ตอนที่แล้วบทที่ 222 กลายเป็นที่รู้จัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 224 ฝนอุกกาบาต

บทที่ 223 หุบเหวแห่งสนามรบ


บทที่ 223 หุบเหวแห่งสนามรบ

สถานที่โบราณถูกทิ้งให้รกร้าง ท้องฟ้าสีเทาปกคลุมไม่มีแสงจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ธรรมชาติโดยรอบแห้งแล้ง

ประตูสวรรค์ลอยตัวอยู่บนยอดเขาที่มีลักษณะราบเหมือนกระจกสะท้อนเงา

ฉื่อหยานยืนอยู่บนยอดเขานั้นขณะที่มองไปรอบๆ เขาพบว่าบรรยากาศรอบตัวของเขา ถูกปกคลุมด้วยเมฆสีเทา จิตสำนึกของเขาถูกปิดกั้นโดยเมฆสีเทา และมันเป็นเรื่องยากมากที่จะสัมพัสได้ถึงสถานที่ที่อยู่ไกลออกไป

เมื่อมองไกลออกไปข้างหน้า จะเห็นหลุมอุกกาบาตลึกขนาดใหญ่มหึมา

แม่น้ำทั้งสายเหือดแห้ง ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิต สถานที่แห่งนี้ช่างเป็นดินแดนดูแห้งแล้ง ไร้ชีวิตชีวา

“ที่นี่แหละ หุบเหวแห่งสนามรบ” หลี่เฟิงเกอพูดพร้อมกับถอนหายใจ "ไร้ซึ่งแสงจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ธรรมชาติอันแห้งแล้งนี้ไม่เหมาะสำหรับฝึกฝนของเหล่านักรบ ในสมัยโบราณสถานที่แห่งนี้เป็นสนามรบ นักรบโบราณที่ทรงอำนาจและเก่งกาจหลายคนเคยอยู่ที่นี่ พวกเขาทิ้งสมบัติลึกลับไว้ที่นี้จำนวนมาก และมีวิชาอาคมมากมายในหุบเหวแห่งสนามรบนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะหาสมบัติเหล่านั้นพบ”

“ตั้งแต่ช่วงเวลาที่มีการสู้รบขึ้น นักรบจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุดมากมายถูกฝังอยู่ที่นี่ มันทำให้นักรบจำนวนมากที่มาที่นี่เพื่อค้นหาสมบัติเหล่านั้น เก้าในสิบคนไม่สามารถกลับออกมาจากที่นี่ได้ เวลานี้การเดินทางของเราเพื่อมาที่หุบเหวแห่งสนามรบนี้ ไม่ได้มาเพื่อจะหาสมบัติ แต่เพื่อการอยู่รอด”หยางมู่พูดอย่างผ่าเผย

"ข้าเคยมาที่นี่ ดังนั้นข้าจะพาพวกเจ้าไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ลองมองไปที่ทิศทางนั้นสิเมฆสีเทาหนาทึบ ที่นั่นมีพระราชวังเก่าอยู่ ภายในพระราชวังมีกับดักที่ถูกปลดไปแล้ว

พวกเราสามารถอยู่ที่นั้นได้“  หลี่เฟิงเก้อชี้ไปทิศดังกล่าวอย่างแผวเบาว่า”ตามข้ามา อย่างน้อยก็ไม่มีอันตรายใดๆก่อนที่เราจะไปถึงที่นั้น"

หยางมู่พยักหน้าตอบรับ “ใช่ เราจะจงใจทิ้งร่องรอยเอาไว้ระหว่างทาง เพื่อให้เจ้าพวกที่ต้องการฆ่าเรา รู้ทิศทางของเรา”

“ไม่มีปัญหา” หลี่เฟิงเกอหัวเราะพร้อมกับเหลือบมองไปที่ฉื่อหยาน “ฉื่อหยานเจ้าเป็นคนเถรตรง ในที่แห่งนี้ อืมมมมม เจ้าควรจะเชื่อฟังคำกล่าวของลุงเจียงดีกว่า ลุงเจียงมีความชำนาญในเรื่องการกำจัดอุปสรรคและกับดัก รู้เส้นทางบางสายเพื่อให้เจ้าสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้”

ฉื่อหยานหยักหน้าช้าๆอย่างไม่สนใจ

"เสี่ยวหยาน  นี่คือแหวนเวทมนต์ในนั้นมีทั้งอาหาร,น้ำ,เเละเม็ดยาฟื้นฟูที่สามารถช่วยให้เจ้าฟื้นฟูพลังปราณลึกลับได้อย่างรวดเร็ว" หยางมู่ ส่งวงแหวนสีเขียว "ภายในหุบเหวแห่งสนามรบ เป็นสถานที่แห้งแร้งยากที่จะหาอาหารและน้ำ กลิ่นอายธรรมชาติภายในที่นี้เองก็บางเบาเป็นอย่างมาก หากเจ้าสูญเสียพลังปราณลึกลับมากเกินไป มันก็จะเป็นเรื่องยากมากที่เจ้าจะฟื้นคืนมันกลับมา มีเม็ดยาฟื้นฟูอบู่หนึ่งร้อยเม็ด ด้วยเม็ดยาฟื้นฟูเหล่านี้มันจะช่วยให้เจ้าฟื้นฟูพลังได้อย่างรวดเร็วหลังจากต่อสู้”

ฉื่อหยานรับแหวนเวทมนต์มา และเมื่อเขามองไปข้างในนั้น เขาค้นพบว่า ภายในแหวนนั้นมี อีกมิติหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ และมีบ้านหลังใหญ่อยู่ข้างใน ภายในนั้นมีอาหาร น้ำและเม็ดยาฟื้นฟู อยู่ข้างใน

"แหวนเวทมนต์สามารถจัดเก็บสิ่งของได้ และแหวนวงนี้มีมูลค่าเท่ากับผลึกล้ำลึกสูงสุดในทะเลไม่มีสิ้นสุด  และมีเพียงเเค่นักหลอมอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ เท่านั้นที่สามารถหลอมมันขึ้นมาได้ ดังนั้นจงอย่าทำหายละ"  หยางมู่ ยิ้ม

ฉื่อหยาน พยักหน้า

" และนอกจากนี้ ยังมีหินสื่อสาร การใช้งานหินนั้นง่ายมาก เพียงแค่เจ้าถ่ายทอดพลังปราณลึกลับของเจ้าเข้าไปแล้วพูดใส่มันแล้วเรก็จะได้ยินสิ่งที่เจ้าต้องการที่จะพูดจากในหินสื่อสาร“หยางมู่ได้อธิบาย อย่างต่อเนื่อง”ภายในหุบเหวแห่งสนามรบ มีข้อจำกัดที่แปลกประหลาดมากมาย หากเราไม่ระมัดระวัง เราอาจจะถูกแยกออกจากกันได้ หินสื่อสารนี้มีไว้เพื่อให้เราติดต่อกันถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เรายังสามารถติดต่อสื่อสารกันได้"

"เข้าใจแล้ว" เขาคว้าหินมาและส่งพลังปราณลึกลับเข้าไปในนั้นหินสื่อสาร หินสื่อสารก็ได้ส่องประกายแสงสีขาวออกมาทันที และเหมือนว่าจะมีเสียงออกมาจกข้างในหินสื่อสาร

"ฉื่อหยาน เจ้าคนโรคจิต! ”

เสียงอันไพเราะและหนักแน่นดังออกมาจากหิน เสียงนี้ชัดเจนว่าคือเสียงของหลีเฟิงเกอ ที่อยู่ด้านหน้า ทำให้ ฉื่อหยาน  ประหลาดใจ

"ฮี่ ฮี่ มันเป็นน่าสนใจใช่มั้ยล่ะ?"หลีเฟิงเกอที่ยืนอยู่ห่างกว่าร้อยเมตร ส่งยิ้มมาให้ นางยังได้ถือหินสื่อสารและโบกไปยังทางฉื่อหยาน

ฉื่อหยาน ส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดว่า: "ครั้งหน้าอย่าได้ตะโกนเสียงดังอีก ข้าเป็นคนขี้ตกใจ"

"ไปกันเถอะ พวกเราจะตามเฟิงเกอไปก่อน เมื่อเราไปถึงพระราชวังนั้นเราก็จะปลอดภัยทันที" หยางมู่ยิ้มและคิดสักครู่ เขาใช้มือของเขาเขียนเป็นสัญลักษณ์เพื่อบ่งบอกแก่คนที่ตามเขามา ,“เราจะไปทางนี้กัน ถ้าเจ้ากล้าก็ตามมา……… จาก หยางมู่”

ฉื่อหยาน มองไปที่เส้นทางที่นั้นและไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจของเขาหวังไว้จริงๆว่ากู่หลินหลงและคนอื่นๆจะไล่ตามเขามา

เขารู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องมีความเข้าใจบางอย่างมากกว่านี้เสีย ก่อนเขาจึงจะสามารถบรรลุเข้าสู่ระดับปฐพีได้ได้ ในมุมมองของเขา "กู่หลินหลง, พานโจว และคนอื่น ๆ เป็นเหมือนกับยาที่ล้ำค่าซึ่งทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นและยังเป็นเหมือนก้อนหินที่ลับตัวเขาให้แหลมคมขึ้น  ผ่านคนเหล่านี้บางทีเขาอาจจะสามารถเข้าใจและบรรลุเข้าสู่ระดับปฐพีได้

เขานั้นไม่กลัวนักรบคนใดหรือกลัวการไล่ล่าของกู่หลินหลงและคนอื่นๆเลย เขากลับตื่นเต้นที่จะต่อสู้กับคนเหล่านั้นแทน

หลี่เฟิงเก้อ กลายเป็นผู้นำและนำกลุ่มนักรบที่อยู่ยอดเขามุ่งหน้าไปยังทิศทางที่มีเมฆสีเทาหนา หยางมู่, หยางเค่อ และ หยางซู่ และ ฉื่อหยาน คอยรั้งท้ายเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ในไม่ช้าได้กลุ่มนักรบทีละกลุ่มก็ได้ลงมาจากยอดเขา และเขาก็มองกลับไปที่ประตูสวรรค์ที่อยู่ในที่ยอดเขาแล้วฉื่อหยาน ก็ได้กล่าวว่า "ถ้าพวกเราจำเป็นต้องกลับไปเราต้องย้อนกลับมาที่นี่รึ?"

"ใช่ ประตูสวรรค์ในนี่มีความสว่างเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงสามารถมองเห็นประตูสวรรค์ได้จากที่ห่างไกลอย่างชัดเจน ภายในหุบเหวแห่งสนามรบ ไม่มีดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดาวใดๆเลยสักดวง ดังนั้นแสงจากประตูสวรรค์นี้ เป็นแสงที่นำทางของเรา ปกติเราสามารถมองเห็นแสงภายในรัศมีร้อยเมตรได้ ถ้าเราจำทิศทางได้ก็ไม่ยากเกินไป "หลี่เฟิงเก้อ ได้หยุดและอธิบายกับฝูงชน

ฉื่อหยาน ได้ พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็ได้ตามหลังหลีเฟิงเกอไปอย่างเงียบ ๆ เขาส่งจิตสำนึกเข้าไปในแหวนสายโลหิต  และแสดงความรู้สึกเป็นมิตรและอ่อนโยนไปที่แกนเพลิง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแกนเพลิง

ในช่วงเวลาที่เขาต่อสู้กับ กู่หลินหลง ถ้าแกนเพลิง ไม่ได้ปลดปล่อยพลังไฟออกมาโดยทันทีเขาก็คงจะไม่สามารถกำจัดพลังของดาบทั้งเจ็ดที่เข้ามาในร่างของเขาได้ ด้วยความช่วยเหลือจาก แกนเพลิง ในช่วงเวลาที่วิกฤติจริงๆ ทำให้เขารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากมากและความรู้สึกดีๆที่เขามีต่อแกนเพลิงก็มากขึ้นเช่นกัน

ภายในแหวนสายโลหิต หลังจากได้หยอกเล่นกับแกนเพลิง, ฉื่อหยาน  ก็รู้สึกได้ถึงความสุขที่ออกมาจาก แกนเพลิง

การรู้สึกถึงของการมาของฉื่อหยาน แกนเพลิง มีความสุขมากมันได้ใช้จิตสำนึกของมันในการพัวพันกับจิตสำนึกของ ฉื่อหยาน และกอดรัดเขาไว้แน่นเหมือนกับกับเด็กที่ดีใจเมื่อได้เมื่อได้เห็นพ่อแม่ของพวกเขากลับมา

ประกายแสงส่องออกมาจากวิญญานของแกรเพลิง ฉื่อหยาน เห็นได้ชัดว่าวิญญาณของ แกนเพลิง ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงไปดูเหมือนว่ามันจะมีสติปัญญาและความฉลาดมากขึ้น และมีพลังเพิ่มมากขึ้น

ราวกับว่าอีกไม่นานนี้ในอนาคตวิวัฒนาการเป็นเปลวไฟนภาของ มันจะเสร็จสมบูรณ์และมันจะสามารถสร้างจิตสำนึกได้อย่างสมบูรณ์

การวิวัฒนาการของ แกนเพลิง นั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายตราบเท่าที่รูปแบบชีวิตของมันก่อตัวขึ้น แกนเพลิงก็จะสามารถเรียกได้ว่าเป็น เปลวไฟนภา ที่มีความสามารถที่ทรงพลังมากขึ้นและมีสติปัญญามากขึ้น

หลังจากที่หยอกล้อกับแกนเพลิง ฉื่อหยานก็ดึงจิตสำนึกของเขากลับมาและพูดคุยกับ เปลวเหมันเยือกแข็ง  ว่า "ข้ามาถึงยัง หุบเหวแห่งสนามรบ แล้ว"

"อะไรนะ หุบเหวแห่งสนามรบ?" เปลวเหมันเยือกแข็ง ตอบทันที "เจ้าเข้ามาทำอะไรที่นี่? ที่นี่เป็นสถานที่ที่อันตรายมาก ด้วยการฝึกฝนในยุคปัจจุบันของเจ้า เจ้าจะต้องตายในหุบเหวแห่งสนามรบ แน่นอน ภายใน หุบเหวแห่งสนามรบ , กลิ่นอายธรรมชาตินั้นบางเบาเป็นอย่างมาก และยังไม่เหมาะแก่การฝึกฝนของเจ้าด้วย แล้วทำไมเจ้าถึงได้มาที่นี่กัน?

"ไม่จริง " เปลวเหมันเยือกแข็งคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง "ข้าไม่เคยมาที่นี่ก่อนเลย ดังนั้นข้าจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหุบเหวแห่งสนามรบมากนัก แต่ข้าก็พอมีความทรงจำของคนที่เคยมายังหุบเหวแห่งสนามรบอยู่น้อยนิด ความทรงจำในส่วนลึกสุดของหุบเหวแห่งสนามรบ ข้าก็ได้มาจากนักรบในระดับพระเจ้า เขานั้นได้ติดกับดักและถูกผนึกเป็นเวลาสามร้อยปี เขาเกือบจะตายอยู่ที่นั่น หลังจากที่เขาออกมาจากผนึกได้ เขาก็จากหุบเหวแห่งสนามรบไปทันทีโดยไม่ได้รับสิ่งใดจากที่นี่เลย ดังนั้น ข้าจึงรู้จักสถานที่แห่งนี้น้อยเป็นอย่างมาก "

"เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว" ฉื่อหยาน พยักหน้า "ที่ข้ามา ก็เพราะว่าอาจจะมีเปลวไฟนภาอีกตนอยู่ที่นี่ ถ้าเจ้าสัมพัสถึงมันได้ อย่าได้ลืมบอกข้าทันที"

"เปลวไฟนภาอีกตนรึ ?" เปลวเหมันเยือกแข็งก็ตื่นเต้นเล็กน้อย "ระดับเช่นข้าด้วย น่าสนใจจริงๆ เวลานี้ข้าจะได้พบกับตัวตนระดับเดียวกับข้าแล้วสินะ หวังว่าข้าจะได้พบกับมันที่นี่นะ"

"เจ้าอยากที่จะพบกับมันงั้นรึ?"

"แน่นอน องค์ประกอบของมันอาจเหมือนกับข้าและเราก็อาจจะสามารถพัฒนาไปพร้อมกันได้ อืม แต่นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่มันจะกินข้าเช่นกัน  เปลวไฟนภาส่วนมากเราจะสามารถกินกันเองได้ เมื่อถูกลืนกินอย่างสมบูรณ์ ผู้ที่ชนะจะได้รับพลังมากขึ้นและมีสติปัญญามากขึ้น "

"พลังของเจ้านั้นถูกผนึกอยู่โดยแหวนสายโลหิต  ดังนั้นถ้าเราได้บังเอิญไปเจอ เปลวไฟนภาอีกตน เจ้าจะต้องแย่แน่นอน"

"นั่นก็ใช่ แต้ถ้ามันกล้าที่จะเข้ามาในแหวนสายโลหิต มันอาจจะถูกผนึกโดยแหวนสายโลหิตก็ได้  แหวนของเจ้านี่ช่างลึกลับเสียจริง มันสามารถผนึกสิ่งมีชีวิตเช่นเราได้ มันผนึกข้าได้ ดังนั้น เปลวไฟนภาตนอื่นก็คงไม่รอดเหมือนข้าแน่นอน "

ฉื่อหยานก็ตกใจ

ตอนนั้นเอง ประตูสวรรค์ใน  หุบเหวแห่งสนามรบก็ได้เกิดประกายแสงขึ้น

พานโจว, ฉาวจื่อหลาน, กู่หลินหลง ,เซี่ยกุ่ย และนักรบระดับปฐพีอีกนับร้อยก็ ได้ทยอยเดินออกมาจากประตูสวรรค์ทีละคนทีละคน

"ลองเงยขึ้นไปดูท้องฟ้าสีเทานั่นสิ" พานโจว มองอย่างจริงจังตะได้โกนเบาๆว่า : "ในที่สุดเราก็มาถึง"

“เราจะมุ่งหน้าไปทางนี้กัน ตามมาถ้าเจ้ากล้าพอ…..หยางมู่”เซี่ยกุ่ย สีหน้าบูดบึ้งเมื่อได้อ่านข้อความที่เขียนอยู่บนพื้น เขาหัวเราะเยาะ “ดูเหมือนว่าพวกนั้นกำลังแสวงหาความตายกันอยู่นะ พวกนั้นกล้าที่จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ ตระกูลหยางนี่ช่างหยิ่งพยองจริงๆ”

“เยี่ยมเลย” กู่หลินหลงพูดพร้อมกัดฟันของนาง “ดูเหมือนว่าเราจะไม่ต้องตามหาพวกนั้นเเล้วละ สัตว์อสูรพวกนั้นไม่สามารถเข้ามาข้างในของหุบเหวแห่งสนามรบได้ ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่า ตระกูลหยางจะสามารถหลบหนีพวกเราไปได้อย่างไร”

" ดังนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องไปกลัวหยางมู่กับพวกของมัน ตราบใดก็ตามที่พวกเราไล่ตามหลังพวกมันทัน เท่านี้พวกมันก็ไม่สามารถหลบหนีได้เราไปได้แน่นอน“  พานโจวได้กล่าวเรียกขวัญกำลังใจให้ทุกคน” แต่ภายในหุบเหวแห่งสนามรบมีอุปสรรคและกับดักมากมายที่เป็นอันตราย ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนต้องระมัดระวังไว้ให้มาก และอย่าได้ติดกับดักเด็ดขาด   "

"ตราบเท่าที่พวกเจ้าติดตามข้ามา ข้ารับประกันความปลอดภัยของพวกเจ้าได้อย่างแน่นอน" ฉาวจื่อหลาน  ยิ้มแบบไม่เยแส "จิตวิญญานต่อสู้ ของข้ามีความได้เปรียบมากที่สุดในหุบเหวแห่งสนามรบไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคใดๆก็ตาม อุปสรรคและกับดักต่างๆนั้นจำเป็นจะต้องมีแหล่งพลัง ดังนั้นด้วยจิตวิญญานของข้า ข้าสามารถรู้ตำแหน่งของอุปสรรคและกับดักเหล่านั้นได้ หากตามข้ามา มั่นใจได้เลยว่าพวกเจ้าจะไม่ติดกับดักหรือหลงอยู่ในอุปสรรคเหล่านั้นแน่นอน "

หลังจากที่นางได้กล่าว เหล่านักรบทุกคนรู้สึกโล่งใจ

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1329 แล้วนะคะ มี 29 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

ด่วน!! ตอนนี้มีโปรโมชั่น ปกติเข้า 7 กลุ่ม ราคา 700 บาท ตอนนี้ลดเหลือ 500 บาทเท่านั้น รีบๆ มาใช้โปรกันนะคะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด