ตอนที่แล้วGE372 ข้าจ่ายให้ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE374 ผู้ใดช่วงชิง ผู้นั้นตาย [ฟรี]

GE373 ผลึกน้ำแข็งเจ็ดสี [ฟรี]


ภายในถ้ำที่หนิงฝานสร้างไว้ หนิงฝานใช้ชีวิตอย่างสงบภายในนั้น

โลกภายนอก 1 ปีเท่ากับ 128 ปีในนี้ หนิงฝานบอกลู่ชิงว่าจะเข้าสู่หอคอยเพียง 1 ปี ซึ่งเท่ากับเขาจะมีเวลาฝึก 128 ปี

แต่ละห้องที่คนเข้าใช้หอคอยจะมีเพียงตนเอง ไม่มีผู้อื่นเข้ามารบกวน

ยามนี้หนิงฝานมีปราณดั้งเดิม 5884 เกราะ ปราณอสูร 71440 เกราะ และปราณปีศาจ 83470 เกราะ

เขานำโอสถเสริมดวงจิตที่ได้มาเป็นจำนวนมาก โอสถชนิดนี้คือโอสถผันแปรที่ 4 เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม โอสถ 1 เม็ดมีค่าเท่ากับปราณ 1 เกราะ

เขามีโอสถเสริมดวงจิตทั้ง 1290 เม็ด แต่ละเม็ดเทียบราคาได้เท่ากับ 1 แสนหยกสวรรค์ หากหาซื้อตามทั่วไป คงหมดหยกสวรรค์ไม่น้อย

หลังจากหนิงฝานกินโอสถเสริมดวงจิตทั้งหมดเข้าไป ปราณดั้งเดิมของเขาเพิ่มขึ้นมาเป็น 6940 เกราะ มีโอสถบางเม็ดที่ให้ปราณได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่หนิงฝานไม่สนใจ เขามีสมุนไพรมากมายจากวิหารสาบสูญ มีสมุนไพรสำหรับโอสถเสริมดวงจิตหลายชุด ย่อมเพียงพอให้เขาปรุงและกินมัน

หนิงฝานยื่นมือไปเบื้องหน้า กำมือที่เปล่งแสงสีคราม ถัดออกไปเบื้องหน้าปรากฏกระถางโอสถขนาดใหญ่ที่ก่อตัวจากเจตจำนงค์พิรุณ

หนิงฝานเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นกลาง มีเพลิงปีศาจและปราณแช่แข็งสวรรค์รวม 9 ชนิด เขาสามารถปรุงโอสถเสริมดวงจิต 1 เตา ซึ่งมีสมุนไพรภายในเตาอยู่หลายชุดให้เสร็จได้ในเวลา 3 วัน

หากเทียบกับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นต้น คนเหล่านั้นจะไม่กล้าปรุงโอสถเสริมดวงจิตหลายชุดใน 1 เตา เพราะเสี่ยงต่อการล้มเหลว ผิดกับหนิงฝานที่มีทั้งเพลิงที่ทรงพลัง วิชาปรุงโอสถที่ล้ำเลิศ การควบคุมเพลิงที่แม่นยำ สัมผัสเทพที่แข็งแกร่ง และโชคชะตาที่ไม่ด้อยไปกว่าผู้ใด

เมื่อมีทั้งพลังและโชค จึงทำให้การปรุงโอสถผ่านไปอย่างราบรื่น

ด้วยเวลา 1 เดือน หนิงฝานปรุงโอสถเสริมดวงจิตได้ 1200 เม็ด

เมื่อผ่านไป 6 ปี หนิงฝานปรุงโอสถเสริมดวงจิตได้ทั้งหมด 8000 เม็ด ยามนี้เขาไม่เหลือสมุนไพรของโอสถชนิดนี้แล้ว

หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 คนเหล่านั้นจะใช้เวลาราวครึ่งเดือนในการปรุงโอสถเสริมดวงจิตได้แต่ละเม็ด แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะปรุงโอสถสำเร็จเสมอไป หากคนเหล่านั้นจะปรุงโอสถเสริมดวงจิตให้ได้ 8000 เม็ด อย่างน้อยพวกมันต้องใช้ 300 ปี

6 ปีเทียบเท่า 300 ปี แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานกลับพบว่า ทักษะปรุงโอสถของตนแทบจะไม่ได้ก้าวหน้าขึ้น

การที่นักปรุงโอสถจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงได้นั้น จิตวิญญาณสมุนไพรต้องเป็นสีดำสนิท ยามนี้ หนิงฝานเพิ่งสังเกตุเห็นว่า จิตวิญญาณสมุนไพรของตนเป็นสีดำได้เพียง 1 ใน 100 ส่วนเท่านั้น

ยามนี้ หนิงฝานต้องพักการปรุงโอสถเพื่อมากินพวกมันแทน แต่ยิ่งกินพวกมัน ประสิทธิภาพของพวกมันก็ยิ่งดูจะลดลง

โอสถเสริมชุดแรก 1000 เม็ดที่กินเข้าไป ช่วยให้เขาได้ปราณเพียง 650 เกราะ ชุดที่สองอีก 1000 เม็ดให้ปราณเพียง 520 เกราะ… 450… 420… 330… 290… 240… กระทั่งชุดสุดท้าย เขาได้ปราณเพียง 50 เกราะเท่านั้น

หากเทียบกับผู้เชี่ยวชาญในโลกพิรุณคนอื่นๆ หนิงฝานคงเป็นผู้ที่กินโอสถเสริมดวงจิตมากที่สุดในโลก

ยามนี้หนิงฝานมีปราณดั้งเดิมทั้งหมด 9890 เกราะ หลังจากนั้นอีกเดือน เขานำโอสถจำนวนมากที่ได้มา กินเข้าไป ทั้งยังดูดกลืนเพลิงชนิดต่างๆที่ได้มาจาการต่อสู้

เขามีเพลิงระดับ 3 ด้วยกันกว่าพันชนิด เพลิงระดับ 4 อีกสองร้อยชนิด และเพลิงปีศาจที่ได้มาจากท่านหยานอีก 3 ชนิด

เพลิงปีศาจที่ได้มานั้น มี ‘เพลิงพิษกัดกร่อน’ จัดอยู่อันดับ 12… ‘เพลิงอัสนี’ จัดอยู่อันดับ 9 และ ‘เพลิงรุ้งเจ็ดสี’ จัดอยู่อันดับ 4

เพลิงปีศาจทั้งสามชนิดที่ได้มานั้น ไม่ได้ยกระดับเพลิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยเรื่องความเร็วในการปรุงโอสถด้วย

“ดูดซับ!”

เปลวเพลิงสีดำหมุนวนรอบกาย หนิงฝานอ้าปากดูดกลืนเอาดวงเพลิงที่ลอยอยู่เบื้องหน้า

เพลิงทั้งหมดเหล่านี้ราวกับเป็นเพลิงที่หาได้ในทะเลไร้สิ้นสุดทั้งหมด

เขาใช้เวลาดูดซับเพลิงทั้งหมดเป็นเวลา 9 เดือน และด้วยอานิสงค์ของมัน ทำให้ปราณดั้งเดิมของเขาบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้นด้วยปราณ 14200 เกราะ

ยามนี้ ดวงจิตของหนิงฝานเริ่มเปลี่ยนเป็นดวงจิตเทพอย่างช้าๆ ขนาดของดวงจิตมีขนาดเท่าฝ่ามือ รูปร่างหน้าตาเหมือนหนิงฝาน สีหน้าดูมีความสุข

ปราณดั้งเดิมของเขาบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ และไม่นาน เปลวเพลิงสีเงิน...เพลิงทัณฑ์สวรรค์ก็ปรากฏ!

หนิงฝานถอนหายใจ เดิมทีเขานึกว่าจะเป็นทัณฑ์สวรรค์อัสนี เพราะจะได้ใช้มันยกระดับแส้อัสนีโลหิต แต่อย่างน้อยเพลิงทัณฑ์สวรรค์ก็สามารถนำมาเป็นแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงให้กับจารึกตะวันจันทรา

หลังจากรอให้เพลิงทัณฑ์สวรรค์ก่อตัวจนสมบูรณ์ หนิงฝานอ้าปากดูดกลืนพวกมันทั้งหมดเข้าสู่จารึกตะวันจันทรา ผ่อนลมหายใจพ่นเอาปราณไม่บริสุทธิ์ออกมา

ยามนี้ ทั่วร่างหนิงฝานแผ่แรงกดดันที่ทรงพลัง จนทำให้ถ้ำที่เขาขุดไว้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

เปลวเพลิงสีดำลุกโหมทั่วร่าง กลิ่นอายของเพลิงที่แผ่ออกมาประกอบไปด้วยปราณเยือกแข็งสวรรค์ 5 ชนิด และเพลิงปีศาจอีก 7 ชนิด

แม้ปราณเยือกแข็งจะมีจำนวนน้อยกว่า แต่หากรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ยามนี้หนิงฝานรวบรวมปราณเยือกแข็งสวรรค์และเพลิงปีศาจได้ครึ่งหนึ่งของทั้งหมดแล้ว

เปลวเพลิงสีดำเหล่านี้ให้ความรู้สึกอันตรายร้ายแรง ความรุนแรงของมันเทียบได้กับเพลิงระดับ 7 หรือเพลิงไร้แบ่งแยก!

ด้วยระดับพลังของหนิงฝานยามนี้ ยังไม่อาจเปล่งอานุภาพของเพลิงได้เต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้น ก็เพียงพอทำให้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงไม่กล้ารับมือกับเพลิงของเขาตรงๆ

เพลิงทมิฬนี้จะกลายเป็นอาวุธลับของหนิงฝานอีกหนึ่งอย่าง

เพลิงทมิฬสามารถสร้างบาดแผลให้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงได้ เท่ากับทำให้ผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงบาดเจ็บสาหัส เท่ากับสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุดได้ในพริบตา

ยามนี้ จารึกตะวันจันทราของหนิงฝาน ฟื้นพลังได้ 3 ใน 10 ส่วนแล้ว!

*ฟู่ว~*

หนิงฝานพ่นลมหายใจ เอาปราณที่ไม่บริสุทธิ์จากการดูดซับเพลิงออกมา ยามนี้ปราณทั้ง 3 ชนิดของเขาบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณทั้งหมด ทำให้แรงกดดันของเขาทรงพลังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งผสานกับการดูดซับปราณจากโอสถ ยิ่งทำให้กลิ่นอายทรงพลังขึ้น

และยามนี้ สมควรแก่เวลาที่หนิงฝานจะปรุงและกินโอสถผันแปรที่ 5 แล้ว

โอสถผันแปรที่ 4 และ 5 นั้นต่างกันราวพิภพสวรรค์ การปรุงโอสถยากกว่า แต่ก็ให้ปราณที่ทรงพลังกว่าเช่นกัน

ด้วยเพลิงทมิฬที่หนิงฝานได้ ผสานกับวิชาปรุงโอสถของเขา เพียงครึ่งเดือนเขาก็ปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นต้นได้ แต่หากเป็นขั้นกลาง ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน แต่ไม่อาจรับประกันว่าจะสำเร็จ

10 ปีผ่านไป… หนิงฝานใช้เวลาทั้งหมดไปกับการปรุง ‘โอสถบำรุงจิต’ ซึ่งเป็นโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นต้น

โอสถชนิดนี้มีผลในการทำให้ดวงจิตเทพทรงพลัง มีสมุนไพรหลักด้วยกัน 3 ชนิด ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ล้วนได้มาจากวิหารสาบสูญ หากเทียบกันกับที่เขาวานให้ยู่หลงจัดการ การชิงสมุนไพรจากวิหารสาบสูญมานั้นเร็วกว่ามาก

ในช่วงเวลา 10 ปี หนิงฝานปรุงโอสถบำรุงจิตได้ทั้งหมด 225 เม็ด ด้วยอัตราความสำเร็จ 9 ใน 10 ส่วน ทั้งปราณอสูรยังเพิ่มพูนจากการปรุงโอสถด้วย

โอสถส่วนหนึ่งผสมโลหิตของอสูรไร้ดัดแปลง 18 หยดที่เขามี ทำให้โอสถที่ได้อัดแน่นไปด้วยปราณมากขึ้น

หนิงฝานเก็บโอสถบำรุงจิตไว้กินเองส่วนหนึ่งอีก 207 เม็ดที่เหลือเก็ไว้ให้หลั่วโยว่

ด้วยโลหิตอสูรไร้ดัดแปลง 18 หยดอัดแน่นไปด้วยปราณอสูร 3600 เกราะ แต่เมื่อผสานพวกมันเข้ากับโอสถ เมื่อกินเข้าไปทำให้หนิงฝานได้ปราณอสูรเพิ่มมาถึง 5000 เกราะ

หากหนิงฝานปรับระดับพลังและทำให้ดวงจิตเสถียรได้แล้ว เขาจะเริ่มปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ต่อ!

โอสถผันแปรที่ 5 นั้นเหมาะกับผู้เชี่ยวตัดวิญญาณ ราคาสูง หนึ่งเม็ดมีราคาประมาณ 5 ล้านหยกสวรรค์ หนึ่งเม็ดให้ปราณผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้ถึง 100 เกราะ

สำหรับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ราคาโอสถระดับนี้นับว่าแพงมาก พวกมันจึงใช้วิธีหาสมุนไพรมาให้นักปรุงโอสถปรุงให้ ซึ่งราคารวมที่เสียไปจะอยู่ที่ 1 ล้านหยกสวรรค์เท่านั้น

แต่สำหรับหนิงฝานแล้ว… เขาแทบไม่ต้องเสียหยกสวรรค์ซื้อสมุนไพรมา

เดิมทีหนิงฝานมีหยกสวรรค์มากมาย จับจ่ายซื้อหาสิ่งต่างๆในทะเลไร้สิ้นสุดและเผ่าลั่วหยุน ที่สำคัญ เขายังทุ่มหยกสวรรค์มหาศาลเพื่อสร้างเข็มทิศดาราขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ขัดสนหยกสวรรค์ เพราะยามใดที่ต้องการ ก็แค่ไปชิงมาเท่านั้น

หนิงฝานพักปรับระดับพลังและเริ่มปรุงโอสถอัสนี ซึ่งเป็นโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นกลาง

เขาใช้เวลา 3 เดือนในการปรุงโอสถอัสนีครั้งแรก จากนั้นใช้เวลาอีก 5 ปีในการปรุงโอสถอัสนี แต่ได้โอสถมาเพียง 5 เม็ด อัตราความสำเร็จมีอยู่เพียง 3 ใน 10 ส่วน

ถัดจากนั้นไปอีก 5 ปี หนิงฝานปรุงโอสถอัสนีได้ 8 เม็ด อัตราความสำเร็จเพิ่มเป็น 4 ใน 10 ส่วน หลังจากนั้นไปอีก 20 ปี หนิงฝานปรุงโอสถอัสนีได้อีก 62 เม็ด อัตราความสำเร็จเพิ่มเป็นเกือบจะถึง 8 ใน 10 ส่วน

เมื่อครบ 40 ปีที่ปรุงโอสถอัสนี สมุนไพรของโอสถอัสนีที่มีก็หมด จิตวิญญาณสมุนไพรเปลี่ยนเป็นสีดำไปมากกว่าครึ่ง

หนิงฝานกินโอสถอัสนีเข้าไปทั้งหมดภายในเวลา 5 เดือน ปราณดั้งเดิมยกระดับจนถึง 28320 เกราะ

ด้วยความที่ปราณดั้งเดิมเพิ่มขึ้นมาในเวลาสั้นๆ แต่มันยังไม่เสถียร หนิงฝานต้องใช้เวลาอีก 10 ปีในการปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ชนิดอื่นๆเพื่อปรับสมดุลพลังในระหว่างที่ปรุงโอสถไปด้วย

ยามนี้หนิงฝานใช้เวลาในหอคอยทั้งหมด 67 ปีแล้ว

ต่อจากนี้ หนิงฝานวางแผนจะยกระดับทะเลสติและสัมผัสกระบี่ของตน

ก่อนหน้านี้หนิงฝานได้โอสถเจตจำนงค์กระบี่มา 17 เม็ด โอสถเหล่านี้ล้ำค่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่ฝึกฝนกระบี่โดยเฉพาะ

เขากินโอสถเจตจำนงค์กระบี่เข้าไปทั้งหมด ใช้เวลา 3 ปีในการดูดซับ ทำให้ทะเลสติและสัมผัสกระบี่เสถียร

ใน 3 ปีนี้สัมผัสกระบี่และปราณกระบี่ของหนิงฝานทรงพลังขึ้นมาก จนแทบจะทำให้สัมผัสกระบี่ของเขาใกล้จะเทียบเคียงสัมผัสเพลิงของท่านหยาน

เขาสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับต่ำกว่าขอบเขตตัดวิญญาณได้ในพริบตา และทำให้ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้นบาดเจ็บสาหัส หากได้แผ่สัมผัสกระบี่ กองทัพศัตรูจะกลายเป็นทะเลโลหิต แต่ถึงอย่างนั้น หากเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญกระบี่ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง ลำพังแค่สัมผัสกระบี่และเจตจำนงค์กระบี่ของตนคงเอาชนะเหล่านั้นได้ยาก

ยามนี้วิชากระบี่ที่หนิงฝานมีเริ่มไม่เป็นประโยชน์กับเขามากขึ้น เพราะระดับของพวกมันต่ำเกินไป

แต่ถึงเขาจะนำวิชากระบี่ที่ได้มาจากสงครามออกมาดู พวกมันก็ไม่ได้ล้ำค่าพอเช่นกัน

แต่ในขณะที่ขบคิดอยู่นั้น แววตาหนิงฝานกลับเปล่งประกาย

เขานึกถึงข่ายอาคมกระบี่ของตงสวนสื่อที่อยู่บนเกาะหยิงซัว

หนิงฝานมีหัวใจข่ายอาคม ทำให้เขาเข้าใจข่ายอาคมกระบี่ของตงสวนสื่อ

ระดับข่ายอาคมกระบี่อยู่ที่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด แต่เมื่อหนิงฝานเสริมบางอย่างเข้าไป ทำให้มันยกระดับได้ถึงขอบเขตไร้ดัดแปลง

หากเขาวางข่ายอาคมกระบี่นี้ได้ เขาก็สามารถต่อกรผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงได้โดยง่าย

หัวใจข่ายอาคมและสัมผัสเทพ ทำให้หนิงฝานเรียนรู้และเข้าใจข่ายอาคมได้ง่าย กระทั่งเขาเข้าใจข่ายอาคมกระบี่ และเริ่มที่จะสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง

เขาเริ่มที่จะสร้างกระบี่ที่เป็นหัวใจของข่ายอาคม ซึ่งต้องสร้างมันขึ้นมาทั้งหมด 5000 เล่ม

เขาใช้เวลา 10 ปีในการทำความเข้าใจและทดลองสร้างกระทั่งได้กระบี่ออกมาเล่มหนึ่ง

หลังจากนั้นอีก 10 ปี หนิงฝานก็ออกมาจากถ้ำ ขยับมือเป็นท่าทาง กระบี่ทั้ง 5000 เล่มมุ่งปักไปยังตำแหน่งต่างๆในรัศมีไม่ไกลนัก

กระบี่แต่ละเล่มทรงพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดที่จู่โจมเต็มกำลัง

กระบี่แต่ละเล่มจัดวางรวมกันเป็นรูปทรงกระบี่ พวกมันเปล่งแสง ดูดซับเอาพลังดาราจำนวนมหาศาลเข้ามา

*ตูม!*

ดวงดาวระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว กระบี่ทั้ง 5000 เล่มกลับคืนสู่หนิงฝาน แต่ดาราที่เขาพักอยู่ถูกทำลายย่อยยับ

ด้วยอานุภาพของมัน หากผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงหลุดเข้ามา พวกมันคงไม่รอด

หนิงฝานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ยามนี้ยังเหลือเวลาอีก 50 ปี ซึ่งเขาตั้งใจจะใช้เสริมพลังให้กับอาวุธของตน

หนิงฝานใช้เวลา 1 ปีในการสลักอักษร ‘คม’ ลงไปบนกระบี่แยกสวรรค์ จนทำให้ระดับของมันเพิ่มขึ้นจนเกือบจะเทียบเท่าอาวุธในระดับไร้ดัดแปลง

จากนั้นอีก 1 ปีหนิงฝานสลักอักษรอัสนีลงบนแส้ และเสริมวิชาด้วยวิชาดูดกลืนและวิชาอัสนีเข้าไปจนทรงพลังขึ้นมาก

เข็มทิศดาราเองก็ได้รับการสลักอักษรอสูรโบราณลงไป ทรายดาราเองก็ได้รับการสลักอักษร ‘สยบ’ ลงไปทำให้มันทรงพลังขึ้นมาก

นับว่าน่าเสียดายที่ทรายดาราโลหิตที่ท่านหยานตั้งใจสร้างมันขึ้นมานั้น สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นของหนิงฝาน ทำให้ยามนี้ หนิงฝานมีอาวุธเทพโบราณแล้ว 4 ชิ้น

เมื่อจัดการอาวุธจนเสร็จสิ้น หนิงฝานก็นำแผ่นหยกออกมา 2 แผ่น แผ่นแรกเป็นวิชาที่ได้มาจากดาราสมุทร จากเมืองสุสานมังกร

หยกอีกแผ่นคือหยกที่สลักวิชาฝ่ามือเพลิงไร้ลักษณ์ แต่ด้วยวิชานี้ต้องฝึกฝนเพลิงจนมีระดับสูงจึงจะฝึกฝนได้ ซึ่งวิชานี้ไม่เหมาะกับหนิงฝานเช่นกัน

หนิงฝานออกท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆในหอคอยชั้น 7 พร้อมกับศึกษาวิชาได้มาจากเหล่าผู้ที่ถูกเขาสังหาร และเหล่าสตรีที่เคยร่วมรัก กระทั่งล่วงเลยไปอีก 30 ปี เหลืออีก 17 ปีก็จะถึงเวลาที่เขาต้องกลับออกไปแล้ว

หนิงฝานใช้เวลา 7 ปีหลังจากนั้นไปกับการใช้สมุนไพรมาทาบริเวณดวงตาข้างซ้ายเพื่อหวังจะยกระดับเนตรที่ได้จากโลหิตฟู่ลี่

เมื่อครบ 7 ปี หนิงฝานลองใช้ดวงตาซ้ายอีกครั้ง มันเปล่งแสงสีม่วง ภาพที่เห็นเองก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเช่นกัน

การบำรุงด้วยสมุนไพรตลอดทั้ง 7 ปีที่ผ่านมานั้น ทำให้ดวงตาซ้ายของเขายกระดับ และมองเห็นชั้นที่ 8 ของหอคอยอย่างชัดเจน

“หอคอยของวิหารสาบสูญมีด้วยกัน 7 ชั้น… แต่ชั้นที่ 8 นั่นมันอะไร?”

หนิงฝานมุ่งไปยังจุดสูงสุดของชั้น 7 และหยุดยืนเบื้องหน้าม่านพลังที่ขวางกั้น จากนั้นเร่งพลังจากดวงตาซ้าย เพื่อหวังจะมองสิ่งที่อยู่ภายในชั้น 8

เขาเห็นรูปปั้นโบราณหลายร้อยวางรวมกัน รอบข้างมีศิลาขนาดใหญ่ 7 ก้อนหมุนวนราวกับคอยคุ้มกัน และบนศิลาเหล่านี้ มีผนึกน้ำแข็งสีทองปักอยู่

ผนึกน้ำแข็งเหล่านั้นแผ่พลังแปลกๆออกมา ราวกับพลังเหล่านั้นสามารถทำให้เวลาเดินช้าลง

หนิงฝานตั้งสมาธิจ้องมองอยู่นาน กระทั่งรู้ว่าชั้นที่ 8 คืออะไร

ชั้นที่ 8 นั้นไม่อนุญาติให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปเก็บตัวฝึกฝน แต่เป็นสถานที่เก็บผลึกน้ำแข็ง 7 สี ที่ช่วยทำให้เวลาในหอคอยเดินเร็วกว่าภายนอก

“ผนึกน้ำแข็งพวกนั้นคืออะไร!” หนิงฝานขมวดคิ้ว แม้เขาไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไร แต่เขารู้ว่าพวกมันล้ำค่ามาก

“ข้าต้องไปเอามาดูให้ได้!” ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวหนิงฝาน และร่ำร้องให้เขาทำเช่นนั้น...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด