ตอนที่แล้วMPE บทที่ 17 ลิงที่ถูกธาตุหยินเข้าแทรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMPE บทที่ 19 หนังสือรับรองผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลาง

MPE บทที่ 18 การวิวัฒนาการข้ามสายพันธุ์: วานรโครงกระดูก


[ชื่อสัตว์อสูร] วานรธาราสีชาด (ป่วยเพราะถูกธาตุหยินเข้าแทรก)

[เลเวล] 10 (ชนชั้นสามัญ)

[คุณสมบัติ] ธาตุดิน

[สถานะ] ป่วย (จิตใจย่ำแย่)

[จุดอ่อน] ธาตุหยิน

[ความต้องการในการยกระดับ] 1.วิวัฒนาการตามธรรมชาติด้วยการกำจัดธาตุหยินออกไป 2.วิวัฒนาการข้ามสายพันธุ์ด้วยการรับพลังธาตุหยินเข้าไปเพื่อกำจัดจุดอ่อน มีโอกาสที่จะวิวัฒนาการข้ามสายพันธุ์เป็นสัตว์อสูรชนิดใหม่ที่เหนือกว่าสัตว์อสูรระดับสูง

“จริงหรอเนี่ย?” นี่เป็นครั้งแรกที่เกาเผิงเห็นทางเลือกของการยกระดับ

‘มันได้ถูกทดลองมาหนักขนาดนี้ ทำไมถึงยังรอดอยู่ได้ล่ะ?’ เกาเผิงเริ่มสงสัย

ทันใดนั้นเขานึกถึง สิ่งที่เจ้าหน้าที่ได้บอก “เหตุผลที่มันยังสามารถมีชีวิตจนถึงเวลานี้คือพลังใจที่ไม่ธรรมดาของมัน”

“พลังใจทีงั้นเหรอ?” เกาเผิงพึมพำและมองวานรธาราสีชาดอย่างระมัดระวัง

มันนอนอยู่ในกรง วานรธาราสีชาดมองเกาเผิงด้วยดวงตาที่แฝงไปด้วยปณิธานที่แรงกล้า

“แกต้องการจะยกระดับต่ออีกงั้นหรอ?” เกาเผิงกล่าวแต่หลังจากนั้นเขากลับหัวเราะออกมา “บ้าจริง มันจะเข้าใจฉันได้อย่างไง มันเป็นเพียงแค่สัตว์อสูรทั่วไป”

แต่ทันใดนั้นวานรธาราสีชาดกลับลุกขึ้นและเดินมาที่ขอบกรงพร้อมกับจ้องมองเกาเผิงด้วยสายตามุ่งมั่น มือของมันกำกรงเหล็กเอาไว้อย่างแน่นและส่งเสียงคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“โอ้ววววว”

“โอ้ววววว”

“โอ้ววววว”

เสียงคำรามดังก้องในห้องก่อนที่จะค่อยๆเงียบลงลง

เสียงคำรามที่แหบแห้ง จากนั้นมันก็ฟุบลงไปที่พื้น แต่มันยังมองเกาเผิงด้วยความต้องการที่แรงกล้า

เมื่อเห็นเกาเผิงยังนิ่งเงียบอยู่ มันจึงจ้องเขม็งมากขึ้นอีก

“ตกลงๆ ฉันจะช่วยนาย ฉันสัญญา” เกาเผิงกล่าวอย่างจริงจัง เขารู้สึกราวกับถูกสะกดด้วยเวทย์มนต์ บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นสายตาที่เร้าร้อนและเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการทำให้เจ้าลิงนี่ต้องผิดหวัง

วานรธาราสีชาดไม่รู้ว่าเกาเผิงจะเข้าใจมันมั้ย เพราะดูเหมือนว่าเกาเผิงตรงเข้าไปที่นอนด้วยความเหนื่อยล้า

เพื่อให้ได้รับใบประกาศนียบัตร ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องยกระดับวานรธาราสีชาดให้สําเร็จ แต่ปัญหาคือ ดัน 2วิธีในการยกระดับ ให้เลือกซะนี่

ยังไงเขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าจะเลือกใช้วิธีไหน

ข้อความเดิมเลือนหายไปก่อนที่ข้อความใหม่จะปรากฎขึ้นมา

[การวิวัฒนการข้ามสายพันธุ์] นำหญ้าเทียนดํา 250 กรัม ให้กิน 3มื้อเป็นเวลา 3วัน ใช้แก่นคริสตัลสัตว์อสูรธาตุอันเดท ชนชั้นขุนนางแก่วานรธาราสีชาดกิน และนำมันไปแช่ ในน้ำกรดซัลฟูริกเพิ่มผงเรืองแสง 150 กรัม เห็ดกะโหลก 50 กรัม หญ้าโรยรา 150 กรัม…..

‘หากใช้วิธีนี้จะทำให้วานรธาราสีชาดเปลี่ยนไปเป็นตัวอะไรเนี่ย?’ เกาเผิงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย กับวิธีนี้

ของที่ใช้มันก็แปลกๆด้วย โดยเฉพาะแก่นคริสตัลสัตว์อสูรธาตุอันเดท ไม่ใช่ของที่สัตว์อสูรทั่วไปกินมันได้ หากสัตว์อสูรกินมันเข้าไปอาจทำให้ป่วยหรือเลวร้ายกว่านั้นได้

สาแหตุที่เกาเผิงไม่เลือกวิธีที่ 1 เพราะว่า มันใช้ค่าใช้จ่ายมันเยอะเกินกว่าที่งบที่ผู้คุมสอบตั้งไว้ให้ เมื่อเทียบกับวิธีที่ 2 มันมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่านิดหน่อย

เกาเผิงได้ยื่นรายการสิ่งของที่เขาต้องใช้ในการยกระดับให้กลับเจ้าหน้าที่

หลังจากได้รับใบรายการสิ่งของที่เกาเผิงต้องการแล้ว เขาถึงกับมองเกาเผิงด้วยสายตาที่แปลกๆ ‘เจ้าเด็นี่ต้องการจะฆ่าวานรธาราสีชาดรึไง?’

วันถัดมา เกาเผิงไม่ได้ออกไปข้างนอกเพราะที่นี่มีสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั้งหมด

3วันผ่านเหมือนโกหก หลังจากวานรธาราสีชาดกินหญ้าเทียนดำมาอย่างต่อเนื่อง พละกำลังของมันเริ่มฟื้นฟู ดวงตาของมันสว่างสดใส ขนของมันกลายเป็นเงางาม อาการบวมต่างๆลดลงอย่างมาก

หลังจากสูดหายใจลึกๆ เดินเข้าไปเปิดประตูกรงเหล็ก แม้ว่า วานรธาราสีชาด จะไม่ใช่สัตว์อสูรที่ดุร้ายมากนัก แต่มันยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตราย หากมันคลุ้มคลั่งขึ้น เกาเผิงอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ก็ได้

วานรธาราสีชาดมองประตูที่เปิดออกก่อนจะค่อยๆก้าวเท้าออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าเกาเผิงไม่ว่าอะไร มันจึงเผยรอยยิ้มร่าเริงและเข้าไปโอบกอดเกาเผิงเอาไว้ในอ้อมแขนด้วยความตื่นเต้น

หลังจากนั้นมันจึงคลายแขนออกและนั่งอยู่ด้านหน้าเกาเผิงอย่างเชื่อฟัง

เกาเผิงชี้นิ้วไปที่อ่างน้ำ “เข้าไปนอนในอ่างสิ”

วานรธาราสีชาดมองไปที่อ่างน้ำ มันดึงขนของออกมา แล้วหย่อนขนลงไปในน้ำ

ทันทีที่ขนของมันสัมผัสโดนกับผิวน้ำ จู่ๆก็เกิดควันขึ้นและขนนั้นได้หายไป

วานรธาราสีชาดงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

มันมองไปที่อ่างน้ำ และหันมามองเกาเผิง

จากนั้นมันจึงกระโดดออกมานั่งจ้องมองเกาเผิงด้วยสายตาไร้เดียงสา

เกาเผิงกลายฝ่ายเป็นมึนงง

หรือว่าเขาผสมน้ำผิดวิธี มันมีฤทธิ์กัดกร่อนร่างกายของวานรธาราสีชาดมากเกินไปงั้นเหรอ?

เกาเผิงหัวเราะแห้งๆและทดลองผสมน้ำกรดอีกครั้ง

เด็กหนุ่มวางมือบนไหล่ของวานรธาราสีชาดงและให้กำลังใจมัน

“ฉันสามารถมอบพลังให้นาย แต่นายต้องมีความกล้าด้วย”

“โอ้ว…โอ้ว…” วานรธาราสีชาดงตอบ

เกาเผิงไม่มั่นใจว่าวานรธาราสีชาดจะเข้าใจความหมายของเขาหรือไม่ เขานิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะชี้นิ้วไปที่อ่างน้ำ "คราวนี้ลงไปในอ่างเลย"

วานรธาราสีชาดเผยรอยยิ้มให้เกาเผิงก่อนจะกระโดดลงไปในอ่างน้ำโดยไม่ลังเล

มันเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่ทำให้วานรธาราสีชาดจุ่มได้ทั่วทั้งตัว

เกาเผิงมองลงไปในน้ำและพบว่าวานรธาราสีชาดกำลังเล่นน้ำอย่างมีความสุข

เขาอยากจะเสียงหัวเราะออกมาแต่ทำไม่ได้เพราะเขายังรู้สึกกังวลอยู่

เพียงไม่นานควันสีขาวจึงค่อยๆลอยขึ้นสู่อากาศ

ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ก็ได้ดังขึ้นโดยไม่คาดคิด

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงห้องของเกาเผิงอย่างรวดเร็ว

พวกเขาพุ่งเข้ามาในห้องและเตรียมพร้อมดับไฟ พวกเขามองไปที่อ่างน้ำด้วยความสับสน ‘ไฟอยู่ไหน?’

“เอ่อ…โทษทีที่รบกวน”

“อาจมีบางอย่างผิดพลาดกับสัญญาณเตือน” เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวด้วยความเขินอายเล็กน้อย และหัวหน้าผู้คุมสอบก็เดินมาถึง เขาขมวดคิ้วถาม

“เกิดอะไรขึ้น?”

บางคนอธิบายสถานการณ์ทั้งหมด หลังจากได้ยินเรื่องราว

หัวหน้าผู้คุมสอบกลับรู้สึกประหลาดใจ

“คุณหมายความว่าสัญญาณไฟไหม้ดังขึ้น สาเหตุมาจากการจากการทดลองของผู้เข้าสอบงั้นหรือ?”

หัวหน้าผู้คุมสอบเดินเข้ามาและกวาดตามองสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเห็นควันลอยออกมาจากอ่างน้ำ

“การยกระดับล้มเหลวงั้นหรือ?” ผู้เข้ารับการทดสอบคนอื่นๆ ยืนมองอยู่ที่หน้าห้องและเต็มไปด้วยความสงสัย

“หึ!! เจ้าเด็กนั่นสร้างปัญหาเสียจริง” ชายอ้วนที่นั่งสอบข้างเกาเผิงถอนหายใจ

ทันใดนั้นคลื่นยักษ์กลับปะทุขึ้นจากอ่างน้ำพร้อมกับสัตว์อสูรลึกลับโผล่ขึ้นมา

“นั่นอะไรน่ะ?” บางคนได้กรีดร้องเมื่อเห็นมัน

ศีรษะของสัตว์อสูรสีดําปรากฏขึ้นพร้อมกับไฟสีฟ้าที่ลุกโชนออกมาจากตาของมัน ช่างน่าสะพรึงกลัว

*ปัง*

แรงกระแทกเมื่อกี้ ทำให้ห้องสั่นเล็กน้อย

มันมีความสูง 2เมตรครึ่ง ร่างกายที่เป็นโครงกระดูกสีดำไม่มีเครื่องใน มีเส้นสีแดงเชื่อมกระดูกสีดำเข้าด้วยกัน

ไฟสีฟ้าที่ลุกโชกอยู่เบ้าตาที่ว่างเปล่าของมัน

ทุกคนตะลึงกับสัตว์อสูรที่อยู่ตรงหน้า

มีข้อมูลปรากฏขึ้นตรงหน้าของเกาเผิง

[ชื่อสัตว์อสูร] วานรโครงกระดูก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด