ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0493
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0495

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0494


ตอนที่ 494 : ผสานพลังเต๋า

หยางฉีเย่ว์ยิ้มกล่าว “ตำหนักจันทราทมิฬเป็นสำนักของแดนวิญญาณอ้างว้าง พระราชวงกวงหานเป็นสำนักที่เหนือกว่าตำหนักจันทราทมิฬ ลองบอกข้าสิ ว่าข้ารู้ถึงพระสูตรหัวใจตะวันจันทราหรือไม่?”

“พี่หยาง ดูเหมือนท่านฟื้นคืนความทรงจำนายหญิงน้อยของพระราชวังแห่งนั้นมาได้แล้ว!” ฉินหยุนหัวเราะคิกคัก “ไม่นึกเลยว่าท่านจะเป็นเซียนของพระราชวังจันทรา! ครั้งแรกพบท่าน ข้านึกว่าเป็นเพียงแต่เซียนหญิงงามเสียอีก!”

หยางฉีเย่ว์ยืนในสระน้ำ ริมฝีปากบุ้ยพลางยิ้มตอบ “อย่าได้พูดกล่าวแล้ว เร่งรีบถอดเสื้อผ้าเจ้าออก!”

ฉินหยุนถึงกับสะดุ้ง “ถอด?”

“ใช่! ข้าไม่คิดแอบดู อย่าได้กังวลไป!” หยางฉีเย่ว์ยิ้มพลางหันกายไป

สระกายเต๋าเป็นฟอง น้ำในสระสดใหม่จะถูกส่งเข้ามาแทนที่น้ำซึ่งผ่านการใช้งานในทุกชั่วลมหายใจ เพราะเหตุนี้มันจึงมีพลังที่กล้าแกร่ง

ฉินหยุนไม่ทราบคิดอันใดขณะถอดเสื้อผ้าตนเองและเดินแช่กายลงในสระน้ำ

“พี่หยาง ท่านเองก็เปลื้องผ้าหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามเสียงเบาคิดเหลือบตามองหยางฉีเย่ว์ที่ยืนในสระน้ำ

“เจ้าเด็กลามก คิดให้ข้าถอดเสื้อผ้าออกงั้นหรือ?” นางแม้กล่าวเช่นนั้น ทว่าเสื้อผ้าขณะนี้ก็ถูกปลดออกแล้ว

ฉินหยุนเหม่อมองที่หยางฉีเย่ว์ นางขณะนี้สวมใส่น้อยชิ้นภายในสระน้ำ เนินอกปกคลุมไว้ด้วยชั้นผ้าไหมบาง เบื้องล่างเป็นเอวขาวชวนจับตามอง

ร่างกายเพรียวงดงามของหยางฉีเย่ว์ พร้อมขาที่ขาวนวลกำลังก้าวสู่กลางสระกายเต๋าสีทอง น้ำในสระเพียงถึงช่วงเอวของนาง เหนือสะดือของนางขณะนี้สามารถเห็นชัดแจ้ง ส่วนด้านล่าง ที่เห็นชัดก็มีเพียงขายาวงดงามคู่หนึ่ง

ฉินหยุนคุดคู้อยู่มุมหนึ่งของสระน้ำขณะรับชมหยางฉีเย่ว์ก้าวเดินเข้ามา เขาถึงกับต้องกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่

หยางฉีเย่ว์เมื่อนั่งยองลง นางค่อยแช่กายในสระน้ำทั้งร่างกายอย่างแท้จริง

“ยื่นมือเจ้าออกมา พวกเราจะฝึกร่วมกันโดยเกาะกุมมือเอาไว้!” หยางฉีเย่ว์พอได้เห็นสีหน้าแปลกประหลาดของฉินหยุน นางอดไม่ได้จนหัวเราะออก “ขออภัยแล้วที่ทำเจ้าผิดหวัง!”

ฉินหยุนบุ้ยริมฝีปากยื่นมือออก ขณะนี้มือของเขาเกาะกุมอยู่กับมือขาวของหยางฉีเย่ว์พร้อมกล่าวขึ้น “พี่หยาง พวกเราฝึกร่วมกันไม่เป็นไรหรือ?”

“อย่าได้กังวลไป พวกเราเพียงเชื่อใจกันและกันก็พอ!” หยางฉีเย่ว์ตอบคำ

พระสูตรหัวใจตะวันจันทราฝึกฝนได้เพียงแต่สตรี เมื่อฝึกฝนร่วมกับบุรุษ มันต้องเป็นการชี้นำโดยสตรี

ฉินหยุนเร่งรีบปรับความคุ้นเคยกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ขณะนี้ ก่อนหน้า เขาฝึกฝนกับเชี่ยวเย่ว์หลานไปครั้งหนึ่งแล้ว ความรู้สึกครั้งนี้คล้ายคลึงกัน

“เสี่ยวหยุน ค่อย ๆ ปลดปล่อยพลังจากลูกไฟยักษ์ออกมา!” หยางฉีเย่ว์กล่าว “ข้าจะรับหน้าที่นำทางให้แก่มันเอง!”

“ขอรับ!” ฉินหยุนขณะนี้กระทำตามคำบอกกล่าว

อย่างรวดเร็ว เขาสัมผัสถึงพลังของลูกไฟยักษ์ก่อนชักนำมันสู่หยางฉีเย่ว์ มันถ่ายเทออกจากร่างกายของเขา ไหลเข้าสู่ร่างกายของหยางฉีเย่ว์

พลังงานเมื่อเข้าสู่ร่างกายของนาง มันไหลเวียนรวดเร็วกลับเข้าสู่ร่างกายของเขา

เมื่อได้รับกลับคืน มันให้ความรู้สึกอ่อนโยน ราวกับมันได้ผสานเข้ากับพลังจากแก่นเต๋าของหยางฉีเย่ว์ไปเรียบร้อยแล้ว

ถัดจากนั้น พลังงานพลันทะลักไหลรวมเข้าสู่แก่นเต๋าทั้งสามของฉินหยุน จากนั้นมันค่อยไหลเวียนกลับสู่ร่างกายของหยางฉีเย่ว์

ดวงตาฉินหยุนเบิกกว้างขณะมองที่ใบหน้างดงามของหยางฉีเย่ว์ เขากล่าว “พี่หยาง เหตุใดก่อนหน้านี้ท่านหอมแก้มข้ากัน?”

“อย่าได้ถามมากเรื่อง!” น้ำเสียงของหยางฉีเย่ว์คล้ายกระอักกระอ่วน ทว่านางตานั้นเปี่ยมด้วยความอ่อนโยน

“พี่หยาง ท่านฟื้นคืนความทรงจำทั้งหมดของชาติภพก่อนครบถ้วนแล้วหรือ?” ฉินหยุนถามอีกครั้ง

หยางฉีเย่ว์พยักหน้ารับเชื่องช้า

ฉินหยุนเองก็ทราบว่าตนเองมีชาติภพก่อน ในคราวนั้นเขาลังเลว่าควรถามหยางฉีเย่ว์ดีหรือไม่

แต่เมื่อผ่านความลังเลมาพอสมควรแล้ว เขาจึงตัดสินใจถามออกไป

“พี่หยาง สาเหตุว่าท่านยายที่พระราชวังกวงหานมอบวิญญาณยุทธ์จันทราทมิฬแก่ข้า... เพราะนางบอกว่าชาติภพก่อนหน้าข้าคือราชันเซียน!” ฉินหยุนกล่าวเชื่องช้า

หยางฉีเย่ว์ถอนหายใจเบา “เป็นเช่นนั้น! ไม่อย่างนั้นแล้ว นางจะไม่มีทางไว้ใจเจ้าถึงเพียงนั้นแน่!”

“พี่หยาง ชาติภพก่อนข้าเป็นราชันเซียนจริงหรือ?” ฉินหยุนรวบรวมความกล้าเอ่ยถาม

“ถูกต้องแล้ว นั่นคือชีวิตก่อนหน้านี้ของเจ้า!” หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “เจ้าเป็นชายที่น่ารำคาญไม่น้อยเลยละ!”

ฉินหยุนพอได้ฟังเช่นนี้ เขาจึงถามต่อด้วยสีหน้าช่วยไม่ได้ “พี่หยาง ชาติภพก่อนของข้า ได้ทำอะไรไม่ดีต่อท่านไว้หรือไม่?”

หยางฉีเย่ว์ยิ้มกล่าว “ย่อมไม่! ให้ข้ากล่าวเช่นนี้แล้วกัน ชาติภพก่อนหน้าเจ้าเป็นคนที่โป้ปดยิ่งนัก เจ้าเกี้ยวพาราสีต่อข้าทว่าไม่สำเร็จ! เพราะเหตุนั้นเจ้าจึงแวะเวียนมาก่อกวนข้าที่พระราชวังกวงหานบ่อยครั้ง เพราะเจ้ามีฝีมือวิถีจารึกยอดเยี่ยม จึงมาที่พระราชวังกวงหานบ่อยครั้งยิ่งนัก!”

“เป็นไปได้ด้วยหรือ? ชาติภพก่อนข้าไปหลอกลวงอะไรท่านเอาไว้กัน?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องนี้ยากจะเชื่อ

“ครั้งแรกที่ข้าทราบเรื่องนี้ ข้าเองก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้!” หยางฉีเย่ว์แค่นเสียง “นับเป็นเรื่องดีที่เจ้าไม่มีความทรงจำจากชาติภพก่อนหน้า ไม่เช่นนั้นเจ้าคงได้เป็นจอมลวงโลกอีกแน่!”

ฉินหยุนนึกถึงปิงชิงขึ้นมาจึงเอ่ยถาม “พี่หยาง ท่านรู้จักเซียนนามปิงชิงหรือไม่?”

“เจ้ารู้จักนางได้อย่างไรกัน?” หยางฉีเย่ว์เผยความตื่นตะลึงขณะเร่งร้อนเอ่ยถาม

ฉินหยุนบอกเล่าเรื่องที่พบเจอปิงชิงในสุสานเซียน

“เหมือนนางจะเกลียดข้าไม่น้อยเลย!” ฉินหยุนถอนหายใจ “ชาติภพก่อนหน้า ข้าคงสร้างปัญหาเอาไว้มากแล้ว!”

“เรื่องพิพาทระหว่างเจ้าและนางเป็นเรื่องจากเมื่อสองถึงสามหมื่นปีก่อน ในตอนนั้น เพื่อหลอกใช้นาง เจ้ากระทั่งเล่นกับความรู้สึกของนาง!”

“เป็นธรรมดาหากนางคิดเกลียดชังเจ้า โชคดีนักที่เจ้าไม่ได้เผยท่าทีเช่นชาติภพก่อน ดังนั้นนางจึงคิดว่าเจ้าเพียงแค่คนหน้าเหมือนจอมลวงโลกคนนั้น!” หยางฉีเย่ว์บอกเล่าออกมา

ฉินหยุนขณะนี้บุ้ยปาก “แย่ยิ่งนัก! เช่นนั้นข้าไม่มีศัตรูไปทั่วแดนเซียนอ้างว้างเลยงั้นหรือ?”

หยางฉีเย่ว์ขณะนี้ค่อยยิ้ม “หากเจ้าได้ความทรงจำชาติภพก่อนกลับคืนมา เจ้าคงได้ทราบว่าเรื่องราวเล็กน้อยที่ก่อขึ้นในแดนยุทธ์อ้างว้างแทบไม่นับเป็นอะไร!”

“นี่ข้าต้องตามสะสางเรื่องราวจากชาติภพก่อนด้วยงั้นหรือ?” ฉินหยุนขณะนี้แทบไม่คิดอยากนึกถึงวันหน้า

“หึ! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำ ชาติภพก่อนหน้าเจ้าเป็นคนชั่วร้ายนัก ทว่าในชีวิตนี้กลับห่วงหาผู้อื่นยิ่ง ดังนั้นเจ้าจึงได้รับวิญญาณดวงตะวันมาถึงสอง” หยางฉีเย่ว์เผยใบหน้าที่แสดงความอิจฉาอย่างพบเห็นได้ชัดออกมา

“พี่หยาง ชาติภพก่อนหน้านี้ข้าเลวร้ายเพียงนั้นเลยหรือ?” ฉินหยุนขณะนี้กลายเป็นเกิดความเครียดขึ้นมา

“เรียกว่าพวกต้มตุ๋นคงไม่ถูกต้องนัก อย่างไรแล้ว เจ้าก็ถือเป็นตัวฉกาจในเรื่องนี้ หลายครั้งเจ้าก็แค่หลอกลวงเงินผู้อื่น ไม่ก็หลอกหญิงสาวให้มีสัมพันธ์ทางกายร่วมด้วย บางครั้งก็ฉกไก่ชิงสุนัข จนกระทั่งได้เป็นราชันเซียน!”

หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “เสี่ยวหยุน อย่าได้คิดมากแล้ว ในเมื่อพวกเราถือกำเนิดขึ้นใหม่ พวกเราก็ควรเป็นไปในชีวิตนี้! หากเป็นไปได้ ข้าก็อยากชดเชยเรื่องที่ทำพลาดในชาติภพก่อนเช่นกัน!”

ฉินหยุนเร่งรีบพยักหน้ารับ “พี่หยาง ชาติภพก่อนครั้งที่ท่านเสียชีวิต ข้าได้ยินจากท่านยาย ว่าข้าถูกสังหารเพราะไปตามล้างแค้นให้แก่ท่าน!”

หยางฉีเย่ว์บุ้ยปากเล็กน้อยพลางแค่นเสียง “ไม่ว่าจะด้วยอะไร ข้าไม่คิดเชื่อว่าเจ้าไปล้างแค้นให้แก่ข้า ให้คาดเดา หลังเหตุการณ์นั้น เจ้าควรหลบลี้หนีหายโดยเร็วกว่าผู้ใดแล้ว!”

“นี่เป็นไปได้หรือ?” ฉินหยุนเผยรอยยิ้มเก้กัง

“เอาละ ชาติภพก่อนหน้าเป็นไรล้วนช่างมันปะไร! โดยสรุป ขณะนี้เจ้าเป็นคนดีก็พอแล้ว!”

“และข้าก็รู้สึกขอบคุณเจ้าอย่างยิ่ง! เป็นเจ้าที่ช่วยข้าพ้นจากโคลนตมหย่อมนั้น... ในตอนนั้น หากไม่ใช่เจ้า ข้าคงกลายเป็นเตาหลอมฝึกฝนของเชี่ยวหยางหลง ชีวิตข้าคงจบสิ้นที่ตรงนั้นไปแล้ว! ขณะนี้ข้าได้รับวิญญาณยุทธ์จันทราทมิฬที่ท่านแม่หลงเหลือไว้ให้ รวมถึงความทรงจำ การฝึกฝนของข้าก้าวหน้ายิ่งยวด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะเจ้า!”

นัยน์ตาของหยางฉีเย่ว์เผยความอ่อนโยนขณะกล่าวยิ้มหวาน “ตอนนี้ เจ้าก็คือเจ้า และเจ้าก็ได้เติมเต็มสิ่งที่ทำผิดพลาดชาติภพก่อนหน้าไปมากแล้ว!”

ฉินหยุนพอได้ฟังเช่นนี้ เขาค่อยเกิดความยินดีขึ้นมา

“เสี่ยวหยุน เจ้าช่วยปิงชิง และดูเหมือนจะช่วยนางเอาไว้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว แม้เจ้าไม่มีความทรงจำในชาติภพก่อนหน้า แต่สิ่งที่เจ้าทำ ถือเป็นการถมเต็มความผิดพลาดในช่วงชีวิตก่อนหน้าที่มากพอแล้ว!”

หยางฉีเย่ว์ขณะครุ่นคิดก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ นางยิ้มกล่าวต่อ “ไม่ว่าปิงชิงเกลียดชังเจ้าเพียงใด นางย่อมอภัยให้แก่เจ้า! ข้าได้ยินว่านางมีความรู้สึกให้เจ้าอย่างลึกล้ำไม่น้อยเลยทีเดียว!”

ย้อนกลับไปตอนฉินหยุนอยู่กับปิงชิง เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์อันซับซ้อนของนาง

“พี่หยาง ท่านรู้จักธิดาแห่งแม่มดหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถามอีกครั้ง

หยางฉีเย่ว์ไม่เคยพบเซี่ยฉีโหรวมาก่อน ดังนั้นนางย่อมไม่ทราบว่าเซี่ยฉีโหรวเป็นธิดาแห่งแม่มด

เอ่ยถึงธิดาแห่งแม่มด สีหน้าของหยางฉีเย่ว์กลายเป็นเคร่งเครียด นางเร่งรีบกล่าว “เสี่ยวหยุน เรื่องราวของธิดาแห่งแม่มด ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในแดนเซียนอ้างว้าง! สาเหตุว่าทำไมพระราชวังกวงหานของพวกเราถูกทำลาย ก็เป็นเพราะเรื่องนี้!”

“เรื่องนี้ซับซ้อนนัก เจ้าไม่ต้องทราบกระจ่างชัดก็ได้ เมื่อใดเจ้าฟื้นคืนความทรงจำจากชาติภพก่อนหน้าแล้ว เจ้าจะทราบเองว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”

“แต่เรารู้จักกับพี่สาว เรายังได้พี่สาวช่วยไว้ถึงสองครั้งครา ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันเรียกว่าดีเยี่ยม! ครั้งพี่สาวถูกไล่ต้อนจนเกือบถึงแก่ความตาย เราไม่อาจช่วยเหลือ นี่เป็นความผิดที่ตกค้างอยู่ในใจเราเสมอมา!” ฉินหยุนครุ่นคิดเช่นนี้กับตนเองอยู่ภายใน

ฉินหยุนเดิมคิดบอกหยางฉีเย่ว์ว่าเซี่ยฉีโหรวเป็นธิดาแห่งแม่มด กระนั้น ได้ยินคำของหยางฉีเย่ว์ เขาจึงตัดสินใจว่าเรื่องนี้สมควรเก็บไว้จนกว่าจะถึงเวลา

เขาเป็นกังวล ว่าหยางฉีเย่ว์จะไปยังหุบเขาเมฆมังกรเพื่อค้นหาหลุมฝังเซียน ที่แห่งนั้นมีแต่อันตรายอยู่ทุกหนแห่ง!

ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ฝึกฝนร่วมกัน พวกเขาร่วมกันขัดเกลาลูกไฟยักษ์ มันทำให้ทั้งสองต่างได้รับประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่ไหลผ่านเข้ามา

พลังงานจากลูกไฟยักษ์ รวมเข้ากับพลังงานจากสระกายเต๋า มันรวมกันเพิ่มพูนการฝึกฝน ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์สร้างกระดูกเต๋าได้อย่างรวดเร็วเพราะหัวใจมหาวิถีแห่งเต๋า รวมถึงโลหิตเต๋าที่แกร่งกล้าด้วย!

การฝึกฝนกระดูกเต๋า หมายความถึงผู้ครอบครองสามารถยืนหยัดรับการโจมตีพลังมหาวิถีแห่งเต๋า พร้อมกันนี้ มันยังเป็นการเกิดขึ้นของอักขระชีวิตแห่งเต๋าตัวที่แปด!

หยางฉีเย่ว์และฉินหยุนฝึกฝนร่วมกันอยู่สามวัน ทั้งสองล้วนเลื่อนระดับขึ้นมาพร้อมกัน!

หลังการเลื่อนระดับ หยางฉีเย่ว์ร้องเสียงเบาขณะพลังจากอักขระชีวิตของนางทะลักออก

อักขระชีวิตตัวที่แปดปลดปล่อยพลังเต๋าออกมา มันควบแน่นจนเกิดขึ้นเป็นดวงจันทราสุกสว่างกลางท้องฟ้า!

“ไม่ใช่จันทราทมิฬหรือ?” ฉินหยุนเผยความประหลาดใจขณะรับชมดวงจันทร์ที่สุกสว่าง

“ข้าปลดปล่อยพลังผ่านอักขระชีวิต นี่คือพลังเต๋า! พลังเต๋าของข้าคือพลังแห่งจันทรา ดังนั้นจึงปลดปล่อยมันออกมาเป็นดวงจันทรา!” หยางฉีเย่ว์กล่าว

ฉินหยุนรู้สึกมาตลอดว่าพลังเต๋าของตนเองพิเศษ มันไม่อาจสะกดลงได้หากปลดปล่อยออก แต่หากมีอักขระชีวิตตัวที่แปด เขาจะปลดปล่อยมันออกมาเป็นพลังเต๋าที่แข็งแกร่งได้

หยางฉีเย่ว์ดึงดวงจันทรากลับคืนพลางกล่าว “เสี่ยวหยุน พวกเราเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่แปดแล้ว เมื่อใดก้าวสู่ระดับที่เก้า พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังแดนวิญญาณอ้างว้าง เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”

“ขอรับ!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ

หลังการเลื่อนระดับ ทั้งสองออกจากถ้ำ นำพาเฉียวอวี้และฉื่อซินซินให้เข้ามาฝึกฝนด้านใน

ทางด้านฉินหยุน ขณะนี้หลอมสร้างยันต์หยกพิเศษขึ้น เพื่อให้พวกนางทั้งสองสามารถเข้าออกถ้ำได้อย่างอิสระโดยอาศัยยันต์หยก

ขณะฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ออกจากนครโบราณยุทธ์เต๋า ทั้งสองใช้เข็มทิศค้นหาแดนอ้างว้างลึกลับโบราณซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักเก้าตะวัน!

หยางฉีเย่ว์เกลียดชังสำนักเก้าตะวันถึงทรวง เพราะการทำลายล้างพระราชวังกวงหานของนาง มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับสำนักเก้าตะวัน!

ขณะนี้ นางกำลังคิดกวาดล้างสำนักเก้าตะวันในสามแดนอ้างว้างแล้ว!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด