ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0506 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0508 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0507 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 507 : การเดิมพันที่บ้าบิ่น

แม้ตระกูลหลู่ไม่ทรงอำนาจเท่าตระกูลหยาง แต่อย่างไรแล้วพวกเขาก็ยังเป็นตระกูลที่มีสาขากระจายทั่วแดนวิญญาณอ้างว้าง

ตราบเท่าที่ไม่เผชิญหน้ากับห้าตระกูลใหญ่ ศิษย์ของตระกูลหลู่ย่อมคิดทำตามใจชอบได้อย่างไม่ต้องยี่หระต่อผู้ใด

แต่แล้วขณะนี้ ศิษย์ตระกูลหลู่กำลังถูกเหยียดหยันโดยคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าผู้หนึ่ง!

นอกจากนี้ เมื่อครู่ศิษย์ของตระกูลหลู่ ก็เพิ่งถูกฉินหยุนลงมือสังหาร!

นี่ถือเป็นการหยามหน้าครั้งร้ายแรง!

เด็กหนุ่มร่างสูงจากตระกูลหลู่ หลู่ชิงถง เผยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวร้องบอกต่อฉินหยุน “หาได้สำคัญไม่ว่าเจ้าเหยียดหยามข้าอย่างไร แต่ในเมื่อเจ้าอหังการอวดดีต่อหน้าพี่หยาง เช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย!”

“ยอมรับว่าเป็นสุนัขเสียด้วย!” ฉินหยุนไพร่มือไว้ที่ด้านหลังขณะยิ้มเย้ยหยัน

หยางมู่เทียนยิ่งสีหน้าดำมืด “ฉินหยุน กระทั่งว่าเป็นสุนัขข้า ก็ไม่ใช่อะไรที่เจ้าจะล้อเล่นด้วยได้!”

“จงรีบคุกเข่ากราบกรานขออภัยต่อสุนัขของข้าเสีย ตัวเจ้าหาได้มีอันใดดีเทียบสุนัขของข้าได้ไม่ ดังนั้นเจ้ามีสิทธิ์อะไรไปล้อเขาเล่นได้เพียงนั้น?”

ทุกคนพอได้ยินคำกล่าวของหยางมู่เทียน พวกเขาถึงกับอึ้ง!

ผู้คนเพิ่งได้เห็นกันเมื่อครู่ ว่าหลู่ชิงถงออกโรงปกป้องหยางมู่เทียนอย่างสุดตัว!

แต่แล้ว อีกฝ่ายก็กลายเป็นได้แค่สุนัขตัวหนึ่ง!

กระนั้น ใบหน้าของหลู่ชิงถงก็เผยความภาคภูมิ หากได้เป็นสุนัขของหยางมู่เทียน อย่างไรแล้วก็ถือเป็นสิ่งดีงามประการหนึ่งสำหรับเขา!

หยางมู่เทียนคือบุตรหลานตระกูลหยาง และเขายังแข็งแกร่งยิ่ง!

แต่เป็นเพราะโชคร้าย ทำให้เขาไม่อาจเข้าร่วมห้าสำนักดวงดาว

ระดับพลังของเขา ถือว่าผ่านเกณฑ์เฉลี่ยของห้าสำนักดวงดาว หรืออาจกระทั่งสูงล้ำกว่า

แม้ได้เข้าร่วมหอขุนเขาดาบกระบี่ เขาก็ยังคงเป็นตัวตนที่เหนือล้ำ ภายหน้า เขาย่อมได้กลายเป็นบุคคลสำคัญของตระกูลหยาง!

ได้สร้างคุณงามความดีต่อศิษย์ที่เลิศล้ำของห้าตระกูลใหญ่ มันเป็นสิ่งที่บรรดานายน้อยตระกูลชั้นรองล้วนปรารถนาคิดกระทำ!

ด้วยแรงเกื้อหนุนจากศิษย์เลิศล้ำของห้าตระกูลใหญ่ บรรดาศิษย์ของตระกูลอื่นจะมีหน้ามีตาขึ้นในสังคมได้ภายหน้า กระทั่งอาจยกระดับสถานะตัวตนขึ้นมา!

สาเหตุที่หยางมู่เทียนกล่าวออก ก็เพื่อเป็นการยั่วยุฉินหยุน

แต่หากฉินหยุนยอมขออภัยต่อสุนัขของเขาจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องราวชวนสำราญ!

อย่างไรแล้ว ฉินหยุนก็คือผู้ที่ครั้งหนึ่งตบหน้าเหลียวฉงเจิ้ง

“หยางมู่เทียน สุนัขเจ้าช่างหาญกล้าดีนัก!” เทียนรั่วเหลิงย่อมต้องช่วยเหลือฉินหยุน นางยืนหยัดตรงหน้าพร้อมกล่าวเสียงเย็น “เพียงฟันมันครั้งหนึ่ง ข้าก็สังหารมันได้สิ้นซากแล้ว!”

หยางมู่เทียนหัวเราะดังตอบ “แล้วอย่างไร? ฉินหยุนเป็นสุนัขเจ้าหรือ? เหตุใดเจ้าปกป้องมันเพียงนั้น!?”

“เขาคือสหายข้า!” เทียนรั่วเหลิงคิ้วขมวด สีหน้าขณะนี้ยิ่งดำมืด จิตสังหารของนางปลดปล่อยออกรุนแรง “หากเจ้ากล้าหาเรื่องสหายข้าอีกครั้ง ข้ารับประกันว่าเจ้าจะต้องมีจุดจบดังเช่นหลงอวี้เหว่ย! เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าทำได้?”

เทียนรั่วเหลิงสังหารหลงอวี้เหว่ยไปเมื่อครู่ นับเป็นการยั่วยุตระกูลหลงและตระกูลเทียนของนางเอง ดังนั้นขณะนี้ นางจึงไม่มีอันใดต้องหวาดเกรงต่อตระกูลหยาง!

ขณะนี้ กระทั่งหลงอู่เฉินยังไม่กล้ายั่วยุนาง!

เศษเนื้อของหลงอวี้เหว่ยยังคงกองอยู่ ผู้คนพอได้เห็นกองชิ้นเนื้อ ก็อดไม่ได้ที่จะเผยความสั่นกลัวออก!

หยางมู่เทียนแค่นเสียง “ฉินหยุน เจ้าเพียงกล้าอวดดีได้เพราะมีอุปกรณ์เต๋า และได้รับการคุ้มครองจากเทียนรั่วเหลิง!”

“เอาอย่างนี้เป็นไร เจ้าต่อสู้อย่างยุติธรรมกับหลู่ชิงถง! หากเจ้าแพ้และยังรอดชีวิต จงคุกเข่าขออภัยต่อหลู่ชิงถง! และขอให้เทียนรั่วเหลิงมอบเขาหมาป่าทั้งยี่สิบ รวมถึงชุดเกราะเต๋าของเจ้าแก่พวกข้า!”

“หากเจ้าชนะ ข้าจะมอบเขาหมาป่ายี่สิบอันให้ รวมถึงกล่าวขออภัยต่อเจ้าด้วยตัวเอง! ว่าอย่างไรละ?”

“พี่หยาง... เรื่องนี้...” หลู่ชิงถงเหม่อไปครู่ก่อนจะได้สติกลับคืน พร้อมหันมองทางหยางมู่เทียนด้วยความตื่นตระหนก

ถึงกับยอมวางเดิมพันเขาหมาป่ายี่สิบเขา และยังรับปากว่าจะขออภัยด้วยตนเอง ชัดเจนว่าหยางมู่เทียนเชื่อว่าหลู่ชิงถงสามารถเอาชนะ!

เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียง “หยางมู่เทียน เจ้าช่างน่าสมเพชนัก!”

“เป็นเจ้าคิดใช้เขาหมาป่าเพียงยี่สิบเขา เพื่อต่อสู้แย่งชิงเกราะเต๋างั้นหรือ? และคำขอโทษโดยตัวเจ้านับเป็นอะไร? ผู้ใดคิดว่ามันมีค่า? คำขอโทษของเจ้าเทียบเท่าชุดเกราะเต๋าหรืออย่างไร?”

“กระทั่งว่าให้ข้าสับหัวเจ้าออกเป็นแปดส่วน ก็ยังไม่คล้ายจะพอเทียบเท่าชุดเกราะเต๋าได้เลยด้วยซ้ำ!”

กล้ามเนื้อใบหน้าหยางมู่เทียนกระตุก เขาไม่คิดว่าจะโดนยั่วยุได้เพียงนี้ สายตาเย็นเยือกของเขากำลังจับจ้องที่เทียนรั่วเหลิง

เสียงตะโกนกราดเกรี้ยวตอบโต้กลับทันควัน “เทียนรั่วเหลิง อย่าได้คิดว่าเจ้าจะทำตัวหยิ่งผยองได้นานนัก! ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ชีวิตเจ้าไม่มีทางอยู่รอดได้เกินหนึ่งปี!”

เทียนรั่วเหลิงหัวเราะดัง “ถูกต้อง ข้าย่อมไม่รอดไปเกินกว่าปี! เพราะเหตุนั้นข้าจึงกล้าสังหารเจ้าอย่างไรเล่า!”

“หากเจ้ามีความกล้า เช่นนั้นจงเข้ามา!”

หลงอู่เฉิน เย่ว์อู่หลัน รวมถึงศิษย์ของตระกูลอื่น เวลานี้ล้วนถอยห่าง

พวกเขาต่างทราบ ว่าการยั่วยุเทียนรั่วเหลิงขณะนี้ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาด

กระนั้น หยางมู่เทียนขึ้นหลังเสือแล้วยากจะลง!

หากไม่เกิดการต่อสู้ ก็ได้แต่เป็นสงครามน้ำลายถ่มใส่กัน

หากต่อสู้ ย่อมต้องมีคนตาย

หยางมู่เทียนจ้องมองหลงอวี้เหว่ย ผู้ซึ่งขณะนี้เป็นเศษซากกองเนื้อมนุษย์ ฟันของเขากัดแน่น ชัดเจนว่าเขาไม่กล้าลงมือก่อน!

กระนั้น เขาก็ยังมีหน้าตาที่ต้องรักษา “ฉินหยุน หากเจ้าจัดการหลู่ชิงถงได้ เจ้าจะได้รับเขาหมาป่าทั้งสิ้นยี่สิบเขา! นอกจากนี้ ข้ายังจะคุกเข่าขออภัยต่อเจ้าด้วย!”

“หากเจ้าแพ้ จงส่งเขาหมาป่าจำนวนยี่สิบ และกระบี่ลึกล้ำในมือ จากนั้นจงขออภัยต่อหลู่ชิงถง เจ้าจะว่าอย่างไร?”

เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียง “เจ้ามั่นใจในพลังของหลู่ชิงถงเพียงนั้น?”

ดวงตาของหยางมู่เทียนเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นขณะมองทางหลู่ชิงถง “ถูกต้อง! หากฉินหยุนไม่พึ่งพาอุปกรณ์เต๋า หลู่ชิงถงย่อมสังหารมันได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว!”

“เช่นนั้นก็จงเข้ามา!” ใบหน้าฉินหยุนเรียบเฉย หาได้เผยสีหน้าใดออก ขณะนี้เขาส่งชุดเกราะเต๋าและกระบี่ ส่งพวกมันให้เทียนรั่วเหลิง

ฝูงชนพอได้เห็นฉินหยุนส่งมอบชุดเกราะเต๋าแก่เทียนรั่วเหลิงอย่างไม่คิดใดมาก พวกเขาถึงขั้นทราบว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองหาได้เล็กน้อยไม่!

ฉินหยุนถอดออกกระทั่งเสื้อคลุม เผยออกซึ่งมัดกล้ามแกร่ง มันเป็นมัดกล้ามที่งดงามได้รูป เป็นเขาต้องการแสดงถึงกำลังที่มีพร้อมเสน่ห์ที่เหลือล้นของตนเอง

ดวงตางดงามของเย่ว์อู่หลันขณะนี้ มันเผยประกายจับจ้องคล้ายต้องมนตร์ ราวกับความคิดของนางสื่อผ่านออกมาสายตา เป็นนางคิดจับฉินหยุนโยนลงพื้นพร้อมกระทำชำเราอีกฝ่ายให้สาแก่ใจ

การประลองครั้งนี้จะไม่มีการใช้อาวุธ!

หลู่ชิงถงมั่นใจเปี่ยมล้นว่าสามารถเอาชนะฉินหยุน นอกจากนี้ หยางมู่เทียนยังให้ค่าเขาเอาไว้สูงล้ำ ด้วยเหตุนี้ แรงใจของเขาจึงพุ่งทะยาน!

พลังในกายของเขาเปรียบดังปืนใหญ่ มันพร้อมระเบิดปลดปล่อยออกแล้ว!

“หลู่ชิงถง หากเจ้าจัดการมันได้ ข้า หยางมู่เทียนผู้นี้ จะขอเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเจ้า!”

คำของหยางมู่เทียน ยิ่งสร้างขวัญกำลังใจแก่หลู่ชิงถง ร่างกายเขาขณะนี้ถึงกับเต้นเร่า!

บรรดาศิษย์หลายคนในกลุ่ม ขณะนี้ต่างมองหลู่ชิงถงด้วยความริษยาตาร้อนผ่าว!

ได้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับหยางมู่เทียน ก็เปรียบดังได้ก้าวเท้าขึ้นสวรรค์ไปข้างหนึ่ง!

หากสำเร็จได้จริง ตำแหน่งของหลู่ชิงถงในตระกูลหลู่ ย่อมต้องพุ่งทะยานขึ้นฟ้า!

เทียนรั่วเหลิงคิดอยากพูดอะไรบ้างเพื่อให้กำลังใจฉินหยุน กระนั้นนางกลับไม่ทราบว่าควรพูดอันใด อย่างไรแล้ว ฉินหยุนก็ไม่ได้ขาดแคลนอันใดเลยแม้สักนิด!

ชั่วขณะนี้ ใบหน้างดงามของเย่ว์อู่หลันเผยเสน่ห์ร้อนแรง เสียงอ่อนนุ่มของนางกล่าวออก “ฉินหยุน หากเจ้าชนะ ข้าจะยอมร่วมหลับนอนกับเจ้าในงานเทศกาลใบไม้ผลิ ให้เจ้าได้เชยชมเรือนร่างอันงดงามของข้า!”

ฝูงชนต่างหันควับเผยเสียงฮือฮาดังสนั่น พวกเขาแทบไม่อาจเชื่อหูว่าเมื่อครู่ได้ยินอันใด!

ได้ร่วมรักภายใต้แสงจันทร์กลางใบไม้ผลิ นั่นคือรางวัลที่เย่ว์อู่หลันเสนอ มันคือสิ่งที่ชายหลายคนในที่นี้ฝันใฝ่!

ได้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับหยางมู่เทียนก็นับว่าน่าอิจฉาตาร้อนแล้ว แต่หากได้ร่วมรักดูดดื่มกับเย่ว์อู่หลันสักคืนหนึ่ง ย่อมเพียงพอให้ริษยาจนบ้าคลั่ง!

กระทั่งหยางมู่เทียนและหลงอู่เฉิน ทั้งสองขณะนี้ยังถูกสะกดไว้โดยคำของเย่ว์อู่หลัน!

เย่ว์อู่หลันแข็งแกร่ง สถานะของนางในตระกูลเย่ว์สูงล้ำ

กระนั้น อย่างมาก นางก็เพียงครอบครองอุปกรณ์ลึกล้ำ ยังห่างไกลและยากเย็นนักหากนางคิดครอบครองอุปกรณ์เต๋า!

เย่ว์อู่หลันครอบครองใบหน้างดงาม บางครั้งนางก็เผยเสน่ห์เย้ายวน บางครั้งก็เผยความอ่อนช้อย บางครั้งก็เป็นความสง่างามชวนยากแก่การต้องสัมผัส

ทั้งนี้ นางยังเป็นผู้ที่สามารถสังหารผู้อื่นได้โดยตาไม่กระพริบ ตั้งแต่นางยังเยาว์ ผู้คนล้วนทราบว่านางคือนางมารกระหายเลือด!

แต่แล้ว เย่ว์อู่หลันผู้นั้น ขณะนี้กลับคิดยอมสละเรือนร่างเพื่ออุปกรณ์เต๋า!

เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียงเบา ไม่ทราบว่านางขณะนี้เกิดความรู้สึกอันใดอยู่ภายใน

แม้นางเป็นโฉมงามแกร่งกล้า ทว่าสถานะของนางยังห่างไกลจากเย่ว์อู่หลัน นอกจากนี้ นางยังยั่วยุตระกูลหลงไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นภายหน้าย่อมต้องถูกตระกูลเทียนไล่ล่า

ผู้คนล้นทราบ ว่าเทียนรั่วเหลิงย่อมมีชีวิตต่อไปได้อีกไม่นาน!

ด้วยเหตุนี้ เย่ว์อู่หลันจึงใช้โอกาสที่เกิดขึ้น คิดแย่งชิงฉินหยุนมาเป็นของนาง! นางทราบดี ว่าชายทุกผู้ล้วนปรารถนาในเรือนร่างของนาง!

ด้วยความมั่นใจมากล้นในความงดงามและสมบูรณ์ของร่างกาย นางจึงกล้ายั่วยวนฉินหยุนเพียงนี้!

ฉินหยุนยังคงเผยสีหน้าสงบ สายตาจับจ้องคู่ต่อสู้ เขาไม่หวั่นไหวแม้มีรางวัลเป็นเรือนร่างของเย่ว์อู่หลัน!

“เริ่มได้!” หยางมู่เทียนตะโกนดัง

หลู่ชิงถงเป็นชายร่างสูงกว่าฉินหยุนเกือบช่วงศีรษะ ถือว่าเป็นผู้ฝึกตนที่สูงใหญ่

กระนั้น ความเร็วของเขาหาได้เชื่องช้าไม่!

พริบตา ร่างของเขาเกิดเป็นแสงวูบ เข้าปรากฏตัวที่ด้านหลังฉินหยุน หมัดขณะนี้ปลดปล่อยออกไปแล้ว!

ครืน!

หมัดปล่อยออก สายฟ้าอสนีบาตทองม่วงผ่าออกดังสนั่น!

สายฟ้าอสนีบาต แปรเปลี่ยนเป็นนาคาสายฟ้านับไม่ถ้วน เข้าล้อมฉินหยุนเอาไว้จากทั่วสารทิศ!

“หมัดระเบิดสายฟ้าชั้นโลกา! จากที่เห็น สมควรเชี่ยวชาญถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว!”

“ฉินหยุนคงได้แต่ต้องหลบ คิดเผชิญหน้าโดยตรงนั้นไม่มีทางเป็นไปได้!”

“ต้องกล่าวเลย เคล็ดวิชาตัวเบาของฉินหยุนน่าประทับใจนัก เขาถึงขึ้นหลบพวกมันมาได้!”

ฉินหยุนไม่ทราบระดับย่อยของฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ ที่เขาทราบ ก็เพียงมันทรงพลังแกร่งกล้าอย่างยิ่ง

กระนั้นเขาไม่คิดใช้ กลับกัน เขาเพียงหลบเลี่ยงหมัดสายฟ้าที่พุ่งเข้าหา!

หลู่ชิงฉงพบเห็นอีกฝ่ายหลบพ้น อดไม่ได้จนต้องร้องคำรามออก “ไอ้หนูโสโครก อย่าได้หลบให้มากความแล้ว!”

ผู้คนล้วนกล้าออกปาก ว่าฉินหยุนไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรงกับหลู่ชิงถง!

เขาอาศัยเพียงแต่เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวที่เลิศล้ำ ทำการหลบเลี่ยงและค่อยหาโอกาสรับมือกับหลู่ชิงถง

หยางมู่เทียนหัวเราะ “เห็นหรือไม่! มันด้อยกว่าหลู่ชิงถงทุกตรง!”

“ฉินหยุนที่ไร้ซึ่งอุปกรณ์เต๋า ชะตามันมีแต่ต้องแพ้!”

ผู้คนที่รับชมอยู่ ต่างเชื่อว่าฉินหยุนต้องพ่ายแพ้

กระนั้น กว่าครึ่งชั่วยามผ่านพ้น หลู่ชิงถงยังไม่อาจเอื้อมนิ้วสัมผัสถึงตัวฉินหยุนได้!

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป หลู่ชิงถงจะรีดเร้นพลังจนหมดสิ้นแล้วเหนื่อยตายไปเอง!

หลู่ชิงถงครอบครองออร่าแกร่งกล้า พลังเต๋าของเขาเรียกได้ว่าระดับชวนสะพรึง

กระทั่งหลงอู่เฉิน และหยางมู่เทียน ก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้าในทางตรง

แม้หมัดสายฟ้าของหลู่ชิงถงแข็งแกร่ง แต่มันก็ไร้ค่าหากไม่อาจโจมตีฉินหยุน นอกจากนี้ มันยังเป็นการใช้พลังเต๋ามหาศาลอย่างเสียเปล่า!

เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียง “หยางมู่เทียน นี่เจ้าต้องซ้อมคุกเข่าหรือไม่? อัจฉริยะแห่งตระกูลหยาง ขณะนี้กลับต้องคุกเข่าให้แก่ผู้ฝึกตนธรรมดา น่าสนใจนัก ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ฝูงชนเดิมคิดว่าฉินหยุนพ่ายแพ้อย่างไม่มีข้อสงสัย ขณะนี้กลับรู้สึก ว่าเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวเป็นสิ่งสำคัญยิ่งประการหนึ่ง

ไม่เพียงแต่สามารถทำให้หลบหนีพ้นจากอันตราย แต่รูปแบบการต่อสู้เช่นนี้ ยังเป็นการบั่นทอนพลังของคู่ต่อสู้จนแพ้ภัยตัวเอง!

“เทียนรั่วเหลิง หากเจ้ามีความกล้า และหากเชื่อมั่นตัวฉินหยุน เช่นนั้นมาเดิมพันกันเพิ่มเป็นอย่างไร? ข้าขอเสนออาวุธวิญญาณระดับราชัน!” หยางมู่เทียนร้องโพล่งตะโกนดังขึ้น “เจ้าเองก็สมควรมีอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันหรือไม่ใช่?”

“ย่อมได้!” เทียนรั่วเหลิงนำกระบี่สั้นของตนออกมา

หยางมู่เทียนนำเอาโล่กลมขนาดเล็กออกมา

ทั้งสองคืออุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน กระนั้นคุณภาพของพวกมันค่อนข้างต่ำเตี้ย

“เขาหมาป่าอีกสักสิบเขาเป็นอย่างไร?” เทียนรั่วเหลิงตะโกนดังขึ้น

“ย่อมได้ ข้าคิดออกปากถามอยู่พอดี!” หยางมู่เทียนหัวเราะดัง พร้อมร้องตะโกนบอกต่อหลู่ชิงถง “น้องหลู่ รีดเร้นฝีมือออก สังหารฉินหยุนมันได้แล้ว!”

หลู่ชิงถงพอได้ยินหยางมู่เทียนเรียกหาเป็นน้องชาย เขาถึงกับบังเกิดความตื่นเต้นร้องตะโกนรับคำ!

ร่างกายของเขา ขณะนี้ระเบิดออกซึ่งแสงทองม่วง จากภายในมวลแสง มันปรากฏนาคาสายฟ้าทองม่วงสองเศียรเลื้อยออกมาจากเหยือกแสงขนาดใหญ่

นาคาสายฟ้าสองเศียรก้มหัวเล็กน้อย แลบเอาลิ้นยาวของมันออก พร้อมกันนี้ ร่างนาคาพลันพุ่งเข้าใส่ฉินหยุนเปรียบดังสายฟ้าฟาดเข้าใส่!

สิ่งนี้คือวิญญาณยุทธ์ของหลู่ชิงถง เป็นวิญญาณยุทธ์นาคาสายฟ้าสองเศียรระดับทองม่วง และมันก็ครอบครองพิษร้ายแรง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด