ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0450 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0452 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0451 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 451 : ราชาผีดิบ

ฉินหยุนและคณะแทบไม่กล้าหายใจยามเห็นกลุ่มคน พวกเขาหวาดเกรงว่าจะถูกพบเห็นเข้า

นี่ก็เพราะในกลุ่มแปดคน มีสองคนเป็นราชันยุทธ์ อีกสามคนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ และที่เหลืออยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ

ด้วยกำลังระดับนี้ ไม่ใช่อะไรที่ฉินหยุนและคณะจะสามารถรับมือได้

“หวังเทียนซือ สุสานนี่อะไร? เหตุใดคนเหล่านี้ด้านในโลงศพจึงระดับการฝึกฝนต่ำเตี้ย?”

ราชันยุทธ์เปิดฝาโลงศพพร้อมคิ้วขมวด “นี่ไม่ใช่หลุมฝังเซียนหรือ? อย่างนั้นร่างศพก็ควรเป็นเซียนสิ!”

หวังเทียนซือหันมองทางพวกเขาและกล่าว “เหล่านี้อาจเป็นผู้ที่ช่วยเหลือในการสร้างหลุมฝังเซียนเมื่อกาลก่อน! โลงศพพวกนี้ตั้งแต่ด้านนอกถึงด้านใน สมควรไล่เรียงระดับความแข็งแกร่ง เข้าไปรับชมดีกว่า อาจมีร่างศพขอบเขตราชันยุทธ์ก็เป็นได้!”

ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะนับถือหวังเทียนซือ อีกฝ่ายค่อนข้างเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ลึกซึ้งทีเดียว

ขณะนี้เขาเป็นกังวลเรื่องรอยสักโทเทมที่ผนังกำแพง เพราะโมโมเพิ่งบอก ว่านางสามารถคัดลอกอักขระโทเทมเหล่านั้นได้

หวังเทียนซือและคณะก้าวเดินไปในห้อง เปิดฝาโลงศพไล่ตามทาง

“ดังที่คิด ทางด้านนี้เป็นราชันยุทธ์ นอกจากนี้ ยังมีอาวุธประจำตัว พวกนี้เป็นอาวุธเต๋า ฮ่าฮ่า... ในที่สุดก็ค่อยได้อะไรดี ๆ ติดไม้ติดมือบ้าง!” ราชันยุทธ์คนหนึ่งคว้าเอากระบี่เล่มใหญ่ขึ้นมา เสียงหัวเราะจากใจดังออก

ขณะสองราชันยุทธ์รู้สึกยินดีอยู่นั้นเอง กระแสพลังภายในสีดำหลุดลอยจากโลงศพ ร่างศพเหล่านั้นกำลังขยับ!

เรื่องนี้ทำหวังเทียนซือหวาดกลัวจนกรีดร้องออก “เร่งรีบจัดการพวกมัน! เหล่านี้สมควรเป็นราชาผีดิบ ระวังตัวด้วย!”

ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนรู้สึกได้ ว่าหญิงสาวทั้งสองกระชับมือเขาเอาไว้แน่น นี่เป็นพวกนางหวาดกลัวเช่นเดียวกัน

“ราชาผีดิบ... สร้างสิ่งเช่นนี้โดยใช้ศพโบราณ ต้องผ่านเคล็ดวิชาขัดเกลาแกร่งกล้า นี่สมควรใช้เพื่อพิทักษ์สุสาน!” สุ่ยเทียนสื่อส่งเสียงทางจิตบอกต่อฉินหยุน “นี่เทียบเท่ากับการขัดเกลายอดฝีมือที่วายชนม์ให้กลายเป็นหุ่นเชิดบ้าคลั่ง!”

ฉินหยุนลอบตระหนัก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินถึงเรื่องราวเช่นนี้

เขามองทางราชันยุทธ์สองคน และทางราชาผีดิบสองตน ขณะนี้กำลังต่อสู้กันไม่ไกลออกไป

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

ราชันยุทธ์แต่เดิมคิดใช้พลังแกร่งกล้าต่อสู้ สร้างคลื่นพลังภายในทำการพลิกโลงศพเหล่านั้นให้พ้นทาง

ร่างศพด้านในล้วนแกร่งกล้า หลังจากโลงศพกลิ้งกระเด็น ร่างย่อมกระเด็นออกตาม ราวกับนี่เป็นการปลุกผู้วายชนม์ให้ตื่นขึ้น ร่างเหล่านั้นกำลังยืนหยัด ไล่ล่าหวังเทียนซือและคณะ

ราชันยุทธ์สองคนเผชิญหน้าราชาผีดิบสองตน หวังเทียนซือและผู้อื่นที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ต้องเผชิญหน้าผีดิบอีกหลายสิบตน

พวกเขาย่อมไม่อาจต่อกรผีดิบเหล่านี้ ที่ทำได้ คือการเร่งรีบหลบหนี

“หวังเทียนซือ คิดหาทางเร็วเข้า หากเป็นแบบนี้ต่อ พวกเรามีแต่จะตายกันหมด!’ ราชันยุทธ์ตะโกนเสียงดัง

“ไม่มีทางอื่นแล้ว ได้หนีรีบเผ่นหนี!” หวังเทียนซือรู้สึกสิ้นหวัง “สถานการณ์ตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะเปิดค่ายอาคมหลบหนี!”

ฉินหยุนกระทั่งสบถต่อตนเอง ที่ก่อนหน้านี้ไม่เปิดฝาโลงศพเหล่านั้นฉกชิงเอาอุปกรณ์เต๋ามา

ขณะนี้ภายในเกิดความยินดีที่ไม่ทำ ไม่เช่นนั้น เขาคงต้องถูกรุมล้อมอย่างไม่ทันตั้งตัว!

หากพวกเขาต้องเผชิญหน้าราชาผีดิบ ก็มีแต่ชะตาต้องตาย

สุสานขนาดใหญ่ โดยทันทีกลับกลายเป็นถูกปกคลุมด้วยเสียงอึกทึกถล่มทลายและสายลมกระโชก

การศึกระหว่างราชาผีดิบและราชันยุทธ์ ทำให้โลงศพหยกจำนวนมากกระเด็นกระจาย ส่งร่างผู้ที่อยู่ภายในกระเด็นออกมา

โลงศพหยกบางโลง กระทั่งแตกออกเป็นเสี่ยง

แม้ฉินหยุนและคณะไม่ได้เผชิญหน้าผีดิบโดยตรง ทว่าหากปล่อยให้ดำเนินเช่นนี้ต่อก็มีแต่อันตรายแล้ว

สุสานแห่งนี้ถูกผนึก ดังนั้นหากคิดออกไป ก็ต้องใช้ค่ายอาคมเคลื่อนย้าย แต่ด้วยสถานการณ์ขณะนี้ ไม่มีทางที่จะเปิดอาคมเคลื่อนย้ายได้เลย

สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อเกิดความว้าวุ่น เหงื่อกาฬไหลหลั่งท่วมมือที่จับฉินหยุนเอาไว้

หากทั้งสามเผชิญหน้าราชาผีดิบเมื่อใด ความตายย่อมมาถึง

“ดูไปก่อน บางทีผีดิบพวกนั้นอาจไม่พบเจอพวกเรา!” ฉินหยุนส่งเสียงบอกหญิงสาวทั้งสอง

แต่คำพอกล่าวจบ ด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ หินเรืองแสงมากมายด้านบนสุสานขนาดใหญ่พลันสาดส่อง

ภายใต้แสงสว่างรุนแรง ฉินหยุนและที่หลบซ่อน ขณะนี้ถูกเปิดเผย

หวังเทียนซือได้เห็นพวกเขา เสียงตะโกนคำรามดัง “ไอ้เด็กสารเลว เป็นพวกเจ้า! จงตายกันเสียที่นี่!”

ราชันยุทธ์สองคนไม่ว่างพอสนใจทางอื่น พวกเขาต้องรับมือกับราชาผีดิบถึงหกตน

ฉินหยุนกัดฟันแน่น นำสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อร่วมทาง ใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงกำแพงออกไป

เดิมเขาคิดว่าต้องทะลุทะลวงกำแพงนี้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ที่ไม่คาดคิดก็คือ เขากลับพบอุโมงค์ทางเดินเพียงเวลาไม่นาน

เส้นทางนี้กว้างราวห้าถึงหกเมตร และมืดมิดยิ่ง หาได้มีแสงใดเล็ดรอดเข้ามา

“ปลอดภัยแล้วหรือ?”

สุ่ยเทียนสื่อนำเอาหินเรืองแสงออกมาสาดส่อง นางพบฉินหยุนหมดแรงที่พื้น โดยทันทีจึงเร่งรีบส่งถ่ายพลังช่วยเหลือฟื้นฟู

สื่อชิงเฉิงเผยความร้อนใจ “ยังวางใจไม่ได้! เทียนสื่อดูแลเขาด้วย ที่นี่ให้ข้าจัดการ!”

นางนำเอาตะขอคู่ออกมา เร่งรีบไปยังฟากหนึ่งของเส้นทาง

ผีดิบเหล่านั้นกระทั่งอยู่ในเส้นทางเดิน ตัดสินจากความหนาแน่นของออร่า พวกมันสมควรอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ!

“พี่สาว เร่งรีบช่วยเหลือพี่สาวซาลาเปานึ่ง ข้าช่วยตัวเองได้!”

ฉินหยุนมองทางสื่อชิงเฉิง พบว่าตะขอคู่ในมือของนาง แทงทะลุที่ลำคอของผีดิบ ถัดจากนั้น บอลแสงทองม่วงพลันระเบิดออก เป่าลำคอนั้นจนกระจุยกระจาย

สุ่ยเทียนสื่อขมวดคิ้ว “ชิงเฉิงสามารถรับมือได้ชั่วคราว ให้ข้าช่วยเจ้าฟื้นฟูก่อน!”

ปีกคู่สีทองม่วงปรากฏที่แผ่นหลังของนาง กระพือพัดเล็กน้อย เกิดเป็นคลื่นลมรุนแรง เป่าเอาร่างผีดิบเหล่านั้นที่กำลังพุ่งทะยานเข้าหาไปพ้นทาง

“นี่สมควรเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างสุสานแห่งนี้ พวกเขาล้วนตายที่นี่จนแปรเปลี่ยนเป็นผีดิบ!”

สื่อชิงเฉิงเผชิญศึกหนักหน่วง พยายามกดดันให้ผีดิบที่รุกเข้ามาต้องถอยอย่างต่อเนื่อง

ผีดิบเหล่านี้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ และยังมีกันกว่าร้อยตน โชคยังดี ผีดิบเหล่านี้ไม่มีความสามารถแกร่งกล้าเพื่อต่อสู้ ดังนั้นจึงได้ต่อโจมตีสุ่มและกัดไปทั่ว

มีแต่ราชาผีดิบ จึงค่อยมีสัญชาตญาณการต่อสู้

ร่างผีดิบเหล่านี้แข็งแกร่ง ไม่ใช่ง่ายรับมือ

สื่อชิงเฉิงได้แต่บีบบังคับให้ผีดิบเหล่านี้ถอยทัพ หากนางต่อสู้ทีละตัว ผีดิบเหล่านี้จะกลายเป็นตอบโต้จนนางต้องถอยร่น

ฉินหยุนระดับการฝึกฝนต่ำเตี้ยเกินไป ทุกครั้งที่ใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง เขาต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล

เป็นเรื่องดีที่สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่ออยู่ข้างกายคอยคุ้มกัน ไม่เช่นนั้น หลังใช้งานความสามารถเทวะ เขาคงต้องตกอยู่ภายใต้อันตรายใหญ่หลวง

ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ฉินหยุนค่อยฟื้นฟูพลังมาได้ราวหกถึงเจ็ดในสิบ

“พี่สาววิญญาณร้ายวารี เร่งรีบช่วยเหลือนาง!” ฉินหยุนเร่งร้อนตะโกน “สังหารผีดิบเหล่านี้!”

สุ่ยเทียนสื่อนำเอาดาบออกมาสองเล่ม พุ่งทะยานเข้าหาผีดิบ ทำการโจมตีหลายครั้ง แม้พวกมันแทงทะลุร่างผีดิบ ก็ไม่อาจนับเป็นการสังหาร

“ตัดหัวพวกมัน!” สื่อชิงเฉิงตะโกน

ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนนำเอายันต์สะกดวิญญาณออกมา ขว้างปาพวกมันออก

ยันต์สะกดวิญญาณพอร่อนลงกลางกลุ่มผีดิบ ผลลัพธ์ที่ได้ ผีดิบเหล่านั้นส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างพวกมันแปรเปลี่ยนเป็นพลังภายในสีดำ ราวกับกำลังถูกกัดกร่อน

“ได้ผลดีเยี่ยม!” ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่ายันต์สะกดวิญญาณจะส่งผลกับผีดิบเหล่านี้ได้ดีเยี่ยม

ร่างผีดิบเหล่านี้แปรเปลี่ยนเป็นควัน กระนั้นก็ยังคงโดนฤทธิ์ของยันต์สะกดวิญญาณเล่นงาน

สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ทั้งสองเร่งรีบพุ่งเข้าใส่ ใช้พลังแกร่งกล้า ทำลายศีรษะของผีดิบเหล่านั้น

เพียงไม่นาน ผีดิบกว่าสองร้อยตนถูกสังหารสิ้น

“น้องหยุน นั่นยันต์อันใด? ทำงานได้ดีเยี่ยมนัก!” สุ่ยเทียนสื่ออุทานยินดีขณะปาดเช็ดคราบเหงื่อ เผยซึ่งรอยยิ้มยินดีออกมา

สื่อชิงเฉิงกล่าวคำ “เรียกว่ายันต์สะกดวิญญาณ ได้ผลดีเยี่ยมกับภูตผีสัตว์ร้าย แต่ไม่นึกเลยว่าใช้กับพวกผีดิบเหล่านี้ก็ได้ด้วย!”

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นางช่วยเหลือฉินหยุนขุดเกลายันต์สะกดวิญญาณไว้จำนวนหนึ่ง

ฉินหยุนมองสองฝั่งของเส้นทาง ไม่ทราบว่ามันจะไปสิ้นสุดที่ใด เขากล่าวออก “เส้นทางนี้คล้ายอยู่ลึกลับออกไป นี่มันใช้เพื่อนำไปที่ใดกัน?”

“ย่อมไม่อาจทราบ มีแต่ต้องไปดูจึงรู้ได้!” สุ่ยเทียนสื่อมองสองฝั่งของเส้นทาง “เช่นนั้นควรไปทางใดดี?”

“ทิศทางที่พวกซอมบี้คิดไป!” ฉินหยุนชี้นิ้วกล่าวออก

สุ่ยเทียนสื่อก้าวเดินนำหน้า ถือยันต์สะกดวิญญาณสองแผ่นไว้ในมือ สื่อชิงเฉิงตามประกบหลัง

ฉินหยุนอยู่ตรงกลาง นับว่าปลอดภัยที่สุด

เพียงไม่นาน พวกเขาค่อยเห็นจุดสิ้นสุดเส้นทาง นับว่าไม่ไกลมากนัก

เมื่อเห็นจุดสิ้นสุดเส้นทาง ความตึงเครียดบังเกิด เพราะที่สุดปลายทาง เป็นร่างศพ!

เป็นร่างศพที่แขนและขาถูกโซ่ตรวนทองคำจองจำเอาไว้ และโซ่ตรวนนั้นก็ดูแข็งแกร่งยิ่ง มันปักเอาไว้กับกำแพงอย่างแน่นหนา

“ดูเหมือนตอนสร้างสุสานแห่งนี้ จะเกิดเรื่องราวขึ้นไม่ใช่น้อย!” ฉินหยุนกล่าวคำ “สงสัยนักว่าตรงหน้านี้เป็นราชาผีดิบหรือไม่?”

สื่อชิงเฉิงขมวดคิ้ว “เป็นชายชรา น่าจะมีโทษต้องตายสถานเดียวจึงมีสภาพนี้!”

ชายชราสวมใส่ชุดผ้าป่านหยาบกร้าน ดวงตาหลับไว้แน่น ใบหน้าดำเทานั้นปรากฏริ้วรอย เส้นผมสั้นขาวโพลน คางค่อนข้างแหลม แม้ตายไปแล้ว ก็ยังมอบความรู้สึกแกร่งกล้าแก่ผู้พบเห็น

ขณะฉินหยุนคิดเข้าไป ชายชราตรงหน้าพลันเบิกตาโพลง เผยซึ่งดวงตาสีแดงฉานคู่หนึ่ง

ฉินหยุนกรีดร้องภายใน ขว้างปายันต์จำนวนหนึ่งใส่อีกฝ่าย กระนั้นกลับไร้ผล ชายชรายังคงจับจ้องด้วยดวงตาแดงฉาน

“เป็นราชาผีดิบ! หนี!” สุ่ยเทียนสื่อดึงฉินหยุนเร่งร้อนคิดจากไป

“อย่าได้หนี... ข้าเป็นมนุษย์!” เสียงชายชราเบายิ่งทว่ากระจ่างชัดดังในอุโมงค์

สุ่ยเทียนสื่อที่เร่งร้อนพลันชะงัก วิ่งกลับมาพร้อมฉินหยุน

หัวใจทั้งสามคนขณะนี้เปี่ยมด้วยความแตกตื่น นี่ก็เพราะสุสานแห่งนี้สร้างไว้นานยิ่ง แต่แล้วกลับยังมีคนรอดชีวิตจนกระทั่งถึงตอนนี้!

“ท่าน... เป็นคนดีหรือคนเลว?” สื่อชิงเฉิงเร่งรีบเอ่ยถาม

“นั่นขึ้นอยู่กับมุมมองความดีและความเลว!” ชายชราหัวเราะ “กาลเวลาผันผ่านนานนับ สงสัยนักว่าคนดีหรือคนเลวเดี๋ยวนี้มีมุมมองอย่างไร!”

“หากท่านไม่คิดสังหารพวกเรา ไม่คิดทำร้ายพวกเรา ย่อมไม่ใช่คนเลว!” ฉินหยุนกล่าว

ชายชราหัวเราะกับตนเอง “สภาพข้าเช่นนี้จะทำร้ายเจ้าได้อย่างไร?”

ฉินหยุนกล่าวคำ “สิ่งที่จองจำท่านแกร่งกล้านัก พวกมันสมควรผนึกพละกำลังของท่านไว้ ดังนั้นจึงไม่มีออร่าพลังใดหลุดรอด นอกจากนี้ พวกมันยังดูดกลืนพลังต่อเนื่อง กระนั้นท่านกลับยังมีชีวิตรอดมาได้นานนับ!”

“ข้าไม่นึก ว่าเจ้าอ่อนแอเพียงนี้กลับทราบมากมายเพียงนั้น!” ชายชราประหลาดใจไม่น้อย จากนั้นจึงเอ่ยถาม “พวกเจ้ามาจากแดนยุทธ์อ้างว้างหรือ? เก้าดวงตะวันขณะนี้เป็นอย่างไร? เก้าดวงตะวันร่วงโรยหรือยัง?”

ฉินหยุนและหญิงสาวทั้งสองแตกตื่นยามได้ยิน เก้าดวงตะวันถึงขั้นมีชะตาต้องร่วงโรยจริง!

“ยังไม่!” ฉินหยุนทราบว่าวิญญาณดวงตะวันไม่อยู่ภายในร่างดวงตะวันอีกต่อไปแล้ว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด