ตอนที่แล้วบทที่ 102 - คนเหล่านั้นที่ปืนไปในดันเจี้ยน (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 104 - คนเหล่านั้นที่ปืนไปในดันเจี้ยน (3)

บทที่ 103 - คนเหล่านั้นที่ปืนไปในดันเจี้ยน (2)


บทที่ 103 - คนเหล่านั้นที่ปืนไปในดันเจี้ยน (2)

ฉันได้ตัดสินใจที่จะกลับไปที่เกาหลีเมื่อฮวาหยาได้ออกจากวินเดอร์แมร์ไปแล้ว แน่นอนว่ามันใช้เวลาเพียงแปปเดียวเท่านั้น ฉันได้เรียกวอร์คเกอร์จากดันเจี้ยนและคว้าตัวเข้าไว้พร้อมตะโกนย้อนกลับ นั่นก็แค่นั้น

"หะ หืม? เมื่อกี้มันอะไรนะ? นายทำอะไรลงไป?"

"แน่นอนว่ามันเป็นความลับ"

เพราะแลลนั้นฉันก็ได้กลับมาที่บ้านพร้อมกับวอร์คเกอร์ และเพราะการที่ฉันปรากฏตัวในห้องนั่งเล่นพร้อมกับชาวต่างชาติ ครอบครัวของฉันที่อยู่ในห้องนั่งเล่นก็นิ่งไป

"พี่ค่ะ!"

"เฮ้ พี่กลับมาแล้ว"

ยุยได้กระโดดเข้ามากอดฉันอย่างรวดเร็ว ฉันได้ลูบหัวเธอและมองไปหาวอร์คเกอร์ 'นายจะต้องปกป้องเธอ'

"ผมกลับมาแล้ว"

"ใช่แล้ว แกอยู่ในทีวีดังนั้นหนูก็เลยคิดว่าพี่จะกลับมาในเร็วๆนี้"

พ่อได้ชี้ไปที่ทีวี บนห้นาจอเป็นภาพผู้ชายผมสีเงิน ตาสีแดงสวมใส่หน้ากากที่กำลังให้สัมภาษณ์โดยที่มีทะเลสาบวินเดอแมร์เป็นพื้นหลัง พวกเขาต้องการให้ฉันสัมภาษณ์ในทันทีที่การเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จสิ้น แต่ว่าฉันก็ไม่คิดว่ามันจะออกอากาศในเกาหลีทันที

"พี่ชายดูเจ๋งจริงๆ!"

"ขอบคุณนะ แม้ว่านั่นจะไม่ใช่รูปลักษณ์จริงๆก็ตาม"

ในทีวีผู้คนได้คาดเดาจากลักษณ์ของอัศวินสายฟ้าว่าเขาเป็นลูกครึ่งระหว่างชาวตะวันตกกับชาวตะวันออก เมื่อเห็นว่าผู้สื่อข่าวได้พูดอย่างชัดเจนว่าฉันก็มีโอกาสจะเป็นชาวเกาหลีได้จากความสัมพันธ์กับฮวาหยามันได้ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กน้อย

"แล้วเด็กหนุ่มนั่นใครกันล่ะ?"

"วอร์คเกอร์ นี่เป็นครอบครัวของฉัน แนะนำตัวเองสิ สั้นๆนะ"

เพราะว่าวอร์คเกอร์ไม่สามารถจะพูดเกาหลีได้ เขาได้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามครอบครัวของฉันก็เข้าใจในภาษาเกาหลีระดับหนึ่ง พวกเขาก็ไม่ได้มีปัญหาในการทำความเข้าใจมากนัก ความจริงแล้วเพราะพ่อได้เดินทางไปทั่วโลกบ่อยๆ พ่อก็ได้รู้ในพื้นฐานการสนทนาหลายๆภาษา

"ทุกวันนี้มันอันตราย ดังนั้นฉันก็เลยจะจ้างให้เขามาเป็นบอดี้การ์ดให้กับยุย อ่า เขาไม่ได้จะอยู่กับเราหรืออะไรแบบนั้นหรอก"

"แล้วไม่มีบอดี้การ์ดให้แม่หรอ?"

"แม่ไม่ค่อยออกไปไหนมากนัก ถ้าแม่ตกอยู่ในอันตรายแม่สามารถจะโทรหาผมหรือไม่ก็พ่อได้เสมอ"

"ฟู่ ที่รักดูสิ ลูกชายของเราได้มองข้ามแม่และสนใจแต่น้องสาว"

"เมื่อที่รักออกไปก็สามารถจะพาฉันออกไปด้วยก็ได้ ยังไงก็ตามบอดี้การ์ดหรอ หือ... วอร์คเกอร์นักสำรวจนี่นา นายมาจบลงที่ก่ดเป็นบอดี้การ์ดได้ยังไง?"

ฉันได้ขยิบตาให้กับพ่อและบอกว่าจะอธิบายเรื่องนี้ทีหลังผ่านข้อความส่วนตัวนักสำรวจ จากนั้นฉันก็ลูบหัวยุยที่ตอนนี้ใจเย็นลงแล้วและแยกตัวออกมาจากเธอ จากนั้นฉันหันหน้ากลับไปหาวอร์คเกอร์

"ไปกันเถอะวอร์คเกอร์ พวกเราจะต้องทำให้นายมีตัวตนและสถานที่ๆนายจะมีชีวิตอยู่"

"มันแน่นอนว่าเป็นเรื่องง่าย ประเทศของผู้ใช้พลังจะยอมรับนายโดยไม่สนใจในอดีต"

"มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าโลกนี้เป็นยังไง ผู้มีพลังในการต่อสู้มันมีความสำคัญกว่าเรื่องเล็กๆแบบนั้น"

เมื่อฉันกำลังจะออกไปจากบ้านยุยก็ได้หยุดฉันเอาไว้ ด้วยรอยยิ้มที่สดใสเธอได้ยื่นมือไปหาวอร์คเกอร์

"ด้วยความสัตย์จริงหนูไม่คิดว่าจะต้องการบอดี้การ์ดเลย แต่ว่าดูแลหนูด้วยล่ะ หนูคังยุย"

"หืม โอเค ฉันเอ็ดเวิร์ด วอร์คเกอร์"

พวกเขาทั้งคู่ได้จับมือกันเบาๆหลังจากแนะนำตัว วอร์คเกอร์และฉันก็ได้ออกไปจากบ้าน วอร์คเกอร์ได้ใส่หน้าผีลงไปและเปลื่ยนหน้าตตาของเขาไปเป็นชายที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน

"แบบนี้เป็นไงบอส"

"บอส?"

"นายไม่ใช่บอสหรอ?"

"ตามสัญญาพวกเราเท่าเทียมกัน ดังนั้นเรียกฉันเพียงแค่ชื่อ"

"นายนี่มีจุดยืนที่ชัดเจนดีนะ แต่ว่า...ไม่เป็นไร คังชิน"

"นั่นแหละ"

"น้องสาวของนาวไร้เดียงสาและใจดีไม่เหมือนกับนายที่ภายในดำมืดและบ้าคลั่ง นายเกิดมาจากพ่อแม่ที่ต่างกันหรอ?"

"ถ้านายตกหลุมรักเธอ ฉันจะฆ่านาย"

คำตอบของเขาทำให้ฉันตกใจ

"ให้ตายสิ เธออายุราวครึ่งหนึ่งของฉันเองนะ...ไม่ใช่ว่าฉันเป็นเฒ่าหัวงูนะ"

"ครึ่งหนึ่ง!? นายอายุเท่าไหร่!?"

"ฉันอายุ 36 ปี"

แล้วนายดูเด็กแบบนี้ได้ยังไง

"มันใช่หรอที่นายอายุ 37 ปี?"

"ใช่แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเป็นของเล่นของเขาตั้งแต่ยังเด็ก เพียงแค่คิดถึงมันก็ทำให้ฉันอยากจะบ้าแล้ว"

"บริทแมนนายมันดูเหมือนพวกคนอายุ 20 ต้นๆเองนะ"

"....การจ้องมองของนายมันทำให้ฉันไม่สบายใจ"

"ทำไมนายถึงไม่แต่งงานล่ะ? บริทแมนไม่อนุญาตหรอ?"

"ฉันไม่มีโอกาสนะ"

"อ่า เข้าใจแล้ว นายไม่มีโอกาสสินะ"

"การพูดของนายมันทำให้ไม่พอใจมากๆเลย"

"อะไร? ทำไมล่ะ? นายเพียงแค่ไม่มีโอกาส"

"อึก...ฉันอยากจะฆ่าแก แต่ว่าเมื่อคิดเกี่ยวกับมันก็ทำให้หัวฉันเจ็บ...!"

วอร์คเกอร์ได้ไปพะเมินพลังและได้รับระดับ B มา ถ้าเขาใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์และความสามารถซ่อนตัว ฉันก็คิดว่าเขาอาจจะได้รับระดับ A+ แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงในการประเมิน

หลังจากที่ได้เซนต์สัญญาผู้ใช้พลังแล้ว ที่เหลือก็ราบรื่นไปหมด สำหรับตอนนี้ฉันก็ได้หาห้องพักให้เขาอยู่และจ่ายค่าพักไปแล้วในที่ๆใกล้ๆบ้านฉัน

ความจริงฉันแม้แต่คิดถึงการออกจากบ้านและกลายเป็นอิสระ เพราะว่ามอนสเตอร์อาจจะเล็งเป้ามาที่ฉันและนั่นก็จะทำให้คนในครอบครัวใกล้ๆตัวของฉันอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ตามเมื่อฉันคิดย้อนกับไปในสิ่งที่โรเล็ตต้าบอก แนก็ควรจะปล่อยมันไว้ก่อน ฉันควรจะรักษาชีวิตประจำวันตามปกติไว้ก่อนจะถึงวันนั้น

ฉันรู้ว่าชีวิตประจำวันที่เธอหมายถึง มันไม่ใช่แค่ความสงบที่โรเล็ตต้าและฉันสามารถจะอยู่ด้วยกันได้เท่านั้น แต่มันก็มีชีวิตในโลกของฉันอีกด้วย อย่างเช่นว่าในตอนนี้ เมื่อถึงเวลาที่เธอจะบอกฉัน ฉันก็รู้ว่าเธอกำลังทำให้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับฉัน แน่นอน...ฉันก็จะต้องตอบเธอไปเช่นกัน อูววว ฉันรู้อาย มีความสุข และแปลกๆไปพร้อมๆกัน ตอนนี้ฉันได้คิดถึงปัญหากับเยอึยด้งบเหมือนกัน ในหัวฉันมีแต่เรื่องสับสน

แม้ว่าในขณะที่ฉันกับลังคิดถึงสิ่งเหล่านี้ฉันก็จัดการดูแลห้องพักในโรงแรมของวอร์คเกอร์และจ่ายค่าเช่า วอร์คเกอร์ได้ถามฉันในทันที

"นายอาจจะมีเงินมากสินะ"

"ฉันสามารถแลกทองกับมันได้ ดังนั้นฉันก็เลยมีมากพอที่จะทำแบบนี้"

"แม้ว่าฉันจะอยู่บนชั้นที่ 44 ฉันก็ได้รับแค่ 100 ทองในทุกๆสามตัวที่ฉันจัดาร ด้วยแบบนี้ฉันก็เลยไม่เหลืออะไรมากนักเมื่อเอาไปจ่ายค่าโพชั่นและก็ซื้อเครื่องสวมใส่ อย่างน้อยฉันก็ไม่เหลือพอจะใช้มันทำแบบนี้ มันแตกต่างไปจากนายหรอ?"

"นายอยู่บนชั้นที่ 44 และได้เงินเพียงแค่ 100 ทองในทุกๆสามตัวหรอ? ฮ่าห์นั่นมันคือสิ่งที่ดันเจี้ยนที่สามเป็น"

"นายมีพรสวรรค์ในการทำให้คนอื่นคลั่งจริงๆ แก! อ๊ากก!"

ฉันรู้สึกสนุกที่ดูวอร์คเกอร์โกรธและทรมาน ด้วยแบบนี้วอร์คเกอร์ก็กลายมาเป็นเพื่อนบ้านของฉันและยุยก็ได้รับคนคุ้มกันที่น่าไว้ใจ หลังจากที่ฉันจัดการเรื่องนี้แล้วฉันก็กลับไปในดันเจี้ยน เวลาหนึ่งสัปดาห์มันได้สิ้นสุดไปแล้วในวันนี้

เมื่อฉันนึกถึงการต่อสู้กับยมทูตอีกครั้ง แต่แล้วฉันก็จำได้ถึงคำพูดของหลินมานานแล้วที่พูดเกี่ยวกับนักสำรวจหลายคนติดอยู่ที่ชั้นที่ 40 แบบนั้นฉันก็เลยคิดที่จะเข้ารวมปาตี้กับพวกเขา

"หืม? ฉันไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลย นายเป็นเด็กใหม่ที่พึ่งมาถึงชั้นที่ 20 สินะ"

หลังจากหัวหน้าปาตี้แล้ว คนอื่นๆก็ได้ทักทายฉันตามปกติ บางคนมองมาอย่างเป็นกังวล

"เราอาจจะถูกเตะออกมาเร็วกวาปกติก็ได้ ทำไมไม่เตะเขาออกไปล่ะ?"

"อย่าพูดแบบนั้นสิ เด็กใหม่ควรจะได้ไปหาประสบการณ์ด้วย เพราะยังไงเราก็จะล้มเหลวอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ให้เขาได้ประสบการณ์หน่อย"

"เราไม่เคยประสบความสำเร็จเลย เราจะเน่ากันในชั้นที่ 40 นี่แหละ"

"..."

นี้มันคืออะไรกัน....หมดหวัง? ความรู้สึกแห่งความพ่ายแพ้ได้ครอบคลุมไปหมด

"แม้ว่าถ้าเราจะผ่านไป มันก็ไม่มีความหมายอะไรมากนักที่จะเลเวลอัพไป แบบนี้เราก็ควรจะช่วยเด็กใหม่ซักหน่อยนะ"

"ทุกคนมีกำลังใจหน่อยสิ เด็กใหม่จะท้อเอานะถ้าพวกนายเป็นแบบนี้"

ไม่สิ ฉันต้องการที่จะชกหน้าพวกนายซักครั้งก่อนเลย... ฉันได้ก้มหน้าลงไปให้จากคำพูดหลายๆอย่างและแนะนำตัวสั้นๆ

"ฉันคังชิน นักสำรวจจากโลก"

"นักสำรวจจากโลก?"

"คังชิน? เดี๋ยวก่อนนะ...คังชิน?"

"มีเพื่อนของพวกเราหลายคนที่ติดอยู่ในชั้นที่ 40 ได้ทะลวงผ่านไปหลังจากได้เข้าปาตี้กับนักสำรวจจากโลกที่มีชื่อว่าคัง ยงอู"

"ฉันก็อยู่ที่นั่นด้วย ฉันตาย แต่มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จหลังจากนั้น"

"มันไม่ใช่แค่นั้น เมื่อเร็วๆมานี้ฉันได้ยินมาจากในเขตพื้นที่พักอาศัย เกี่ยวกับข่าวลือของเจ้าชายคังชิน"

"เจ้าชายรัชทายาอยู่บนชั้นที่ 40..."

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักชื่อ 'เจ้าชายรัชทายาท' ด้วยร้อยยิ้มอันข่มขื่นฉันก็พูดต่อไป

"ฉันได้ทะลุผ่านชั้นที่ 40 ไปแล้ว ฉันจะพูดอย่าจริงจัง ถ้าพวกนายต้องการจะผ่านชั้นนี้ก็พยายามอย่างดีเพื่อเอาตัวรอด ฉันไม่สามารถจะรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของพวกนายได้"

"เจ้าชาย..."

"เข้าใจแล้ว"

"ฉันยังได้รับมัน ฉันต่อการจะปีนสูงขึ้นไป ฉันยังมีโลกของฉัน..."

"บางที... ความน่าอัศจรรย์ก็จะมาหาฉันด้วย แม้ว่าฉันจะจากโลกของฉันไป ฉันก็อาจจะสามารถปีนต่อไปได้ต่อไป...!"

จิตวิญญาณได้กลับมาหาสมาชิกในกลุ่มสองสามคน เยี่ยม นี้มันก็พอแล้ว ถ้าฉันสามารถจุดประกายของพวกเขาได้นิดๆหน่อยๆนั่นก็พอแล้ว! ฉันได้ชูหอกขึ้นไปและตะโกนออกมา

"เป้าหลายคือเพื่อจะให้ทุกคนทะลวงผ่านชั้นที่ 40 ไปกันเถอะ!"

"โอ้วววว!"

อย่างไรก็ตามยมทูตเป็นศัตรูที่เลวร้าายที่สุดกับกลุ่ม เขาใช้การโจมตีส่วนใหญ่ที่มีวงกว้างและเมื่อเขาเทเลพอตไปข้างหลังเป้าหมายแบบสุ่มๆ นักรบจะได้รับบาดเจ็บร้ายแรง และนักเวทย์กับนักบวชก็จะตายในหนึ่งที คลื่นใบมีด เคียวที่ออกมาจากท้อง และมือสีดำที่ขึ้นมาจากพื้น ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อันตรายถึงตาย

มันเป็นการยากที่จะต่อสู้กับยมทูต แต่ว่านอกกจากนี้ก็ยังมีวิญญาณร้ายอีก 500 ตัวที่จะต้องกังวลเมื่อเริ่มขึ้น ฉันได้บอกกับสมาชิกปาตี้ให้โฟกัสไปที่การฆ่าวิญญาณ แต่พวกเราก็ยังตายไปทีละคนในระหว่างนั้น เมื่อถึงเวลาที่วิญญาณทั้งหมดถูกฆ่าก็มีสมาชิกเพีรยงแค่สามคนที่เหลืออยู่

"อึก วันนี้พวกเรากินเวลานานแล้ว"

"คิดว่าพวกเราฆ่าวิญญาณทุกอย่าง..."

"ระวังข้างหลัง!"

[ตาย!]

ในขณะที่ทั้งสามคนได้ยินเสียงตะโกนของฉัน พวกเขาก็ไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น เคียวของยมทูตได้วาดเหนือร่างกายของเขา ทันทีหลังจากนั้นฉันก็ได้หยุดการเคลื่อนไว้ของยมทูตด้วยพลังของยุย เพราะพลังป้องกันเวทย์ของยมทูต ทำให้ริยูสามารถจะหยุดเขาได้เพียงครู่หนึ่งเท่านั้น แต่มันก็ยังมีเวลามากพอที่จะให้ฉันเข้าใกล้และแทงเขา

"กินนี่ซะ!"

เริ่มด้วยความเร็วศักดิ์สิทธิ์และตามด้วยสายฟ้าสีขาวโจมตีต่อเนื่อง! จากการโจมตีต่อเนื่องของหอก หน้าอกของยมทูตได้ถูกเจาะเป็นหลุมใหญ่ จากนั้นเขาก็หนีออกมาจากบ่วงของริยูและอัญเชิญมือสีดำในขณะที่บินขึ้นไป อย่างไรก็ตามฉันก็รู้วิธีจัดการกับมือสีดำแล้ว

ฉันได้เรียกให้ริยูเข้ามาในเกราะและแช่แข็งมือสีดำทำให้มันแตกสลายไปในทันทีที่แตะโดนฉัน คนอื่นๆก็ได้ถูกกอดอยู่ภายในบาเรียศักดิ์สิทธิ์ของหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่เป็นนักบวชสร้างขึ้น ฉันได้ยืนยันว่าพวกเขาปลอดภัยและตะโกนขึ้น

"นายนักบวช นายสามารถเอามันลงมาจากท้องฟ้าได้ไหม!?"

"โอ อิลโลนู ทำลายปีศาจที่ชั่วร้าย! ค้อนศักดิ์สิทธิ์!"

[ก๊าซซซ! เจ้ามันเป็นข้อบกพร่องที่ทำให้ฉันรำคาญ!]

"ฉันรอแกอยู่"

หลังจากที่มันตกลงมาบนพื้นจากค้อนศักดิ์สิทธิ์ ยมทูตก็ได้หายไปและปรากฏตัวขึ้นข้างหลังของฉัน ฉันได้หันกลับไปในทันทีและแทงหอกของฉันที่ใช้สปิริตออร่าไปใส่เขาและทำให้เขาต้องกรีดร้อง แม้ว่าเขาจะเรียกเคียวสีดำและมันตกลงมาที่หัวของฉัน ถ้ามันลงมาโดนหัวฉันมันก็พอที่จะทำให้ฉันรอดได้เลย ด้วยหอกของฉันที่อยู่ในมือ ฉันได้ใช้ร่างกายหมุนและปั่นมัน หลบจากเคียว และจากนั้นฉันก็ส่ายหอกรุนแรงขึ้นและตะโกนออกมา

"ระเบิดสายฟ้า!"

[ติดคริติคอล!]

แม้ว่าการโจมตีของฉันจะประสบความสำเร็จ แต่ฉันก็ได้ถอยกลับไปในทันที เคียวเล็กๆได้โผล่ออกมาจากร่างกายของเขาและบินออกมา ร่างกายของเขานั่นเป็นอาวุธ ฉันไม่สามารถจะลดการป้องกันของฉันลงได้เลยสักนิด ฉันจะต้องใช้วิธีการโจมตีและถอยแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั่นแม้ว่าในตอนที่ถอยฉันก็จะต้องระวังการโจมตีระยะไกลอีกด้วย เขาเป็นบอสที่น่ารำคาญจริงๆ

[ข้าจะฆ่าแก ฮีโร่]

"นายนี่คิดเหมือนฉันเลย ฉันก็ต้องการจะฆ่านายเหมือนกัน"

ฉันได้ให้รอยิ้มออกมาและเสริมพลังของหอก จากนั้นฉันก็ได้พุ่งเข้าไปหาเขาโดยที่ไม่ลังเล เจ้านี่เป็นคนที่ทำให้ฉันตาย! จงลิ้มรสความโกรธและความเสียใจของฉันทั้งสัปดาห์ซะ!

[คุณได้รับ 37,500 ทอง]

[รางวัลจะถูกแยกตามลำดับผลงาน]

[คังชินมีผลงานมากที่สุด เลือกรางวัลของคุณ]

[1.เคียวของยมทูต

2.อิลิกเซอร์เสริมความแข็งแกร่งวิญญาณ

3.โพชั่นมานา

4.เสริมพลังดาบ]

ในที่สุดฉันก็สามารถจะฆ่ายมทูตได้โดยที่ไม่มีใครตาย อย่างไรก็ตามคนอื่นๆจากปาตี้ที่แตกต่างกันได้มองไปที่ยมทูตด้วยความสุขกึ่งงุนงง ฉันไม่สนใจในสิ่งที่พวกเขารู้สึกแล้วมองไปที่ลิสต์ของรางวัล ดีที่มันมีอยู่ ฉันได้เลือกอิลิกเซอร์มาในทันทีและกินมันลงไป

[คุณได้กินอิลิกเซอร์เสริมแกร่งวิญญาณ วิญญาณจะถูกกลั่นให้ทรงพลังขึ้น พลังเวทย์และเสน่ห์เพิ่มขึ้น 1]

รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของฉัน เยี่ยม ฉันกำลังแข็งแกร่งขึ้นไปอย่างช้าๆ แต่ว่ามันแน่นอน ฉันได้มั่นใจในการเติบโตของฉัน

ฉันยังคงล่ายมทูตต่อไป ความแข็งแกร่งขอบฉันได้เติบโตและยิ่งไปไกลในดันเจี้ยนเท่าไหร่ ฉันก็จะต้องแข็งแกร่งขึ้นต่อไป ฉันจะได้ยกระดับธาตุของฉัน นักสะสมทักษะและเปลื่ยนอุปกรณ์ของฉันถ้าจำเป็น

ด้วยแบบนี้ฉันได้แข็งแกร่งขึ้น

เพื่อที่จะไม่คุกเข่าลงต่อหน้าความสิ้นหวังที่เหล่าคนพวกนั่นมักพูดเสมอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด