ตอนที่แล้วChapter 155 – Great Plains of Barrastan (6) [24-04-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 157 – Great Plains of Barrastan (8) [28-04-2020]

Chapter 156 – Great Plains of Barrastan (7) [26-04-2020]


Chapter 156 – Great Plains of Barrastan (7)

มังกรได้แสดงท่าทางสงสัยออกมาตอบสนองต่อคำตอบของซังจิน

"อาเรี่ยน? อาเรี่ยนให้แหวนกับนาย?"

ในตอนนี้ซังจินได้เลิกที่จะปฏิเสธที่จะตอบคำถามเพราะมังกรมีทักาะในการทำให้คนพูดออกมาได้ง่ายๆ

"ถูกแล้ว เธอได้ให้มันกับฉัน"

"จริงดิ? เธอเนี่ยนะ? ไม่น่าเชื่อเลย... แต่ว่า...มันจะยิ่งไม่น่าเชื่อมากขึ้นไปอีกสำหรับการที่นายได้มันมาหลังจากฆ่าเธอ...นาย...มีการแลกเปลื่ยนอะไรกับเธอหรอ?"

ในขณะที่พูดคุยกับมังกร ซังจินก็พยายามมองหาโอกาส

'อะไรและยังไงที่ฉันจะทำการสร้างความเสียหายให้กับเขา'

ในตอนที่เขากำลังขบคิดอยู่นั้น มังกรก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่ทรงพลัง

"พูดมา นายแลกเปลื่ยนอะไรกับเธอ?"

ซังจินได้เริ่มพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นไปอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว

"อาเรี่ยนได้พูดว่าเธอจะให้ของขวัญแก่ฉันถ้าฉันสามารถโจมตีเธอได้ครั้งหนึ่งในขณะที่ต่อสู้กับเธอและได้รับแหวนนี้มาเป็นของขวัญ"

มังกรได้มองมาที่ซังจินด้วยสายตาที่แคบลง ดวงตาของเขาได้สว่างขึ้น

"โอ้ โฮ้....จริงหรอ? นั่นมันหมายความว่านายทำมันสำเร็จในการโจมตีเธอครั้งหนึ่งใช่มั๊ย? ที่อาเรี่ยนน่ะ?"

ซังจินไม่รู้ว่ามังกรทั้งหมดจะเป็นแบบนี้หรือไม่ แต่มันดูเหมือนว่าเขาจะมีความสนใจใน 'การทดสอบของอาเรี่ยน' ซังจินได้พูดกับเขา

"ถูกต้อง ฉันได้สร้างความเสียหายให้กับเธอ นั่นคือเหตุผลที่เธอให้แหวนนี้กับฉัน"

ซังจินได้ตัดสินใจที่จะทำบทสนทนาในการทำบททดสอบของอาเรี่ยน เพราะว่ามังกรตัวนี้้พูดถึงชื่อของอาเรี่ยน บางทีเขาอาจจะอายุใกล้เคียงกับเธอ หรือบางทีอาจจะมากกว่า

ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้วเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะเลยเนื่องจากว่ามังกรนั้นจะตัดสินความแข็งแกร่งจากอายุของพวกมัน อย่างไรก็ตามถ้าพูดให้ถูกต้องและสามารถนำมาไปสู่การทดสอบแบบอาเรี่ยนได้เขาก็มีโอกาสที่จะทำสำเร็จได้ เขาเคยทำมันมาแล้วครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามมังกรเพียงหยักหน้าอย่างง่ายๆ

"หืม...จริงๆ...นั่นแหละ..."

เขาไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับการทดสอบ

"ฉันเข้าใจแล้ว"

"ฉันเข้าใจแล้ว ดีล่ะในตอนนี้ส่งอัญมณีและแหวน ฉันต้องการแร่เหล่านั้นทั้งหมด"

ขากรรไกรของซังจินได้ค้างไป เบสโกโร่ก็ได้กล่าวเสริม

'อะไร? ตอนนี้เราควรจะทำอะไร?'

มังกรได้ก้าวเข้ามาหาซังจิน ซังจินก็เลยเก็บอัญมณีลงไปไว้ในเสื้อและหยิบดาบออกมา หลังจากที่เห็นการกระทำสองขั้นตอนนี้มังกรก็มองมาที่ซังจินและพูดออกมา

"ฉันรู้แล้ว"

"จริง?"

มังกรไปมองมาที่ซังจินด้วยความประหลาดใจ ซังจินได้พูดคำที่อาเรี่ยนได้บอกกับเขาตอนที่ให้แหวนมา

"แหวนนี้....มันเป็นไอเทมที่จะช่วยให้ฉันเอาชนะชะตากรรมที่น่าเศร้าของฉันได้"

"หืมมม?"

มังกรได้แสดงท่าทางแปลกๆออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของวังจิน ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะพูดว่า

'เรื่องนั้นคืออะไร'

ในขณะที่ซังจินมองไปที่มังกรอย่างไร้คำพูด ทันใดนั้นมังกรก็ได้ยื่นมือมาทางซังจิน ซังจินรู้สึกกังวลอย่างมากมันเหมือนกับเวทย์อะไรบางอย่างจะปรากฏออกมา อยางไรก็ตามจากนั้นมังกรก็พูดออกมา

"...ถ้างั้นฉันควรจะอ่านมัน?"

"อะไร?"

ในตอนนั้นเองซังจินก็ได้เอียงหัว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาถูกดึงให้เข้าไปหามือของมังกร ซังจินได้พยายามที่จะกระโดดถอยหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกดึงเข้าไป แต่ในตอนนั้นเองความรู้สึกนี้ก็หายไปเอง เมื่อเขามองลงไป เขาก็ยังอยู่ที่เดิม

'เมื่อกี้มันอะไรกัน? อาการมึนหัว?'

ในตอนนั้นมังกรก็ลดมือลงจากนั้นมันก็ยิ้มขึ้นมา

"นาย...ไม่ใช่คนจากมิตินี้? นายตาย...แล้วจากนั้นนายก็มาเจอกับสิ่งเดิมๆ..."

ดูเหมือนว่าในช่วงเวลาสั้นๆ มังกรได้มองเข้าไปในอดีตของซังจิน ซังจินได้ไร้คำพูดไปในขณะที่มองไปที่มังกร

"มันเป็นโชคชะตาที่น่าเศร้า...นั่นเลยเป็นเหตุผลที่อาเรี่ยนช่วย?"

มังกรได้พึมพัมกับตัวเอง ซังจินได้เห็นความหวังเล็กๆจากที่นั่น ไม่ว่าการเจรจาจะเป็นยังไงก็ยังดีตราบเท่าที่ยังไม่มีการเผชิญหน้าโดยตรง อย่างไรก็ตาม

"สถานการณ์ของนายมันน่าสงสาร แต่ว่าฉันก็ยังต้องการที่จะได้รับอัญมณีและแหวน ไอเทมเหล่านี้มันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการค้นคว้าพลังเวทย์ของฉัน"

มันดูเหมือนว่าบุคลิกของมังกรตัวนี้จะค่อนข้างแตกต่างไปจากอาเรี่ยน

"มันน่าเสียดายมาก นายพยายามอย่างแข็งขันมากเพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ถ้านายส่งแหวนมาให้ฉัน นายก็จะสูญเสียโอกาสในการเอาชนะชะตากรรมจองนาย ถ้านายไม่ส่งแหวนมา นายก็จะตาย มันมีเพียงจุดจบที่แสนเศร้าสำหรับนายเท่านั้น ยังดีที่ฉันจะให้อิสระในการเลือกตอนจบของนายละกัน นายจะส่งแหวนมาให้ฉันแล้วมีชีวิตรอดหรือจะไม่ส่งแหวนมาแล้วตายไป?"

ซังจินได้พิจารณาในคำพูดของมังกรสั้นๆ มันเป็นไปได้ที่จะชนะถ้าเขาใช้พลังทั้งหมดหรือป่าว? มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีโอกาสแบบนั้น

มันเป็นไปได้ว่าเขาจะสามารถเคลียร์บทสุดท้ายได้โดยที่ไม่ต้องใช้แหวนและกลายเป็นผู้ช่วยชีวิตมนุษยชาติ ซังจินได้คว้าแหวนของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ในมือของเขา

อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าเขาจะเสียใจกับสิ่งนี้ถ้าเขามอบมันไป จนกระทั่งจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยที่จะหนีจากการต่อสู้กับบอสเลย

เขาไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่ต้องพูดถึงว่าคำพูดของอาเรี่ยนอีก เธอได้บอกอย่างชัดเจนว่าแหวนวงนี้จะช่วยทำให้เขาเอาชนะชะตากรรมได้ ซังจินได้ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ส่ายหัวในขณะที่พูดออกมา

"มันไม่มีทางเลือกที่นายให้มาที่ฉันต้องการจะเลือก ฉันจะไม่มอบแหวนให้นายและฉันก็จะมีชีวิตรอดอยู่ในสถานที่แห่งนี้

"...คำพูดนั่น...มันหมายความว่านายจะต่อต้านฉันใช่มั๊ย?"

ซังจินไม่ได้ตอบกลับไปและหยิบดาบออกมา เมื่อเห็นแบบนั้นมังกรก็ได้ยิ้มเย้ยออกมา

"ไม่เป็นไร ถ้างั้นฉันจะจบโชคชะตาที่น่าเศร้าของนายที่นี่เอง"

หลังจากที่พูดจบมังกรก็ได้ก้าวเข้ามาหาซังจิน ครู่หนึ่งเสียงของโอเปอเรเตอร์ก็ดังขึ้น

[คำเตือนบอสลับ]

[นักวิจัยเวทย์อาเซอร์อาซได้ปรากฏตัวขึ้น]

นี้มันเป็นคำเตือนของโอเปอเรเตอร์ที่เขาได้ยินมานับไม่ถ้วนจนถึงบัดนี้ แต่ว่าซังจินก็ยังตกใจ

"อ่า เดี๋ยวก่อน แปปนึง!"

ด้วยเสียงของซังจิน มังกรได้หยุดเดินทันที

"อะไรล่ะ? ไม่ใช่ว่านายต้องการจะต้องสู้ในไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาหรอกหรอ? หรือว่าตอนนี้นายเปลื่ยนใจแล้ว?"

ซังจินได้ถามกลับไป

"...นาย...กำลังจะต้องสู้แบบนี้หรอ? ในร่างของมนุษย์?"

"นั่นมันถูกแล้ว ฉันอาศัยอยู่ในโลกมนุษย์มาเป็นเวลานาน นั้นอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม...การอยู่ในร่างกายของมนุษย์มันได้สบายขึ้น ด้วยร่างนี้มันดูเหมือนจะน่าชื่นชมมากขึ้นเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์อีกด้วย มันอาจจะแปลกๆที่จะพูดแบบนี้...แต่ฉันไม่ชอบที่จะกลับไปในรูปแบบดั้งเดิม"

มันดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนแปลกๆคนหนึ่ง

"...เอาล่ะ ไม่ว่ายังไงช่วยให้เวลาฉันเตรียมตัวหน่อยได้มั๊ย ซักประมาณไม่กี่นาที นายสามารถจะให้เวลามนุษย์ที่จะต่อสู้กับมั้งกรได้ใช่มั๊ยฦW

"...โอเค แน่นอน ซักนาที ฉันก็จะเตรียมตัวซักนิดหนึ่งเหมือนกัน"

เขาได้ชี้นิ้วไปที่ช่องว่างและพูดออกมา

"อัญเชิญ"

ครู่หนึ่งไม้คทาก็ได้ถูกอัญเชิญออกมา คทามันมีส่วนไม้ที่ทำมาจากทองคำและมีอัญมณีทรงกลมสีฟ้าฝังอยู่ เมื่อซังจินสังเกตุอย่างละเอียดอัญมณทรงกลมสีฟ้ามันดูเหมือนกับชิ้นส่วนลับที่เขาพึ่งจะได้มา

'เขาก็มีมันอยู่แล้ว?'

ในขณะที่ซังจินคิดอย่างนี้ เขาก็ได้รีบเอาไอเทมออกมา อย่างแรกเขาได้โยนรูปสลักไม้ของเคนออกไปและไข่ของราร์พร้อมๆกับตะเกียงของซาดาเมียร์

"โฮ่งๆ!"

"ก๊าาาา!"

มังกรได้มองมาที่พวกเขาโดยที่ไม่คิดอะไรมาก แต่เมื่อถึงคราวที่ซาดาเมียร์ปรากฏออกมาซึ่งเขาเป็ฯคนเดียวที่เรียกตัวตนของมังกรด้วยความกระวนกระวาย

"พระเจ้า...นายท่านในคราวนี้...เป็นมังกรน้ำเงินหรอ?"

ซังจินได้มองไปที่ซาดาเมียร์และมังกร มันไม่มีอะไรที่เหมือนเกล็ดที่สามารถจะมองเห็นได้เลย สิ่งหนึ่งที่เขาสามารถพบได้ก็คือดวงตาสีน้ำเงินของมังกร

"อา เขาเป็นมังกรน้ำเงิน?"

"...ใช่แล้ว ท่านสามารถจะบอกมันได้ด้วยการมองไปที่ตาของพวกเขา....เดิมทีมันมีกฏที่ไม่ได้พูดคือมังกรจะเปลื่ยนสีดวงตาของพวกเขาเพื่อให้ตรงกับสีเกล็ด เพื่อให้พวกเขาสามารถจะรับรู้ได้ถึงกันและกัน"

"เข้าใจแล้ว...มังกรน้ำเงิน ถ้างั้นเขาก็ควรจะมีความเชี่ยวชาญในเวทย์น้ำเงิน?"

"แน่นอน"

ซังจินได้ตรวจสอบมังกรสั้นๆ เขานั้นถือคทาและโอเปอเรเตอร์ก็ได้อธิบายว่าเขาเป็น 'นักวิจัยเวทมนตร์' ซังจินได้เก็บบลัดเวเจนกลับเข้าฝักและหยิบอาเทอร์มิโอออกมาอย่างเงียบๆ ซาดาเมียร์ได้กล่าวเสริมออกมา

"ระวังตัวด้วย มันไม่ได้ชัดเจนนักเพราะว่าเขาแข็งแกร่งโดยธรรมชาติ แต่มังกรตัวนั้น...ข้าคิดว่าพลังเวทย์ของเขาแข็งแกร่งกว่ามังกรแดงที่พบในครั้งก่อน..."

ถ้อยคำเหล่านี้ได้ทำให้ความกังวลของซังจินกลับมา แข็งแกร่งกว่าอาเรี่ยน ความสงสัยว่าเขาจะมีโอกาสเอาชนะหรือป่าวได้เริ่มเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามมันไม่มีอะไรที่เขาทำได้ เขาได้ตัดสิดที่จะแขวนชีวิตไว้กับการต่อสู้นี้ ซังจินได้พูดกับซัมม่อน

"เคน ราร์ ซาดาเมียร์ นีมันอาจจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของฉัน ช่วยทำให้ดีที่สุด"

พวกเขาแต่ละคนได้ตอบรับคำขอของซังจิน

"โฮ่ง"

"ก๊าซ"

"เข้าใจแล้ว แม้ว่าความสามารถของฉันจะแย่ แต่ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะปกป้องนายท่าน"

จากนั้นซังจินก็พูดต่อกับวิญญาณทั้งสอง

"เบสโกโร่ มูนสเปค ช่วยทำให้ดีที่สุดจนถึงตอนจบทีนะ"

'นายกำลังพูดอะไร? ความปรารถนาสุดท้ายของนายคืออะไร? นายว่าแผนที่จะตายที่นี่งั้นหรอ?'

'อย่าพูดแบบนั้นเลยนายท่าน ฉันจะช่วยท่านอย่างสุดความสามารถของฉัน'

"ไม่ ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น แต่มันเป็นไปได้ที่นี่อาจจะเป็นการต่อสู้สุดท้ายของเรา"

'อย่าไปกังวล นายแข็งแกร่งกว่าเจ้าจิ้งจกยักษ์นั่นอยู่แล้ว'

'แน่นอน นายท่าน'

ซังจินได้ยิ้มกว้างในขณะที่ได้ยินเสียงสนับสนุนของวิญญาณทั้งสอง จากนั้นเขาก็ได้ดำเนินการเตรียมการอย่างสุดท้าย

"โอเปอเรเตอร์เอายอนฮัวเรทมาที?"

ซังจินได้ถอดสร้อยคออันเก่าออกแล้วและเปลื่ยนไปใส่ยอนฮัวเรท มันนานมากแล้วจากครั้งที่เขาใส่ยอนฮัวเรทครั้งสุดท้าย ยอนฮัวเรทมันได้เริ่มกระซิบซังจินอย่างบ้าคลั่งราวกับว่ามันเก็บกดมานาน

'ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!'

ในคราวนี้ซังจินไม่ได้ละเลยเสียง ถ้าหากมันมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว ถ้างั้นเขาก็จะไม่ละเลยเสียง ซังจินได้หยิบดวงดาวไร้นามออกมาจต่อ

เขาควรที่จะเพิ่มสเตตัสขึ้นด้วย 'สุดยอดนักล่า' หรือไม่ก็เพิ่มความเสียหายด้วย 'ผู้พิฆาตมังกร' ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่รู้ว่าอะไรมันดีกว่ากัน อย่างไรก็ตามมังกรให้เวลาเขาแค่หนึ่งนาที ซังจินจึงคิดไม่นานนัก

"เปลื่ยนฉายาเป็นสุดยอดนักล่า"

มันเป็นไปได้ว่าฉายานักล่ามังกรอาจจะดีกว่า แต่ตอนนี้เขาจะต้องต่อสู้ในหลายๆด้านดังนั้นเลยเรียกฉายาสุดยอดนักล่า ไม่ว่าจะเป็นดาบหรือเวทย์ไม่ว่ายังไงมันก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาชินกับมันมากที่สุด

นอกจากนี้เขาไม่รู้ด้วยว่าทำไม แต่เขาคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะตายด้วยฉายาสุดยอดนักล่าถ้าหากมันเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาจริงๆ หลังจากที่ได้เปลื่ยนฉายาแล้วซังจินก็ได้หยิบเอาพงศาวดารสามก๊กออกมาถือไว้ และจากนั้นเขาก็พูดกับมังกร

"ฉัยพร้อมแล้ว"

"จริง? ถ้างั้นมาเริ่มกันเถอะ"

ในตอนที่มังกรพูดจบ เขาก็พูดเพิ่มอีกประโยคหนึ่ง

"เจาะทะลวงให้ตาย หอกน้ำแข็ง"

ครู่หนึ่งหอกน้ำแข็งขนาดอันใหญ่โตก็ได้พุ่งเข้ามาหาซังจิน ดวงตาของซังจินได้เบิกกว้างขึ้นในขณะที่เขายกอาเทอร์มิโอขึ้นสูง อย่างไรก็ตามก่อนที่หอกน้ำแข็งจะมาถึงซังจิน มังกรก็กล่าวเพิ่มอีกประโยคหนึ่ง

"แช่แข็งให้ตาย พายุเยือกแข็ง"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด