ตอนที่แล้วบทที่ 66 วิชาสัตว์อสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 68 พวกกเฬวราก

บทที่ 67 ชายผู้บ้าคลั่ง


ตอนนี้เจียงอี้ไม่พอใจมากที่สองคนนั้นฉกป้ายไปแล้วและพร้อมที่จะมุ่งหน้าสู่ผาหิน พวกเขาไม่แม้แต่จะมองเจียงอี้ ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

“เฮ้ พวกเจ้าสองคนตั้งใจจะออกจากที่นี่ไปเช่นนี้รึ?” เจียงอี้ถอนหายใจออกมาและระงับความโกรธของเขาในขณะที่เขาถาม

พวกเขาทั้งสองหยุดและมองไปที่เจียงอี้ในขณะที่ล้อเลียนเขาว่า “ทำไม? เจ้าจะให้พวกเราอยู่ที่นี่รึไง?”

พวกเขาสองคนดูเหมือนว่าพวกเขาจะแก่กว่าเจียงอี้ หนึ่งในนั้นเป็นชายสูงและอีกคนดูเตี้ย แต่พวกเขาทั้งคู่แต่งตัวมีภูมิฐาน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้มาจากตระกูลสามัญและพวกเขาทั้งคู่อยู่ขั้นที่เจ็ดของขอบเขตฉูติ่งซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่สนใจเจียงอี้

เจียงอี้ยักไหล่และตอบอย่างใจเย็น “ให้พวกเจ้าอยู่? ข้าคงไม่มีความสามารถในการทำเช่นนั้นหรอก แต่ป้ายนั่นเป็นของข้า ถูกหรือไม่? มันจะดีจริงๆหรือที่พวกเจ้าจะฉกฉวยเช่นนี้?”

“ฮึ่ม!”

เด็กหนุ่มร่างเตี้ยตะโกนว่า "ทำไมมันจึงเป็นของเจ้า? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์อสูรหรือ? หากไม่ใช่เพราะพวกเราแล้ว เจ้าจะสามารถฆ่าสัตว์อสูรได้หรือ? บ้าน่า! อย่าพูดจาไร้สาระอีกต่อไป ข้าจะทำลายเจ้าซะ!"

"เช่นนั้นก็ดี"

เจียงอี้หัวเราะจากความโกรธสุดขีด การแสดงออกของเขาเย็นชาลงและเขากล่าวว่า "เนื่องจากพวกเจ้าเป็นคนกดขี่ ข้าคงทำได้เพียงยกความคับข้องใจของข้าให้กับตัวแทน หึหึ ข้าเพิ่งเห็นตัวแทนลาดตระเวนอยู่แถวนั้น แม้ว่าข้าจะต้องถอนตัวจากการชำระโลหิต ข้าจะลากพวกเจ้าทั้งคู่ไปกับข้าด้วยแล้วกัน"

ในขณะที่เขากล่าวเสร็จ ความอดทนของเจียงอี้ก็หมดลง เมื่อเขาหันมา การแสดงออกของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของจิตสังหาร แก่นแท้พลังกำลังหมุนรอบดาบสั้นในมือของเขาด้วยเช่นกัน เขาพร้อมที่จะโจมตีตลอดเวลา

ตอนนี้แหละ!

การแสดงออกของรุ่นเยาว์ทั้งสองเปลี่ยนไปทันทีที่พวกเขาจ้องมองเจียงอี้ก่อนที่จะปะทะเข้าหาเขา ชายหนุ่มที่เตี้ยกว่ากว่าตะโกนขณะที่เขาวิ่ง "ไอ้เด็กเหลือขอ เป็นเพราะเจ้าโง่เขลา ดังนั้นนายน้อยผู้นี้จะช่วยพ่อแม่ของเจ้าสั่งสอนเจ้าแทนเอง ข้าจะทำให้เจ้าเข้าใจว่าคนฉลาดจะยอมจำนนต่อสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร"

"หวด!"

ร่างสองร่างดิ่งตรงมาเหมือนพายุที่มีความรุนแรง แต่ละคนพุ่งเข้ามาที่ไหล่ซ้ายและขวาของเจียงอี้ด้วยดาบยาวสีขาวที่เปล่งประกาย เห็นได้ชัดว่าดาบเหล่านี้มีระดับเดียวกันกับดาบสั้นสีนวล

ปลาติดเบ็ดแล้ว!

เจียงอี้ยิ้มกว้างด้วยแววตาที่เปล่งประกาย เมื่อดาบยาวพุ่งหาเขา เท้าของเขาก็ลื่นและโค่นตัวล้มไปข้างหน้าเหมือนสะดุดเนื่องจากความตื่นตระหนก รอยยิ้มเยาะเย้ยบนหน้าเด็กสองคนนั้นเลวร้ายลงทันที แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เหมาะที่จะโจมตี ยังไงเสียเจียงอี้ก็กำลังร่วงลงไปและพวกเขาอาจฆ่าเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

"ปัง!"

ขณะที่ร่างกายของเจียงอี้กำลังจะล้มลงกับพื้น เขาใช้มือข้างเดียวผลักตัวเองจากพื้นและหมุนไปรอบๆอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หยิบก้อนหินมากมายและเขวี้ยงมันออกมาเหมือนใบมีด เจียงอี้ตะโกนออกมาพร้อมแผ่จิตสังหาร "จงระวังอาวุธพิษลอบสังหารของข้า!"

“อ๊ะ?”

เป็นไปตามความคาดหวังของเจียงอี้ การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเห็นเงาดำจำนวนมากพุ่งเข้าหาพวกเขา พวกเขาสองคนไม่ได้สนใจว่ามันคืออะไรและเริ่มที่จะควงดาบของพวกเขาขึ้นมาปัดโดยสัญชาตญาณเพื่อปกป้องร่างกายของพวกเขา

ร่างกายของเจียงอี้เคลื่อนไหวและพุ่งตรงไปที่พวกเขา เขาอยู่ห่างจากพวกนั้นประมาณสามเมตร จากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดมายา หมัดขวาของเขากลายเป็นสามหมัดและดาบสั้นของเขากลายเป็นดาบสั้นสามเล่ม เขาผลักดาบทั้งสามไปที่คนที่สูงกว่าทางซ้ายและเป้าหมายของเขาคือหัว หัวใจและเป้าของคู่ต่อสู้

"แกร๊ง แกร๊ง!"

ขณะที่ผู้ที่สูงกว่าพยายามปัดหินเหล่านั้น ดาบสั้นของเจียงอี้ก็เข้ามาประชิดเขาแล้ว เมื่อเขาเห็นดาบสั้นทั้งสามที่พุ่งมาที่เขา ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันที หากมีดาบเล่มใดเล่มหนึ่งแทงเข้าไปในร่างกายของเขา ความตายคงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่รอเขาอยู่

เขาไม่สามารถหยุดดาบยาวของเขาได้ในขณะนี้ เนื่องจากเขายังคงกวัดแกว่งดาบเพื่อป้องกันร่างกายของเขาในขณะที่ถอยกลับลุกลี้ลุกลน ตราบใดที่เขาสามารถหลบหลีกและทนต่อการโจมตีของการโจมตีระลอกนี้ได้ เจียงอี้ก็จะพ่ายแพ้ต่อการโจมตีจากพวกเขา

"หึ!"

เมื่อเห็นเพื่อนของเขาตกอยู่ในอันตราย ผู้ที่เตี้ยกว่าก็รีบชักดาบของเขาทันทีซึ่งมองเหมือนมังกรพิโรธไปที่เจียงอี้ ในขณะที่เขาเป็นกังวล เขาไม่ทันได้สังเกตเห็นรอยยิ้มเยือกเย็นบนปากของเจียงอี้เนื่องจากเจียงอี้มองดูพวกเขาจากด้านข้าง

"หวด!"

หมัดทั้งสามของเจียงอี้หายไปพร้อมกับดาบสั้นทั้งสามเล่ม ร่างของเขาซึ่งควรจะพุ่งไปข้างหน้าก็หยุดกระทันหันในทันใดและเขาก็ล้มลงและกวัดแกว่งดาบสั้นขึ้นไปป้องกันดาบยาวของชายร่างเตี้ย ขาของเขาทำท่าเหมือนแส้เหล็ก และกวาดไปที่ขาของชายร่างเตี้ยผู้นั้น

"ปัง!"

เจียงอี้เปลี่ยนท่าทีของเขาโดยไม่ลังเล ชายร่างเตี้ยไม่ทันได้คาดคิดว่าขาของเขาจะเจ็บปวดและร่างกายของเขาล้มลง ก่อนที่เขาจะมีเวลากรีดร้อง ขาของเจียงอี้ก็ส่งเสียงเตะที่ดังอึกทึก ทำให้อาวุธดาบยาวในมือของเขาหลุดไปอย่างง่ายดาย จากนั้นเจียงอี้ก็เหยียบไปที่หน้าอกอย่างรุนแรง และชี้ดาบสั้นที่ส่องสว่างไปที่ใบหน้าของเขา

“ฮะ...”

ในช่วงพริบตาเดียว!

การประลองนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่พริบตา เมื่อชายร่างสูงผู้นั้นหยุดยั้ง ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจียงอี้ที่อยู่ในขั้นที่ห้าของขอบเขตฉูติ่งสามารถคว่ำสหายของเขาได้อย่างง่ายดาย

ในมุมมองของเขา เจียงอี้ไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ใช้อุบายมากมายในช่วงเวลาสั้นๆนี้ได้ เริ่มแรก เขายั่วยุพวกเขาสองคน จากนั้นเขาก็ทำท่าราวกับว่าเขาล้ม เขาใช้หินเป็นเหมือนอาวุธที่ซ่อนอยู่เพื่อทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพหวาดกลัวและท้ายที่สุดก็จับทางการโจมตีที่แท้จริงของเขาไม่ได้

ชายสองคนนี้ได้เจอสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่นั่นก็เกิดจากการคำนวณของเจียงอี้ ด้วยปฏิกิริยาที่บ้าคลั่งของเจียงอี้ พวกเขาทั้งสองจะไม่พ่ายแพ้ได้อย่างไร? เจียงอี้ไม่ต้องการที่จะสูญเสียแก่นแท้พลังของเขา ถ้าไม่เช่นนั้น เขาคงจะทำให้คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและคว่ำอีกคนหนึ่งลงได้

เจียงอี้เมินเฉยต่อชายร่างสูงที่ยังคงอยู่ในความงุนงง เขาส่งสายตาเย็นยะเยือกไปที่ผู้ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าและพูดอย่างเฉยเมย “คนฉลาดจะยอมจำนนต่อสถานการณ์? ข้าสงสัยว่าหากเจ้าเป็นคนฉลาดพอ เจ้าคงรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ใช่ไหม?”

"ฮึ่ม!"

ชายร่างเตี้ยดูเหมือนจะไม่ยอมจำนน เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หน้าอกของเขา เขาไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องมองเจียงอี้อย่างชั่วร้ายและคำราม “เจ้าเด็กเหลือขอ ฆ่าข้าสิหากเจ้ากล้า”

"หวด!"

ดาบสั้นของเจียงอี้เหวี่ยงลงมาอย่างกระทันหันด้วยความเร็วสูงสุดทำให้ดวงตาของเด็กเตี้ยพร่ามัว มันทำให้เขาตกใจมากจนผมของเขาตั้งขึ่นเพราะดาบสั้นของ เจียงอี้ที่กำลังกวัดแกว่งอยู่รอบศีรษะ หากเกิดพลาดขึ้นมา หัวครึ่งหนึ่งของเขาคงถูกตัดออก

เมื่อดาบของเจียงอี้หยุดลง ชายร่างเตี้ยก็รู้สึกเหมือนได้รับอากาศที่สดชื่นและโล่งอก ในขณะที่ชายร่างสูงที่อยู่ไกลออกไปกลับยืนอ้าปากค้าง

แปะ! แปะ! แปะ!

เจียงอี้ก้มตัวเพื่อเพิ่มน้ำหนักไปที่ขาของเขาและเขาใช้ดาบสั้นสีนวลเพื่อตบหน้าของเด็กนั่น จากนั้นเขาก็ถามอีกครั้งว่า “เจ้าว่าอย่างไรหากข้าเล็มขนในจุดซ่อนเร้นของเจ้าออก? เจ้าจะฉลาดขึ้นบ้างสักนิดไหมนะ?”

ชายร่างเตี้ยรู้สึกสั่นสะท้านที่จุดนั้นของเขา เหงื่อเย็นเยียบไหลลงมาที่หน้าผากของเขา ดวงตาของเขาสั่นไหวในขณะที่เขากัดฟันและตอบว่า "ข้าจะคืนป้ายให้เจ้า เรายอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้"

ชายร่างสูงพยักหน้าเห็นด้วยทันที จากนั้นจึงโยนป้ายสีดำที่พวกเขาฉกมาจากเจียงอี้ เขารับป้ายด้วยมือเดียว เจียงอี้ยังไม่ได้คลายเท้าของเขาและมองไปที่ชายหนุ่มร่างสูงด้วยดวงตาแวววับแทน เขาเย้ยหยันและกล่าวว่า "มอบป้ายทั้งหมดที่เจ้ามีมา มอบทองทั้งหมดของเจ้า ทักษะการป้องกัน เม็ดยาและทุกอย่างมาด้วย ตอนนี้ข้ารู้สึกค่อนข้างใจกว้าง ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเจ้าสองคนคงจะได้ออกจากภูเขาในสภาพเปลือยเปล่าแน่"

"ฝันไปเถอะ เจ้า... "

ทันใดนั้นชายร่างเตี้ยรู้สึกกังวลและเขาร้องตะเบ็งเสียงออกมา แต่เขาก็หยุดประโยคต่อไปในทันที เพราะเจียงอี้ไม่ลังเล..แม้แต่เพียงครู่เดียว..เขาแกว่งดาบสั้นไปที่เป้าของชายร่างเตี้ย แรงผลักดันนี้ไม่ได้มีแค่ท่าทีเล่น มันมุ่งเป้าตรงไปที่จุดซ่อนเร้นของเขา ขณะที่มันกำลังเจาะผ่านเสื้อคลุมของเขา ดาบสั้นครึ่งหนึ่งถูกฝังลงไปในพื้นดิน...หากมันขยับไปเพียงเล็กน้อย เขาจะกลายเป็นขันทีตลอดชีวิตที่เหลือของเขา

"มอบให้เขา ให้ทุกสิ่งกับเขาซะ!"

ชายร่างเตี้ยรู้สึกถึงสายลมเย็นๆที่เป้าและตะโกนอย่างลุกลี้ลุกลน เขามองไปที่รอยยิ้มที่ไม่แยแสของเจียงอี้และคิดว่ามันน่ากลัวกว่าปีศาจมาก

ชายผู้นี้เป็นคนบ้าคลั่ง เขาไม่สามารถที่จะเล่นกับคนบ้าคลั่งเช่นนี้ได้และไม่กล้าทำเช่นนั้นด้วย

นี่มันเดิมพันด้วยการถูกตัดอัณฑะเชียวนะ!!

ทั้งนี้ทั้งนั้น ช่วงนี้มีทั้งไวรัสทั้งฝุ่น ขอให้ลูกเพจทุกคนดูแลสุขภาพด้วยน้า กินวิตามิน ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นห่วงสุขภาพทุกคนน้า ใครไม่สบายขอให้หายไวๆนะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด