ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0481 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0483 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0482 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 482 : ความลับของนครโบราณ

“พวกมันคิดเอาชีวิตข้า ยังจะมีอะไรให้ต่อรอง?” ฉินหยุนเอ่ยเสียงเย็นชา

“ฉินหยุน ผู้เยาว์เหล่านั้นเป็นบุตรหลานของผู้อาวุโสสำนักพวกเรา นอกจากนี้ พวกเขายังมีพรสวรรค์เหนือล้ำ และยังได้รับการบำรุงเลี้ยงจากทรัพยากรของสำนักไปอย่างมหาศาล! ตราบเท่าที่เจ้าปล่อยพวกเขา พวกเราสัญญาว่าจะมอบเงื่อนไขที่ดีให้!” ชายชราในชุดแดงกล่าว

เรื่องราวถึงขั้นนี้ พวกเขาได้แต่อดกลั้นโทสะภายในหัวใจเพื่อต่อรองกับฉินหยุน หากไม่แล้ว เด็กหนุ่มทั้งสี่คนล้วนต้องตายอย่างแน่นอน

ทุกคนกล้าบอก ว่าฉินหยุนมีเจตนาสังหารเด็ดเดี่ยวเพียงใด หากพวกเขาไม่หาทางแก้ปัญหาโดยเร็ว เด็กหนุ่มทั้งสี่มีแต่ความตายที่รออยู่!

ฉินหยุน เซี่ยอู๋เฟิง และคณะต่างแลกเปลี่ยนสายตาต่อกัน พวกเขาคิดว่าตราบเท่าที่ผลประโยชน์ใหญ่มากพอ เช่นนั้นการเจรจาย่อมเป็นไปได้

“ย่อมได้ ข้าจะพูดคุยด้วย!” ฉินหยุนแสร้งครุ่นคิดไปชั่วขณะค่อยตอบกลับ

“พวกเราต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว ตรงนี้ไม่สะดวก!” ชายชราในชุดแดงบอกออกมา

เมื่อผู้คนใกล้เคียงได้เห็นว่าสำนักเก้าตะวันยอมตกลง พวกเขาต่างถอนหายใจกันออกไม่จบสิ้น

“มาคุยกันตรงนี้! ข้าไม่คิดเสียเวลากับพวกเจ้านัก อันดับแรก ข้ามีเงื่อนไข จงบอกต่อข้าตามตรง ว่าเหตุใดพวกเจ้ากระเหี้ยนกระหือรือต่อนครโบราณยุทธ์เต๋านัก!” ฉินหยุนเอ่ยถาม

ความจริงที่ว่าสำนักเก้าตะวันมีเด็กหนุ่มอายุสิบห้าถึงสิบหกปีซึ่งก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า เป็นการยืนยันว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเพิ่มระดับการฝึกฝนผ่านนครโบราณยุทธ์เต๋าแต่อย่างใด

ดังนั้น มันจะต้องมีบางอย่างซุกซ่อนในนครโบราณอย่างแน่นอน

สีหน้าของบรรดาผู้อาวุโสจากสำนักเก้าตะวันแปรเปลี่ยน พวกเขาขมวดคิ้วและไม่ตอบกลับฉินหยุนในทันที!

“นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเรา ดังนั้นไม่ขอกล่าวคำใด!” ชายชราตอบกลับ

เซี่ยอู๋เฟิงเผยน้ำเสียงเย็นเยือก “ไม่คิดบอกหรือ?”

“เงื่อนไขอื่นพวกเราล้วนยอมรับ แต่เงื่อนไขนี้ไม่!” ชายชราชุดแดงเผยเสียงเย็น “อย่าได้คิดขุดคุ้ยเรื่องนี้!”

ผู้คนขณะนี้ต่างประหลาดใจพลางหารือกันด้วยน้ำเสียงเบาค่อย แท้จริง พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนในนครโบราณ

ฉินหยุนหย่อนเชือกลงในหม้อ นำเด็กหนุ่มที่ถูกพันธนาการออกมา เขากล่าวน้ำเสียงลุ่มลึก “พวกเจ้าส่งคนเหล่านี้เข้ามาล่าหัวข้าเพื่อเหรียญม่วง หากไม่พูด พวกมันก็ไม่มีประโยชน์ใดกับข้าแล้ว!”

“ท่านลุง ช่วยข้า...” เด็กหนุ่มในชุดแดงที่มีใบหน้ายาวร้องด้วยความหวาดกลัว

“รอเดี๋ยว!” ชายชราชุดแดงเร่งร้อนตะโกน

“เช่นนั้นจงรีบบอกถึงความลับของนครโบราณออกมา!” ฉินหยุนกล่าวเสียงเย็น

“ขอเป็นเงื่อนไขอื่น ตราบเท่าที่พวกเราทำได้ พวกเราย่อมยินดีรับไว้!” ชายชราชุดแดงตะโกนตอบโต้ “ฉินหยุน อย่าได้คิดขวางโชคลาภของตัวเจ้า! สำนักเก้าตะวันของพวกเราคือผู้แข็งแกร่งที่สุดของเก้าแดนอ้างว้าง พวกเรายินดีต่อรองกับเจ้า ถือว่าเป็นการไว้หน้ามากแล้ว!”

“ฉินหยุน อย่าได้ปฏิเสธอย่างโง่เขลา! เร่งรีบบอกเงื่อนไขของเจ้าออกมาและปล่อยตัวพวกเขา!” ชายชราอีกคนตะโกนเสียงเย็น

“เจ้าสังหารไปคนหนึ่งแล้ว หากยังคิดสังหารต่อ สุดท้ายจะเป็นการยั่วยุทั้งสำนักเก้าตะวัน นี่จะไม่มีประโยชน์อันใดกับเจ้า!”

“ฉินหยุน พวกเราเพียงต้องการควบคุมนครโบราณยุทธ์เต๋า พวกเราเพียงต้องการจับตัวเจ้าออกมา หาได้มีเจตนาสังหารไม่!”

ฉินหยุนถึงขั้นมีโทสะ คิดอยากเอาหัวของเขาไปอย่างไรก็ได้ตามใจหรือ?

พวกเขาเหล่านี้ตรงหน้า ล้วนมองต่ำต่อชีวิตของเขา หาได้เห็นเขาในสายตาไม่!

“สำนักเก้าตะวันของพวกเราแข็งแกร่ง หากเจ้ากลัวเกรง เช่นนั้นจงปล่อยพวกเขาเหล่านั้นออกมา! พวกเราจะยอมมอบหลายร้อยล้านเหรียญม่วงตอบแทนเป็นอย่างไร?” ชายชราชุดแดงพอได้เห็นฉินหยุนไม่พูด เขาจึงคิดว่าฉินหยุนกำลังพิจารณาทางเลือก

ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึก ใช้เชือกพิเศษดึงเอาอีกสามร่างออกมาจากหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร

เมื่อบรรดาผู้อาวุโสสำนักเก้าตะวันได้เห็นฉินหยุนนำเด็กหนุ่มออกมาครบถ้วน รอยยิ้มพวกเขาขณะนี้เผยกว้างเด่นชัด

“คนฉลาดย่อมรู้จักการวางตัว!” ชายชราชุดแดงหัวเราะ “ฉินหยุน พื้นฐานเจ้าไม่แย่ หากปรารถนาแก้ไขข้อพิพาทกับพวกเรา เจ้าสามารถเป็นข้าทาสของสำนักพวกเราได้...”

กล่าวคำจบ ฉินหยุนวางมือที่หน้าท้องเด็กหนุ่ม พร้อมกันนี้ เสียงกรีดร้องจึงดังขึ้น!

สีหน้าของชายชราชุดแดงแข็งค้าง ฉับพลันกลายเป็นความโกรธเกรี้ยว “หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!”

ฉินหยุนแยกวิญญาณยุทธ์ออกต่อหน้า เป็นวิญญาณยุทธ์คลื่นเสียงระดับทองม่วงที่หาได้ยากยิ่ง

ถัดจากนั้น เขาจึงแยกวิญญาณยุทธ์ออกจากเด็กหนุ่มทั้งสาม ทั้งหมดอยู่ระดับทองม่วง เป็นกระบี่ ดาบ และคันธนู!

เด็กหนุ่มทั้งสี่นอนทอดร่างกับพื้นพร้อมโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

“ข้าเพิ่งพูดไป ว่าไม่คิดเสียเวลากับพวกเจ้า! หากไม่ตกลงรับเงื่อนไขของข้า เช่นนั้นก็จงรับชมโดยอย่าสะเออะกล่าวคำ!” ฉินหยุนแค่นเสียง “หลายร้อยล้านเหรียญม่วงให้ข้าหรือ? คนเหล่านี้ช่างมูลค่าต่ำต้อยนัก!”

“เช่นกัน ข้า ฉินหยุนไม่เคยหวาดเกรงสำนักเก้าตะวันของพวกเจ้า!”

แม่เฒ่าหลิงถอนหายใจยาว “สหายเฒ่า หากพวกเจ้ายอมรับเงื่อนไขของฉินหยุน ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะบอกความลับของนครโบราณ ขณะนี้วิญญาณยุทธ์พวกเขาถูกนำออกมา ข้ายังใส่พวกมันกลับเข้าไปได้หาก...”

หลังจากผู้อาวุโสสำนักเก้าตะวันหารือกันอยู่พักหนึ่ง ชายชราชุดแดงจึงออกหน้าพูดกล่าว “ฉินหยุน พวกเราจะบอกถึงความลับของนครโบราณยุทธ์เต๋า แต่เจ้าต้องยอมรับสามเงื่อนไข! อันดับแรก เจ้าต้องมอบเลือดราชสีห์สวรรค์แก่พวกเราถ้วยหนึ่ง!”

“อันดับสอง...”

ฉินหยุนพลันหัวเราะดังลั่น ขัดขวางชายชราชุดแดงไม่ให้พูดต่อ “คิดหรือว่าข้าจะยอมรับเงื่อนไขพวกเจ้า! ในเมื่อไม่มีความจริงใจ เช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องใดให้พูดต่อกันอีก!”

“พี่ใหญ่เซี่ย ข้าเพิ่งบอกไปว่าผู้ใดหาญกล้าเหยียบเข้านครโบราณยุทธ์เต๋า จะต้องถูกสังหารก่อนแล้วค่อยถามทีหลัง! แต่พวกมันเหล่านี้ค่อนข้างสังหารยากไปนิด!” ฉินหยุนกล่าว

“หากพวกมันขยับไม่ได้ ข้ายังสังหารพวกมันไหว!” เซี่ยอู๋เฟิงเผยเสียงเฉยชา

“รอเดี๋ยว! ตราบเท่าที่ยอมรับหนึ่งเงื่อนไขและเลือดราชสีห์สวรรค์ถ้วยหนึ่ง ภายในสิบปี พวกเราจะยอมบอกถึงความลับของนครโบราณยุทธ์เต๋า!” ชายชราชุดแดงแตกตื่นเร่งร้อนตะโกนขึ้น

เซี่ยอู๋เฟิงพอได้ยิน เขาเร่งรีบเรียกดาบต้นกำเนิด จ้วงแทงเข้าผู้คนบนพื้น ความตายคืบคลานถึงทีละคน

กล่าวได้ว่าดาบต้นกำเนิดของเขายิ่งผ่านไปยิ่งน่ากลัว มันกระทั่งแทงผ่านม่านพลังของอุปกรณ์เต๋าได้!

ฉินหยุนปลดชุดเกราะเต๋า โยนร่างเหล่านั้นกลับเข้าหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร!

ผู้อาวุโสหลายคนของสำนักเก้าตะวันคำรามกราดเกรี้ยว ขณะนี้เข้าโจมตีใส่ค่ายอาคมราวคนคลั่ง!

“พวกเจ้าส่งคนมาตัดหัวข้า ขณะนี้ข้าสังหารพวกมัน เรื่องราวมีอันใดผิดพลาดไปหรือ?” ฉินหยุนแค่นเสียงเย้ยหยัน “เป็นพวกเจ้ารนหาที่ตายเอง!”

ผู้คนต่างรู้สึกว่าคนของสำนักเก้าตะวันเหล่านี้ล้วนน่าสมเพช โอกาสได้ช่วยเหลือคนเหล่านั้นเห็นอยู่ตรงหน้า กระนั้นกลับปฏิเสธเงื่อนไขของฉินหยุน ไม่พอ ยังขอให้ฉินหยุนมอบเลือดราชสีห์สวรรค์

การเจรจาเช่นนี้ มันไม่ควรเป็นไปได้แต่แรกแล้ว!

สำนักเก้าตะวันช่างไม่รู้วิธีการเจรจาต่อรอง!

บางทีอาจเป็นเพราะสำนักเหล่านี้เป็นตัวตนที่เหนือล้ำผู้อื่นมาโดยตลอด จึงไม่เคยทราบว่าควรรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร

พวกเขาเพียงคิดส่งหลายร้อยล้านเหรียญม่วงให้แก่ฉินหยุน และยังคิดขอให้ฉินหยุนยอมรับสามเงื่อนไขจากพวกเขา!

แม้ฉินหยุนไม่ทราบความลับนครโบราณ แต่เขาย่อมทราบว่ามันมีสิ่งสำคัญซ่อนเร้นอยู่ภายใน หากไม่แล้ว สำนักเก้าตะวันคงไม่ปฏิเสธถึงเพียงนี้

ชัดเจนว่าพวกเขากังวล ว่าฉินหยุนจะได้รับสมบัติลับในนครโบราณ

ขณะผู้คนของสำนักเก้าตะวันโกรธเกรี้ยวและบ้าคลั่ง ดวงตะวันบนท้องฟ้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำแล้ว

ขณะนี้เป็นช่วงกลางวัน แต่อาทิตย์กลับเผยแสงสีแดงเปรียบดังยามอัสดง นอกจากนี้ อีกดวงหนึ่งก็เริ่มแปรเปลี่ยนสีแล้ว!

แม่เฒ่าหลิงขมวดคิ้ว “นี่คือการเตือนต่อพวกเราจากเก้าตะวัน หากเก้าตะวันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง แรงกดดันจะเริ่มปรากฏในสามแดนอ้างว้าง เมื่อนั้นผู้ฝึกตนเหนือกว่าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณจะถูกกดดันจนถึงแก่ความตายโดยแรงกดดันนั่น!”

เมื่อผู้คนได้เห็นดวงตะวันสีแดงก่ำ คนของสำนักเก้าตะวันขณะนี้ความโกรธเลือนหาย แทนที่ด้วยความหวาดกลัวฉายชัดผ่านสีหน้า

สำนักเก้าตะวันย่อมทราบดีกว่าใคร ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ!

“พวกเราต้องรีบไปยังแดนวิญญาณอ้างว้าง! หากเก้าตะวันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงหมดสิ้น เมื่อนั้นพวกเราจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน!” ผู้อาวุโสของสำนักเก้าตะวันเร่งรีบลงพื้นเข้ารถลาก

กระทั่งผู้มาจากสำนักเก้าตะวันยังหวาดเกรง ผู้คนย่อมทราบว่าเรื่องราวจะชวนสะพรึงเพียงใด!

หลายคนขณะนี้เกิดความหนักอึ้งภายใน เร่งรีบไปจากนครโบราณยุทธ์เต๋า

“ฉินหยุน อย่าได้คิดว่าเจ้าจะได้อยู่ในนครโบราณอย่างสุขสบายแม้ยอดฝีมือจากไป! พวกเราจะส่งคนขอบเขตวรยุทธ์เต๋ามาสังหารเจ้า! เจ้าจะต้องหลบซ่อนในนครโบราณยุทธ์เต๋าไปชั่วชีวิต!”

“สำนักเก้าตะวันมีผู้อาวุโสที่แกร่งกล้ามากมาย พวกเขาจะมาจัดการเจ้าแน่!”

ชายชราจากสำนักเก้าตะวันเร่งรีบจากไปหลังเผยถ้อยคำทิ้งท้ายเอาไว้

ไม่นานจากนั้น ด้านนอกของนครโบราณยุทธ์เต๋าจึงกลายเป็นเงียบงันและอ้างว้าง บรรดาผู้รับชมขณะนี้เร่งรีบหนีหายกลับสำนักตนเอง ตระเตรียมเดินทางไปยังแดนวิญญาณอ้างว้างกันแล้ว

มีแต่คนจากตำหนักจันทราทมิฬและหุบเขาลึกล้ำจันทราที่ยังไม่จากไป เพราะหยางฉีเย่ว์อยู่ภายในนั้น

หลังจากคนของกองกำลังอื่นไปหมดสิ้น เชี่ยวเย่ว์หลาน เชี่ยวเย่ว์เหม่ย และผู้อื่นค่อยใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง พาเซี่ยอู๋เฟิง หงเมิ่งจู และอีกหลายคนผ่านม่านพลังของนครโบราณออกมา

หยางฉีเย่ว์ไม่ออกมา นางบอกว่ายังมีเรื่องที่ต้องทำที่นี่

ครั้งเชี่ยวเย่ว์หลานคิดจากไป นางบอกเตือนต่อเขาเล็กน้อย และยังบอกให้ค้นหาความลับของนครโบราณ เมื่อทราบค่อยบอกต่อนางในภายหน้า

เซี่ยอู๋เฟิงติดตามแม่เฒ่าหลิงและคณะ เขาคือผู้ฝึกตนดาบ ไม่ว่าที่ใดย่อมยินดีต้อนรับเขาเสมอ

ได้เห็นขบวนรถลากยิ่งใหญ่จากไป หยางฉีเย่ว์ค่อยถอดหมวกคลุมออก เผยซึ่งความเด็ดเดี่ยวผ่านทางสีหน้า “ข้าสงสัยนัก เมื่อใดพวกเราจะได้พบเจอพวกเขาอีกครั้ง!”

“พี่หยาง ท่านสามารถบอกเย่ว์หลานให้อยู่ เหตุใดนางจึงไป?” ฉินหยุนที่ต้องแยกจากเชี่ยวเย่ว์หลาน เป็นเขายอมรับเรื่องนี้ได้ยาก

“นางย่อมไม่คิดไป แต่หลังจากทราบว่าข้าคิดอยู่กับเจ้าที่นี่ต่อ นางค่อยจากไปอย่างไร้กังวล!” หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “เย่ว์หลานย่อมมีแผนการจึงไปแดนวิญญาณอ้างว้าง! เจ้า เย่ว์หลาน และเย่ว์เหม่ยล้วนมีความลับเป็นของตนเองกันทั้งสิ้น!”

ฉินหยุนเกาศีรษะพลางยิ้มรับ “พี่หยาง เช่นนั้นไปค้นหาความลับของนครโบราณยุทธ์เต๋ากันดีกว่า!”

“ตามนั้น!” หยางฉีเย่ว์พยักหน้ารับ

ขณะพวกเขาคิดจากไป ฉับพลันพบว่ามีออร่าแกร่งกล้าจำนวนหนึ่งปรากฏ!

ชายในชุดเกราะสามคนเร่งรีบมาถึงรอบนอกของนครโบราณ

ชายร่างใหญ่ทั้งสามพอได้เห็นใบหน้างดงามของหยางฉีเย่ว์ พวกเขาล้วนเผยรอยยิ้มชั่วร้าย อาวุธและชุดเกราะสีดำที่สวมใส่ ล้วนเป็นอุปกรณ์เต๋า

กระนั้น คล้ายไม่มีผู้ใดคุ้นเคยการใช้งานอุปกรณ์เต๋า ชัดเจนว่าผู้อาวุโสพวกเขาเพิ่งให้หยิบยืมเมื่อครู่นี้

รถลากขนาดใหญ่ทั้งสามปรากฏกลางอากาศ คล้ายพวกเขาเหล่านี้จะเป็นคนของสำนักเก้าตะวัน!

สำนักเก้าตะวันมีกันถึงเก้าสำนักภายใน เมื่อครู่มากันเพียงห้าเท่านั้น

เวลานี้ อีกสามสำนักที่เหลือเพิ่งมาถึง!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด