ตอนที่แล้วMPE บทที่ 25 หนูสายฟ้าโลหิตสีม่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMPE บทที่ 27 หมาป่าจันทราสีเงิน

MPE บทที่ 26 ตะขาบสายฟ้าหลังม่วง


เพื่อไม่เกิดเรื่องผิดพลาด เกาเผิงจึงเฝ้ามองการวิวัฒนาการของต้าซื่อตลอดเวลา

ลุงหลิวให้แก่นคริสตัลกับต้าซื่อโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตเขาก่อน ในตอนแรกเกาเผิงรู้สึกเคืองอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อคิดๆดูแล้วมันออกจะเป็นเรื่องตลกซะมากกว่า

มันก็เหมือนกับคุณนั่งรับประทานอาหารอยู่ แล้วคนข้างๆ ได้ตักกับให้เรา ตักแล้วตักอีกจนไม่สามารถกินต่อไปแล้ว

แม้มันจะเป็นความตั้งใจที่ดี แต่ก็ควรรู้ลิมิตของมัน

‘เอาเถอะ มันก็ไม่มีหลักฐานอะไร ไปว่าแกได้ด้วย’

ดังนั้น...

เกาเผิงโน้มตัวลงไปจับศีรษะมัน “ทีหลังอย่าไปกินของแปลกๆ ที่น่าสงสัยอีกแหละ เจ้าตะขาบตะกละ เข้าใจมั้ย”

‘ทำไมเค้าต้องถูกดุด้วยนี่ ฮือๆ TT’

ต้าซื่อถึงกับเสียใจ มันไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเกาเผิงดุ ‘เจ้านายบ้า นี่ไม่ใช่ความผิดของเค้าซะหน่อย’

มันยังคงวิวัฒนาการต่อไป ด้วยความเหนื่อยล้า ในไม่ช้ามันก็ผล็อยหลับไปในที่สุด

การวิวัฒนาการนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุด จนกระทั่งเมื่อเวลา 5ทุ่ม เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของต้าซื่อ ร่างกายของมันยาวขึ้นหลายสิบเซ็นติเมตร

เปลือกบนแผ่นหลังของมันเปลี่ยนจากสีม่วงเข้มเป็นสีม่วงสว่าง หากเข้าไปดูใกล้ จะพบว่ามีลวดลายสายฟ้าขนาดเล็กจำนวนมากปรากฏเป็นลวดลายบนเปลือกของมัน หนวดของมันห้อยลงไปที่พื้นด้วยความเหนื่อยอ่อน

[ชื่อสัตว์อสูร] ตะขาบสายฟ้าหลังม่วง

[เลเวล] 9 (ชนชั้นสามัญ)

[ระดับ] สูง

[คุณสมบัติ] สายฟ้า / พิษ

[ความต้องการในการยกระดับ] ดื่มผงใบไม้เงินผสมกับน้ำ ดื่มทุกวันเป็นเวลา 1สัปดาห์และกินแก่นคริสตัลสัตว์อสูรของสัตว์อสูร

ธาตุสายฟ้าชนชั้นนักรบ

ไม่เพียงจะยกระดับให้เป็นสัตว์อสูรระดับสูง แต่มันได้เปลี่ยนคุณสมบัติ จาก ธาตุหยิน/พิษ เป็นสายฟ้า/พิษ อีกด้วย

เกาเผิงมองมันนอนอย่างเกียจคร้านอยู่บนพื้น จากนั้นมันได้พ่นไอน้ำสีขาวออกมาจากรูหายใจของมัน

ตัวมันในตอนนี้เหมือนกับเครื่องยนต์ที่พ่นไอออกมาเลย

หลังจากดูแลต้าซื่อเสร็จแล้ว ก็ยังมีลิงทึ่มๆอีกตัวให้เขาดูแลต่ออีก

เกาเผิงเปิดกระเป๋าสีดำออก นำลูกสนเข็มออกมา มันถูกห่อเก็บความเย็นไว้อย่างดี

ลูกสนเข็ม ก็เหมือนกันลูกสนปกติแต่มีมันไปด้วยเข็มเรียวยาว มันมีสีเงิน ขนาดราวๆ 10เซนติเมตร มันแวววาววิ้งวับดั่งดาราบนท้องฟ้าเลย

เป็นพืชธาตุหยินที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสำหรับสัตว์อสูรธาตุน้ำแข็ง, หยิน, มืด และอันเดท

เกาเผิงซื้อลูกสนเข็มมา 8กิโลกรัม ซึ่งมันคงจะเพียงพอให้ดัมมี่กินตลอด1เดือน

ตอนนี้ดัมมี่อยู่ในระดับสมบูรณ์ ถ้าหากเขายกระดับอีกก็จะกลายเป็นระดับมหากาพย์ เกาเผิงไม่เคยเจอสัตว์อสูรระดับมหากาพย์มาก่อนเคยเห็นแต่ในทีวี

‘ดัมมี่เพิ่งจะวิวัฒนาการมาเอง ไว้เลี้ยงมันสักพักก่อนล่ะกัน ไว้ค่อยคิดเรื่องยกระดับดัมมี่ทีหลัง’

เกาเผิงเทลูกสนเข็ม 450กรัม ลงในชามสเตนแลส ชามอันเดียวที่ต้าซื่อใช้ ดัมมี่กระโดดดีใจเมื่อคิดว่าถึงเวลาอาหาร มันมองไปที่ชามสเตนแลสเห็นว่าเป็นลูกสนเข็มอยู่ในนั้น มันก็ลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะหยิบลูกสนเข็มขึ้นมา ใช้นิ้วขูดไปที่ผิวแหลมๆของลูกสนเข็ม ก่อนจะจับมันเข้าไปในปาก

มันใช้ฟันบดขยี้ลูกสนเข็มและเปลี่ยนให้เป็นกลุ่มหมอกควันสีเงินลอยอยู่ภายในกะโหลกศีรษะของมันราวกับมันกำลังสูบบุหรี่

ควันสีเงินถูกเปลวเพลิงสีฟ้าดูดซับเข้าไป ขณะที่เถ้าถ่านของลูกสนเข็มร่วงหล่นลงสู่พื้น

ก่อนที่ดัมมี่จะหยิบลูกสนเข็มลูกต่อไปเข้าปาก เกาเผิงกลับหยุดมันเอาไว้

“อย่าเพิ่งกิน” ดัมมี่งุนงงเล็กน้อยว่าเจ้านายหยุดมันทำไม เกาเผิงเดินไปหยิบไม้กวาดมากวาดเศษเถ้าถ่านบนพื้นและนำถังขยะมาวางใต้ปากที่ว่างๆของดัมมี่

“เอาล่ะ กินต่อได้” เกาเผิงกล่าว

ดัมมี่ปฏิบัติตามคําสั่งของเกาเผิงอย่างเคร่งครัด มันเคี้ยวลูกสนเข็มและปล่อยเถ้าถ่ายลงในถังขยะด้านล่างอย่างแม่นยำ

“เก่งมาก!” เกาเผิงชื่นชม

เขาหันไปดูนาฬิกาและพบว่ามันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

เกาเผิงเอนกายลงบนโซฟาและเริ่มอ่านหนังสือก่อนเข้านอน

ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้าขณะที่เด็กหนุ่มหลับพร้อมกอดหนังสือไว้ในอ้อมแขน ภายใต้แสงจันทร์เผยให้เห็นใบหน้าที่อ่อนโยนและผ่อนคลาย

ต้าซื่อตื่นขึ้นและจ้องมองเกาเผิง หลังจากนั้น มันรีบคลานเข้าไปในห้องนอนและคาบผ้าห่มออกมาคลุมร่างของเด็กชาย แล้วมันก็ทิ้งตัวลงนอนใกล้ๆโซฟาที่เกาเผิงนอนอยู่

เช้าวันรุ่งขึ้น เกาเผิงเดินทางไปโรงเรียน บนถนนเต็มไปด้วยสัตว์อสูรนานาชนิด แต่โรงเรียนไม่อนุญาตให้สัตว์อสูรเข้าไปในโรงเรียน

ณ ที่ประชุม

“ฉันไม่เห็นด้วย!! โรงเรียนควรจะเป็นสถานที่ที่สงบสุขสำหรับเด็กๆ สัตว์อสูรเหล่านี้ ไม่ควรได้รับอนุญาตให้เข้ามา!” ในห้องผู้อำนวยการโรงเรียน ชายชราในสูทเทาโต้เถียงอย่างดุเดือด

ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาคืออธิบดีสำนักงานศึกษาของเมืองฉางอาน

อธิบดีผู้นี้แสดงท่าทางซับซ้อน “มันไม่ใช่ผมที่เป็นคนตัดสินใจ เรื่องนี้ เป็นการตัดสินใจจากหน่วยงานระดับสูง ทางเราได้รับคำสั่งเมื่อไม่กี่วันก่อน คำสั่งได้ออกมาแล้ว ให้โรงเรียนทุกประเทศต้องปฏิบัติตามกฎใหม่นี่”

ผู้อำนวยการโรงเรียน เคยเป็นอาจารย์ของเขามาก่อน ดังนั้นอธิบดีเลยไม่ว่าอะไรกับท่าทีของฝ่ายตรงข้าม

ผู้อำนวยการโรงเรียนมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ฉันไม่ใช่คนแก่กะโหลกกะลา ภรรยาของฉันก็เลี้ยงสัตว์อสูรเช่นกัน แม้เราจะเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงแต่มันอย่างดี แต่มันก็ยังมีอันตรายอยู่ดี พวกระดับสูงไม่คิดว่าพวกมันจะเป็นอันตรายบ้างเหรอ?”

“พวกเขาต้องการให้แยกเด็กมัธยมต้นออกจากเด็กมัธยมปลายออกจากกัน พวกเราพึ่งประชุมกันเมื่อเช้านี้ มีมติว่าจะรวมโรงเรียนมัธยมปลายหมายเลข 3 กับ 7 เข้าด้วยกัน โดยโรงเรียนหมายเลข 3 จะถูกเปลียนเป็นโรงเรียนมัธยมปลาย ขณะที่โรงเรียนหมายเลข 7 จะกลายเป็นโรงเรียนมัธยมต้น”

แม้ผู้อำนวยการโรงเรียนจะไม่พอใจมากนักแต่เขาก็ต้องยอมรับในที่สุด

“โอ้ จริงสิ จะมีเจ้าหน้าที่จากกองทัพมาดูแลหลักสูตรใหม่ด้วยสินะ”

ผู้อำนวยการโรงเรียนขมวดคิ้วแน่นและรู้สึกสังหรณ์ร้าย “สถานการณ์มันตึงเครียดงั้นหรือ?”

“แม้มนุษย์จะพัฒนาทักษะต่างๆมากมาย แต่มันยังไม่เร็วพอ” อธิบดีกล่าว “สัตว์อสูรที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าวิวัฒนาการเร็วขึ้นอย่างมาก ทักษะและความรู้ของมนุษย์ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือพวกมันได้ หากเกิดสงคราม นักเรียนของเราต้องพร้อมที่จะเข้าร่วมกับกองทัพ”

“การป้องกันประเทศไม่ใช่เรื่องเล็กๆ” ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวอย่างจริงจัง “แต่อย่าบอกเรื่องนี้กับเด็กๆ อย่างน้อยก็ตอนนี้ สถานการณ์ในแนวหน้าก็ยังสงบดี ส่วนเรื่องนำสัตว์มาโรงเรียนได้ ลูกสาวของฉันจะต้องมีความสุขแน่ๆ เมื่อได้ยินข่าวนี้ เอาล่ะ ฉันจะแจ้งคุณครูทุกคนทราบเรื่องนี้”

…..

หลักสูตรในโรงเรียนมัธยมปลายนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับเกาเผิง พวกเนื้อหาทั้งหมดเขาได้เรียนรู้ด้วยตนเองจนหมดแล้ว รวมไปถึงหลักสูตรของมหาวิทยาลัยอีกด้วยและบางครั้งเขาก็ได้อ่านหนังสือนอกหลักสูตรอีก

นี่เป็นเหตุผลที่อาจารย์มู่หลางชิงอี้ อนุญาตให้เขาหยุดเรียนอย่างง่ายดาย ในความเป็นจริงเกาเผิงสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ ด้วยซ้ำ

เกาเผิงที่เก่งขนาดนี้ แต่ทำไมเขาได้ที่4ของชั้น นั่นก็เพราะว่าการสอบในยุคใหม่นับคะแนนสภาพร่างกายของวิชาพละรวมเข้าไปด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงจะได้ที่1ของชั้นไปแล้ว

เมื่อเกาเผิงเดินเข้าไปในห้อง เขากลายเป็นจุดสนใจของห้องในทันใจทันที อย่างไรก็ตามเขาไม่สนใจการจ้องมองของเพื่อนร่วมชั้นและเดินไปนั่งที่โต๊ะของเขาอย่างรวดเร็ว

อาจารย์มู่หลางชิงอี้เดินเข้ามาในห้อง กำลังจะเริ่มคาบโฮมรูม แต่จู่ๆก็มีเสียงตามสาย เรียกอาจารย์ทุกคนไปที่ห้องประชุมอย่างเร่งด่วน

ทันทีที่อาจารย์ออกไป เสียงซุบซิบจึงเริ่มดังขึ้น

“เกาเผิง” ตันเฉียนจินที่นั่งอยู่ด้านหน้าเกาเผิงหันหลังคุย “ฉันได้ยินมาว่านายได้รับหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลางแล้วใช่มั้ย?”

“หือ?” เกาเผิงสับสน ตันเฉียนจินรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

“นายไม่รู้งั้นหรือว่าตอนนี้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวเกี่ยวกับผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลางที่อายุน้อยที่สุดของเมืองฉางอาน นายได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาแล้ว” ตันเฉียนจินกล่าวชื่นชม

“นอกจากนี้ หลี่ซื่อกงยังบอกว่าแม่ของเขาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังและยังบังคับให้เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรมากขึ้นอีกด้วย เขาเลยพบกับช่วงเวลาที่ยากลําบากตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด