ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0456 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0458 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0457 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 457 : ห้องสุสานหลัก

ในแดนยุทธ์อ้างว้าง สัตว์ที่แข็งแกร่งก็จะอยู่ระดับราวมังกรหรือราชสีห์สวรรค์ อย่างมาก พวกนั้นก็จัดได้อยู่ระดับจักรพรรดิยุทธ์

ขณะที่สัตว์ซึ่งพิทักษ์สุสานหลัก พวกมันแค่ระดับเดียวกับราชันภูตผี ดังนั้นอู่หมิงซวีจึงพบว่าการจัดการพวกมันหาได้ใช่เรื่องยากอันใดไม่

แน่นอน ว่าสัตว์ซึ่งรับหน้าที่คุ้มกันสถานที่แห่งนี้ย่อมไม่ใช่ง่ายรับมือ กระทั่งว่าสังหารพวกมันไปแล้ว ก็ยังถือเป็นเรื่องยากจัดการต่อ

ยกตัวอย่าง หลังตายแล้ว จระเข้ยักษ์ติดพิษจะปลดปล่อยพิษที่รุนแรงยิ่งขึ้นออกมา

ฉินหยุนและคณะตามหลังอู่หมิงซวีอย่างระมัดระวัง พวกเขาขณะนี้รักษาระยะห่างจากอู่หมิงซวี โดยระยะห่างเป็นอู่หมิงซวีบอกต่อพวกเขา

อู่หมิงซวีแข็งแกร่ง เขาสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้ ดังนั้นด้วยเขาออกนำหน้า การเดินทางจึงปลอดภัย

มู่เฟิงกล่าว “เป็นเรื่องดีที่มีผู้อาวุโสอู่ร่วมทาง ไม่อย่างนั้น กระทั่งว่าพวกเราทราบวิธีไปห้องสุสานหลัก ก็คงไม่มีทางไปถึงได้อย่างปลอดภัยแน่! ที่แห่งนี้มีอันตรายซุกซ่อนในเงามืดมากมายเกินไป!”

สุ่ยเทียนสื่อหัวเราะ “เหมือนว่าราชันยุทธ์กลุ่มนั้นจะปรามาสสุสานเซียนจนเกินไป เป็นข้าไม่คิด ว่าพวกนั้นจะรอดกลับบ้านกันไปได้!”

“ผู้อาวุโสมู่ ราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะท่านก็ด้วย หากเขาตาย อย่างนั้นตำหนักจารึกเทวะของท่านไม่สูญเสียใหญ่หลวงหรือ?” สื่อชิงเฉิงเอ่ยถาม

ด้วยเพราะอู่หมิงซวีนำหน้า พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลต่อเรื่องนี้ ดังนั้นจึงกล้าพูดคุยสัพเพเหระ

มู่เฟิงหัวเราะ “ราชันยุทธ์คนนั้นหาได้ใช่คนดีไม่! ต่อให้เขาตายไป ตำหนักจารึกเทวะก็แค่ปวดใจชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น!”

ตำหนักจารึกเทวะคือขั้วอำนาจโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สูญเสียราชันยุทธ์ไม่นับเป็นอะไรสำหรับพวกเขานัก

ตู้ม!

เสียงดังสนั่น ฉับพลันมาจากทางด้านหน้า นี่ไม่ใช่อู่หมิงซวีโจมตีออก แต่เป็นกลุ่มก้อนเปลิวเพลิงทองม่วงที่บินเข้ามาและระเบิดออก!

นับว่าโชคยังดี อู่หมิงซวีเป่าลูกไฟนั่นทิ้งได้ทันเวลา

เปลวเพลิงระเบิดหายสิ้น เกิดขึ้นเป็นคลื่นความร้อนแทน ทำให้ทางเดินกว้างขวางแห่งนี้ที่เดิมเย็นเยียบ กลับกลายเป็นร้อนระอุ

ตู้ม!

ลูกไฟทองม่วงอีกกลุ่มก้อนหนึ่งพุ่งมาอีกครั้งแล้ว!

อู่หมิงซวีร้องตะโกน “พวกเจ้ารักษาระยะห่างเอาไว้! ยิ่งเข้าใกล้สุสานหลักยิ่งอันตราย!”

ฉินหยุนและคณะเร่งร้อนถอยร่นกลับไปอีก

สุ่ยเทียนสื่อพลันตะโกนดังขึ้น “ดูที่กำแพงหินนั่น!”

มันมีเปลวเพลิงทองม่วงทุกหนแห่ง อุโมงค์ทางเดินมืดมิดแห่งนี้ กลายเป็นเรืองรองด้วยแสงทองม่วง ภายใต้แสงทองม่วง ภูตผีสัตว์ร้ายปรากฏตัวอย่างฉับพลันทีละตัวบนผนังกำแพง

“นี่เรื่องบ้าอะไรกัน? ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านี้ออกมาได้อย่างไร?” มู่เฟิงร้องตะโกนถามด้วยความแตกตื่น

ฉินหยุนนึกถึงความสามารถเทวะทะลุทะลวง คิดว่านี่เป็นพลังอำนาจเหนือล้ำอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านี้หลับใหลในกำแพง และสามารถออกจากกำแพงหินได้

ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านี้แตกต่างจากพวกที่อยู่ด้านนอก ร่างกายพวกมันปกคลุมด้วยเปลวเพลิงทองม่วง!

นับว่าโชคดี ฉินหยุนและคณะมียันต์สะกดวิญญาณในมือ ดังนั้นจึงไม่หวาดเกรงอันใดต่อภูตผีสัตว์ร้าย

มู่เฟิงนำกระบี่ออกมา พุ่งทะยานเข้าสับฟันพวกมัน หลังจากสังหารภูตผีสัตว์ร้าย ร่างของพวกมันระเบิดออก ส่งร่างหนักอึ้งของเขากระเด็นกลับจนกระแทกผนังกำแพง!

“ภูตผีสัตว์ร้ายทำลายจิตวิญญาณตัวเอง ระวังด้วย!” ฉินหยุนร้องตะโกนก่อนจะหันไปยิ้มมองทางมู่เฟิง “ผู้อาวุโสมู่ ยังไหวหรือไม่?”

มู่เฟิงเร่งรีบกลับมาข้างกายฉินหยุนและคณะ น้ำเสียงหนักอึ้งกล่าวตอบ “ข้าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ โดนแค่นั้นย่อมไม่เป็นไร แต่เจ้าไม่ใช่ เจ้าต้องระวัง!”

อู่หมิงซวีขณะนี้แทบไม่ว่าง ต้องรับมือกับแมงป่องยักษ์อัคคีที่พ่นยิงลูกไฟออกมาไม่หยุด

แมงป่องยักษ์อัคคีเหล่านี้ครอบครองเกราะหนา สามารถสกัดการโจมตีจากดาบต้นกำเนิดชวนสะพรึงของอู่หมิงซวีเอาไว้ได้

ฉินหยุนและพลพรรค ขณะนี้ถูกล้อมเอาไว้โดยภูตผีสัตว์ร้ายจำนวนมาก

“ใช้ยันต์ฝน!” มู่เฟิงกล่าวคำจบ เขานำเอายันต์จำนวนหนึ่งออกมา ขว้างโยนพวกมัน จากนั้นยันต์จึงทำงาน นำพามาซึ่งสายฝนหนักหน่วงชะล้างเข้าใส่ร่างภูตผีสัตว์ร้ายที่ลุกไหม้เหล่านั้น

ยันต์ฝนคล้ายทำงานไม่ดีดังที่ควรเป็น

“ถอยก่อน!” ฉินหยุนตะโกน “ให้ข้าใช้ปืนใหญ่ราชันลึกล้ำเป่าพวกมันเอง!”

มู่เฟิง สื่อชิงเฉิง และสุ่ยเทียนสื่อ ขณะนี้ปลดปล่อยการโจมตีพลังภายในแกร่งกล้า บีบบังคับให้ภูตผีสัตว์ร้ายอัคคีถอยทัพ เปิดเส้นทางให้พวกตนได้ใช้ถอย

ถัดจากนั้น ฉินหยุนขว้างปายันต์สะกดวิญญาณ หยุดยั้งภูตผีสัตว์ร้ายและทำให้เชื่องช้าลง

เมื่อออกมาห่างมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร ฉินหยุนนำเอาปืนใหญ่ราชันลึกล้ำออกมา และยิงเข้าใส่ฝูงภูตผีสัตว์ร้าย!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

น้ำมันสัตว์ที่อัดแน่นภายในปืนใหญ่ราชันลึกล้ำทรงอำนาจ กระทั่งภูตผีสัตว์ร้ายอัคคีก็ไม่อาจต้านทานได้ไหว หลังถูกโจมตีเข้าใส่ แก่นวิญญาณของพวกมันระเบิดออก

ภูตผีสัตว์ร้ายอัคคีกว่าสิบตัวแหลกสลายในทันที เกิดขึ้นเป็นแรงระเบิดสั่นไหว เปลวเพลิงลุกโชน ระเบิดปะทุออกซึ่งคลื่นกระแทกไปยังสองด้านของเส้นทาง

สื่อชิงเฉิง สุ่ยเทียนสื่อ และมู่เฟิงเร่งร้อนใช้พลังงานแกร่งกล้า ก่อเกิดเป็นกำแพงหนาคุ้มกันฉินหยุนจากแรงกระแทก

ภูตผีสัตว์ร้ายกว่าสองร้อยตัวที่โผล่พรวดออกจากผนังกำแพงหิน ขณะนี้ถูกฉินหยุนทำลายสิ้นในอึดใจ!

ทางด้านอู่หมิงซวีที่เพิ่งจัดการแมงป่องยักษ์อัคคีที่ทรงพลังได้ เขาเองก็ต้องประสบกับแรงระเบิดจากร่างของมัน

แรงระเบิดจากร่างแมงป่องชวนสะพรึงยิ่งกว่า อำนาจรุนแรงของมันผลักดันให้ฉินหยุนและคณะแทบต้องถอยถึงจุดเริ่มต้นของเส้นทาง

ในชั่วขณะนี้ เส้นทางเดินกลายเป็นอบอ้าว ผนังหินสีแดงร้อนแรงเปรียบดั่งภายในเตาอบ

อู่หมิงซวีที่โดนแรงกระแทกไม่ต่างกัน จึงกลับมาถึงสถานที่ซึ่งฉินหยุนและพลพรรครออยู่

“ในที่สุดก็สังหารไอ้ตัวนั้นได้!” อู่หมิงซวีถอนหายใจ “ไม่นึกมาก่อนเลย ว่าจะมีภูตผีสัตว์ร้ายมากมายขนาดนี้คุ้มกันสุสานหลักเอาไว้!”

“เป็นข้าสงสัย ว่าที่ด้านหน้าต่อไปอีกจะมีหรือไม่!” ฉินหยุนนึกย้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ความหวาดกลัวย่อมเกาะกุม หากอู่หมิงซวีไม่ร่วมทางมาด้วย พวกเขาไม่มีทางสังหารแมงป่องยักษ์อัคคีตัวนั้นได้แน่

“สมควรหมดสิ้นแล้ว ไปกันต่อดีกว่า!” อู่หมิงซวีหัวเราะ “เมื่อครู่น่าจะเบิกเส้นทางเรียบร้อยแล้ว เดินเร็วขึ้นหน่อยก็แล้วกัน!”

หากตรงหน้าปลอดภัย พวกเขาย่อมเคลื่อนไหวรวดเร็วได้

เส้นทางแห่งนี้ยาวไกล หลังพวกเขาพ้นจากสถานที่ซึ่งต่อสู้กับภูตผีสัตว์ร้ายอัคคี ขณะนี้ต้องเผชิญหน้ากับความเย็นเยือกและหมองหม่นอีกครั้ง

หลังจากเดินกว่าครึ่งค่อนวัน ในที่สุดพวกเขาก็ถึงปลายทาง!

ที่สุดทาง มันคือประตูสีดำแดง

หัวสัตว์ทั้งสองตัวถูกประดับไว้บนประตูใหญ่ ตัวประตูแกะสลักไว้ด้วยอักขระชวนขนลุก ทำให้ขณะมองมัน แทบไม่ต่างอะไรกับวิญญาณร้ายที่แยกเขี้ยวเข้าคิดกลืนกินคนที่หาญกล้าเข้าไป

“สุสานหลักอยู่ด้านใน!” เวลานี้ สีหน้าของอู่หมิงซวีเผยความเคร่งเครียด ความหวาดกลัวปรากฏร่องรอยที่ใบหน้า “ข้ารู้สึกว่า ภายในสุสานหลักสมควรมีอะไรที่ชวนสะพรึงขนลุกอยู่!”

มู่เฟิงเอ่ยถาม “อย่างนั้นแล้วพวกเราควรเข้าไปหรือไม่?”

อู่หมิงซวีตอบ “ในเมื่อมากันถึงที่นี่แล้ว ก็ต้องเข้าไปดู!”

ประตูบานใหญ่สูงกว่ายี่สิบเมตร และตัวกลไกในการเปิดอยู่สูงขึ้นไป อู่หมิงซวีต้องลอยขึ้นกลางอากาศเพื่อเปิดประตู

“เปิดไม่ได้!” อู่หมิงซวีแข็งแกร่งมากล้ำ กระนั้นเขากลับไม่อาจเปิดประตู

เขาบินกลับลงพื้นและกล่าว “ฉินหยุน ให้ภูติน้อยตัวนั้นลองทำลายอักขระ ประตูนี้สมควรถูกอักขระผนึกเอาไว้!”

ฉินหยุนปลดปล่อยโมโมออกมา

โมโมพอออกมาแล้ว นางพิจารณาสิ่งตรงหน้า

หลังสำรวจประตูชั่วครู่ นางค่อยเอ่ยคำ “สิ่งนี้คือโทโทมผนึก!”

ทั้งมู่เฟิงและอู่หมิงซวีเผยความแตกตื่น!

“โทเทมผนึก?” ฉินหยุนไม่เข้าใจ แต่ก็พอทราบได้ว่าเป็นอะไรที่แข็งแกร่ง

“อย่างนั้นพวกเราควรเข้าไปหรือไม่?” มู่เฟิงเอ่ยถาม

“หากสามารถทำลายเปิดมันได้ ก็ต้องเข้าไป!” อู่หมิงซวีมองทางโมโมและเอ่ยถาม “ภูติน้อย เจ้าสามารถทำลายโทเทมผนึกได้หรือไม่?”

โมโมพยักหน้ารับ “ย่อมทำได้ แต่ต้องใช้เวลา! จะเริ่มงานเดี๋ยวนี้!”

อู่หมิงซวีเอ่ยคำ “โทเทมผนึก ถือเป็นผนึกที่แกร่งกล้าที่สุด! ปกติจะเอาไว้ใช้จองจำผู้คน โทเทมนี่คืออะไรกัน?”

“โทเทมอัคคีโบราณ! แต่มันไม่สมบูรณ์ ข้าไม่อาจพบเห็นอย่างกระจ่างชัดได้!” โมโมตอบกลับมา

ฉินหยุนกล่าวขึ้น “ตามปกติแล้ว สิ่งที่ยับยั้งโดยไฟ ย่อมเป็นน้ำแข็งหรือไม่ก็ไม้!”

อู่หมิงซวีพยักหน้ารับ “ภูตผีสัตว์ร้ายที่พวกเราพบก่อนหน้านี้ ทั้งหมดร่างกายมีไฟติดลุกโชน! และเส้นทางนี้ก็เย็นเยือก เหมือนว่าร่างเซียนที่ผนึกเอาไว้ภายในจะครอบครองธาตุน้ำแข็ง!”

ฉินหยุนและคณะเกิดความตระหนก ด้วยอาคมใหญ่ขนาดนี้ผนึกร่างเซียนเอาไว้ มันต้องเป็นอะไรที่ชวนโลกตื่นตะลึง

ผ่านไปครึ่งชั่วยาม โมโมค่อยทำลายส่วนเล็กน้อยของอักขระโทเทม ทำให้โทเทมผนึกทั้งหมดสูญเสียสภาพ

ฉินหยุนเก็บโมโมสู่มิติเก็บของ อู่หมิงซวีลอยขึ้นสู่ด้านบนและเปิดประตูออก!

ประตูเมื่อเปิดออกด้วยรอยแยกเพียงนิด คลื่นความเย็นเยือกก็โหมซัดออกมา

ฉินหยุนและคณะเร่งร้อนใช้พลังที่มีต้านทานความหนาวเย็น

ฉินหยุนครอบครองสายเลือดราชสีห์สวรรค์ เพราะเหตุนั้นแม้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ก็ยังสามารถต้านทานความหนาวเย็นนี้เอาไว้ หากเป็นผู้อื่นที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับสามเช่นกัน พวกคงกลายสภาพเป็นน้ำแข็งในพริบตา!

อู่หมิงซวีกลับลงมาที่พื้น สายตากวาดมองด้านใน

สุสานหลักสว่างไสว ราวกับใช้ก้อนน้ำแข็งยักษ์แกะสลักขึ้น ทั้งสี่ด้านปกคลุมด้วยน้ำแข็งเรืองแสงสุกสว่าง

ห้องสุสานถูกล้อมไว้เป็นวงกลม กว้างเพียงไม่กี่สิบเมตร กล่าวได้ว่าค่อนข้างเล็ก

ที่ตรงกลางวงกลมของห้องสุสาน มันมีกล่องกลมสีดำสนิทกว้างราวสองเมตรตั้งอยู่

“โลงศพในสุสานหลักช่างพิเศษนัก!” มู่เฟิงกล่าวขึ้น “ด้านในสมควรเป็นร่างเซียน!”

ฉินหยุนกล่าว “ในเมื่อคนผู้นั้นถูกผนึก อย่างนั้นก็ไม่มีวัตถุในพิธีฝังศพสินะ?”

อู่หมิงซวีก้าวเดินออกนำหน้า สำรวจมองกล่องทรงกลม “ทางด้านนี้ก็มีผนึก! แต่หนาวเย็นเกินไปที่จะให้ภูติน้อยนั่นออกมาได้!”

คำพอกล่าวจบ เขาจึงใช้ดาบต้นกำเนิดสับฟันต่อเนื่องที่โลงศพ เกิดเป็นเสียงดังปะทะอยู่หลายครั้ง

“ผู้อาวุโสอู่ ท่านสามารถเปิดมันได้หรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ไม่น่ามีปัญหา แค่ต้องใช้เวลา!” อู่หมิงซวีทำการโจมตีใส่โลงศพทรงกลมนั้นอย่างต่อเนื่อง

ฉินหยุนและคณะหลบอยู่ไกลออกไป หากโลงนั่นถูกทำลาย ร่างเซียนภายในที่จะปรากฏย่อมต้องแกร่งกล้า

“ผู้อาวุโสอู่ระวังด้วย!” มู่เฟิงขมวดคิ้วและกล่าวเสียงเบา “ชัดเจนว่ากล่องทรงกลมนั่นคือโลงศพ สิ่งที่อยู่ภายในต้องแข็งแกร่งยิ่ง!”

หลังสับฟันเป็นชุดโจมตีต่อเนื่อง ฝาโลงในที่สุดค่อยขยับเล็กน้อย ชั่วเวลานี้อู่หมิงซวีแทรกดาบเข้าที่รอยแยก ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดคิดเปิดมันออก

“เพราะผ่านกาลเวลายาวนาน พลังของผนึกจึงอ่อนลงไปมาก!” อู่หมิงซวีหัวเราะ

เพียงกล่าวคำจบ ฝาโลงก็กระเด็นออกแล้ว

มันเปิดออกแล้ว!

“เข้ามารับชมร่างเซียน!” อู่หมิงซวีตะโกนด้วยความยินดี

ฉินหยุนและคณะรวบรวมความกล้า ก่อนจะพุ่งทะยานร่างเข้าไปใกล้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด