ตอนที่แล้วChapter 111 – Black Market Tenth Shopping [28-01-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 113 – Black Market Tenth Shopping (3) [01-02-2020]

Chapter 112 – Black Market Tenth Shopping (2) [30-01-2020]


Chapter 112 – Black Market Tenth Shopping (2)

คาร์กอตได้ถามกับซังจินด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

"มันคือ...หัวใจมังกร?"

เขาสามารถจะแยกหัวใจออกได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว ซังจินได้ตอบกลับไป

"ใช่แล้ว มันคือหัวใจมังกร?"

คาร์กอตที่ไม่สามารถจะละสายตาไปจากหัวใจมังกรได้ก็ได้ถามออกมา

"ไปได้มันมาจากไหน?"

ซังจินได้ตอบกลับไปตามตรง

"จากรังมังกร ในครั้งนี้มันเป็นการจู่โจมรังมังกรแดง นายไม่รู้งั้นหรอ?"

แต่แล้วคาร์กอตก็ได้มึนงงราวกับว่าเขาพึ่งจะได้ยินข่าวใหม่นี้เป็นครั้งแรก

"จริงหรอ? ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย"

ซังจินได้เอียงหัว

"ฉันคิดว่าพ่อค้าทุกคนจะรู้สถานที่ๆพวกเราจะไปจู่โจมซะอีก...?"

"นั่นมันเป็นเพราะว่าพวกคนอื่นๆเขาชอบเม้ากัน"

"แล้วนายหละ?"

"ฉัน เอาหละ ฉันพูดเพียงแค่กับค้อนและทั่งเหล็กเท่านั้น"

มันดูเหมาะสมกับตัวตนของเขามาก

"อา เข้าใจละ...เอาหละยังไงก็ตาม...นายสามารถจะสร้างของจากสิ่งนี้ได้ไหม?"

"สร้าง...ใช่แล้ว มันเป็นไปได้ ถ้าฉันใช้ความสามารถทั้งหมดของฉัน แต่ว่านายต้องการมันในรูปแบบใด?"

ซังจินได้เอียงหัวอีกครั้ง

"รูปแบบ"

"ใช่แล้วรูปแบบ เช่นอาวุธ ชุดเกราะ หรือเครื่องประดับ นายสามารถจะเลือกในสิ่งที่นายต้องการได้เลย"

เขาได้หยิบเอาหัวใจมังกรขึ้นมา มันใหญ่กว่ากำปั้นผู้ชายเล็กน้อย

"ด้วยขนาดเท่านี้....มันน้อยเกินไปที่จะใช้สร้างเกราะอกและกางเกง แต่ว่าฉันควรจะสามารถใช้มันในการสร้างอาวุธได้ดีที่สุด"

ซังจินได้คิดเกี่ยวกับตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้นั้นคืออุปกรณ์ป้องกัน เขาได้ตัดสินใจที่จะถามออกมา

"แล้วอุปกรณ์ป้องกันชนิดไหนที่เหมาะที่จะเอามาใช้สร้างมากที่สุด?"

"ฉันคิดว่าหมวกหรือไม่ก็โล่น่าจะดีที่สุด"

ซังจินได้ทวนคำที่เขาได้ยินออกมา

"โล่หรือหมวก...."

ครู่หนึ่งเมื่อได้พูดถึงหมวกเบสโกโร่ก็ได้พูดออกมา

'โอ้เค นายไม่ได้คิดที่จะทิ้งฉันเอาไว้เบื้องหลังและเอาไอเทมอันอื่นมาแทนฉันใช่ไหม? ฉันสามารถจะใช้เวทย์แทนนายรวมทั้งเพิ่มความเร็วในการโจมตีได้เลยนะนายรู้ไหท ในครั้งล่าสุดที่ต่อสู้กับมังก็ ฉันก็เป็น MVP ฉันหวังเอาไว้ว่านายจะไม่ลืม...'

ซังจินได้หยุดเขาเอาไว้

"โอเคร โอเคร ถ้านายเงียบ ฉันจะทำอย่างอื่น"

คาร์กอตได้ยกคิ้วขึ้นจากคำพูดของซังจิน

"หืมมมม?"

ซังจินได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นและพูดออกมา

"อา....ไม่มีอะไร"

ซังจินได้พิจารณาไปถึงชุดเกราะอื่นๆ โล่มันไม่ดีเพราะว่าเขาจะต้องถืออาวุธทั้งสองมือ ซังจินได้ถามกับคาร์กอต

"แล้วการสร้างถุงมือหรือร้องเท้ามันไม่ดีหรอ?"

คาร์กอตได้ส่ายหัวออกมา

"ไม่ หัวใจของมังกรมันจะแสดงผลเต็มประสิทธิภาพถ้าหากมันไม่เสียหาย ถ้าหากนายแยกมันออกจากกันพลังของมันก็จะลดลงจำนวนมาก

"แล้วเกี่ยวกับเครื่องประดับหละ?"

"เอาหละนายอาจจะสามารถสวมใส่เข็มขัดแล้วพันมันเป็นเครื่องประดับได้ แต่ไม่แน่มันอาจจะน่าเกลียด? ถ้าหากว่ามันมีอะไรที่ห้อยลงมาที่เป้าของนาย?"

เขาพูดถูก หากสิ่งที่ชอบแกว่งในขณะที่เขาเหวี่ยงดาบ มันก็จะทำให้เขาเกิดการสับสน

"แล้วการทำมันให้เป็นรูปสลักหละ?"

คาร์กอตได้พูดออกมาเสียงดังราวกับว่าซังจินได้พูดบางสิ่งบางอย่างที่น่าเกลียดออกไป

"มันทำไม่ได้แน่นอน"

ซังจินได้มองกลับไปด้วยความประหลาดใจ

"ก่อนหน้านี้ฉันได้บอกนายไปแล้วไงว่าผลของมันจะขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ถ้าหากได้โกนมันออก มันก็เหมือนกับการลดค่าสเตตัสของมัน"

ซังจินได้ตกไปอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขารู้อยู่แล้วว่าวัสดุมันมีเพียงแค่พอจะสร้างของชิ้นเดียว และในตอนนี้เขาก็มีหมวกอยู่แล้วด้วย อย่างไรก็ตามเบสโกโร่ก็ยังคงมีประโยชน์

แม้ว่าคำพูดของเขาจะน่ารำคาญ แต่ก็ไม่สามารถจะปฆิเสธได้ว่าเขามีประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อ

'ฉันควรจะทำยังไง...'

ซังจินได้พิจารณาตัวเลือกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป

"ถ้างั้นแล้ว...โล่...แต่ว่าฉันไม่เคยใช้โล่มาก่อน ฉันจะรู้สึกสบายมากขึ้นถ้าหากว่าปัดป้องการโจทตีด้วยดาบ

คาร์กอตก็ได้แนะนำออกมา

"และ....ทำไมไม่ทำดาบอีกเล่มหละ?"

"ดาบ?"

"ใช่แล้ว ดาบ"

ซังจินได้มองลงไปที่เข็มขัดของเขา เขามีดาบอยู่แล้วสามเล่มที่ห้อยลงมาอยู่ แต่คาร์กอตก็ได้ชี้ไปทางด้านซ้ายที่มีมูนสเปคแขวนอยู่เพียงเล่มเดียวและพูดออกมา

"ตั้งแต่ที่ทางด้านขวาของนายมีดาบแขวนอยู่สองเล่ม แล้วทำไมนายถึงไม่ทำให้อีกด้านมันเท่ากันเพื่อความสมดุลงั้นหรอ?"

"เอาหละ....ถ้าหากว่าพิจาณาจากจุดนี้อย่างจริงจังในมุมมองที่สูงออกไป...."

"และหัวใจของมังกรนี้...ผลที่ได้ก็คือการเพิ่มพลังเวทย์

"เข้าใจแล้ว"

"แล้วทำไมฉันคิดไม่คิดที่จะทำอาวุธสสำหรับเวทมนตร์?"

"เฉพาะเรื่องเวทย์?"

"ใช่แล้วดาบเวทมนตร์ จากสิ่งที่ฉันเห็นอาวุธของนาย นายคงจะมีดาบที่มีความสามารถในด้านที่ต่างกันออกไป ดาบที่มีวิญญาณของผู้หญิงสถิตอยู่ ดาบที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือกในการทำลายล้าง และดาบสั้นที่เป็นอาวุธได้ต้านทานจอมเวทย์ ใช่ไหม?"

"นายทำได้ยังไง..."

"ฉันสามารถบอกได้เพียงแค่มอง นายได้เปลื่ยนดาบของนายไปตามสถานการณ์ใช่ไหม?"

"นั่น....ใช่แล้ว มันคือความจริง"

"ดังนั้นแล้วถ้าหากมีอีกดาบของนายจะเป็นประเภทร่ายเวทย์ ตั้งแต่ที่นาบเป็นนักดาบนายก็ควรจะสามารถเปลื่ยนมันได้อย่าวงง่ายดายในตอนต่อสู้ใช่ไหมฬW

ซังจินได้พิจารณาข้อเสนอแนะอย่างรอบคอบ และก็ได้สรุปที่จำทำดาบอีกเล่มหนึ่ง"

"ถ้างั้น....ฉันจะทำดาบอีกเล่ม"

"ใช่แล้วๆ ฉันก็คิดว่านี่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด"

"แล้ว...มันใช้เวลานานแค่ไหนในการทำดาบ"

"มันอาจจะใช่เวลาสองวัน และก็10000 เหรียญดำ"

ซังจินหยักหน้ารับ

"โอเครเข้าใจแล้ว

"แล้วนายมีคำขออื่นหรือไม่?"

ซังจินได้ดึงเอาอาเทอร์มิโอออกมาและพูดว่า

"ฉันต้องการที่จะอัพเกรดเจ้านี่ด้วย"

"จริง? และใช้หินเอนชานต์ใช่ไหม? ฉัยเคยบอกนายมาก่อนแล้วว่ามันจะใช้หินเอนชานต์สามก้อนในการอัพเกรดอาวุธระดับตำนานย"

ซังจินได้วางมือลงไปในลูกบาศก์

"โอเปอเรเตอร์"

ลูกบาศก์ได้บินเข้ามาใกล้เขา ซังจินได้หยิบหินเอนชานต์ออกมาและมอบให้กับคาร์กอต เขาได้มองมาอย่างประหลาดใจ

"ของฉันรวบรวมมันได้ครบแล้ว?"

"ในรังของมังกรมันมีสมบัติอยู่จำนวนมาก นายก็รู้นี้"

"โอ้ ใช่แล้ว ๆ"

คารืกอตได้รับไอเทมมาและพูดออกไป

"แล้วก็....ให้กลับมาพรุ่งนี้ในตอนเช้าพร้อมกับเงิน 10000 เหรียญดำเหมือนเดม

"ฉันเดาว่านายไม่น่าจะมีปัญหากับดาบที่จะตีขึ้นใหม่นี้"

"ใช่แล้วมันใช้เวลามากกว่า 1 วันในการละลายหัวใจมังกร"

"อา เป็น่นนั้นนี่เอง?"

"ใช่แล้ว ดังนั้นมารับของๆนายไปในวันพรุ่งนี้ ดาบสั้นนั่น...ชื่ออะไรนะ?"

"อาเทอร์มิโอ"

"ใช่แล้วฉันจะอัพเกรดอาเทอร์มิโอ และในตอนเช้าถัดไปนายก็จะได้รับดาบเวทย์เล่มใหม่"

ซังจินได้คำนับกับคำพูดของเขา

"ฉันเข้าใจแล้ว"

****

ซังจินได้มุ่งหน้ากลับไปที่โรงแรม

เขาได้ตั้งใจที่จะพูดคุยกัยซาดาเมียร์เกี่ยวกับแหวนใหม่ แต่ว่าเมื่อเขามาถึงโรงแรม เขาก็รู้สึกเหนื่อยและไม่ต้องการจะคุยเรื่องนี้

ซังจินได้นอนลงบนเตียงในขณะที่ตรวจสอบนาฬิกา

"โอเปอเรเตอร์พวกกี่โมงแล้ว"

[บ่าย 3 โมง 22 นาที]

'ฉันไม่ได้มีเวลาในการพัก'

"ได้โปรดเตือนฉันเมื่อผ่านไปครึ่งชม."

[เข้าใจแล้ว]

ซังจินได้หลับตาไปในทันทีที่สร้างการแจ้งเตือนเสร็จ แม้ว่าวันนี้เขาจะยุ่งมาก แต่ว่าเขาก็สามารถจะพักผ่อนได้ในวันพรุ่งนี้

"ฉันควรจะหยุดพักในวันพรุ่งนี้และไปหาร้านอาหารดีๆ"

ตลาดมืดมันเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่เล็กๆและร้านอาหารมากมายเช่นดารูปินที่สามารถจะปลุกอาหารได้ทุกประเทศ แต้ว้าร้านแต่ละแห่งก็จะมีเคล็ดลับและสูตรเป็นของตัวเอง

"ในตอนนี้ฉันได้คิดเกี่ยวกับมัน....มันจะเยี่ยมแค่ไหนกัน...ถ้ามีนาดาและเซรินอยู่ด้วย

มันไม่มีสถานที่พักใดที่ดีไปว่าตลาดมืดแล้ว มันจะไม่มีการต่อสู้เลยแถมของกินทุกอย่างก็ฟรี และปราศจากคนอื่นๆเพราะมิติของพวกเขาได้แยกจากกัน

'เอาหละ อย่างน้อยมันก็เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่ามันจริงไหม...'

ซังจินได้ล้มลงไปที่ที่นอนในขณะที่คิดอยู่ แล้วจากนั้น

[ท่านนักล่า 30 นาทีได้ผ่านไปแล้ว]

ซังจินได้ลุกขึ้นยืนหลังจากที่ได้ยินเสียงของโอเปอเรเตอร์ ผมเขาเละมากเมื่อเขาพึ่งตื่นขึ้นมา ซังจินได้จัดผมของเขาให้เข้าที่

เขาไม่ได้ใส่ใจภาพลักษณ์ของเขามานัก แต่ว่าถ้าพิจารณาว่าเขากำลังจะไปพบกับเซรินผู้ที่งดงามมาก เขาก็ควรจะหลีกเลี่ยงการทำสิ่งที่แย่ ขณะที่เขากำลังมองไปที่กระจบและจัดผมของเขา โอเปอเรเตอร์ก็ได้ประกาศออกมา

[ผู้ถูกเลือกได้ร้องขอการอัญเชิญคุณ คุณจะยอมรับไหม]

[10 9]

หลังจากผ่านไปสองวินาทีแล้ว ซังจินก็หันไปให้คำตอบกลับโอเปอเรเตอร์

[ใช่แล้ว]

และเขาก็ได้ถูกเทเลพอตออกไป

ที่ๆเขาได้ถูกอัญเชิญไปมันเป็นร้านกาแฟแสนสบายที่มียรรยากาศสงบและสง่า

'ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันมีสถานที่เช่นนี้อยู่....'

ขณะที่ซังจินกำลังมองไปรอบๆ เซรินก็พูดผ่านโต๊ะมา

"สถานที่นี้มันดีใช่ไหม? ฉันได้พบกับมันเร็วๆนี้ในขณะที่เดินบนตลาดมืด มันมีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมและมีกาแฟและขนมหวานที่อร่อย"

"ฉันรู้แล้ว...."

ซังจินได้หยักหน้ารับในขณะที่หันหน้ามามองเธอ นี่มันเป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับเธอนอกจากการจู่โจม เขารู้สึกอึดอัดใจ เขาได้เค้นสมองเพื่อหาคำพูดอย่างรวดเร็ว"

'หืม...ฉันบอกอะไรไว้นะเมื่อตอนที่ฉันบอกให้เธอหาฉัน...?'

เธอได้เริ่มที่จะพูดขึ้นมา

"ฉันมีคำถามอยู่มากมา"

เขาก็ได้ตอบกลับเธอไป

"อาโอเค ถามมาได้เลย ใครต้องการที่จะถาม"

ซังจินคิดว่าเธอคิดจะถามเกี่ยวกับฉายาผู้ถูกเลือก แต่คำถามของเธอก็ได้อยู่นอกเหลือไปคากความคาดหวังของเขา

"นายอายุเท่าไหร่"

ซังจินได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจตอบกลับไป

"ฉัน...อายุ 27 ปี"

"โอ้จริง? ถ้างั้นฉันก็อายุน้อยกว่านายเพราะว่าฉันมีอายุ 26 ปี"

"อาเป็นเช่นนั้นหรอ?"

เซรินเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ว่าซังจินไม่ได้สนใจดารามากนักเขาจึงได้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดาราพวกนี้เลย

"ใช่แล้ว....ฉันสามารถจะเรียกนายในตอนนี้ได้หรือไม่ จากนี้ไปด้วย?"

ซังจินได้หยักหน้ารับ

"อาใช่แล้ว...ช่วยทำตามนั้นด้วยนะ"

"โอป้าโปรดอย่าเป็นทางการมากนัก ฉันยังเด็กอยู่เลย

ในก่อนหน้านี้ตอนแรกเธอดูเย็นชามาก แต่ว่าในตอนนี้ที่พบกันเป็นครั้งที่สามเธอได้แสดงความอ่อนโยนออกมามาก ซังจินได้รู้สึกอึดอัดมาและเอนไปข้างหน้าเพื่อจิบการแฟและหาเวลาในการคิด

'ฉันไม่คิดว่าเธอจะเป็นแบบนี้....'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด