ตอนที่แล้วตอนที่ 74 ผู้บ่มเพาะดวงดาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 76 เส้นทาง

ตอนที่ 75 ยีนลิงหิน


กระแสน้ำเป็นพลังงานที่อ่อนโยนสุดในโลกนี้ มันต่อเนื่องและไร้สิ้นสุด สามารถกัดเซาะวัตถุทั้งหมได้ เมื่อมันมีพลังมากพอ จะไม่มีอะไรหยุดยั้งมันได้

สำหรับไฟ มันเป็นหนึ่งในพลังงานระเบิดที่รุนแรงสุดของโลก สามารถเผาวัตถุทั้งหมด เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน มันยังสามารถเปล่งแสงและให้ความอบอุ่น ช่วยเกื้อหนุนสิ่งมีชีวิตมากมาย

น้ำและไฟขัดแย้งกัน อาจกล่าวได้ว่ามันคือด้านตรงข้ามกัน สามารถหนุนเสริมกัน แต่ก็ยังยับยั้งกัน อาจกล่าวได้ว่าพลังงานทั้งสองรูปแบบเป็นพลังงานที่พบได้มากสุดในจักรวาล

ดังนั้นมันจึงกลายเป็นไม่เพียงแต่จะสามารถต้านทานความเสียหายที่เกิดจากกระแสน้ำหรือการเผาจากไฟ มันยังสามารถแยกผู้ใช้จากพลังงานรูปแบบต่างๆได้โดยสมบูรณ์

นี่คือพลังเผด็ตการที่คล้ายกับเวทมนตร์ เมื่อเสริมพลังของยีนนี้ต่อไป มันอาจสำแดงพลังที่เหนือขึ้น

หินไม่ใช่แค่แข็ง แต่มันยังเป็นธรรมชาติที่เกิดจากสวรรค์และโลก รูปพลังงานจะไม่สามารถรุกล้ำได้ ตัวอย่างคือกระท่อมที่ทำจากหิน มันจะสามารถปกป้องผู้อาศัยจากความร้อนและความเย็นจากสภาพอากาศ

เนื่องจากลิงหินเกิดจากหิน พวกเขาจึงมีลักษณะเฉพาะนี้ด้วย

ซุนหงอคงในตำนานก็เหมือนกันใช่ไหม?

เขาเข้ามหาสมุทรตะวันออก ไปในวังมังกร ทำให้เกิดความปั่นป่วนและพลิกคว่ำทั้งมหาสมุทรตะวันออก

แม้กระทั่งตอนเขาถูกจับและนำไปลานประหารปีศาจของลานสวรรค์ ถูกฟ้าผ่าและถูกสับด้วยขวาน เขาก็ยังคงกระพัน

หลังจากนั้น เขาก็ถูกบังคับให้เข้าไปยังเตาหลอม8เหลี่ยมของผู้อาวุโสสูงสุดและถูกเผาไปทั่ว ท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมยังสามารถควบคุมเทคนิคเนตรทองเขาได้ในนั้น

...

ทั้งหมดนีคล้ายกับลักษณะของลิงหินมาก เฟิงหลินมีความเข้าใจลึกซึ่งถึงยีนในตำนานเขา ความสามารถของยีนในตำนานมักมีความผูกพันธ์กับตำนาน

เขาอาจใช้ความเข้าใจถึงตำนานเขาเพื่อวิจัยความสามารถที่ยังไม่ตื่น

ตอนนี้ เขาสามาราถกระตุ้นยีนลิงหินได้แล้วและเสริมพลังมันอีกหนึ่งแต้ม หากเขายังเพิ่มพลังมันต่อ เอกลักษณ์เหล่านี้จะแกร่งขึ้น

ลักษณะธรรมชาติของยีนลิงหินคือยีนประเภทสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย เขาควรไร้เทียมทานในการต่อสู้ระยะประชิด สิ่งที่เขากลัวสุดคือพวกโจมตีระยะไกล จำกัดการเคลื่อนไหว ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้

แต่ตอนนี้ ด้วยความสามารถทนน้ำและไฟ เขาสามารถเพิกเฉยต่อผลกระทบของพลังงานประเภทต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการกลบจุดอ่อนเขาไปโดยสิ้นเชิง หากมันไม่ใช่เพราะความจริงว่ายีนลิงหินไม่มีการโจมตีพลังงานระยะไกลแต่กำเนิด มันย่อมถือเป็นยีนเกรดสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินยังพบประเด็นหนึ่ง ความสามารถในการทนไฟและน้ำหมายความว่ามันจะสามารถแยกเขาจากผลของพลังงานประเภทต่างๆได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความถึงการต้านผลกระทบที่เกิดจากการโจมตีเหล่านี้

ความเย็นของน้ำ ความร้อนจากไฟ การเผาไหม้จากแสง ความชาจากสายฟ้า..พลังงานทุกประเภทมีผลทรงพลังที่เป็นไปไม่ได้จะป้องกันได้โดยสมบูรณ์

แต่ทว่า ลิงหินถือกำเนิดจาดหิน พวกเขาเป็นธรรมชาติ และผลพลังงานเหล่านี้ก็ไม่อาจแตะต้องพวกเขาได้ แต่แม้กระนั้น มันก็ไม่ได้ความหมายว่าพวกมันจะต้านทานผลกระทบและพลังจากการโจมตีได้

เมื่อพลังงานกระจุกกันในระดับสูงมาก พลังในนั้นจะไม่แตกต่างจากกำลังดุร้าย พวกมันจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานกราดเกรี้ยว คนทำได้แค่ปะทะกับมันซึ่งๆหน้า ทุกวิธีล้วนไร้ประสิทธิภาพ

หินสามารถเปลี่ยนเป็นแมกม่าจากไฟ น้ำยังสามารถกดพวกมันจมลง พลังสายฟ้าฟาดอาจทำให้พวกมันสั่น ลำแสงรุนแรงพออาจทำให้พวกมันสลาย

แต่ถึงกระนั้น นี่ก็พอแล้ว!

สำหรับการโจมตีพลังงาน สิ่งน่ากลังสุดคือผลของพวกมัน มันยากเกินที่จะขจัดพลังงานของธาตุเหล่านั้นได้

ยีนลิงหินสามารถลบล้างพลังอันยิ่งใหญ่เหล่านั้นได้ มันจะดึงฝ่ายตรงข้ามลงมาในระดับเดียวกันกับเขา และพวกเขาก็ทำได้แค่ต่อสู้กันด้วยพละกำลังล้วนๆ

เฟิงหลินจะกลัวไหม?

หมัดกับหมัด  กายเนื้อบดขยี้กัน นี่คือความเป็นชาย!

ตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจเจตนาของลิงหินที่มีกายหินและกระดูกเหล็ก ไม่เพียงแต่มันจะมีความต้านทานต่อความเสียหายสูง แต่มันยังแยกตัวมันจากผลของพลังงานและลากศัตรูลงมาอยู่ระดับเดียวกัน

หลังเข้าใจความสามารถของยีนลิงหิน เฟิงหลินก็เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ เขาเริ่มทดลองและพยายามหาจุดแข็ง

เขาลอบใช้ความสามารถของยีน ผิวอ่อนนุ่มเขารัดแน่นขึ้น เปล่งประกายแวววาวและแข็งกร้าวดุจหิน

ปัง ปัง ปัง!

เฟิงหลินดีดนิ้ว ทำให้เกิดเสียงดังสนั่น คล้ายก้อนหินหยกชนกัน

เขาอยากลองพละกำลังเขาหลังวิวัฒนาการ

ไม่ว่าจะยังไง เฟิงหลินก็เข้าสู่แผนกที่มีชื่อเสียงสุดของบริษัทยาไจแอนท์ สภาพที่พักอาศัยเขาดีสุด ที่พักเขามีทุกสิ่ง แม้กระทั่งห้องเล็กๆสำหรับการบ่มเพาะตัวเขา

แม้อุปกรณ์ภายในจะมีไม่มากและสามารถทำได้แค่ฝึกพื้นฐาน แต่ก็ยังมีเครื่องรับแรงหมัดพื้นฐานอยู่

เฟิงหลินเดินไป เขาไม่ได้เตรียมตัวจริงจังและปล่อยหมัดออกไปทันที!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น

พลังอันยิ่งใหญ่!

เฟิงหลินลอบสาปแช่ง เขาเห็นกองเศษเหล็กนอนอยู่ตรงหน้าเขา และเขาก็พูดไม่ออก

เครื่องรับแรงหมัดส่งเสียงเหมือนกำลังเกินความสามารถมัน ในไม่ช้ารอยแตกก็เริ่มปรากฏ ควันดำโชยขึ้น

“อะไรกัน?ฉันยังไม่ได้ปล่อยพลังเต็มแรงเลย และเครื่องจักรนี่ก็ระเบิดแล้ว!”เฟิงหลินประหลาดใจ จ้องมองหมัดเขาด้วยสายตาเหลือเชื่อ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาแข็งแกร่งแค่ไหน

แม้มันจะเป็นเพียงเครื่องรับแรงหมัดทั่วไป มันก็ยังทนต่อแรงหมัดได้ถึงห้าตัน

แค่การโจมตีธรรมดาของเฟิงหลินก็ทำลายเครื่องจักรได้แล้ว นี่หมายความว่าพลังหมัดเขารุนแรงกว่าห้าตัน

แล้วเขาจะไปรู้พลังทั้งหมดของเขาได้ยังไง?!

เฟิงหลินส่ายหัว รู้สึกช่วยไม่ได้ แต่สิ่งที่ช่วยไม่ได้นี้เกิดจากความสุข

หลังกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว เขาอาจถูกกล่าวได้ว่าเป็นยอดมนุษย์ พละกำลังเขาเหนือล้ำมาก แม้แต่เฟิงหลินเองก็ไม่รู้ว่าเขาทรงพลังแค่ไหน เขารู้แค่ว่าเขาแข็งแกร่งมาก...

เนื่องจากการวัดพลังเขาล้มเหลว เฟิงหลินจึงพยายามทดสอบความเร็วเขา

ลิงหินทรงพลังมาก แต่ความว่องไวมันก็เหนือเช่นกัน

เหนือสิ่งอื่นใด ลิงคือสัตว์ที่มีความว่องไวสูงอยู่แล้ว

ในระดับผู้บ่มเพาะฝึกหัด ความเร็วของเฟิงหลินก็เหนือกว่าคนรอบข้างแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเร็วเขาตอนนี้ต้องยิ่งสูงขึ้น

เฟิงหลินยังอยากรู้ว่าขีดจำกัดเขาคือตรงไหน

ปึก ปึก ปึก!

ฝีเท้าเขาเร่งขึ้น ทิ้งภาพติดตาไว้บนลู่วิ่งทดสอบความเร็ว

ลู่วิ่งนั้นขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น เสียงเอี้ยดก็ดังขึ้น และปล่อยควันดำออกมา

เฟิงหลินจำต้องก้าวลง เขาพบว่าความเร็วเขาติดอยู่ที่ตัวเลข’2.28วินาทีต่อ100เมตร’!

แม้มันจะไม่เร็วเป็นสองเท่าของประวัติ4.21วินาทีก่อนหน้า เฟิงหลินก็รู้ว่ามันไม่ใช่แค่นั้น

ยิ่งความเร็วเข้าใกล้ขีดจำกัด ความยากก็ยิ่งเพิ่ม การเพิ่มความเร็วทีละเล็กน้อยต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก

เช่นเดียวกันตอนคนเข้าใกล้ความเร็วแสง การเพิ่มความเร็วทีละเล็กน้อยจะต้องเพิ่มมวลพลังงานเป็นเท่าทวีคูณ

ด้วยความเร็วแสง แม้กระทั่งหินอ่อนที่ถูกเขวี้ยงก็สามารถทำลายทุกสิ่งอย่างได้ มวลพลังงานเรียกได้ว่าไร้สิ้นสุด

ความเร็วแสงเป็นขีดจำกัดความเร็วเชิงเส้นที่แน่นอนในจักรวาล โดยปราศจากเทคโนโลยีรูหนอน มันเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะนึกถึงการเดินทางข้ามจักรวาล

4.0วินาทีต่อ100เมตรคือขีดจำกัดของมนุษย์ในยุคดวงดาว เฟิงหลินได้ทำลายข้ามมันมาแล้ว แสดงให้เห็นถึงความผิดธรรมชาติ

แต่การทำลายขีดจำกัดอีก1วินาทีจำต้องใช้พลังที่สูงล้ำมาก

ตัวอย่างเช่น ในยุคโลกโบราณ 10วินาทีต่อ100เมตรคือขีดจำกัด ทุกๆการลดลงไป0.1วินาทีถือเป็นการก้าวหน้าครั้งใหญ่

แม้พลังชีวิตเขาจะเพิ่มขึ้นมาก การเพิ่มความเร็วก็ไม่ได้เป็นสัดส่วนโดยตรงกับมัน

ตัวอย่างเช่น ตามการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เสือโตเต็มวัยจะมีพลังชีวิตมากกว่ามนุษย์อย่างน้อยห้าเท่า แต่ความเร็วการวิ่งของมันสูงกว่ามนุษย์ถึงห้าเท่าด้วยไหม?นี่เป็นไปไม่ได้!

หากมนุษย์ทุ่มสุดตัว ความเร็วการวิ่งพวกเขาสามารถไปได้ถึง40กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สำหรับเสือ ความเร็วการวิ่งของพวกมันอย่างมากก็คือ80กิโลเมตรต่อชั่วโมง นี่แค่การเพิ่มความเร็วสองเท่าเท่านั้น!

ด้วยการใช้ตรรกะเดียวกัน ผ่านการเพิ่มความเร็วเขา เฟิงหลินรู้ว่าร่างกายเขาทรงพลังมาก การเพิ่มความสามารถทางกายภาพเขายิ่งไม่อาจคาดถึง

เฟิงหลินปลดปล่อยความเร็วเต็มกำลังเขา เปลี่ยนเป็นลมกระโชกแรง วิ่งเป็นวงกลมภายในห้องบ่มเพาะ ร่างของเขาเปล่งแสงและออกจากวิสัยทัศน์ของคน มนุษย์ธรรมดาจะเห็นเพียงเงาดำเท่านั้น

ตอนนี้ เขามั่นใจแล้วว่าเขาคือยอดมนุษย์

เฟิงหลินสูดหายใจแล้วสงบลง

เขารู้ว่าหมัด5พันและความเร็ว2.28วินาทีไม่ใช่ขีดจำกัดเขา หากเขาอยากทราบข้อมูลชี้ชัด เขาต้องใช้เครื่องทดสอบที่แม่นยำกว่านี้

ตอนนี้ เนื่องจากเขาเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวแล้ว สิ่งที่เขาควรพิจารณาต่อไปก็คือ...

เขาจะเดินไปตามเส้นทางตำนานบ่มเพาะเขาในอนาคตยังไง?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด