ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0468 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0470 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0469 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 469 : สามสระน้ำศักดิ์สิทธิ์

ที่นครโบราณยุทธ์เต๋าแห่งนี้ มันถูกควบคุมเอาไว้โดยตำหนักจารึกเทวะมานานหลายปี ขณะนี้กว่าครึ่งถูกทำลายย่อยยับ

นครโบราณยุทธ์เต๋าได้รับการคุ้มกันจากค่ายอาคมลึกลับและม่านพลังแกร่งกล้า มีแต่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าจึงสามารถเข้าไปได้

ตอนนี้ กระทั่งว่าใช้ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋ามากมาย พวกเขาก็ยังไม่อาจสะกดฉินหยุนเอาไว้ได้!

พื้นดินใกล้เคียงประตูเมืองพังทลาย หลายคนติดอยู่ในช่องที่พื้นโผล่ร่างออกมาเพียงเล็กน้อย ภายในใจพวกเขาเวลานี้เปี่ยมล้นด้วยความหวาดกลัว!

ฉินหยุนทำลายคำสาปวิญญาณยุทธ์ดำ ได้รับความสามารถเทวะ!

กระทั่งผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่หก ก็ยังต้องหวาดกลัวต่อพลังอำนาจนี้!

บนท้องฟ้า บรรดาราชันยุทธ์ปรารถนาทำลายม่านพลังนครโบราณเข้าจับตัวฉินหยุนเอาไว้

ทว่า ค่ายอาคมของนครโบราณแกร่งกล้า ไม่ต้องกล่าวถึงราชันยุทธ์เช่นพวกเขา กระทั่งเป็นผู้แข็งแกร่งกว่า ก็ยังไม่อาจทำอะไรมันได้

“ตำหนักจารึกเทวะ เร่งรีบเปิดประตูเมือง! ตัดสินจากพละกำลังของฉินหยุน ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับต่ำกว่าหกจะตกอยู่ในอันตรายหากต้องเผชิญหน้ากับเขา!” ราชันยุทธ์สายเลือดตะโกนดัง

บรรดาตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง ได้ส่งรุ่นเยาว์หลายคนไปล่าฉินหยุน

ขณะนี้ พวกเขาได้ทราบ ว่าฉินหยุนเลื่อนระดับพลัง ดังนั้นจึงได้แต่ต้องเรียกศิษย์ที่การฝึกฝนต่ำกลับมา

ราชันยุทธ์จากแดนยุทธ์อ้างว้างมองทางคนของตำหนักจารึกเทวะและกล่าว “ฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึกวิญญาณระดับสูง ยันต์สะกดกายที่เขาสร้างขึ้น เพียงพอให้สะกดร่างผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าทุกระดับ! นอกจากนี้ เขายังมีหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร สายเลือดและโทเทมราชสีห์สวรรค์ หากยังปล่อยให้เขาลอยนวลเช่นนี้ต่อไป กระทั่งว่าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า ก็อาจต้องถูกเขาสังหาร!”

“เร่งรีบปิดค่ายอาคมผนึกของตำหนักจารึกเทวะแล้ว พวกเราจะได้นำคนของเรากลับคืนออกมา! หากเป็นแบบนี้ต่อ จะไม่ใช่พวกเราไล่ล่าฉินหยุน แต่จะเป็นมันที่ไล่ล่าศิษย์มากพรสวรรค์ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าของพวกเรา!”

นครโบราณยุทธ์เต๋าเข้าได้แต่ไม่อาจออก ทุกคนคิดว่าเป็นตำหนักจารึกเทวะผนึกการออกจากนครโบราณ

ทว่าในความเป็นจริง คือฉินหยุนต่างหากที่ควบคุมค่ายอาคมใหญ่ของนครโบราณเอาไว้!

ราชันยุทธ์ตำหนักจารึกเทวะหลั่งเหงื่อเย็นกล่าวตอบ “ขอกล่าวตามตรง ผนึกของนครโบราณไม่ได้อยู่ในการควบคุมพวกเรา แต่ที่มันปรากฏอย่างกะทันหัน พวกเรากำลังพยายามหาสาเหตุ!”

เมื่อผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าเบื้องล่างได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ เสียงร้องระงมก่นด่าสาปแช่งดังออกไม่ขาด

พวกเขาเดิมคิดว่าต่อให้สังหารฉินหยุนล้มเหลว ก็ถือเป็นโอกาสได้เข้านครโบราณ

แต่แล้วครานี้ เป็นพวกเขาต้องติดอยู่ที่นี่แทน!

พวกเขาล้วนจดจำและตราตรึงภาพฉากที่ฉินหยุนฉีกร่างผู้ฝึกตนโทเทมเป็นชิ้น กลืนกินพวกเขา นั่นเปรียบดั่งมารร้ายชวนขนหัว!

ราชันยุทธ์ตำหนักโทเทมเผยเสียงเย็น “ดูเหมือนพวกเรามีแต่ต้องร่วมมือกันทำลายนครโบราณ! พวกเราล้วนเป็นศัตรูของฉินหยุน หากปล่อยให้เขาได้เติบโตต่อไป จะไม่มีพวกเราคนใดหนีรอด!”

ยอดฝีมือแดนวิญญาณอ้างว้างหาได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ผู้อาวุโสคนหนึ่งแค่นเสียงตอบ “กับแค่ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋ามีอันใดให้ต้องหวาดกลัว? เขาครอบครองสองแก่นเต๋า หากต้องการก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ยังต้องการเวลาอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี! และยังมีขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำรอคอย! อย่างน้อยที่สุด หากคิดอยากเห็นราชันยุทธ์ ก็ต้องใช้เวลาหนึ่งพันปีหรือมากกว่านั้น!”

“พวกเราต้องได้รับสายเลือดราชสีห์สวรรค์จากเขา!” ดวงตาของราชันยุทธ์สายเลือดเปี่ยมด้วยความละโมบ “ตราบเท่าที่พวกเราได้รับเลือดราชสีห์สวรรค์สักจอกหนึ่ง พวกเราจะสร้างสายเลือดราชสีห์สวรรค์ขึ้น หลังจากนั้น พวกเราจะสร้างผู้สืบทอดสายเลือดราชสีห์สวรรค์ได้อีกมาก!”

“ถูกต้องแล้ว! พวกเราตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง ต้องร่วมมือกันจับตัวฉินหยุน!” ราชันยุทธ์สายเลือดคนอื่นกล่าวด้วยความหิวกระหาย “ด้วยสายเลือดนั่น การจัดการมังกรย่อมเป็นเรื่องง่ายดาย!”

ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูงเกลียดชังการแย่งชิงสายเลือด

กระนั้นตอนนี้ พวกเขาคิดแย่งชิงสายเลือดราชสีห์สวรรค์จากฉินหยุน

นี่ทำเอาหลายผู้คนล้วนหยามเหยียดต่อพวกเขาอยู่ภายใน

ถัดจากนั้น ราชันยุทธ์เหล่านี้ร่วมมือกัน ระดมการโจมตีใส่ม่านพลังโปร่งแสงไม่หยุด ทว่า มันไร้ผลแทบจะสิ้นเชิง

ม่านพลังมีอำนาจการดูดกลืนพลังแกร่งกล้า มันสามารถดูดกลืนพลังอันแข็งแกร่งและส่งถ่ายออกไป

ฉินหยุนนำเซี่ยอู๋เฟิงสู่ส่วนลึกของพื้นดิน ผ่านทางรอยแยก พวกเขาวิ่งเป็นทางยาวก่อนค่อยใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง กลับสู่ฐานของค่ายอาคม

เมื่อกลับมาถึง เขาเร่งรีบนำร่างบาดเจ็บของเซี่ยอู๋เฟิงวางในถังหยก นี่ก็เพื่อช่วยเขารักษาอาการบาดเจ็บ

หงเมิ่งจูได้ไค่เซียงจิ้งช่วยเหลือรักษา

เชี่ยวเย่ว์หลานพบว่าฉินหยุนบาดเจ็บเช่นกัน ดังนั้นจึงเข้ามาช่วยรักษา

“ผู้อาวุโสหวัง และผู้อาวุโสจาง ทั้งสองคนตายแล้ว!” ฉินหยุนนึกย้อนถึงเรื่องนี้ เขาต้องกำหมัดเอาไว้แน่น น้ำเสียงกราดเกรี้ยวกล่าวออก “ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง รอข้าก่อนเถอะ!”

ตอนนี้ มู่หรงต้าเหรินและคณะค่อยได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขณะโทสะสุมแน่น พวกเขาก็ยังรู้สึกอึ้ง ที่ฉินหยุนสามารถช่วยเหลือหงเมิ่งจูจากสถานการณ์เช่นนั้นมาได้

ระหว่างที่เชี่ยวเย่ว์หลานช่วยรักษาอาการฉินหยุน นางพบว่ามันมีเส้นสายพลังรุนแรงจำนวนมากกระจายในร่างของเขา

พลังงานเหล่านี้ไม่ใช่ของฉินหยุน แต่เป็นสิ่งที่ดูดกลืนเข้ามา

“พลังงานในกายเจ้ารุนแรงนัก ให้ข้าร่วมขัดเกลากับเจ้า!” เชี่ยวเย่ว์หลานเอ่ยคำ “ระหว่างนี้ ก็ขัดเกลาเม็ดยาเซียนให้เรียบร้อยไปด้วยเลย!”

ฉินหยุนคาดหวังเลื่อนระดับพลังโดยเร็ว เพื่อให้ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น มีแต่ทำเช่นนี้เขาจึงสามารถกำจัดผู้ฝึกตนด้านนอกได้!

ดาบต้นกำเนิดของเซี่ยอู๋เฟิงถูกเอาไป ตัวเขายังบาดเจ็บรุนแรงโดยผู้ฝึกตนสายเลือด หากเขาไม่อาจได้รับกลับคืน ก็ต้องทำการฝึกฝนมันอีกครั้งหนึ่ง

ไค่เซียงจิ้งมาจากตำหนักจันทราทมิฬในแดนวิญญาณอ้างว้าง นางเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ทว่านางใช้เคล็ดวิชาลับสะกดระดับการฝึกฝนตนเอง และเข้ามายังนครโบราณยุทธ์เต๋า

ถึงอย่างนั้น นางก็ไม่อาจปลดปล่อยพลังขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ไม่เช่นนั้นนางจะถูกพลังของนครโบราณที่ไม่ยอมรับ ทำการทรมานจนถึงแก่ความตาย

นางทราบว่าตนเองเป็นผู้ฝึกตนแข็งแกร่งที่สุดในที่นี้ ทุกคนต่างต้องการกำลังของนาง

“ฉินหยุน กระทั่งว่าข้าลงมือ ก็ใช้พลังได้แค่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า! หน้าที่ของข้าคือคุ้มกันเย่ว์หลาน!” ไค่เซียงจิ้งกล่าวคำ “หากเจ้าคิดกระหายพลังอย่างแท้จริง ข้ามีข้อแนะนำ!”

“ในนครโบราณ มันมีสถานที่ฝึกฝนอันศักดิ์สิทธิ์สามแห่ง พวกมันคือสระหัวใจเต๋า สระต้นกำเนิดเต๋า และสระกายเต๋า! สถานที่นั้นไม่ทราบแน่ชัด โดยสรุป สถานที่แห่งนั้นคือที่ที่ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าสามารถก้าวทะยานอย่างยิ่งยวดได้!”

ฉินหยุนขณะนี้ฝึกฝนร่วมกับเชี่ยวเย่ว์หลาน เขาลืมตาขึ้นและกล่าวคำ “ให้ข้าได้ลอง ดูว่าสามารถรับรู้ตำแหน่งมันผ่านฐานอาคมได้หรือไม่!”

อย่างรวดเร็ว เขาโคจรพลังจิตสู่รากฐานค่ายอาคม สัมผัสถึงค่ายอาคมใหญ่ของนครโบราณ

หากมันมีสระน้ำแห่งการฝึกฝนทั้งสาม อย่างนั้นย่อมต้องมีการใช้พลังงานมหาศาลเพื่อหล่อเลี้ยง

“สระหัวใจเต๋าใช้เพื่อฝึกฝนพลังจิต สระต้นกำเนิดเต๋าใช้เพื่อฝึกฝนแก่นเต๋าและวิญญาณยุทธ์ สุดท้ายสระกายเต๋า ใช้เพื่อฝึกฝนกายเนื้อ!” ไค่เซียงจิ้งกล่าว “หากทราบว่ามันอยู่ที่ใด และพวกเรายึดครองได้ อย่างนั้นมันจะช่วยให้พวกเราทุกคนเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว!”

ผ่านรากฐานค่ายอาคม ฉินหยุนสัมผัสถึงสถานที่ตั้งซึ่งมีการดูดกลืนพลังงานจากค่ายอาคมมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว

และเขายังได้ทราบ ว่าสามารถเคลื่อนย้ายไปจากที่นี่ได้โดยตรง!

“พบมันแล้ว ไว้ค่อยไป!” ฉินหยุนกล่าวตอบ

“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย!” เชี่ยวเย่ว์หลานเผยความกังวลไม่น้อยขณะเร่งรีบกล่าว

ไค่เซียงจิ้งก็เป็นกังวล เพราะหน้าที่หลักของนางคือคุ้มกันเชี่ยวเย่ว์หลาน

“พี่จิ้งอย่าได้ห่วง!” เชี่ยวเย่ว์หลานยิ้มให้

หงเมิ่งจูต้องการไค่เซียงจิ้งช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ เซี่ยอู๋เฟิงต้องใช้เวลาเยียวยาตนเอง ดังนั้นไค่เซียงจิ้งจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับ

“เจ้าต้องระวังให้มาก!” ไค่เซียงจิ้งชี้แนะฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานอย่างเคร่งเครียด

หลังฝึกฝนร่วมกันเรียบร้อย ฉินหยุนกลับคืนสภาวะสูงสุดรวดเร็ว ความคิดนึกย้อนถึงสภาพน่าขนลุกที่เขาร่วงหล่นไปก่อนหน้า ทำเอาเขาต้องพรั่นพรึง

ฉินหยุนกุมมือเชี่ยวเย่ว์หลานเอาไว้ ส่งถ่ายพลังสู่ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายที่รากฐานค่ายอาคม จากนั้นพวกเขาค่อยไปยังภูเขาแห่งหนึ่ง

ภูเขานี้เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณสูง ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานปรากฏตัวในโพรงต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่ง

สถานที่ตั้งของค่ายอาคมเคลื่อนย้ายทั้งหมดล้วนอยู่ในต้นไม้ยักษ์ และเก็บงำเป็นความลับอย่างดีเยี่ยม

ขณะนี้ฟ้ามืดแล้ว ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานสามารถใช้พลังเงา กลมกลืนกับความมืดและสภาพแวดล้อมซ่อนเร้น

เพียงไม่นาน พวกเขาพบถ้ำแห่งหนึ่ง มันเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี ปากทางเข้ามีหินใหญ่ปิดกั้นเอาไว้

ฉินหยุนดึงเชี่ยวเย่ว์หลานเข้าหา ใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงหินก้อนใหญ่ เข้าสู่ภายในถ้ำได้อย่างเงียบงัน

นครโบราณแห่งนี้ ถูกควบคุมเอาไว้โดยตำหนักจารึกเทวะเป็นเวลายาวนาน ดังนั้นสถานที่สำหรับการฝึกฝนแห่งนี้ก็สมควรถูกควบคุมเอาไว้นานแล้วเช่นกัน

มีแต่ค่ายอาคมเคลื่อนย้าย และรากฐานค่ายอาคมที่ยังไม่ถูกค้นพบ

เชี่ยวเย่ว์หลานกุมมือฉินหยุนแน่น นางขณะนี้รับรู้ถึงพลังอันลี้ลับของตะวันทมิฬ

อย่างกะทันหัน นางปล่อยมือออกจากฉินหยุน

ฉินหยุนตระหนก เร่งรีบมองหาเชี่ยวเย่ว์หลาน ทว่าเขาไม่อาจพบเห็นอะไร!

“เสี่ยวหยุน!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงทางจิตถึงฉินหยุน “ข้ามีพลังหลบซ่อนในความมืดเช่นกัน!”

“เย่ว์หลาน! เจ้าและเย่ว์เหม่ยถึงกับคล้ายคลึงกัน เป็นนางสามารถคัดลือกวิญญาณยุทธ์ผู้อื่น และเจ้าถึงกับสามารถคัดลอกความสามารถพิเศษของผู้อื่น!” ฉินหยุนสื่อสารกลับ เรื่องนี้ทำเอาเขาอึ้ง

“ไว้มีเวลาในภายหน้า หากเจ้ามีพลังพิเศษอื่น เช่นนั้นบอกต่อข้า จะได้ทำการคัดลอกมันมา!” เชี่ยวเย่ว์หลานยิ้มอ่อน

นี่คือพลังอันลึกลับของวิญญาณยุทธ์ที่สามของเชี่ยวเย่ว์หลาน

จากนั้นพวกเขาค่อยสัมผัสมือกัน จึงค่อยทราบว่ายังอยู่ใกล้กัน

ถ้ำแห่งนี้มืดมิดและไม่ใหญ่ ขนาดเพียงสำหรับให้สามคนเดินผ่าน

หลังเดินอยู่กว่าพันเมตร ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานค่อยพบเห็นประตูบานใหญ่ของซ้ายและขวาของเส้นทาง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เหนือศีรษะพวกเขาหลายสิบเมตร มันเป็นประตูเช่นกัน

“สระหัวใจเต๋า สระต้นกำเนิดเต๋า และสระกายเต๋า พวกมันล้วนอยู่ที่นี่!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงสื่อสารดังมา “เข้าไปรับชมกัน!”

ฉินหยุนพยักหน้ารับ พาเชี่ยวเย่ว์หลานผ่านเข้าไปโดยความสามารถเทวะทะลุทะลวง โดยเลือกเข้าประตูทางซ้าย

หากต้องการเพียงทะลุทะลวงระยะทางสั้น ก็ไม่ได้เป็นการใช้พลังมากมายแต่อย่างใด ฉินหยุนยังสามารถใช้ร่วมกับเชี่ยวเย่ว์หลานได้อย่างไม่ยากเย็น

ผ่านประตูมาแล้ว ฉินหยุนเร่งรีบนำไข่มุกวิญญาณโปร่งแสงออกมา ทำให้ทั้งเขาและเชี่ยวเย่ว์หลานโปร่งแสง

โชคดีที่เขาลงมือรวดเร็ว เพราะภายในห้องมีคนอยู่มาก และทั้งห้องก็ปรากฏแสงสีทองส่องสว่างเรืองรอง

ภายในเป็นห้องหินสี่เหลี่ยมกว้างหายสิบเมตร ที่ตรงกลางมีสระน้ำวงกลมกว้างราวยี่สิบเมตร ขณะนี้มีกว่าสิบคนแช่กายอยู่ในสระน้ำ

ข้างสระ มีชายชรายืนเฝ้าระวังอยู่ด้วย!

ชายชราผู้นี้ปกคลุมด้วยออร่าอสูร นี่เป็นผู้ฝึกตนอสูร!

กลุ่มคนที่แช่กายในสระน้ำ ทั้งหมดเป็นผู้ฝึกตนอสูร!

ฉินหยุนขณะนี้ คิดว่านี่เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สำนักเต๋าอสูรทำร่วมกับตำหนักจารึกเทวะ!

“เย่ว์หลาน ลงมือ!”

ฉินหยุนนำยันต์สะกดกายออกมา ขว้างปาพวกมันเข้าใส่ พร้อมกันนี้ เขาได้เห็นเชี่ยวเย่ว์หลานทะยานกาย มือของนางสับฟันเข้าใส่ที่คอของชายชรา!

ผู้คุ้มกันเฒ่าชราขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่เข้าใกล้ ทว่าขณะที่พบ หัวก็ร่วงหล่นกลิ้งกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด