ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0451 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0453 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0452 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 452 : อาจารย์จารึกโบราณ

ฉินหยุนขณะนี้ยิ่งสงสัยต่อตัวตนของชายชรา อีกฝ่ายถึงขั้นทราบ ว่าเก้าดวงตะวันจะร่วงโรยตั้งแต่กาลก่อน

“น้องหยุน ไปกันดีกว่า! อีกฝ่ายต้องอันตรายไม่น้อยแน่!” สุ่ยเทียนสื่อพอเห็นฉินหยุนคิดเดินเข้าไป นางเร่งรีบคว้าดึงร่างไว้ด้วยความเป็นห่วง

ชายชราถอนหายใจ “อย่างไรท้ายที่สุดเก้าดวงตะวันก็ต้องร่วงโรย!”

สื่อชิงเฉิงขมวดคิ้วถาม “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

ชายชราหัวเราะ “ดูเหมือนพวกเจ้ายังไม่ทราบเรื่องนี้... ไม่เช่นนั้น ข้าคงไม่ถูกขังไว้นานมากมายเพียงนี้!”

“ผู้อาวุโส เหตุใดเก้าดวงตะวันจึงร่วงโรย?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ทั้งหมดก็เพราะมีกลุ่มคนต้องการครอบครองพลังเก้าดวงตะวัน ต้องการควบคุมพวกมันโดยสมบูรณ์อย่างไรเล่า!”

ชายชราหัวเราะ “คนเหล่านั้นไม่เคยคิด ว่าเก้าดวงตะวันแท้จริงปล่อยวิญญาณดวงตะวันออกมาแล้ว! ตราบเท่าที่วิญญาณดวงตะวันยังไม่ถูกพบและถูกดูดกลืน เก้าดวงตะวันก็จะยังคงปลอดภัย!”

ฉินหยุนนึกถึงวิญญาณดวงตะวันที่เขาได้รับมา มันเป็นเพียงไข่มุกเม็ใหญ่ เขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าจะใช้พลังจากวิญญาณดวงตะวันได้อย่างไร

“ผู้อาวุโส เหตุใดท่านถูกขังที่นี่?” สุ่ยเทียนสื่อมองที่อีกฝ่าย “ท่านถึงขั้นรอดชีวิตแม้ถูกกักขังในสถานที่เช่นนี้ผ่านกาลเวลานานนับ!”

ผู้อาวุโสหัวเราะ “ข้าครอบครองวิญญาณยุทธ์ ที่เรียกขานกันว่าวิญญาณยุทธ์หลับใหล มันทำให้ข้าเข้าสู่การจำศีล เปรียบดั่งคนตายผู้หนึ่งได้!”

ฉินหยุนไม่คิดว่าชายชราผู้นี้เลวร้าย เพียงแต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

“ผู้อาวุโส อีกฟากฝั่งของกำแพง มันเป็นสุสานที่มีราชาผีดิบหลายตน พวกเราจะรับมือพวกมันได้อย่างไร?” ฉินหยุนเอ่ยถาม “หากพวกเราคิดออกไป ก็ต้องผ่านทางสุสานแห่งนั้น”

“พวกเขาไม่มีวิญญาณยุทธ์หลับใหล ย่อมไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานนัก!”

ชายชรากล่าว “เด็กหนุ่ม ไม่ใช่เจ้าเพิ่งขว้างยันต์สะกดวิญญาณมาทางนี้หรือ? จัดการกับผีดิบธรรมดาไม่ใช่ปัญหา แต่จัดการราชาผีดิบ ยังขาดแคลนอยู่บ้าง”

“หากยันต์สะกดวิญญาณของเจ้าแข็งแกร่งกว่านี้ คงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด!”

ฉินหยุนขมวดคิ้ว “ยันต์ระดับลึกล้ำสมควรได้ผลหรือ?”

ชายชราตอบ “ย่อมเพียงพอ! เจ้ามีหรือ?”

“ไม่มี แต่ข้าขัดเกลามันขึ้นมาได้!” ฉินหยุนกระทั่งขัดเกลาอุปกรณ์ลึกล้ำ นับประสาอะไรกับยันต์ลึกล้ำ

ขณะที่เขานึกถึงความเป็นไปได้ กลับนึกขึ้นได้ว่าตนไม่มีอักขระลึกล้ำสะกดวิญญาณ!

“บัดซบ ข้ามีเพียงอักขระวิญญาณ ไม่มีอักขระลึกล้ำสะกดวิญญาณ!” ฉินหยุนทึ้งเส้นผมตนเองพลางถอนหายใจ

ชายชราเผยความประหลาดใจ “ข้าไม่นึกว่าเจ้าเป็นอาจารย์จารึก อันที่จริงอักขระเดิมไม่มีการแบ่งระดับแต่อย่างใด แต่เพื่อให้ผู้อื่นได้เรียนรู้มากขึ้น อาจารย์จารึกจึงต้องทำให้อักขระที่เดิมซับซ้อนดูง่ายขึ้น”

“หลังจากอักขระกลายเป็นเรียบง่าย พลังก็อ่อนด้อยลงไปมาก กระนั้นความได้เปรียบอย่างหนึ่งคือผู้เริ่มต้นสามารถจับหลักได้รวดเร็ว จากนั้นพวกเขาจะค่อยศึกษาความซับซ้อนทีละน้อย เพิ่มระดับความลึกล้ำของอักขระไปทีละก้าว ทีละก้าว!”

ฉินหยุนคิ้วขมวดกล่าวคำ “ผู้อาวุโส ท่านกำลังบอกว่าอักขระวิญญาณ สามารถวิวัฒนาการเป็นอักขระลึกล้ำ?”

“ถูกต้อง! แต่นั่นต้องผ่านความสามารถรู้และเข้าใจที่สูงล้ำ มีอาจารย์จารึกมากมายที่เข้าใจผังจารึกระดับต่ำ ทำการศึกษาผังจารึกระดับต่ำเหล่านั้น ซ่อมแซม ทบทวน แปรเปลี่ยนพวกมันกลายเป็นผังจารึกระดับสูง วิธีการนี้จึงเรียกได้ว่าฝึกฝนวิถีจารึกอย่างแท้จริง!”

ฉินหยุนไม่เคยคิดมาก่อนจนกระทั่งได้ยิน มันทำเอาเขารู้แจ้งขึ้นมาอย่างมหาศาล

“ผู้อาวุโส ท่านเป็นอาจารย์จารึกหรือ?” สื่อชิงเฉิงเร่งรีบเอ่ยถาม

ชายชราหัวเราะดัง “ย่อมใช่ ข้าเป็นอาจารย์จารึกเต๋า!”

อาจารย์จารึกเต๋า ย่อมเป็นตัวตนแกร่งกล้า!

นี่ทำเอาฉินหยุนและคณะแตกตื่น อาจารย์จารึกเต๋าโบราณ ย่อมมีความเข้าใจลึกล้ำต่อวิถีจารึกแห่งเต๋า เขาย่อมต้องแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย

ชายชรากล่าว “ผู้คนในสุสานข้างเคียงนี้ล้วนมาจากตระกูลหลง! พวกนั้นมาจากแดนวิญญาณอ้างว้าง และมาสร้างหลุมฝังเซียนขนาดใหญ่ขึ้นที่นี่! ในกระบวนการก่อสร้าง เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย ผลลัพธ์ที่ได้จึงทำให้ผู้คนมากมายล้มหาย!”

สุ่ยเทียนสื่อเร่งรีบรถาม “ตระกูลหลงที่ครอบครองสายเลือดมังกร?”

ชายชราพยักหน้ารับ “ถูกต้องแล้ว! เพราะครอบครองสายเลือดมังกรที่หายาก หลังสิ้นชีวิต พวกเขาจึงแปรเปลี่ยนเป็นผีดิบ! ก่อนความตาย พวกเขาถูกบีบบังคับให้กินเม็ดยาผีดิบชั่วร้าย เมื่อตายไป ย่อมกลายเป็นผีดิบดังที่เห็น!”

“ที่นี่คือสถานที่ฝังเซียนของหลุมฝังเซียนจริงหรือ?” นี่เป็นคำถามที่ค้างคาภายในใจฉินหยุน

“จ้าวสุสานย่อมต้องมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจักรพรรดิเซียนแห่งแดนเซียนอ้างว้าง หรือไม่ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับจักรพรรดิเซียน!” ดวงตาของชายชราเผยความสิ้นหวัง “กระทั่งผู้คนข้างกายจักรพรรดิเซียน ก็ยังไม่อาจหลบหนีความตายได้พ้น!”

สื่อชิงเฉิงมองทางฉินหยุนและถาม “ผู้อาวุโส ท่านเคยได้ยินนามแผนที่หลุมฝังเซียนหรือไม่? ในเมื่อที่นี่มีหลุมฝังเซียนมากมาย อย่างนั้นสุสานเซียนใดที่เป็นจุดหมายปลายทางของแผนที่หลุมฝังเซียน? ผู้ใดกันที่ถูกฝังเอาไว้ภายใน และจักรพรรดิเซียนเป็นคนเช่นไร?”

ชายชราพอได้ยินคำแผนที่ สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยน คำตอบไม่ได้เผยกลับมาในทันที

ฉินหยุนเพียงทราบ ว่าสถานที่แห่งนั้นมีธิดาแห่งแม่มดถูกฝังร่าง และนั่นมีความข้องเกี่ยวใหญ่หลวงกับเซี่ยฉีโหรว

“หลุมฝังเซียนที่ชี้นำผ่านแผนที่หลุมฝังเซียน บุคคลที่ถูกฝังภายในนั้น คือธิดาของจักรพรรดิเซียน!” ชายชรากล่าวเชื่องช้า “เพราะธิดาของเขา เซียนแกร่งกล้าหลายคนในแดนเซียนอ้างว้างจึงตาย พวกเขาล้วนถูกฝังร่างไว้ที่นี่!”

ฉินหยุนคิ้วขมวด “ธิดาของจักรพรรดิเซียนหรือ? อย่างนั้นนางไม่สมควรตายโดยง่ายใช่หรือไม่?”

ดวงตาของชายชราเปี่ยมด้วยความทรงจำไหลผ่าน น้ำเสียงกล่าวตอบ “เป็นเรื่องที่ยาวอย่างยิ่ง! จักรพรรดิเซียนมีบุตรมากมาย แต่ธิดาผู้หนึ่งไม่อาจได้รับการยอมรับ! มันเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากจักรพรรดิเซียนและแม่มด ภายหลัง เมื่อเซียนยุทธ์แกร่งกล้าผู้อื่นของแดนเซียนอ้างว้างคิดใช้เรื่องนี้สะกดข่มจักรพรรดิเซียน เกิดขึ้นเป็นข้อพิพาทกับจักรพรรดิเซียน เป็นศัตรูกับจักรพรรดิเซียน ท้ายที่สุด สงครามที่ชวนสะพรึงจึงบังเกิด”

“สุดท้ายแล้ว มีเพียงความตายของธิดาจักรพรรดิเซียนมาถึง จึงทำให้แดนเซียนอ้างว้างสงบลงได้! เพราะเหตุนั้น จักรพรรดิเซียนจึงสร้างสุสานเซียนขึ้นที่นี่ เช่นนี้ นางจะได้ไม่ไปรบกวนคนของแดนเซียนอ้างว้างและแดนวิญญาณอ้างว้าง”

ฉินหยุนเอ่ยถาม “แต่ว่ามันมีเส้นทางมิติระหว่างแดนอสูรอ้างว้างและแดนสัตว์อ้างว้าง แดนอสูรอ้างว้างได้เข้ากลืนกินแดนสัตว์อ้างว้างจนสิ้น!”

ชายชราพอได้ยินดังนี้ เขาเผยสีหน้าเคร่งเครียด “ข้าได้ยินมาว่า จักรพรรดิเซียนผู้นั้นครอบครองอุปกรณ์เทวะนามวิญญาณเทวะเก้าตะวัน! ทางด้านแม่มดผู้นั้น นางครอบครองวิญญาณเทวะเก้าจันทรา! เพราะเหตุนั้นธิดาของพวกเขาทั้งสอง จึงครอบครองร่างเซียนวิเศษอันท้าทายสวรรค์ กล่าวกันว่ามันสามารถนำเภทภัยสู่แดนเซียนอ้างว้าง เพราะเหตุนั้นจึงเกิดหายนะดังกล่าวขึ้น”

“ด้วยนางเป็นธิดาของจักรพรรดิเซียน วิญญาณเทวะเก้าตะวัน และวิญญาณเทวะเก้าจันทรา จึงถูกฝังไปพร้อมกับร่างของธิดาผู้นั้น!”

วิญญาณเทวะเก้าตะวันอยู่ในมือฉินหยุน ขณะนี้เขามั่นใจแน่ชัด ว่าเซี่ยฉีโหรวคือธิดาแห่งจักรพรรดิเซียน

ชายชรากล่าวต่อ “ร่างเซียนวิเศษถือว่าแกร่งกล้า มันไม่มีทางถูกทำลาย ข้าไม่มั่นใจในรายละเอียด แต่พวกเราได้รับหน้าที่ให้มาสร้างสุสานเซียนแห่งนี้”

สื่อชิงเฉิงหันมองรอบด้านและถามออก “อย่างนั้นแล้ว ผู้อาวุโส สุสานเซียนใดที่ท่านได้รับหน้าที่มาสร้าง? เพราะแท้จริงแล้วแดนอ้างว้างแห่งนี้กว้างใหญ่อย่างยิ่ง!”

ชายชราสายศีรษะตอบ “ข้าไม่ทราบแน่ชัดว่าสุสานเซียนแห่งใดที่พวกเราสร้าง เพียงทราบ ว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิเซียน เพราะเหตุนั้น หลังสร้างสุสาน พวกเราจึงตายกันอย่างเป็นปริศนา ภายหลัง อาจมีผู้อื่นเข้ามาและฝังร่างเซียนที่ตายไว้ที่นี่”

สุ่ยเทียนสื่อขมวดคิ้ว “จักรพรรดิเซียนผู้นี้หาได้ดีไม่ เขาคิดว่าชีวิตมนุษย์เป็นอะไรกัน!”

ชายชราแค่นเสียง “ข่าวลือว่าจักรพรรดิเซียนผู้นั้น ได้สังหารธิดาตนเองเพื่อปกป้องตัวเองเอาไว้! เพราะเขาเป็นกังวล ว่าธิดาที่สิ้นชีพแล้วจะกลายเป็นผีดิบแกร่งกล้า เขาจึงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องใช้วิญญาณเทวะเก้าตะวันสะกดผนึกนางเอาไว้ที่นี่!”

“ยังมีข่าวลือหนาหูเช่นกัน ว่าจักรพรรดิเซียนนำร่างของผู้ที่ตนสังหารทิ้งมาฝังไว้ที่นี่! หากพวกนั้นกลายเป็นผีดิบแกร่งกล้าภายหลัง ก็อาจนำพาซึ่งหายนะมาสู่แดนอ้างว้างได้!”

“ส่วนจะเป็นความจริงหรือไม่ ข้าย่อมไม่ทราบแล้ว! ข้าเพียงทราบว่าบุคคลที่ฝากฝังให้พวกเราสร้างสุสานเซียน คือผู้มาจากแดนวิญญาณอ้างว้าง และอยู่ภายใต้การบัญชาของจักรพรรดิเซียนอีกต่อหนึ่ง นี่ก็เพราะข้าทำผิดพลาดจึงถูกขังไว้ที่นี่ ผีดิบที่พวกเจ้าสังหารไป ล้วนเป็นผู้ใต้บัญชาของข้า!”

คำ “ตำหนักจารึกเทวะ” พลันผุดในความคิดฉินหยุน

เขาอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัย ว่าตำหนักจารึกเทวะรับผิดชอบหน้าที่เมื่อกาลนั้น อย่างไรแล้ว ตำหนักจารึกเทวะก็มาจากแดนวิญญาณอ้างว้าง นอกจากนี้ หลังผ่านการพัฒนานานหลายปี พวกเขาจึงเป็นใหญ่ในแดนยุทธ์อ้างว้างเช่นตอนนี้!

สื่อชิงเฉิงเอ่ยคำ “ฉินหยุน เจ้ามีวิธีสร้างยันต์ลึกล้ำหรือ? ไม่ว่าจะด้วยอะไร การที่พวกเราจะออกไปนั้นขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!’

“กระทั่งว่าข้าทำได้ ก็ยังต้องใช้เวลานานยิ่ง!” ฉินหยุนมองที่ผู้อาวุโสและกล่าวถาม “ผู้อาวุโส ท่านมีอักขระลึกล้ำสะกดวิญญาณหรือไม่?”

ชายชรากล่าวตอบ “แน่นอนว่ามี เพียงแต่สภาพของข้าตอนนี้ไม่อาจมอบมันแก่เจ้า!”

ฉินหยุนคิดอยู่ครู่ค่อยกล่าวคำ “ผู้อาวุโส หากพวกเราปล่อยท่านออกมา ท่านนำพวกเราออกไปได้หรือไม่?”

ชายชราหัวเราะ “ครั้งราชาผีดิบเหล่านั้นมีชีวิตข้ายังไม่หวาดเกรง นับประสาอะไรกับตอนนี้พวกนั้นตายไปแล้ว!”

“แต่พวกเราจะเชื่อท่านได้อย่างไร? จะเป็นอย่างไรหากท่านพอหลุดพ้นก็สังหารพวกเราจนหมด?” ฉินหยุนกล่าวด้วยความระแวดระวัง

“เจ้าหนู กระทั่งข้าติดอยู่เช่นนี้ การสังหารพวกเจ้าก็ยังเป็นเรื่องง่ายดาย!” พร้อมกันนี้ ดวงตาอีกฝ่ายเรืองแสงแดงฉาน จากนั้นจึงยิงกระแสพลังสองสายอันแกร่งกล้าออกมา ปะทะเข้ากับผนังกำแพง

ตู้ม!

ผนังกำแพงถล่มทลาย แรงปะทะที่เกิดขึ้นถือว่ามหาศาลนัก!

ฉินหยุนเผยความหวาดกลัว “ไม่ใช่พลังท่านถูกผนึกไว้หรือ? นี่สามารถปลดปล่อยพลังแกร่งกล้าออกมาได้อย่างไร?”

กระทั่งสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ยังกล้าบอกว่าออร่าระดับนี้สมควรเป็นพลังของราชันยุทธ์!

“เป็นความสามารถส่วนตัว! แน่นอนว่าข้าไม่ได้คาดหวังให้เจ้าปลดปล่อยข้าออกไป! ด้วยพวกเจ้าตอนนี้ ยังห่างไกลนัก!” ชายชรายิ้ม “เจ้าหนู เจ้าเพียงขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สองหรือสามใช่หรือไม่? คิดขัดเกลายันต์ลึกล้ำ นี่ออกจะฝันกลางวันเกินไปบ้างแล้ว!”

“หากหญิงสาวสอคนนั้นทราบวิธีการทำยันต์ ข้ายังเชื่อมากกว่า!”

ฉินหยุนบุ้ยริมฝีปาก “อย่าได้ปรามาสต่อข้า!”

ชายชราหัวเราะ “ข้าย่อมไม่ได้ปรามาสต่อเจ้า นี่เพียงเป็นเรื่องที่ทราบโดยทั่วกัน! ด้วยขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สองหรือสาม จะสร้างยันต์ลึกล้ำขึ้นได้อย่างไรกัน?”

“ผู้อาวุโส หากข้าปลดปล่อยท่านได้ อย่างนั้นท่านจะทำอย่างไร?” ฉินหยุนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ต่างไม่เชื่อว่าฉินหยุนสามารถช่วยเหลือผู้อาวุโสที่แกร่งกล้าผู้นี้

ชายชราหัวเราะดัง “หากเจ้าปล่อยข้าออกไปได้ ข้าจะพาเจ้าไปยังสุสานของจ้าวสุสาน! จากนั้นพวกเราค่อยแบ่งของกัน! อย่าได้ห่วง ข้ายินดีลงสัญญาจิตวิญญาณกับเจ้าก่อน ดังนั้นย่อมไม่ต้องหวาดกลัวว่าข้าจะผิดสัญญา!”

ในเมื่อสุสานแห่งนี้กว้างใหญ่ ย่อมต้องเป็นเรื่องยากเย็นหากคิดค้นหาจ้าวสุสาน

และชายชราผู้นี้ก็คือหนึ่งในผู้ก่อสร้างออกแบบ และยังเป็นอาจารย์จารึกเต๋า เขาย่อมต้องทราบ ว่าห้องสุสานของจ้าวสุสานอยู่ที่ใดและไปอย่างไร

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด