ตอนที่แล้วMPE บทที่ 13 ลุงหลิว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMPE บทที่ 15 การลงทะเบียน

MPE บทที 14 สัตว์อสูรตัวแรก


“เอ๋!!…” เกาเผิงอึ้งอยู่ชั่วขณะก่อนจะส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็นไรครับลุงหลิว สำหรับต้าซื่อแล้ว มันเป็นเหมือนของที่พ่อแม่ของผมทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า มันอยู่เคียงข้างผมมาตลอด 3ปี ผมตัดสินใจแล้วว่าจะให้มันเป็นสัตว์อสูรตัวแรกของผม”

ลุงหลิวดูเหมือนจะตะลึงกับคำตอบที่ไม่คาดคิดของเกาเผิง และต้าซื่อดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ลุงหลิวพูด มันจึงแยกเขี้ยว ส่งเสียงขู่ลุงหลิว

“ต้าซื่อ พอได้แล้ว” เกาเผิงดีดนิ้ว ส่งเสียงเตือน ต้าซื่อมองเกาเผิงอย่างพอใจ มันคลานกลับมาอยู่ใกล้ๆอย่างหงุดหงิด มันอยากจะสั่งสอนตาลุงนี่ซะหน่อย

หลังจากพูดคุยกับลุงหลิวเสร็จ เกาเผิงรีบเดินทางกลับอพาร์ทเม้นท์

ลุงหลิวมองไปที่เกาเผิงพร้อมถอนหายใจ ‘ดูเหมือนเขาจะยังไม่ได้ทำพันธะสัญญาเลือดกับตะขาบกรงเล็บเหลืองหลังม่วงสินะ แต่คงอีกไม่นานหรอก เขาต้องทำมันเร็วๆนี้แน่ ฉันควรจะรายงานเรื่องนี้ให้ตาเฒ่าเจียงรู้ดีมั้ยนะ’

แต่เมื่อคิดได้ว่าเขาจะโดนอะไรบ้างหากรายงานเรื่องนี้ไป ‘เฮ้อ! สองคนนี้บทจะดื้อก็ดื้อเหมือนกันแฮะ เอาเป็นว่าไว้เขาทำพันธะสัญญากับตะขาบนั่นเสร็จก่อนล่ะกัน แล้วค่อยบอกให้ตาแก่ได้รับรู้’

ขณะที่กําลังเดินขึ้นบันได เกาเผิงได้ยินเสียงบางสิ่งที่อยู่บนเพดาน เงาสีเทาแอบมองเขาอยู่อย่างลับๆ แต่เมื่อต้าซื่อที่แยกเขี้ยวขู่ใส่มัน เจ้าแมงมุมจึงรีบหนีอย่างรวดเร็ว

หลังจากกลับถึงห้อง เกาเผิงวางกระเป๋าลงและตรงเข้าไปในห้องครัว แล้วหยิบของที่ใช้ทำพันธะสัญญาเลือด

หากมนุษย์ต้องการสร้างพันธะสัญญาเลือดกับสัตว์อสูรนั้น พวกเขาจำเป็นต้องใช้เลือดจากนิ้วนางข้างซ้ายเท่านั้น หากใครไม่มีนิ้วนางจำเป็นต้องใช้เลือดจากหัวใจแทน

เกาเผิงหยิบขวดแอลดอฮอล์ที่เขาซื้อในระหว่างทางกลับบ้าน เทลงไปในชามและใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดมีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค

เกาเผิงจ้องมีดบนมือเขาอย่างเงียบๆ ใบมีดที่ถูกเช็ดจนแวววาวจนสามารถสะท้อนให้เห็นใบหน้าของเขาได้

เกาเผิงถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย สาเหตุที่เขาเตรียมการนานขนาดนี้ เพราะเขากลัวเจ็บ และกลัวบาดทะยัด มีดนี้เขาไว้ใช้สับหมูมาตลอด เขากลัวว่ามีดจะมีแบคทีเรียหลงเหลืออยู่

เกาเผิงกัดฟัน เขาเอานิ้วนางข้างซ้ายจ่อไว้ที่คมมีด

หยดเลือดสีแดงไหลซึมออกจากบาดแผล บนนิ้วของเขาทันที

“ต้าซื่อ มานี่เร็ว!” เกาเผิงตะโกนเรียกต้าซื่อ

*แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก* เสียงฝีเท้าที่เหมือนนิ้วเคาะแผ่นเหล็กดังมาจากห้องนั่งเล่น ต้าซื่อรีบมาหาเกาเผิงอย่างว่องไว

เกาเผิงหลับตาพร้อมกับร่ายคาถาเพื่อทำพันธะสัญา ในขณะที่เขาเอามือข้างซ้ายไปจับที่ศีรษะของต้าซื่อ

ทันที่ที่เขาจับศีรษะต้าซื่อ สัมผัสที่เย็นยะเยือกแพร่ไปที่หัวใจของเขา

ท่ามกลางความมืดมิด เกาเผิงรู้ได้ยินจากรอบทิศทางราวกับมีผู้คนนับพันกำลังบ่นพึมพำอยู่รอบตัวเขา และมีอีกเสียงนึงดังขึ้นมา

‘หิวแล้ว…..’

‘นี่มันถึงเวลามื้อเย็นแล้วนะ…’

‘เจ้านายบ้า จะให้ฉันอดตายรึไง?’

‘หิวววววววววว…’

มันคงเป็นเสียงของต้าซื่อสินะ ช่างเป็นความคิดที่ซื่อๆ และเรียบง่ายเสียจริง

‘นี่ฉันได้เชื่อมต่อกับต้าซื่อแล้วใช่มั้ย?’

‘ต้าซื่อ?’ เกาเผิงพยายามสื่อสารกับต้าซื่อ

‘หืม?’ เสียงมากมายได้เงียบลงในทันทีและเหลือเพียงเสียงเดียว ‘นายเป็นใคร?’

นี่คือผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ของการทำพันธะสัญญาเลือด มันจะทำให้ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรสามารถเชื่อมโยงจิตใจกับสัตว์อสูรของพวกเขาได้ จึงทำให้พวกเขาสามารถออกคำสั่งที่ซับซ้อนแก่พวกมันได้

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เวลาพูดคุย เกาเผิงจึงเร่งถามต้าซื่อในทันที ‘ฉันต้องการสร้างพันธะสัญญาเลือดกับนาย นายเต็มใจที่จะเป็นพรรคพวกกับฉันมั้ย?’

ในมิติที่มืดมิด ปรากฏม้วนกระดาษสีเลือดขึ้นมา พร้อมกับเปลวไฟสีทองที่ลุกโชน ล้อมรอบตัวเขากับต้าซื่อ

แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่โง่เขลาที่สุดยังเข้าใจว่านี่คือการสร้างพันธะสัญญาเลือด

เกาเผิงได้เห็นม้วนกระดาษค่อยๆถูกเปลวไฟสีทองเผาหายไปอย่างช้าๆ นี่บ่งบอกว่าการสร้างพันธะสัญญาเลือดประสบความสำเร็จแล้ว

ต้าซื่อตอบรับพันธะสัญญาเลือดกับเกาเผิงทันทีโดยปราศจากความลังเล

ทำให้เกาเผิงรู้สึกมีความสุขจากก้นบึ้งในหัวใจเขา

เขาเอามือออกจากต้าซื่อ พร้อมกับลืมตาขึ้น เขาได้ยินเสียงของต้าซื่อพูดเขาในทันที ‘หิวแล้ว! หิวแล้ว! ขอข้าวหน่อย”

ต้าซื่อแยกเขี้ยวหุบเข้าหุบออก พร้อมส่ายหนวดของมันไปมา

เกาเผิงมองไปที่ต้าซ่อเผยรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมา “เอาล่ะๆ กินข้าวกันเถอะ”

เกาเผิงลุกขึ้นไปหยิบหัวไชเท้า แอปเปิ้ล และเนื้อหมูแช่แข็ง ออกจากตู้เย็น

เขานำผักและผลไม้ไปล้างจากนั้นก็นำมันไปต้ม ดูเหมือนเขาวุ่นวายอยู่ในครัวสักเล็กก่อนอาหารจะปรุงเสร็จ

“เอาล่ะต้มจับฉ่ายเสร็จแล้ว” เขาใส่อาหารไว้ในถาดสแตนเลสและวางไว้ในห้องนั่งเล่น

ต้มจับฉ่ายของต้าซื่อนั้น เกาเผิงจำเป็นต้องละลายน้ำแข็งของเนื้อหมูให้ดี หากให้ต้าซื่อกินแบบเย็นๆ มันอาจจะป่วยก็ได้ เสิร์ฟในอุณหภูมิห้องนั้นดีที่สุดแล้ว

‘อร่อย อร่อย’ ต้าซื่อเพลิดเพลินมื้ออาหารของมัน ระหว่างที่มันกินก็เหลือบไปมองเกาเผิงว่าเขาทำอะไรอยู่

เกาเผิงที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับตนเองและส่งกลิ่นหอมออกมา

ทันใดนั้นต้าซื่อหยุดกิน และจ้องมองชามบะหมี่ของเกาเผิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เกาเผิงมองไปที่บะหมี่ของเขาอย่างเงียบๆ ก่อนที่เขากำลังจะกินมัน เขาได้ยินเสียงคลานเข้ามาหาเขา

เขาเห็นเจ้าตะขาบสีม่วงมาเกาะแกะป้วนเปี้ยนที่ขาของเขา พร้อมส่งสายตาที่หิวกระหายไปที่บะหมี่ของเขา

“เฮ้!! แกเป็นตะขาบนะ!” เกาเผิงรู้สึกขบขันกับการแสดงออกของมัน

“ซู่…” ต้าซื่อส่งเสียงขู่ ขยับขากรรไกรไปมา ดูเหมือนว่าการปฏิเสธของเกาเผิงไม่เป็นผล

“ก็ได้ ก็ได้ ถ้วยนี้เป็นของนาย กินเลย แต่ถ้าแกปวดท้องขึ้นมา ฉันจะไม่พาไปหาหมอนะ” เกาเผิงวางชามบะหมี่ลงบนพื้น

ไม่พูดพร่ำทำเพ ต้าซื่อพุ่งลงไปในชามบะหมี่ ดูดเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างกับหมาป่าที่หิวกระหาย

เกาเผิงมองไปที่ต้าซื่ออย่างมีความสุข

หลังจากที่เขาต้มบะหมี่อันใหม่เสร็จ เขาก็เริ่มคิดหาทางที่จะระดับของต้าซื่ออีกครั้ง

เพื่อยกระดับชนชั้นสามัญของต้าซื่อขึ้นเป็นชนชั้นขุนนางได้นั้น ต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่าง อาทิเช่น เปลือกไม้สายฟ้าอายุ 100ปี จำนวน 600กรัม, แก่นคริสตัลสัตว์อสูรธาตุสายฟ้าเลเวล 10ขึ้นไป และ หญ้าเงา 10ใบ

แก่นคริสตัลสัตว์อสูรเป็นวัตถุดิบที่มีราคาแพงที่สุด และต้องเป็นแก่นคริสตัลสัตว์อสูรที่มีเลเวลสูง10ขึ้นไปอีก นอกจากนี้มันยังต้องมาจากสัตว์อสูรธาตุสายฟ้าที่หายากด้วย

ดังนั้นของที่เขาจะซื้อได้ง่ายๆ โดยใช้เพียงแค่ 10เครดิตพันธมิตร

อย่างแรกก็เป็น หญ้าเงา

หญ้าเงาเป็นสมุนไพรชนิดพิเศษที่เติบโตในที่ๆมีพลังหยินสูง โดยปกติแล้วพื้นที่แถบนั้น มักจะมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากที่จะไปเก็บหญ้าเงามาสักใบ

เกาเผิงได้ตรวจสอบราคามาแล้ว หญ้าเงาใบนึงมีราคา 200ดอลล่าร์พันธมิตร 10ใบก็ 2,000ดอลล่าร์พันธมิตร แต่อย่างไรก็ตามหญ้าเงา มักจะใช้เป็นอาหารให้ได้แค่พวกสัตว์อสูรธาตุหยิน,มืด และอันเดทเท่านั้น ทำให้มันไม่ได้ความนิยมมากนัก เขาอาจจะต่อรองพ่อค้า ให้ได้ราคาที่ถูกกว่านี้ก็ได้

ส่วนเปลือกไม้สายฟ้าอายุ 100ปี ไม่จำเป็นต้องมาจากต้นไม้ที่มีชีวิตถึง100ปีก็ได้ แค่ใช้ของที่มีสรรพคุณคล้ายๆกันอย่างเช่น ต้นโสม ซึ่งมันเติบโตมาเป็นเวลา100ปีแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด