ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0483 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0485 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0484 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 484 : กระจกมารกลืนกิน

เมื่อหยางฉีเย่ว์ได้เห็นฉินหยุนลุกขึ้นยืน นางเร่งรีบประคองร่างของเขาลงพร้อมบอกกล่าว “พักผ่อนไป ข้าจัดการเอง!”

ร่างมังกรดำที่ทะยานมาไม่ใหญ่มาก ขนาดตัวยาวประมาณสิบเมตร และครอบครองออร่ามังกรอันแข็งแกร่ง ขณะนี้มันปลดปล่อยเสียงคำรามกราดเกรี้ยวพร้อมพุ่งเข้าหาหยางฉีเย่ว์

หยางฉีเย่ว์จับจ้องมังกรดำที่พุ่งเข้ามา ดาบในมือจึงกวัดแกว่ง ปลดปล่อยพลังภายในสีดำรูปลักษณ์จันทร์เสี้ยว

พลังภายในควบแน่นที่ตัวดาบ ด้วยเสียง วูบ วูบ ไม่กี่ครั้ง ดาบพลังภายในจันทร์เสี้ยวบินลัดผ่านอากาศ เข้าขัดขวางมังกรดำเอาไว้

“นี่เป็นวิญญาณยุทธ์มังกรดำ! วิญญาณยุทธ์ของชายคนนี้เป็นวิญญาณยุทธ์สีดำ!” ฉินหยุนตระหนักได้ขณะเผยความกังวลต่อหยางฉีเย่ว์

มังกรดำตัวนี้ คือวิญญาณยุทธ์ที่ชายชราปลดปล่อยออกมา อีกฝ่ายสะกดพลังของมังกรดำเอาไว้ให้ต่ำกว่าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ดังนั้นมันจึงสามารถเข้านครโบราณยุทธ์เต๋า

นอกจากนี้ สิ่งที่เขาทำขณะนี้ถือเป็นอันตรายยิ่ง หากวิญญาณยุทธ์ได้รับบาดเจ็บ มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะสูญเสียมันไป

เวลานี้ บรรดาชายชราของทั้งสามสำนักล้วนปรากฎตัวกันออกมาครบถ้วนแล้ว พวกเขากำลังลอยกลางอากาศ รับชมการต่อสู้เบื้องล่าง

หลังจากผสานรวมเข้ากับวิญญาณยุทธ์จันทราทมิฬ ไม่เพียงแต่หยางฉีเย่ว์ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เจ็ด นางยังได้รับความสามารถวิญญาณยุทธ์อย่างความสามารถเทวะ พละกำลังของนางขณะนี้ เทียบเท่าได้กับขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับเก้าที่แกร่งกล้า

กระนั้นตอนนี้ ยามต้องเผชิญหน้ากับมังกร นางพบว่าเป็นเรื่องยากลำบาก

ฉินหยุนพักผ่อนครู่หนึ่งค่อยฟื้นคืนกำลังมาได้ จากนั้นจึงนำเอาปืนใหญ่ราชันลึกล้ำออกมา

หากหยางฉีเย่ว์ยังต่อสู้กับมังกรดำตัวนั้นต่อไป นางจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ปืนใหญ่ราชันลึกล้ำขณะนี้เล็งไปที่มังกรดำ เขาเริ่มสื่อสารบอกต่อหยางฉีเย่ว์

“พี่หยาง ข้าจะเริ่มแล้ว!” ฉินหยุนร้องบอก “ระวังแรงระเบิดด้วย!”

กล่าวคำจบ ปืนใหญ่ในมือเขาสั่นเล็กน้อยพร้อมยิงลูกปืนใหญ่พุ่งทะยาน

กระสุนปืนใหญ่ยิงอย่างแม่นยำเข้าที่หัวของมังกรดำ!

มังกรดำ เดิมบินไล่ล่าหยางฉีเย่ว์ ขณะนี้ถูกแรงระเบิดเข้าปะทะ ส่งร่างนั้นล้มลงไปกลิ้งกับพื้น

ถัดจากนั้น ฉินหยุนระดมยิงต่อเนื่อง กระทั่งนำแก่นเต๋าของขอบเขตวรยุทธ์เต๋าออกมายิง!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

แรงระเบิดต่อเนื่องหลายครั้ง เกิดขึ้นเป็นฝุ่นดินฟุ้งกระจายในอากาศปกคลุมทั้งพื้นที่

หยางฉีเย่ว์ค่อยทราบ เป็นนางประเมินพลังอำนาจปืนใหญ่ราชันลึกล้ำของฉินหยุนต่ำเกินไป มันถึงขั้นสามารถทำให้มังกรดำตัวนั้นอยู่ในสภาพอเนจอนาถได้

“คิดหนีหรือ?” นางพบว่ามังกรคิดหลบหนี ดังนั้นจึงเร่งรีบพุ่งทะยาน

หยางฉีเย่ว์คำรามร้องเบา ดาบยาวในมือถูกขว้างออก มันควบแน่นเอาไว้ซึ่งออร่าสีดำขณะพุ่งทะยานไล่หลังมังกรดำ

ขณะดาบทะลวงผ่านอากาศ รอยแยกลึกพลันปรากฏในพื้นเบื้องล่าง

เมื่อคมดาบยาวเกิดการสั่น ออร่าเย็นเยือกสีดำจึงทะลักออก เป็นผลให้เกิดชั้นน้ำแข็งขึ้นบนพื้น

ฉินหยุนตื่นตระหนกต่อพลังความเย็นแกร่งกล้าของหยางฉีเย่ว์ เขายังอดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว

มังกรถูกจ้วงแทง มันคำรามร้องและร่วงหล่นกับพื้น!

โดยทันที ฉินหยุนทะยานกายไปใช้เคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณ ผนึกมังกรดำตัวนั้นเอาไว้ในไข่มุกผนึกวิญญาณขนาดใหญ่!

ชายชราผู้ซึ่งปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์มังกรดำออกมา ขณะนี้สีหน้าซีดเผือด วิญญาณยุทธ์ของเขาไม่มีอีกต่อไปแล้ว!

เดิมเขาคิดว่าหากปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกไป จะสามารถควบคุมมันเพื่อต่อสู้ ชัยชนะย่อมลอยให้เห็นอยู่ตรงหน้า

ถึงตอนนั้น กระทั่งว่าไม่อาจออกจากเมืองก็ไม่สำคัญอีกต่อไป ที่ต้องทำก็เพียงแค่เข้าไปในห้องค่ายอาคมและควบคุมมันเอาไว้

แต่แล้วตอนนี้ มังกรได้รับบาดเจ็บ และยังถูกฉินหยุนจับตัวเอาไว้!

หยางฉีเย่ว์มองที่ชายชราทั้งสามคน น้ำเสียงของนางเย็นเยือกพร้อมจิตสังหารล้นพ้น “พวกเจ้าคิดหรือว่าแค่นี้สามารถจัดการพวกเราได้? ช่างอ่อนต่อโลกยิ่งนัก!”

และมันก็เป็นสิ่งที่ทั้งสามคนจากสำนักเก้าตะวันคิดจริง

เพราะพวกเขาได้เห็นว่าผู้ช่วยเหลือของฉินหยุนจากไปหมดแล้ว พวกเขาจึงคิด ว่าฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ลำพังย่อมเอาชนะได้ง่ายดาย

กระนั้นพวกเขากลับคาดการณ์ผิด ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ยังคงแข็งแกร่ง!

“ส่งวิญญาณยุทธ์ของข้าคืนมา! ข้าจะยอมบอกความลับของนครโบราณให้!” ชายชราที่สูญเสียวิญญาณยุทธ์ ขณะนี้เผยสีหน้าน่าเกลียดและซีดเผือดกล่าวคำออก

“ย่อมได้ บอกความลับของนครโบราณมาก่อน!” หยางฉีเย่ว์ตะโกนตอบ

“มาตรงนี้ แล้วข้าจะบอกความลับให้! อาจมีผู้อื่นอยู่ภายในนครโบราณ ข้าเกรงว่าพวกมันอาจได้ยินเข้า!” ชายชรากัดฟันแน่น

เพราะม่านพลังแยกพวกเขาออกจากกัน หยางฉีเย่ว์จึงไม่หวั่นเกรงขณะทะยานร่างเข้าไปใกล้

ฉินหยุนไม่ได้วางใจ เขาตามติดด้านหลัง

หยางฉีเย่ว์พอเข้าไปใกล้ ชายชราอีกสองคนพลันนำเอากระจกออกมาส่องที่หยางฉีเย่ว์!

กระจกทั้งสองบานปลดปล่อยแสงสีดำออกมาสองสาย แสงสีดำเหล่านี้ทะลวงผ่านม่านพลัง ส่องสว่างที่ร่างของหยางฉีเย่ว์ เกิดขึ้นเป็นเส้นไหมสีดำรัดพันกายนางเอาไว้!

“พวกเจ้า! คนโป้ปด!” หยางฉีเย่ว์คำรามกราดเกรี้ยว

“ฉินหยุน จงรีบนำวิญญาณยุทธ์ข้ากลับคืนมา ไม่อย่างนั้นหญิงสาวผู้นี้จะถูกกลืนกินโดยแสงสีดำและถูกทำลายจนสิ้น!” ชายชราที่ใบหน้าซีดเผือดเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

หยางฉีเย่ว์พอได้เห็นฉินหยุนคิดเข้ามาใกล้ นางเร่งร้อนตะโกน “เสี่ยวหยุนอย่าเข้ามา! นี่คืออักขระมารกลืนกิน แสงสีดำที่พวกมันปลดปล่อยออกมาจะแปรเปลี่ยนเป็นแสงมารรัดพันรอบผู้คน หากสัมผัสมัน เจ้าก็ติดกับแล้ว!”

“ข้าจะช่วยท่านอย่างไร?” ฉินหยุนขมวดคิ้วถาม

เขาตั้งใจเข้าโจมตีที่เส้นแสงสีดำ ทว่ามันไร้ผล

ร่างกายของหยางฉีเย่ว์โดนปกคลุมเอาไว้ด้วยเส้นแสงสีดำจำนวนมาก ใบหน้าของนางกำลังซีดเผือดทีละน้อย

“คิดหรือว่าจะทำลายกระจกมารกลืนกินของพวกเราได้!” ชายชราหัวเราะ “เลิกพล่ามได้แล้ว รีบส่งวิญญาณยุทธ์ข้ามา และจงมาเป็นข้าทาสของข้า!”

“สารเลว!” ฉินหยุนคำรามกราดเกรี้ยว ขว้างโยนเชือกสีทองออก

ความสามารถเทวะทะลุทะลวงผสานเข้ากับเชือกสีทอง เมื่อมันทะลวงผ่านม่านพลัง มันจึงรัดพันร่างกายของสามชายชราเอาไว้!

สีหน้าของชายชราทั้งสามแปรเปลี่ยน พวกเขาพยายามดิ้นรน พวกเขาไม่คาดคิด ว่าด้วยกำลังมหาศาลของตนเอง ก็ยังไม่อาจเป็นอิสระจากเชือกนี้ได้

“เส้นเอ็นมังกร!” ชายชราร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว

“จงเข้ามา!” ฉินหยุนดึงสุดแรง ใส่พลังความสามารถเทวะทะลุทะลวงเข้าไปเพิ่ม ฉุดเอาร่างของชายชราทั้งสามเข้ามาภายใน

“อ๊าก!”

ชายชราทั้งสามกรีดร้อง ระดับการฝึกฝนพวกเขาสูงส่ง แรงกดดันยิ่งแกร่งกล้าเป็นเงาตามตัว ร่างกายขณะนี้เริ่มมีควันลอยฟุ้งขึ้นมา

กระจกในมือของชายชราสองคน ตอนนี้ถูกทำลายจนสิ้นเพราะการดิ้นรน

หยางฉีเย่ว์ขณะนี้ดิ้นรนเป็นอิสระจากแสงสีดำแล้ว

ชายชราทั้งสามล้มกับพื้น กลิ้งไปมาพลางกรีดร้องขณะร่างกายปรากฏหมอกควันฟุ้ง

เพราะพวกเขาถูกโจมตีโดยพลังของค่ายอาคม พลังของพวกเขาจึงสึกกร่อนและลอยฟุ้งออกมาอย่างต่อเนื่อง

ฉินหยุนเร่งรีบพุ่งทะยานเข้าไป นำเอาวิญญาณยุทธ์และแก่นเต๋าของชายชราทั้งสองออกมา เป็นวิญญาณยุทธ์ตะวันระดับทองม่วง และวิญญาณยุทธ์ดวงดาวระดับทองม่วง นี่ถือเป็นวิญญาณยุทธ์ที่เลิศล้ำอย่างยิ่ง

หยางฉีเย่ว์พอได้เห็นสภาพชวนสังเวชของชายชราทั้งสามที่เข้ามาด้านในนครโบราณ นางจึงรู้สึกวางใจ พร้อมหันไปยิ้มให้แก่ฉินหยุน “เจ้าถึงกับหาทางได้! เมื่อครู่คิดว่าจบสิ้นกันเสียแล้ว!”

“พวกมันรู้ความลับของนครโบราณ แต่ด้วยสภาพของพวกมันขณะนี้ย่อมไม่เผยออกมาแน่!” ฉินหยุนถอนหายใจ “นครโบราณแห่งนี้กว้างใหญ่ หากคิดค้นหาความลับนั่น อาจต้องใช้เวลายาวนานนัก!”

หยางฉีเย่ว์คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เสี่ยวหยุน เจ้าทราบอักขระที่สามารถใช้ควบคุมผู้คนได้หรือไม่?”

“จริงด้วย!” ฉินหยุนร้องตอบ “แต่นี่จะได้ผลหรือ? พวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกตนแข็งแกร่งกันทั้งสิ้น!”

“แกะสลักอักขระลงที่หน้าผากพวกมัน น่าจะได้ผล!” หยางฉีเย่ว์โบกมือไหววูบ ส่งคลื่นอากาศสีดำเข้าหยุดยั้งชายชราทั้งสาม

“เจ้านำเอาวิญญาณยุทธ์และแก่นเต๋าพวกมันออกมาหมดสิ้นแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงแต่พลังจิตที่แกร่งกล้า ข้าจะทำให้พลังจิตพวกมันอ่อนแรง เจ้าค่อยใช้อักขระพิเศษนั่น!”

ฉินหยุนนำเอาปากกาลึกล้ำสะท้อนจิตออกมา เริ่มทำการแกะสลักอักขระลุ่มหลงที่หน้าผากของชายชรา

ชายชราถูกสะกดเอาไว้โดยพลังสีดำของหยางฉีเย่ว์ ร่างกายไม่สามารถขยับ พลังจิตขณะนี้ได้รับความเสียหายรุนแรง

“พวกเจ้าคิดหรือว่าจะจัดการพวกเราได้?” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “ท้ายที่สุด พวกเจ้าก็แค่แส่มาหาความตาย!”

ทั้งสามสำนักเดิมมากันหลายคน แต่หลังจากได้เห็นดวงตะวันสีแดงปรากฏ พวกเขาจึงส่งคนกลับสำนักเพื่อจัดแจงเตรียมเดินทางสู่แดนวิญญาณอ้างว้าง

ดังนั้นจึงมีแต่ชายชราทั้งสามคน และขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าอีกกว่าสิบคนที่อยู่ต่อ

เพียงไม่นาน ฉินหยุนแกะสลักอักขระลุ่มหลงเรียบร้อย เมื่อเรียกใช้งานมัน ดวงตาของชายชราจึงกลายเป็นพล่าเลือน

“ความลับของนครโบราณยุทธ์เต๋าคืออะไร?” หยางฉีเย่ว์เร่งรีบเอ่ยถาม

“มันมียันต์และอาคมเคลื่อนย้ายอยู่ที่ฐานของนครโบราณยุทธ์เต๋า! ยันต์นั้นสร้างขึ้นโดยสำนักเก้าตะวันร่วมแรง มันสามารถใช้เพื่อค้นหาวิญญาณดวงตะวันในสวนโบราณได้!”

“อาคมเคลื่อนย้ายใช้ทำอะไร?” หยางฉีเย่ว์มองที่ฉินหยุน นางประหลาดใจไม่น้อยขณะเอ่ยถามต่อ

“อาคมเคลื่อนย้าย สามารถเคลื่อนย้ายผู้คนโดยตรงไปยังสวนโบราณในอาณาเขตของสามแดนอ้างว้าง และจะไม่มีการจำกัดระดับการฝึกตน ผู้ใดล้วนสามารถเข้าไปได้!” ชายชราตอบกลับ

ฉินหยุนถามต่อ “สำนักเก้าตะวันลำดับที่เก้าจบสิ้นได้อย่างไร?”

“เพราะพวกมันคิดยึดครองนครโบราณและยันต์ดังกล่าว อีกแปดสำนักจึงร่วมมือทำลายพวกมัน!”

“อีกแปดสำนักซ่อนตัวที่ใด?” หยางฉีเย่ว์เอ่ยถามอีกครั้ง

ชายชรานำเข็มทิศออกมา “เข็มทิศนี้ จะแสดงถึงแปดแดนอ้างว้างลึกลับโบราณ ที่สำนักเก้าตะวันทั้งแปดตั้งอยู่ในสามแดนอ้างว้าง”

หยางฉีเย่ว์รับเข็มทิศทองคำพลางเผยเสียงยินดี “จงรีบนำเอาสมบัติวิเศษล้ำค่าพวกเจ้าออกมา!”

นางพอกล่าวคำจบ ชายชราหมดสิ้นสติ ถูกสังหารทิ้งโดยแรงกดดันของค่ายอาคมใหญ่

“น่าจะถามให้เร็วกว่านี้!” หยางฉีเย่ว์เผยความไม่ยินดีขณะเตะร่างชายชรา

ฉินหยุนยิ้ม “พี่หยาง หากพวกเราบอกให้มันนำของออกมาก่อนหน้า พวกเราอาจไม่ทราบความลับของนครโบราณ! อย่างน้อยในความสูญเสียพวกเราก็ยังได้รับ!”

“นั่นก็จริง ด้วยเข็มทิศนี้ พวกเราจะค้นหาสำนักเก้าตะวัน จากนั้นค่อยตบทรัพย์พวกมันเมื่อถึงเวลา!” หยางฉีเย่ว์ยิ้มกว้าง

ฉินหยุนนั่งกับพื้น มองไปยังท้องฟ้าสีคราม เขากล่าว “ในที่สุดก็ยึดนครโบราณแห่งนี้ไว้ได้โดยสมบูรณ์!”

“ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำและราชันยุทธ์ล้วนกำลังไปจากสามแดนอ้างว้างในอีกไม่ช้า เจ้าสามารถตั้งม่านพลังรอบประตูเมือง เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาอีกได้!” หยางฉีเย่ว์กล่าว

ฉินหยุนพยักหน้ารับ “ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณก็มีผลด้วยใช่หรือไม่?”

“ผู้ฝึกตนที่เพิ่งก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณไม่ได้รับผลแต่อย่างใด แต่หากก้าวหน้าเมื่อใด เมื่อนั้นจึงมีผล!” หยางฉีเย่ว์ตอบคำ “ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ อีกไม่นานก็ต้องย้ายออกจากสามแดนอ้างว้าง!”

“พลังของเก้าตะวันช่างน่ากลัวนัก ถึงขั้นควบคุมสามแดนอ้างว้างได้โดยสมบูรณ์!” ฉินหยุนถอนหายใจ

“เก้าดวงตะวันให้กำเนิดแดนดินด้วยพลังยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าพวกมันย่อมต้องแข็งแกร่ง!” หยางฉีเย่ว์มองตะวันสีแดงบนฟ้าพร้อมยิ้มออก “เสี่ยวหยุน นับแต่นี้ เจ้าจะต้องปกป้องเก้าดวงตะวันไว้ให้ดี!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด