ตอนที่แล้วบทที่ 226 เจ้าไปก่อนเลย !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 228 สถานการณ์พลิกผลัน

บทที่ 227 เจ้าทำให้ข้าตกใจจริง ๆ !


[TL. อุปสรรคฝนอุกกาบาต เปลี่ยนเป็นรูปแบบอุกกาบาตนะครับ อิ้งมันแปลสับไปสับมาโคตรงง ]

บทที่ 227 เจ้าทำให้ข้าตกใจจริง ๆ !

" การตอบสนองของเจ้าค่อนข้างไวหนิ . "

ฉาวจื่อหลานยิ้มออกมาเหมือนกับดอกไม้บาน .

พลังที่น่าหวาดหวั่นทะลักออกมามุ่งไปยังฉื่อหยาน เหมือนกับกระแสน้ำ พลังที่น่าหวาดหวั่นนี้ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อใด ฉื่อหยานเพียงพึ่งสัมพัสถึงมันได้ก็ต่อเมื่อมันอยู่ห่างจากฉื่อหยานประมาณสามเมตรเท่านั้น

พลังที่น่าหวาดหวั่นนี้ไหลออกมาจากฉาวจื่อหลาน มันค่อยๆกระจายไปรอบๆอย่างเงียบๆ แล้วปิดกั้นเส้นทางรอบๆฉื่อหยานทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า หรือใต้พื้นดิน ทุกอย่างถูกปกคลุมโดยพลังนี้ ไม่ว่าฉื่อหยานจะหลบไปทางไหน เขาก็สัมพัสได้ถึงกระพลังนี่

การไหลของพลังที่น่าหวาดหวั่นนี้ ไม่ได้ไหลมาทางฉื่อหยานด้วยความรวดเร็วนัก บางทีอาจเป็นเพราะ ระยะที่มันปกคลุมนั้นกว้างเกินไป ทำให้มันเคลื่อนตัวอย่างช้าๆเท่านั้น

" เจ้าชั่ว ข้าจะดูว่าตอนนี้เจ้าจะทำยังไง " กู่หลินหลงที่อยู่ไกลออกไป ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา และนางก็จะใช้ดาบเวทมนย์ที่จะโจมตีอีกครั้ง

" น้องสาวกู่ เจ้าปล่อยผู้ชายคนนี้ให้ข้าจัดการก็ได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้ามาแทรกแทรงใดๆ " ฉาวจื่อหลาน ขมวดคิ้ว นางหันหลังกลับ และมองไปที่กู่หลินหลงอย่างเยือกเย็น แล้วพูดเบาๆว่า " ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อข้าจับเขาได้ ข้าจะให้เจ้าระบายความโกรธใส่เขาแน่นอน "

" เจ้าจะจับมันทำไม ? " กู่หลินหลง งุนงง , จมูกของนางกระตุก , " ทำไมเจ้าถึงไม่ฆ่ามันเลยหละ ? "

ฉาวจื่อหลาน ดวงตาก็ส่องประกาย แล้วนางยิ้ม "  ข้ามีบางอย่างที่ต้องการจากเขาอยู่ ถ้าเขาตายเร็วเกินไป ข้าอาจจะไม่ได้รับสิ่งนั้นกได้ "

สีหน้าของฉื่อหยานจริงจัง " เจ้าต้องการอะไรรึ ? "

" สิ่งที่อยู่ภายในแหวนของเจ้า " ฉาวจื่อหลาน ก็ยิ้มอย่างสนุก นางชอบแหวนสายโลหิตที่อยู่บนนิ้วชี้ของฉื่อหยาน " เจ้าอาจจะยังไม่รู้ จิตวิญญานต่อสู้ของข้านั้นสัมพัสได้ถึงพลังวิเศษทุกประเภท . อืม และนั่นก็อยู่ในแหวนของเจ้า ซึ่งเจ้าต้องรู้แน่นอนว่าข้าหมายถึงอะไร . . . . . . . "

ในแหวนนั้นมี เปลวเหมันเยือกแข็งและแกนเพลิงอยู่

ฉื่อหยาน สีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อเขามองไปที่ฉาวจื่อหลาน อีกครั้ง แววตาของเขาก็ตื่นตัวและดุร้ายมากขึ้น

หญิงสาวคนนี้สัมพัสได้ถึงเปลวเหมันเยือกแข็งและแกนเพลิงที่อยู่ในแหวนสายโลหิตของเขา จิตวิญญานต่อสู้ของนางคืออะไรกันแน่ ? ฉื่อหยาน แอบตะลึง เขากระตุ้นพลังงานเชิงลบของเขา ร่างกายของเขาเปิดใช้จิตวิญญานกายาแข็ง และโล่แสงทมิฬในเวลาเดียวกัน เขากระตุ้นพลังทั้งหมดของเขาออกมาเพื่อป้องกันและเตรียมที่จะรับมือกับพลังที่กำลังไหลเข้ามาช้า ซึ่งเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงพลังที่น่าหวาดหวั่นได้่แน่นอน

" เจ้าจะหนีไปไหนพ้น " ฉาวจื่อหลาน ดูเหมือนจะรู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการทำ นางหัวเราะและส่ายหัวของนาง " ตอนนี้ ต่อให้เป็นอย่างมู่ก็คงมิอาจช่วยเจ้าได้"

แล้วริบบิ้นที่มีสีสันก็ลอยออกมาจากแขนเสื้อของฉาวจื่อหลาน ริบบิ้นนี้เป็นเหมือนกับงูซึ่งมันเลื้อยไปมาในอากาศ และตามเส้นทางที่มันเลื้อยก็จะมีแสงสีรุ้งส่องออกมา

แสงสีรุ้งกลายเป็นเหมือนกับตาข่าย และยังสร้างเป็นม่านพลังขึ้นอีกชั้น ด้วยริบบิ้นที่เลื้อยไปมา พลังในม่านพลังดูเหมือนจะได้รับความซับซ้อนมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมากราวกับมันถูกสร้างด้วยพลังที่แตกต่างกันหลายประเภทซึ่งคล้ายกับหลุมแรงโน้มถ่วงของฉื่อหยาน

" บูม ! "

ดาบยักษ์ของหยางมู่ ก็ฟันลงบนเส้นแสง แสงสีรุ้งนั้นเป็ฯเหมือนกับเส้นไหมที่แข็งแกร่ง บางส่วนของแสงสีรุ้งขาดกระจายโดยดาบยักษ์ที่ฟันลงมา แต่อย่างไรก็ตามแสงสีรุ้งจากจุดอื่นก็รวมตัวกันอีกครั้งตรงจุดที่ดาบยักษ์ฟันขาด มันซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็ว

" หยางมู่ ถ้าเจ้าคิดจะทำลายตาข่ายสีรุ้งของข้าง่ายๆนั้น มันคงไม่ง่ายเสีนหลอก " ฉาวจื่อหลาน พูดอย่างสงบ นางโบกมือบางของนาง ริบบิ้นสายรุ้งก็ลอยไปมาอย่างรวดเร็ว และทักทอกันเป็นตาข่ายสีรุ้งมากขึ้น " หยางมู่ ทำไมเจ้าไม่ลองอีกสักหน่อยหละ ? ข้าคิดว่าถ้าเจ้าลองอีกสักนิด เจ้าอาจจะสามารถทำลายตาข่ายสีรุ้งของข้าได้ก็ได้ " .

" พี่ใหญ่ ! " หยางเค่อ คำรามออกมา " ตอนนี้เราต้องไปแล้ว ! "

" เสี่ยวหยาน ! " หยางมู่คำรามด้วยความโกรธ " เจ้าออกมาได้แล้ว ถ้าไม่ไปตอนนี้ มันคงยากที่จะไป . "

หยางมู่ยังรู้สึกว่าฉาวจื่อหลาน ได้ปิดกั้น ฉื่อหยานไว้แล้ว และเขารู้ว่า ฉื่อหยานนั้นถูกปิดกั้นอยู่ ดังนั้นเขาจึงรีบเข้ามาแทรกแซง โดยหวังว่าจะทำลายพลังที่น่าหวาดหวั่นซึ่งล้อมรอบฉื่อหยานได้ และให้ฉื่อหยานหลบหนีออกมา

หยางมู่ อยากช่วยฉื่อหยาน แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก นักรบมากมายจากตระกูลหยางหลายคนได้เข้าไปยังรูปแบบฝนอุกกาบาตแล้ว

ในขณะ ข้างนอกนั้นมีเพียงหยางมู่ หยางเค่อ และหลี่เฟิงเกอ เท่านั้น. ในเวลานี้ ถ้าพวกเขาไปพัวพันกับฝ่ายตรงข้ามหละก็ มันจะยากสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีไป

" พี่ใหญ่ ท่านไปก่อนเถอะ " ฉื่อหยาน คำราม " อย่าหลงกลกับดักของพวกเขา ท่านจะต้องมีโอกาสอีกมากมายแน่หากท่านหลบหนีเข้าไปข้างในได้ อย่าได้ทิ้งโอกาสนั้นเพียงเพราะข้าเลย "

" ความรักระหว่างพี่น้องนั้นแน่นแฟ้นเสียจริง”

เซี่ยกุย แสยะยิ้ม เขาจ้องมองไปที่หยางมู่ด้วยแววตาที่ชั่วร้ายและมืดมน " ถ้าเจ้าเป็นพี่น้องกัน ก็สมควรที่จะอยู่ด้วยกันและตายด้วยกัน หึ ! หยางมู่ ครั้งที่แล้วที่เกาะศิลาดำ เจ้าข้าสหายศิษย์น้องของข้า  สำหรับเจ้าเด็กนั่นแล้ว ในสายตาของคนจากตระกูลหยางเช่นเจ้า ชีวิตของเราคงไม่ได้มีค่าอะไรเลยสินะ และนี่ ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ของเราถึงได้ต่อสู้กับตระกูลของเจ้า และเราก็จะสังหารทุกคนที่เกี่ยวข้องกับพวกเจ้าโดยไม่ลังเล ! เวลานี้เจ้าเด็กนั้นกำลังพบเจอกับปัญหาอยู่ เจ้าสมควรช่วยเหลือเขาและตกตายไปพร้อมกับเขามิใช่รึ ? "

" พี่ใหญ่ ! " หยางเค่อตะโนออกมา

ขณะที่เซี่ยกุยกำลังพูด กลุ่มของเขาก็ล้อมไปที่หยางมู่แล้ว

กู่หลินหลง , เซี่ยกุย และพานโจว พวกเขาล้อมไปที่หยางมู่เป็นรูปแบบสามเหลี่ยมและเตรียมที่จะจัดการกับหยางมู่ ทั้งสามนั้นไม่ได้โจมตีโดยตรง แต่ พวกเขารวมพลังกันเพื่อสร้างเป็นการโจมตีที่รุนแรงอยู่ด้านหน้าทางเข้ารูปแบบฝนอุกกาบาต

หากหยางมู่ถอยหลังเข้าไปใกล้ เขาจะตกอยู่ในกับดักที่เต็มไปด้วยพลัง เซี่ยกุย และคนอื่นๆนั้นพยายามที่จะปิดกั้นทางหนีของหยางมู่ก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นเมื่อเขาตกอยู่ในวิกฤตแห่งความตาย เขาก็จะไม่สามารถหนีไปที่รูปแบบฝนอุกกาบาตได้

" ข้าจะไม่หนี ! "

หยางมู่ก็ผ่อนคลาย เขาเหลือบตามองไปที่เส้นแสงที่รวมตัวกันด้านหลังเขา และเขาก็พูดออกมาอย่างเยือกเย็นและมั่นใจ : " ถึงแม้ข้าจะหนีไม่ได้ ข้าก็จะลากพวกเจ้าไปกับข้า ! เซี่ยกุย หยุดหาข้อแก้ตัวชั่วๆของเจ้าได้แล้ว ดินแดนปีศาจมหัศจรรย์นั้นได้ทำลายสนธิสัญญานพันธมิตรระหว่างเรา และสมคบกับผู้คนจากทะเลอื่น เพื่อที่จะจัดการกับตระกูลหยางเรา เหตุผลก็คงมาจาก ความโลภของพวกเจ้าที่ต้องการทรัพยากรของตระกูลหยางของเรามิใช่รึ ? และนั่นก็คือเหตุผลที่พวกเขายึดครองพระราชวังตระกูลหยางในทะเลเคียร่ามิใช่เช่นนั้นรึ ? "

เซี่ยกุยพูดเยาะเย้ย " ตระกูลหยางของเจ้านั้นทำตัวหยิ่งพยองในทะเลเคียร่ามาเนินนาน เพราะธรรมชาติของตระกูลหยางเจ้าที่ชื่นชอบสงคราม ตระกูลของเจ้าจึงไม่มีมิตรสหายที่แท้จริง นักรบจากทะเลอื่นๆนั้น ได้รวมตัวกันขึ้นก็เพราะความคับแค้นใจที่มีต่อตระกูลหยางมาเนินนาน ด้วยหยางชิงตี้ที่ติดอยู่ในรูปแบบผนึกอสูรตอนนี้  มันจึงสมควรแล้วที่พวกเราจะทำเช่นนี้”

" หึ หยางมู่ เพราะเจ้าไม่หนีไปก็อย่าหวังว่าตอนนี้จะรอดไปแล้ว แล้วข้าเองก็จะไม่ยอมเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้วเหมือนกัน " ฉาวจื่อหลาน กดริมฝีปากของนางและยิ้ม นางจ้องไปที่ฉื่อหยาน " พี่ชายของเจ้าที่อยากจะปกป้องเจ้าตอนนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเจ้าแล้ว ดีใจเสียเถิดที่มีคนตายเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าจะได้ไม่โดดเดี่ยว หึ ! ถ้าหากเจ้าบอกวิธีการควบคุมแหวนของเจ้ามา ข้าก็จะให้เจ้าตายสยายๆ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บปวด .

" ยัยโง่ ตอนนี้เจ้าคิดว่าจัดการข้าได้แล้วรึไงกัน ? " ฉื่อหยาน หายใจเข้าลึกๆ สีหน้าของเขาของเขาก็เปลี่ยนเป็นดุร้าย

" เจ้าจะด่าว่าอะไรก็เชิญ เจ้าด่าว่าได้อีกแค่สองสามคำเท่านั้นก่อนที่เจ้าจะตาย แล้วข้าก็ไม่สนด้วย " ฉาวจื่อหลาน ยังคงใจเย็นอยู่ราวกับว่านางไม่สนใจคำก่นด่าของฉื่อหยาน มันไม่ทำให้นางเคลื่อนไหวใดๆหรือไม่สงผลกระทบใดๆต่อจิตใจนางเลย

" หยางเค่อ พวกเจ้าไปซะ " ภายใต้การล้อมของเซี่ยกุย และอีก 2 คน หยางมู่ก็คำราม " อย่าลืมแก้แค้นให้ข้าด้วย !"

" พี่ใหญ่ " หยางเค่อก็ยิ้ม เขาส่ายหน้า " เราพี่น้องล้วนอยู่ด้วยกันมาคลอด , ถ้าท่านอยู่ต่อ แล้วข้าจะทิ้งท่านไว้ที่นี่ได้อย่างไร ? มันก็แค่ความตายเท่านั้น ?มีหรือที่พวกเราตระกูลหยางจะกลัวความตาย !"

หลี่เฟิงเกอนั้นเท้าข้างหนึ่งได้ก้าวเข้าไปในรูปแบบฝนอุกกาบาตแล้ว แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้เข้าไป นางหยุดอยู่กับที่และดวงตาของนางก็ส่องประกายเย็นชาออกมา ขณะที่นางพูดอย่างเยือกเย็น " ทำอย่างกับข้ากลัวตายอย่างงั้นแหละ "

แล้ว หลี่เฟิงเกอก็ถอยหลังออกมาจากรูปแบบฝนอุกกาบาต และยืนอยู่ข้างๆ หยางเค่อ อีกครั้ง

" ฟืดด ฟืดด ! "

เสียงหอบหายใจหนักดังขึ้น จู่ๆก็จากภายในพื้นที่โล่ง ผู้บุกรุกที่เคยให้ความสนใจกับหยางมู่ หยางเค่อหยางและหลี่เฟิงเกออยู่ ก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะหันไปมองฉื่อหยาน เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงหอบ

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาของฉื่อหยานได้กลายเป็นสีแดงเพลิง สีหน้าของเขาบิดเบี้ยว และดุร้าย รุนแรง , บ้าคลั่ง , และเต็มไปด้วยความกระหายเลือดที่ทะลักออกมา ทำให้ผู้คนรอบๆรู้สึกอันตรายเป็นอย่างมาก

ดวงตาสีแดงของเขาเหมือนกับว่าจ้องมองลึกเข้าไปในจิตใจได้ เหมือนกับภูติผีที่จากความก้นลึกของนรกที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย

บ้าคลั่ง นภาที่สอง ! !

" เสี่ยวหยาน ! " หน้าของหยางมู่ ก็เปลี่ยนไป เขาร้องอุทานออกมา : " เกิดอะไรขึ้น ? "

" ข้าสบายดี รู้สึกดีเสียด้วยซ้ำ ! "

ฉื่อหยานขบฟันของเขา เขาคำรามออกมาด้วยเสียงต่ำ พลังเชิงลบที่แตกต่างกันจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วทุกทิศทางโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง

พลังที่น่าหวาดหวั่นที่มาจากฉาวจื่อหลาน ก็ถูกซัดกระเด็นห่างออกไปกว่าสิบเมตรด้วยคลื่นพลังที่น่ากลัวซึ่งมาจากพลังงานเชิงลบเหล่านี้

มวลของความคิดที่เต็มไปด้วยจิตสังหารถูกกระตุ้นขึ้นมาจากส่วนลึกในหัวใจของเขา

เวลานี้ ฉื่อหยานได้อยู่ในสภาวะบ้าคลั่งในนภาที่สอง อารมณ์เชิงลบที่แตกต่างกันได้เริ่มแล่นไปทั่วความคิดของเขา มันอัดแน่นอยู่ในจิตใจของเขาก่อตัวขึ้นเป็นพายุอยู่ในจิตใจ และกระจายออกไปยังนักรบคนอื่นที่อยู่รอบๆ

พายุจิตวิญญานที่เกิดขึ้นจากอารมณ์เชิงลบที่แตกต่างกัน เต็มไปด้วยอำนาจความชั่วร้ายที่สามารถปกคลุมจิตใจของผู้คนให้ตกอยู่ในความบ้าคลั่ง

ไม่ว่าพายุจิตวิญญาณจะพัดผ่านไปที่นักรบระดับปฐพีคนไหน ก็ดูเหมือนว่านักรบจะสูญเสียสติไปทันที

ด้วยความกระหายเลือดที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาในจิตใจของเขา ช่วยไม่ได้ที่นักรบคนนั้นจะยกอาวุธขึ้นมาและโจมตีไปยังนักรบที่อยู่ข้างๆ

" วิชานี่อีกแล้วงั้นรึ ! " ใบหน้าหล่อของพานโจวแสดงออกมาด้วยความกลัว " ระวังให้ดี อย่าได้รับผลกระทบจากพลังชั่วร้ายของมันเด็ดขาด "

ในที่สุดของพลังงานเชิงลบที่ถูกระตุ้นขึ้นมาก็รวมตัวกันอยู่รอบร่างกายของฉื่อหยาน

วิชาบ้าคลั่ง ในนภาที่สองนั้น ทำให้เขาพลังของนักรบในระดับหายนะของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า  !

สีหน้าของฉื่อหยาน นั้นดุร้ายเป็นอย่างมาก เหมือนกับวิญญาณชั่วร้าย เขาใช้พลังลบที่เขากระตุ้นขึ้นมากระจายออกมาและห่อหุ้มร่างของเขาไว้ และเขาก็เดินไปที่ฉาวจื่อหลานทีละก้าว .

" มิน่าหล่ะ ทำไมพานโจวและคนอื่นๆ ถึงได้แพ้ให้กับเจ้า "

ฉาวจื่อหลาน เผยสีหน้าจริงจังเป็นครั้งแรก แววตาที่สดใสของนางส่องประกายลึกลับออกมา " นักรบระดับหายนะสามารถมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้ ฉื่อหยาน เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆดูเหมือนว่า ก่อนหน้านี้ข้าจะประเมินเจ้าต่ำไป จริงๆแล้วเจ้านั้นไม่เคยใช่พลังที่แท้จริงของเจ้าเลยสินะ จนถึงตอนนี้ "

" เขาแข็งแกร่งกว่าตอนที่สู้กับเรานัก ! " กู่หลินหลง ใบหน้าที่งดงามก็เปลี่ยนไป นางมองฉื่อหยานด้วยความตกตะลึง และช่วยไม่ได้ที่จะอุทานออกมา .

ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ฉื่อหยานนั้นอยู่ในนภาที่สองของระดัยหายนะ และเขาก็ใช้บ้าคลั่งเพียงนภาแรกเท่านั้น

ตอนนี้ ฉื่อหยานนั้นได้อยู่จุดสูงสุดของระดับหายนะแล้ว, พร้อมกับใช้บ้าคลั่งในนภาที่สอง บรรยากาศรอบๆตัวเขา เปลี่ยนไปจากตอนที่นางต่อสู้กับเขาครั้งล่าสุดอย่างสิ้นเชิง

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1329 แล้วนะคะ มี 29 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

ด่วน!! ตอนนี้มีโปรโมชั่น ปกติเข้า 7 กลุ่ม ราคา 700 บาท ตอนนี้ลดเหลือ 500 บาทเท่านั้น รีบๆ มาใช้โปรกันนะคะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด