ตอนที่แล้วGE361 สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ประจักษ์ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE363 ตามหาคนผู้หนึ่ง [ฟรี]

GE362 สุสานกษัตริย์อัสนี [ฟรี]


เรื่องกังวลของฉุ่ยหลิงนับเป็นข่าวดี

ตงสู่เป็นอาจารย์ที่ดีของฉุ่ยหลิง หากชายชราบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง ย่อมเป็นผลดีกับเกาะปีศาจสำราญและตัวฉุ่ยหลิงเอง

หนิงฝานปิดห้อง พาฉุ่ยหลิงไปยังแม่น้ำแห่งหนึ่ง

นางชอบทิวทัศน์ของแม่น้ำไหล ตงสู่เองก็ชอบพานางมาที่นี่ ชายชราสร้างถ้ำลับไว้ใต้แม่น้ำแห่งนี้เพื่อเก็บตัวฝึกวิชา ปกปิดตัว และป้องให้ไม่ให้รบกวนผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆในเกาะปีศาจสำราญ

หนิงฝานกล่าวถามข่าวของตงสู่จากฉุ่ยหลิง และได้ทราบว่าชายชราไม่ได้เก็บตัวฝึกฝนจริงๆ การจะทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องมีการเตรียมการ อย่างเช่นหาสถานที่เก็บตัวที่เหมาะสม หาโอสถผันแปรที่ 6 อย่าง ‘โอสถคุ่ยชู’ และสมบัติที่อยู่อาศัย

เหตุที่ต้องเตรียมสิ่งต่างๆ เพราะหากทะลวงขอบเขตสำเร็จ ชายชราต้องประสบกับทัณฑ์สวรรค์ด้วย

ชายชราเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงต้องเตรียมการเป็นอย่างดี

เหตุที่หนิงฝานอยากพบตงสู่ เพราะเขามีวิธีช่วยชายชราให้ทะลวงขอบเขตได้ง่ายขึ้น

การที่ผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงจะทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงได้นั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดคือต้องสัมผัสพลังไร้ลักษณ์ให้ได้

ยามนี้ความเข้าใจในพลังไร้ลักษณ์ของหนิงฝานบรรลุเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางแล้ว นับว่าเหนือกว่าชายชรามาก ดังนั้น หนิงฝานย่อมช่วยชราได้

นอกจากนี้ ระดับจิตใจของหนิงฝานยังบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงแล้ว ย่อมช่วยให้ชายชรายกระดับจิตใจได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

“ท่านพี่… ท่านมีวิธีช่วยให้อาจารย์ทะลวงขอบเขตได้ง่ายขึ้นหรือเปล่า?” ฉุ่ยหลิงกล่าวถามด้วยแววตาเป็นประกาย นางคิดว่าหนิงฝานจะมีหนทางช่วย

เจ้านี่คิดว่าจะทำได้ทุกอย่างเลยหรือไง… ข้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง และข้าก็ยังไม่ใช่นักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 ด้วย“

หนิงฝานหันเราะพลางหยิกแก้มนางเบาๆ นางมักจะคิดว่าเขาเก่งกาจเสมอ

“ในสายตาของข้า… ท่านพี่เก่งที่สุด ไร้ผู้ใดทัดเทียม” นางยิ้มอย่างงดงาม

“เด็กโง่… ข้าไม่ได้เก่งกาจที่สุดหรอก เจ้าเองแค่ยังไม่เคยเห็นผู้ที่แข็งแกร่งจนยืนอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง… แม้เป็นกษัตริย์ของโลก ก็ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน แต่เจ้าวางใจเถอะ ข้าต้องช่วยอาจารย์ของเจ้าแน่”

หนิงฝานลูบศีรษะนางเบาๆ เขาย่อมช่วยเหลือสหายของตนเท่าที่จะทำได้

หนิงฝานนับเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่เห็นแก่ตัวเฉพาะกับผู้อื่น หากเป็นคนของตน เขาเต็มใจช่วย

“ท่านพี่… ท่านดีกับหลิงเอ๋อร์มากจริงๆ” นางจ้องมองหนิงฝานไม่วางตา เดินเข้าหา เขย่งปลายเท้าและประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของหนิงฝาน

การจูบของนางพัฒนาไปมาก ห้าเดือนที่ผ่านมาในเกาะกู่ซู นางฝึกเรื่องทำนองนี้กับหนิงฝานอยู่หลายครั้ง

นางไม่ได้ห่วงกังวลหากจะร่วมรักกับหนิงฝาน เพราะนางชอบที่ได้สัมผัสกายหนิงฝาน และชอบที่จะอยู่ในอ้อมกอดของเขาไปตลอดชีวิตหากเป็นไปได้

“อื้ม~” นางผ่อนลมหายใจอย่างผ่อนคลาย ราวกับปลดเปลื้องความทุกข์โศกที่เผชิญมา

ริมฝีปากที่หอมหวาน ลิ้นที่นุ่มละมุนของนาง ทำให้หนิงฝานตกตะลึง

ห้าเดือนในเกาะกู่ซู หนิงฝานปลดอาภรณ์ดำ สวมใส่อาภรณ์ขาว ราวกับละทิ้งชีวิตผู้ฝึกตนไป

ในระหว่างที่สัมผัสกับรสจูบที่น่ารื่นรมย์ของนางอยู่นั้น หนิงฝานได้หวนนึกถึงคำกล่าวของหานหยวนจี๋

“เส้นทางของผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมนั้น จะขาดสุราและสตรีไม่ได้”

เพราะสุราและสตรีนั้น คือเครื่องเยียวยาจิตใจที่ดีที่สุด

หนิงฝานโอบประครองร่างของนางไปยังสวนบุบผา ใกล้เคียงมีสายน้ำงดงาม วางร่างของนางลงกับพื้นหญ้านุ่ม โอบกอดนางไม่ห่าง

ฉุ่ยหลิงเป็นสตรีที่ดีคนหนึ่ง นางรักหนิงฝานจากใจจริง และไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่เขาขอเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แม้สถานที่แห่งนี้จะไม่ใช่สถานที่ลับตา แต่ไม่มีผู้ใดเห็นหนิงฝานและฉุ่ยหลิงร่วมรัก เพราะเขาใช้อัฐิสวรรค์ปกปิดตัวตนเอาไว้

หากบรรพบุรุษแห่งแคว้นเว่ยรู้เข้าว่าหนิงฝานนำอัฐิมาใช้ร่วมรักกับสาวงาม คงไม่พอใจแน่

หนิงฝานในยามนี้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก เมื่อยามอายุ 16 ปีและก้าวเข้าสู่เส้นทางของผู้ฝึกตน เขาจะสวมอาภรณ์ขาวไว้ภายใน ห่มคลุมด้วยชุดคลุมดำ ทำทุกสิ่งเพื่อปกป้องจื่อเฮ่อ และก้าวเจ้าสู่เส้นทางของผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมอย่างสมบูรณ์

แต่หลังจากผ่านไป 360 ปี หนิงฝานเข่นฆ่าสังหารศัตรูจนเหนื่อยล้า กระทั่งได้มาพบกับฉุ่ยหลิง ผู้ที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเขาให้กลับคืนวันวานอีกครั้ง

สำหรับหนิงฝานแล้ว ฉุ่ยหลิงและจื่อเฮ่อเป็นเหมือนหยินหยางที่ต่างขั้ว

สองมือเคลื่อนไหวสัมผัสกาย มือคู่ใหญ่กุมหน้าอกอันอ่อนละมุนของนางอย่างเบาเผา ความรู้สึกฝนยามนี้ คือความสุขที่แท้จริง คือชีวิตที่สงบสุขเฉกเช่นปุถุชนทั่วไป

ฉุ่ยหลิงเองก็ตอบสนองในความปรารถนาของหนิงฝานอย่างตรงไปตรงมา

นางมีความสุขมาก มีความสุขราวกับได้อยู่ข้างกายผีเสื้อน้อยตัวนั้น

แม้ความตายพลัดพราก แต่นางยังคงเฝ้ารอผีเสื้อน้อยตัวนั้น เฝ้ารอที่จะได้พบกับมันอีกครั้ง

แสงตะวันลับหาย ดวงตะวันลาลับ หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีสวมอาภรณ์ เหยียบย่างนภาไปในราตรี

“ท่านพี่… ท่านไปช่วยอาจารย์ทะลวงขอบเขตเถอะ หลิงเอ๋อร์ในยามนี้ยังไม่พร้อมพบผู้ใด”

นางถือกระจกเล็กๆในมือส่องสำรวจใบหน้า รอยริมฝีปากหนิงฝานที่ลำคอของนางยังคงอยู่ ริมฝีปากของนางยังคงแดงก่ำ จึงเร่งกลับที่พักของนาง

“เจ้าเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนะ...” หนิงฝานจ้องมองแผ่นหลังของนางที่จากไป ความรู้สึกบางอย่างปรากฏขึ้นในใจ

ในระหว่างการเข่นฆ่าหรือสู้รบ หนิงฝานไม่สนใจเรื่องสตรีแม้แต่น้อย ยามนี้เขาจึงสมควรห่วงใยและดูแลคนใกล้ตัวอย่างฉุ่ยหลิงบ้าง

จิตใจของหนิงฝานพัฒนาขึ้น มีสติและเหตุผลมากขึ้น อาจเป็นผลมาจากการที่จิตใจทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลง

ฉุ่ยหลิงดีกับหนิงฝานมาก นางรู้ว่าในใจของเขาอัดแน่นไปด้วยแรงอาฆาต และเคียดแค้นชิงชัง นางจึงทำทุกวิถีทางเพื่อช่วย

“อาจารย์… ข้าเริ่มเข้าใจสิ่งที่ท่านพูดแล้ว หากเลือกได้ข้าคงเลือกใช้เวลาพันปีเพื่อทะลวงขอบเขตไร้แบ่งแยก แบบนั้นข้าคงจะมีความสุขมากกว่า แต่ข้าไม่มีทางเลือก ข้าจะต้องไม่แพ้หานเนี่ยเทียน!”

แววตาหนิงฝานกลับคืนสู่ความสงบ ไร้ซึ่งความผันผวน

ยามนี้การได้พบตงสู่นับเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า เงาร่างหนิงฝานแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงมุ่งตรงไปยังก้นแม่น้ำแห่งนั้น ที่นั่นมีวังขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ภายในนั้น ตงสู่กำลังดูแผ่นหยกที่หนิงฝานเคยมอบให้

เขาเคยมอบความรู้ความเข้าใจในพลังไร้ลักษณ์ให้กับชายชรา แต่ยามนั้นเป็นความเข้าใจตามแบบจักรพรรดิสวรรค์ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับชายชรา

ตามความทรงจำที่ได้มานั้น ไม่ได้กล่าวถึงผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงในขอบเขตเขตต่างๆ

การที่ตงสู่จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ชายชราย่อมพรสวรรค์ที่สูงส่ง แต่เมื่อลองอ่านสิ่งที่บันทึกอยู่ภายในแผ่นหยก ชายชรากลับไม่เข้าใจ

ชายชราถอนหายใจ แม้ระดับของปราณจะถึงจุดที่สามารถทะลวงขอบเขตได้แล้ว แต่ตนเองยังไร้ซึ่งความเข้าใจในพลังไร้ลักษณ์

“ยากมาก… การทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย” ชายชราถอนหายใจอีกครั้ง แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น กลับมีเสียงหัวเราะดังมา

“ดูเหมือนสหายเต๋าตงสู่กำลังประสบกับความยากลำบาก เส้นทางของการฝึกตนนั้นยากเสมอ หากหวาดกลัวในความยากลำบากและอันตราย ย่อมไม่มีโอกาสได้ปีนป่ายไปยังขอบขั้นที่สูงขึ้น! ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แหละ” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว

แม้คำกล่าวของหนิงฝานจะดูเหมือนการเย้าหยอก แต่ก็แฝงด้วยการเตือนด้วยความหวังดี

ยามนี้ตงสู่ไร้หนทาง ย่อท้อกับความยากลำบากที่อยู่ตรงหน้า จึงกลายเป็นการกีดกันความสำเร็จ

หากไม่ได้หนิงฝานช่วยเตือน ความหวาดกลัวนั้นจะกลายเป็นปมในใจของชายชรา ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้การทะลวงขอบเขตล้มเหลว

คำกล่าวของหนิงฝานได้ช่วยชายชราไว้!

“ฮ่าฮ่า ขอบคุณสหายเต๋าซัวที่ชี้แนะ! ว่าแต่หลิงเอ๋อร์ไม่ได้มากับเจ้าเหรอ?”

ปกติแล้วนางมักจะไปไหนมาไหนพร้อมกับหนิงฝาน ยามนี้ไม่เห็นนางมาด้วยชายชราจึงกล่าวถาม

เหตุที่ชายชรานับถือหนิงฝานเป็นสหายและให้ความนับถือ ไม่ใช่เพราะหนิงฝานแข็งแกร่งทัดเทียม 7 ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งทะเลส่วนใน แต่เป็นเพราะจิตใจของหนิงฝาน

การได้สหายเต๋าที่ดีนับเป็นสิ่งล้ำค่าในโลกของผู้ฝึกตนเช่นนี้

ชายชรามองหนิงฝานพลางยิ้ม ชายชรารู้ว่าหนิงฝานเพิ่งร่วมรักกับฉุ่ยหลิงมา เพราะที่อาภรณ์ของเขายังมีรอยเครื่องปทินโฉมของนางติดอยู่

“ดูท่าสหายเต๋าซัวจะเบิกใจน่าดู… ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดา!”

หนิงฝานยิ้มพลางส่ายหน้า คาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญระดับชายชราจะหยอกล้อเขาเป็นด้วย

“เข้าเรื่องกันดีกว่า สหายเต๋าตงสู่… ข้าได้ฟังเรื่องของท่านมาจากหลิงเอ๋อร์แล้ว นับเป็นข่าวดีที่ท่านจะทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลง ข้าเคยมอบแผ่นหยกที่สลักความเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์ให้แล้ว และยามนี้ ข้าก็มีอีก 2 สิ่งที่จะแนะนำท่าน”

“นี่… เจ้าพูดจริงเหรอ?” ชายชราประหลาดใจ ชายชราคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์

หากเป็นทั่วไป ผู้ที่จะให้คำแนะนำจะชี้แนะ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ชายชราไม่พอใจ เพราะถือว่าอีกฝ่ายยกตนข่มท่าน แต่หนิงฝานไม่เป็นเช่นนั้น เขาสลักความเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์ลงไปในแผ่นหยก และมอบให้ชายชราเพื่อทำความเข้าใจ

ชายชราเชื่อที่หนิงฝานกล่าว หากหนิงฝานกล่าวว่าจะชี้แนะ เขาย่อมชี้แนะตามที่กล่าว

“สิ่งที่ข้าจะแนะนำอย่างแรก คือเรื่องจิตใจ”

“จิตใจ! จริงสิ! ในระหว่างการต่อสู้ จิตใจของเจ้ายกระดับถึงขอบเขตไร้ดัดแปลง ข้าได้เห็นด้วยตาของตัวเอง!”

สีหน้าชายชราแสดงออกถึงความสุขอย่างชัดเจน อีกอย่าง หนิงฝานไม่ใช่ผู้ที่จะพูดจาไร้สาระ

จิตใจของชายชรายามนี้อยู่ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง หากได้คำแนะนำจากหนิงฝาน จิตใจของชายชราอาจทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลง ซึ่งนับเป็นประโยชน์กับชายชรามาก

“เช่นนั้นข้าคงต้องขอรบกวนสหายเต๋าด้วย… ส่วนอีกเรื่องที่สหายเต๋าจะแนะนำคือเรื่องใด?” ชายชรากล่าวถามอย่างตรงไปตรงมา แม้จะน่าอายอยู่บ้าง แต่ชายชราก็คาดหวังในตัวหนิงฝานเอาไว้สูง

“อย่างที่สองคือ ข้าจะแสดงปราณไร้ลักษณ์ให้สหายเต๋าได้เห็น ถึงข้าไม่รู้ว่ามันจะช่วยสหายเต๋าได้หรือเปล่า แต่ข้าก็มั่นใจว่าอย่างน้อยจะไม่ทำให้สหายเต๋าผิดหวัง”

หนิงฝานชี้นิ้ว ที่ปลายนิ้วปรากฏแสงสีดำ นั่นคือปราณไร้ลักษณ์หรือพลังมิติ!

ชายชราที่ได้เห็นนิ่งอึ้งราวกับโลกหยุดหมุน

แม้ชายชราจะคาดหวังในตัวหนิงฝานสูงแล้ว สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับทำให้ชายชรารู้ว่าตนเองยังดูแคลนหนิงฝานมากเกินไป เพราะหนิงฝานควบคุมปราณไร้ลักษณ์ได้!

“สหายเต๋าบรรลุความเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์ขั้นกลางแล้ว!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นจนไม่อาจปกปิด

ความเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์ขั้นกลาง ยากกว่าการทำความเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์ขั้นต้นมาก เพราะขั้นกลางนั้น นอกจากจะต้องเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์แล้ว ยังต้องควบคุมมันได้ในระดับหนึ่ง!

ยามนี้ ชายชราสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอีกไม่นาน ตนเองจะทะลวงจุดตีบตันแล้ว!

ชายชรายังคงตกตะลึงไม่หาย เพราะการจะบรรลุความเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์ขั้นกลางนั้น เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้นจำนวนมากไม่อาจทำได้!

ความสำเร็จของหนิงฝานเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า หากเขาจะบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นยากย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

“ปีศาจ! เจ้ามันปีศาจชัดๆ!” ชายชราจ้องมองหนิงฝาน ความรู้สึกหลากหลายปรากฏ เป็นไปได้ด้วยหรือที่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณจะเข้าใจในปราณไร้ลักษณ์ขั้นกลาง?

เป็นไปได้ด้วยหรือที่ผู้ยังไม่บรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกจะดึงพลังจากรอบข้าง และใช้ร่างวิญญาณได้?

แต่หนิงฝานทำได้ทั้งหมด! หากไม่ใช่ปีศาจ แบบนี้จะเรียกว่าอะไร!

“ข้าว่า ที่ท่านบอกว่าข้าเป็นปีศาจคงไม่เหมาะ!” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว

“แน่นอน! สหายเต๋าใจกว้างกับข้า ทั้งสิ่งที่สหายเต๋าได้กล่าวว่า อย่างน้อยสมควรช่วยให้ข้าบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงได้ง่ายขึ้น 1 ใน 10 ส่วน… ข้าเองก็ต้องตอบแทนสหายเต๋าบ้าง...”

“แล้วท่านมีอะไรมาตอบแทนข้า?” หนิงฝานหัวเราะ เขาจำได้ว่าชายชรามอบทั้งทาส แร่วิญญาณ และสมบัติที่อยู่อาศัยให้แล้ว

ชายชรายังเหลืออะไรอีก?

“ต้องมีสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว… ในเมื่อเจ้าช่วยข้าถึงสองสิ่ง ข้าย่อมต้องตอบแทนสองสิ่งเช่นกัน” ชายชรายิ้ม

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอฟังหน่อย ว่าสิ่งที่ท่านหมายถึงคืออะไร?”

“อย่างแรกคือโลหิตเซียนที่อยู่กลางหน้าผากข้า อย่างที่สองคือแผนที่ของสุสานกษัตริย์อัสนีที่ข้าเคยกล่าวถึง ข้ามีแผนที่ของสุสาน 3 ใน 10 ส่วน เจ้ารู้จักหรือเปล่า?”

“สุสานกษัตริย์อัสนี? ข้าเคยได้ยินเรื่องของมันมาบ้าง เมื่อตอนที่อ่านความทรงจำของซื่อกู่เองก็มีส่วนของเรื่องนี้อยู่ด้วย เท่าที่ข้ารู้...สุสานกษัตริย์อัสนีอยู่ในตระกูลซัว อัฐิของกษัตริย์อัสนีคือสมบัติที่อยู่อาศัยในระดับจักรวาลเล็ก เหมาะกับการใช้ฝึกวิชามาก นั่นคือสิ่งที่ข้ารู้ทั้งหมด...”

“ฮ่าฮ่า… ใช่ สุสานและสิ่งที่ซัวฮว๋างทิ้งไว้ในนั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณในทะเลไร้สิ้นสุดมาก ข้าเองก็ยังอยากจะไปทะลวงขอบเขตไร้แบ่งแยกที่นั่น… ส่วนแผนที่ที่ข้ากล่าวถึง หลังจากได้เข้าไปหลายครั้ง ข้าก็ค่อยๆวาดมันขึ้นมา”

“ทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงในสุสาน?” ยามนี้หนิงฝานสนใจสุสานแห่งนั้นมาก

โดยทั่วไป ผู้ที่จะทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงจะเลือกวิหารสาบสูญเป็นสถานที่เก็บตัว เพราะจะช่วยประหยัดเวลาได้มาก

บางคนก็เลือกที่จะทะลวงขอบเขตในมิติ แม้จะเป็นอันตราย แต่ก็ง่ายที่จะสัมผัสและทำความเข้าใจปราณไร้ลักษณ์

หนิงฝานคิดว่าชายชราจะเลือกหนึ่งในสองที่นั่น แต่คาดไม่ถึงว่าชายชราจะเลือกสุสานกษัตริย์อัสนี

สุสานแห่งนั้นสมควรเป็นสถานที่ลึกลับ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้ตงสู่สนใจมากขนาดนี้

ในขณะที่ขบคิด จู่ๆหนิงฝานก็นึกถึงคำกล่าวของลู่เจี่ยเฟินออก มันบอกว่ามีวิธีให้เขาได้เข้าสุสาน หรือสุสานที่มันหมายถึงคือสุสานกษัตริย์อัสนี?

สุสานแห่งนั้นเป็นของกษัตริย์อัสนีปู้ซัว ผู้ที่เคยเป็นผู้ปกครองทะเลไร้สิ้นสุด แต่มีข่าวลือว่าปู้ซัวผู้นั้นตายแล้ว

“ข้ามีเรื่องอยากถามท่าน… เหตุใดทะเลไร้สิ้นสุดถึงต้องอยู่ภายใต้กฏของวิหารพิรุณ!” หนิงฝานกล่าวถามด้วยความสงสัย

“เจ้าไม่รู้เหรอ?” ชายชรายิ้มพลางกล่าว

“เดิมทีข้าคิดว่าเป็นเพราะทะเลไร้สิ้นสุดมีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกปกครองอยู่ วิหารพิรุณจึงไม่กล้าเข้ายึดครอง แต่พอลองขบคิดดูแล้ว… สาเหตุอาจเป็นเพราะสุสานกษัตริย์อัสนีที่เป็นประโยชน์ต่อวิหารพิรุณ พวกมันจึงไม่เข้ายึดครอง แต่ให้กฏเกณฑ์และความอิสระมาแทน”

“สหายเต๋าเดาถูกครึ่งนึง… เหตุผลที่ทำให้วิหารพิรุณไม่กล้ายึดครองทะเลไร้สิ้นสุดมีอยู่ 2 เหตุผล… หนึ่งคือเรื่องสุสานกษัตริย์อัสนี ส่วนอีกเรื่องคือคนผู้หนึ่ง ที่แม้จะตายไปแล้วแต่ยังทำให้วิหารพิรุณเป็นกังวล แต่เรื่องที่คนผู้นั้นตายเป็นเพียงข่าวลือ มีเพียงข้า ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลส่วนใน และระดับสูงของวิหารพิรุณเท่านั้นที่รู้ว่าคนผู้นั้นยังมีชีวิต!”

“คนผู้นั้น?” หนิงฝานขมวดคิ้ว ลู่เจี่ยเฟินและตงสู่กล่าวถึงบุคคลปริศนา

“อืม… คนผู้นั้นคือปู้ซัว...กษัตริย์อัสนี เขายังมีชีวิตอยู่!” ชายชรากล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย เพราะกษัตริย์อัสนีคือผู้เป็นตำนาน

เต๋าแห่งอัสนีของคนผู้นั้นเลื่องลือไปทั่วโลกทั้ง 9 ใบ แม้จะต้องรับมือ 3 เทพกษัตริย์ที่โลกกระบี่ แต่ปู้ซัวยังไม่แพ้!

ดังนั้นปู้ซัวที่สร้างสุสานของตนขึ้นมานั้น จึงกลายเป็นจุดสนใจและสถานที่อันลึกลับที่น่าค้นหา

“กษัตริย์อัสนีปู้ซัว!” หนิงฝานสูดหายใจลึก แค่กล่าวชื่อเขาก็สัมผัสได้ถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่

ต่อสู้หนึ่งต่อสามโดยไม่แพ้ นั่นหมายความว่าปู้ซัวเก่งกาจยิ่งกว่าเทพกระบี่

แต่หากเทียบกับหานเนี่ยเทียนแล้ว ไม่รู้ว่าใครจะเก่งกาจกว่ากัน!...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด