศึกแรกของฉินหยุนและคณะ ถึงกับเป็นการโจมตีจากสวนฝึกชั้นนำ!

แม้ว่าบรรดาศิษย์ของสวนฝึกจะอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าเช่นกัน แต่พวกเขาต่างเป็นศิษย์ที่เข้าร่วมสถาบันมายาวนานแล้ว ดังนั้นจึงได้เก็บเกี่ยวทรัพยากรไปอย่างมหาศาล

ทุกเดือนจะมีการแจกจ่ายโอสถลึกล้ำ และให้ผู้ที่ได้รับสามารถใช้ห้องฝึกฝนหลากหลายประเภท เพื่อเป็นการปูทางก้าวสู่ขีดสุดของขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า

ผู้คนภายในสถาบันดาบอสนีบาตครามส่วนใหญ่ต่างมีอายุกันไม่น้อยแล้ว มีเพียงสองคนที่เรียกได้ว่ายังเยาว์

อาจารย์ของสถาบันดาบอสนีบาตคราม เป็นชายชราศีรษะล้านเลี่ยน เขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายกล่าวคำออก “พวกเราจ่ายไปทั้งสิ้นสิบสามล้านเหรียญม่วงเพื่อได้โจมตีก่อน ดังนั้นย่อมต้องคิดหาทางเรียกเงินก้อนนั้นกลับคืน!”

สถาบันดาบทั้งหลายที่เป็นฝ่ายโจมตี ย่อมมีการสุ่มจับหมายเลขเพื่อตัดสินลำดับก่อนหลัง

หากจับได้หมายเลขหนึ่ง เช่นนั้นย่อมได้ออกนำทัพเป็นผู้แรก

หากคิดต้องการเป็นฝ่ายแรกที่บุกโจมตี ก็ยังสามารถใช้เหรียญม่วงเพื่อซื้อหา!

ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่าผู้แรกที่ทำการบุกโจมตี สามารถซื้อหาด้วยเหรียญม่วง

เมื่อครู่นี้ ภายในหอดาบที่มีสถาบันดาบหลายแห่งรวมตัวกัน ได้เกิดการประมูลแข่งขันราคาอย่างดุเดือด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด