ตอนที่แล้วจุติข้ามโลก : ตอนที่89 ความทนทานของนิโกะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจุติข้ามโลก : ตอนที่91 ทะเยอะทะยาน

จุติข้ามโลก : ตอนที่90 ผู้จัดการร้าน


ตอนที่90 ผู้จัดการร้าน

หลังจากการต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซูเซียวก็รู้สึกเหนื่อยล้า จึงกระโดดขึ้นไปบนเสาคอนกรีตเพื่อพักผ่อน

ซูเซียวจุดบุหรี่ดูดและเช็ดเลือดที่ดาบอย่างสบายใจ

ไม่นานหลังจากนั้น เพียง 5นาที ก็เริ่มมีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา

ซูเซียวถอนหายใจด้วยความเนือยและกระโดดลงมาเพื่อขวางทางออกไว้

“ขอโทษด้วยนะ ไม่มีใครสามารถออกจากที่นี่ได้”

หลังจากนั้นซูเซียวก็พุ่งเข้าหากูลอย่างน่ากลัวทันที

.....

ที่ใต้อาคารนั้น มีสามคนกำลังหลบซ่อนอยู่ พวกเขาคือผู้จัดการ โยชิมูระ , คายะ อิริมิ , และหญิงสาวตัวเล็ก ฟูเอกูชิ ฮินามิ

“คายะ พวก CCG เป็นยังไงบ้าง?” ผู้จัดการถามขณะสวมใส่ชุดของพวกกลุ่มโอกิริทรีอยู่

“CCG ได้แยกกันเป็นสี่ทีม โดยสามทีมทำการบุกโจมตี ส่วนอีกทีมนั้นทำการขวางทางออกที่ด้านหลัง อ้อ...ไม่สิ แค่คนเดียวหน่ะไม่ใช่ทีม”

“ห้ะ? คนเดียวที่ปกป้องทางออกนั่นเป็นมนุษย์งั้นหรอ?”

“ใช่สิ เขาเป็นมนุษย์ กูลจะเข้าไปอยู่ใน CCG ได้ยังไงกัน”

ผู้จัดการร้านยิ้มแหยงๆ เพราะเขารู้ดีว่ามีกูลอยู่ใน CCG แต่เขาก็ไม่อยากจะพูดอะไรเยอะ

“ถ้าเป็นมนุษย์ บางทีก็อาจจะมีสองคนนะ ซึ่งหนูเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ ถ้าหากมีโอกาสเราก็น่าจะเจรจาต่อรองกับเขาได้อยู...”

ทันใดนั้นผู้จัดการก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับดวงตาสีแดง

“ไม่มีทาง ผมต้องช่วยโทกะให้ได้ และต้องการเวลา คายะ คุณไปกับฮินามิ แล้วจำไว้ว่าถ้าหากผมช่วยคาเนกิเคนออกมาไม่ได้ในสิบนาทีก็ให้หนีไปส้ะ”

เมื่อผู้จัดการร้านพูดเสร็จก็เดินไปทันที

“คายะ ผู้จัดการจะรอดไหม?”

“แน่นอนสิ เขาแข็งแกร่งจะตายไป”

คายะจับหัวฮินามิและยิ้มอย่างจริงใจ

ใน CCG ชื่อของซูเซียวนั้นโด่งดังมาก แต่ยังไม่เคยมีประวัติว่าซูเซียวสามารถฆ่ากูลระดับ SSS ได้มาก่อน

ดังนั้นคายะจึงไม่กังวลอะไรมากว่าผู้จัดการจะตาย

……

ในเวลานี้ ที่ด้านหน้าอาคารนั้นก็กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ที่ห้องโถงหลักนั้นเต็มไปด้วยเศษซากมากมาย อาม่อน โคทาโร่ ถือมีดสองข้างและหายใจอย่างหนักหน่วง

มีสองศพอยู่ที่ด้านหน้าของเขา และนั่นคือศพกูลระดับ S

“คุณมาโดะ คุณพูดถูก คำพูดของคุณทำให้ผมรอดชีวิตมาได้!”

มาโดยเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าหากไม่ยอมแพ้จนวินาทีสุดท้าย ก็ไม่มีใครฆ่าคุณได้

หลังจากนี้อาม่อนสู้ชนะ เขากำลังจะกลับไปรวมตัว ก็เหลือบไปเห็นเงาอะไรบางอย่างที่ยาวประมาณ 3-5 เมตรลอยผ่านไป

“อะไรกัน?”

อาม่อนรู้สึกไม่ดีเอาส้ะเลย

….

หลังจากต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน กูลของโอกิริทรีก็ตายจนเกือบจะหมด

ทุกคนฮือฮากันอย่างมากที่จะมุ่งกวาดกูลให้หมด ทุกคนรีบวิ่งตะลุยทุกชั้นเพื่อหวังจะยึดยอดตึกให้ได้ไวที่สุด

หลังจากที่ยูกิโนรินำทีมขึ้นมาถึงยอดดาดฟ้าได้ แต่กลับไม่พบกูลหลงเหลืออยู่เลย

“นี่ยูกิโนริ พวกเรามาถึงยอดบนสุดแล้ว แต่ไม่พบกูลเลย ผมว่านี่มันแปลกๆ”

ยูกิโนริรายงานให้มารุเดะฟัง

มารุเดะเองก็ได้แต่ยิ้มอ่อน เพราะก่อนหน้านี้เขาได้รับรายงานมาแล้วว่าระเบิดฝังไว้ตรงไหนบ้าง แต่ในตอนนี้มันหายไปหมดแล้ว

“เอาหน่า จริงๆแล้วครั้งนี้พวกมันก็ไม่พร้อมสู้กับเรา พวกมันยังมาไม่เต็มทัพแต่ถึงยังไงก็ตาม พวกมันก็ไม่มีทางสู้เราได้อยู่ดี”

มารุเดะอธิบาย

“ถ้างั้นให้พวกเราถอนกำลังเลยไหม? วันนี้เราฆ่ากูลไปมากแล้ว”

“คุณยูกิโนริ”

อาม่อนที่มาถึงดาดฟ้าก็พูดทันที

“อาม่อน สบายดีใช่มั้ย?”

ยูกิโนริจ้องมองอาม่อนอย่างเป็นห่วง

“คุณยูกิโนริ ผมพึ่งเห็น...”

“บูม!”

ขณะที่อาม่อนกำลังพูด ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นใส่ดาดฟ้า

“อะไรกัน?”

ยูกิโนริหันไปมองด้วยความสงสัย

“เกิดอะไรขึ้น?”

มารุเดะที่นั่งสั่งการอยู่ในรถก็มองเห็นวัตถุบางอย่างตกใส่ดาดฟ้า

“มารุเดะ คนนั้น อิโตะ ยูชิมูระ”

ซึกาวาระ พูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ

“ยูกิโนริ ให้เหลือไว้แต่คนที่แข็งแกร่ง คนที่อ่อนแอไม่สามารถสู้ต่อจากนี้ได้แล้ว แล้วก็ยื้อเวลาไว้ให้หน่อยสัก 5นาที”

หลังจากนั้นมารุเดะก็เปลี่ยนไปคุยกับซูเซียว

“เบียคุยะ ยังอยู่ที่ประตูหลังรึเปล่า?”

“ครับ แต่ไม่ค่อยว่างเลยตอนนี้”

ซูเซียวพูดขณะกระโดดหลบคากุเนะอยู่

“ไม่ต้องสนใจประตูหลังแล้ว มาช่วยที่ดาดฟ้าที อิโตะ โยชิมูระโผล่ออกมา พวกเราที่ดาดฟ้าไม่มีใครสู้เขาได้เลย”

ซูเซียวตอบกลับทันที “เข้าใจครับ จะรีบไปให้เร็วที่สุด”

ซูเซียวหันมาพูดกับกูลที่กำลังพูดอยู่ “ให้เวลาสิบวินาที จงหายไปส้ะ”

เมื่อพวกกูลได้ยินแบบนี้ กูลที่กำลังหวาดกลัวอยู่แล้วก็หนีหายไปทันที

ซูเซียวจึงรีบมุ่งไปยังดาดฟ้าต่อ