ตอนที่แล้วMPE บทที่ 19 หนังสือรับรองผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMPE บทที่ 21 ดั่งอยู่ในความฝัน

MPE บทที่ 20 ภาวะโภชนาการเกิน


ด้วยหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลางในกระเป๋า เกาเผิงรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

เพราะว่ามันจะเพิ่มโอกาสในการเข้ามหาวิทยาลัยอีก 30%

ที่จัตุรัสตอนนี้ ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน ผิดกับตอนแรกเลย สงสัยญาติพี่น้องที่มาเชียร์คงกลับไปหมดแล้ว ก็การสอบภาคปฏิบัติมันกินเวลาตั้ง 1สัปดาห์นี่

ณ สถานีขนส่ง วานรโครงกระดูก ยืนนิ่งๆอยู่ด้านข้างเกาเผิง ตราบเท่าที่ไม่มีใครพูดกับมัน มันก็ไม่ต่างจากโครงกระดูกที่ไร้ชีวิตเลย

คนขับรถมองวานรโครงกระดูกด้วยความตกใจ

“นี่คือบัตรประจำตัวของมันครับ” เกาเผิงแสดงบัตรยืนยันตัวตนของวานรโครงกระดูกที่ผู้อำนวยการเฉินออกให้ เขายื่นให้คนขับรถตรวจสอบ ทำให้คนขับรถรู้สึกทำตัวไม่ถูก

“อะแฮ่ม! ค่าโดยสารคิดเป็น 3คนนะ” คนขับรถเกาเผิง

สัตว์อสูรก็ต้องจ่ายค่ารถเช่นกัน ราคาขึ้นอยู่กับขนาดร่างกายของพวกมัน

หลังจากขึ้นมาบนรถ วานรโครงกระดูกกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนทันที

“เฮ้ เด็กน้อย นายไปหาสัตว์อสูรตัวจากที่ไหนอ่ะ โคตรเจ๋งเลยวะ!” ชายผมทองตะโกนด้วยความตื่นเต้น

เกาเผิงชําเลืองตามองแต่ไม่ตอบ เขาจะพูดได้อย่างไรว่าเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง เมื่อเห็นเกาเผิงดูท่าไม่สนใจเขา ชายผมทองจึงโมโหทันที

ทันใดนั้น วานรโครงกระดูก ก้าวเท้าออกมาข้างหน้าและคํารามเสียงดัง ร่างกายของชายผมทองสั่นสะท้าน ด้วยความหวาดกลัวและเร่งถอยหลังกลับไปสองสามก้าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขมขื่น

“เฮ้ เพื่อน ใจเย็นๆ ฉันไม่มีเจตนาร้าย ฉันคิดว่ามันเจ๋งดี เลยอยากรู้ว่านายซื้อมันมาจากที่ไหนแค่นั้น พวกเราคือพลเรือนนะ อย่าให้ต้องเลือดตกยางออกเลยนะ”

“ดัมมี่” เกาเผิงเรียกเบาๆ

ดัมมี่คือชื่อที่เกาเผิงตั้งให้กับวานรโครงกระดูก

ที่เรียกมันว่าดัมมี่ เพราะมันดูทึ่ม(dumb) เมื่อต้องอยู่คนเดียวไงล่ะ

ดัมมี่พยักหน้าและถอยกลับไปอยู่ข้างๆเกาเผิง

เมื่อลงจากรถ เดินมาถึงใจกลางเมือง เกาเผิงกลายเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เด็กน้อยกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังเกาเผิงกับวานรโครงกระดูกด้วยความอยากรู้อยากเห็น เด็กบางคนปาหินใส่วานรโครงกระดูกด้วย

“เฮ้ โจมตีสัตว์ประหลาดตัวนี้กันเถอะ”

เกาเผิงรู้สึกหมดหนทาง  ‘ฉันควรจะทำชุดให้ดัมมี่ใส่นะ มันสะดุดตาเกินไป’

ในเมืองฉางอาน สัตว์อสูรธาตุอันเดทถือว่าเป็นสัตว์อสูรที่หายาก ดังนั้นจึงทำให้ทุกคนจึงรู้สึกสนใจ เมื่อได้เจอมัน

เดินขึ้นบันไดด้วยความเงียบงัน สัตว์อสูรตัวน้อยที่ซ่อนตัวอยู่และมันไม่กล้าแม้แต่ส่งเสียงออกมา นี่ทำให้เกาเผิงต้องยกมุมปากขึ้นอย่างขบขัน

“ลุงหลิว ผมกลับมาแล้ว” เกาเผิงเคาะประตูห้องลุงหลิว

ก่อนที่ประตูจะเปิดออก ต้าซื่อก็ส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น

และเสียงของลุงหลิวที่ตามมา “เจ้าตะขาบเนรคุณ ฉันให้อาหารตั้งหลายมื้อ แต่พอเจ้านายของแกกลับมา แกไปโดยไม่แยแสฉันเลยแม้แต่น้อย”

ต้าซื่อรีบคลานมาเกาเผิงแค่มันติดอยู่ที่ช่องประตู

เกาเผิงก้มศีรษะลง และตาโตด้วยความตกใจ ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้น 3เท่า!

หากข้อมูลสถานะของต้าซื่อที่บอกว่ามันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เขาคงคิดว่ามันได้รับความทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับวานรโครงกระดูก

เปลือกสีม่วงอมชมพูของมันก็เปล่งประกายมันเหลื่อมชัดขึ้น กรงเล็บที่เคยเรียวยาวของมัน ตอนนี้มันบวมตันคล้ายพีระมิดไปแล้ว

มุมปากของเกาเผิงบิดเกร็ง เขาพยายามปั้นยิ้มออกมา “ลุงหลิวครับ ลุงให้มันกินอะไรบ้างครับเนี่ย?”

ลุงหลิวเปิดประตูออกและกล่าวว่า “เสี่ยวเผิงให้ตะขาบของหลานกินน้อยเกินไปนะ นั่นจะทำให้มันขาดสารอาหารนะ ลุงเลยให้อาหารมันมากขึ้น ตอนนี้มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก”

แข็งแกร่ง?

คํากล่าวของลุงหลิวฟังดูมีเหตุผล แต่เกาเผิงก็ยังไม่สามารถหาความเชื่อมโยงคำว่าแข็งแกร่งกับสภาพในปัจจุบันของต้าซื่อ ว่ามันเกี่ยวข้องกับอย่างไร

“มันต้องเพิ่มน้ำหนักให้อ้วนก่อน จากนั้นจะสามารถพัฒนามัดกล้ามเนื้อได้ เท่านี้ก็จะแข็งแกร่งขึ้นไงล่ะ” เมื่อลุงหลิวกล่าวจบ เขาเหลือบไปเห็นวานรโครงกระดูกที่ยืนอยู่ด้านหลังเกาเผิงพอดี

แต่ลุงหลิวแสร้งทําเป็นมองไม่เห็นดัมมี่

“ต้องขอบคุณลุงหลิวมากนะครับและขอโทษด้วยที่ต้องรบกวน” เกาเผิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ตอนนี้ผมได้รับหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรเรียบร้อยแล้วนะครับ”

“จริงหรือ?” ลุงหลิวประหลาดใจแต่ก็มีความสุข

“ยอดเยี่ยม ทำได้ดีมาก สมกับเป็นหลานของฉัน” ลุงหลิวพยักหน้าพึงพอใจ

“อายุ 18ปี แต่กลับได้รับหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรมา ช่างเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

เกาเผิงกำลังจะบอกลุงหลิวว่ามันเป็นหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลาง แต่ได้ยินต้าซื่อส่งเสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังโกรธมาจากด้านหลัง

เขามองกลับไปและพบต้าซื่อเลื้อยมาเป็นครึ่งวงกลมที่ขาเพื่อปกป้องเขา กำลังส่งเสียงข่มขู่ดัมมี่ ส่วนดัมมี่ก็มองต้าซื่ออย่างนิ่งๆ

“แล้วเจ้านี่คืออะไร?” ลุงหลิวแสร้งประหลาดใจ

“มันชื่อดัมมี่ครับ” เกาเผิงอธิบายเรื่องราวอย่างย่อให้ลุงหลิวได้ฟัง นั่นทําให้ลุงหลิวต้องประเมินเกาเผิงใหม่อีกครั้ง

เขาคิดว่าเกาเผิงมีความสามารถเพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้ ดูเหมือนทุกสิ่งจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดอีกต่อไป แน่นอนว่าเฒ่าเจียงจะต้องภูมิใจหลานของเขามากๆแน่

ลุงหลิวเงียบไปชั่วขณะก่อนจะกล่าวต่อ “นี่เกาเผิง หลานรู้หรือไม่ว่า เหตุใดผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรถึงได้รับความเคารพนับถือมากขนาดนี้?

นั่นเพราะว่าสัตว์อสูรแม้จะถูกเลี้ยงให้เชื่องถึงเพียงใด แต่มันไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า พวกมันคือสัตว์ประหลาดที่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ได้ทุกเมื่อ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด