Chapter 83 – Magician’s Ivory Tower (4)
Chapter 83 – Magician’s Ivory Tower (4)
”
"เคร๊งๆ"
เสียงของดาบที่ปะทะกันได้ดังออกมา ซึ่งซังจินก็ยังคงพยายามจะพูดกับเขา
"เฮ้ฟังที่ฉันพูดก่อน"
แต่สิ่งที่เขาตอนกลับมาก็คือดาบที่เหวี่ยงเข้าใส่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และเพราะว่าการสนทนาผ่านไปแล้ว 10 วินาที ไทดท์จึงหมดผลลง
"เคร๊ง ๆ"
ด้วยดาบของชาวภูเขา ดูเหมือนกับว่าเขาจะเต็มไปด้วยความโกรธ ซึ่งมากพอที่จะยอมเป็นฆาตกรเพื่อฆ่าซังจิน
อันที่จริงซังจินก็สามารถจะยอมรับการโจมตีจากชาวภูเขาสักทีสองทีเพื่อมผ้เขาเข้าสู่สถ่นะฆาตกร จากนั้นก็ฆ่าเขา และเอาไอเทมมา แต่ว่าซังจินก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำเช่นนั้น
ซังจินชอบในเหตุผลของเขา
'พวกเราเกือบจะตายเพราะแกออกไปจากทีม'
เขาไม่ได้ผิด ความแตกต่างระหว่างเขากับซังจินก็คือว่าชาวภูเขานั้นไม่เคยมีประสบการณ์ในบทท้ายๆ พวกเขามีมุมมองและความรู้ที่แตกต่างกัน
'เต็มใจที่จะสละตัวเองเพื่อความยุติธรรม...เป็นประเภทของคนโง่ แต่ว่า...ชายคนนี้ก็มีเจตนาดี'
คนอื่นๆที่อยู่ที่เดียวกันก็คิดเช่นกัน
'เขาพูดจริง?'
''ฉันหวังว่ามันจะไม่เป็นอันตรายต่อฉัน'
'สู้กันไปเลย ฉันชอบ'
และเขาก็ยังแข็งแกร่งอีกด้วย ทุกๆครั้งที่ซังจินป้องกันการโจมตี เขาก็สามารถจะบอกได้เลยว่าชายคนนี้มีทักษะที่ไม่ธรรมดา เขามีพรสวรรค์และสเตตัสที่สูง
'...มาลองดูอย่างอื่นกัน'
ซังจินได้ไคว้ดาบไว้ในขณะที่ป้องกันและพลักออกไป
"จงพันธนาการด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
เท้าของเขาได้ถูกแช่แข็งไว้กับที เขาไม่สามารถจะขยับได้อีก
มันดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่มีความต้านทานเวทมนตร์เลย
'มันเหมือนกับว่าฉันกับลังมองตัวเองในอดีต'
ซังจินได้คิดขึ้นในขณะถามออกไป
"เฮ้นาย! นายชื่ออะไร"
"ทำไมฉันจะต้องบอกไอชั่วอย่างแก"
ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่ต้องการที่จะบอกชื่อแก่ซังจิน
'เขาแข็งแกร่งพอสมควร...และฉันก็ชอบในความยุติธรรมของเขา'
แต่ซังจินก็ไม่สามารถจะใช้ 'น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งการล้างบาป' กับผู้ที่ไม่ต้องการมันได้
'ฉันควรจะทำยังไงดี?'
ในเวลาสั้นๆซังจินได้พิจารณาตัวเลือกของเขา ผลของเวทย์มันก็ค่อยๆไร้ผลเมื่อเวลาผ่านไปและจากนั้นชาวภูเขาก็ได้พุ่งเข้ามาใส่เขาในทันที แต่ว่า
"ฉันเห็นทุกสิ่งที่ฉันต้องการ'
ในที่สุดซังจินก็เริ่มจริงจัง เขาได้ใช้ดาบมูนสเปคในการป้องกันและใช้ดาบบลัดเวเจนในการปัดดาบสองมือออกไป
'เคร๊ง~"
ชาวภูเขาตกใจมาก เขาเชื่อว่าเขาได้จับดาบแน่นด้วยสองมือตลอดเวลา แต่ซังจินไม่เพียงแต่จะป้องกันการโจมตีไม่ด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่สนั้น แต่เขาก็ยังสามารถจะปัดดาบของเขาไปจากมือได้อีกด้วย
ทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลังก็ตกใจเช่นกัน พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่วของชาวภูเขาดีในตอนที่ขึ้นหอคอยมาด้วยกัน
ซังจินได้ยกดาบไปจ่อคอของชาวภูเขาและถามออกมา
"ฉันจะถามอีกครั้ง นายชื่ออะไร?"
แต่เขาก็ก้มมองซังจินและพูดออกมา
"ฆ่าฉัน"
เขาเตรียมพร้อมที่จะตายแล้ว ซังจินมองดูเขาอยู่ครู่หนึ่วก่อนที่จะยกดาบออกไป
"ฉันไม่ใช่ฆาตกร ฉันขอโทษด้วยที่ฉันทิ้งพวกนายไว้ข้างหลัง...ที่ฉันทำเช่นนั้นเพราะว่าฉันมีเหตุผลของฉัน..."
การพยายามจะอธิบายหรือชักจูงคนอื่นมันเป็นเรื่องยาก ชาวภูเขาได้วิ่งไปหยิบดาบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้เมื่อครู่นี้จบลงไปอย่างง่ายดาย และการที่จะพยายามต่อต้านศัตรูที่แตกต่างกันมากมันเป็นเรื่องโง่เขลา
'ถ้าหากเขาก้าวเข้ามาอีกก้าว...'
แต่โชคดี เขาได้เดินกลับเข้าไปรวมกับนักล่าคนอื่นๆหลังจากที่เก็บดาบขึ้นมา
'มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิด'
ซังจินถูกใจเขามาก ถ้าหากว่าไม่ใช่ตอนนี้ ซังจินก็หวังว่าในคราวหน้าเขาจะได้พบกันอีกและใช้การล้างบาปกับเขา
ซังจินได้เดินไปจากนักล่าคนอื่นๆเพียงลำพังและไปทางบันไดสู่ชั้นที่ 5 ที่ๆมีชิ้นส่วนลับรอเขาอยู่ เคนได้ตามเขามาอย่างเงียบๆ ในตอนนี้เคนเริ่มฉลาดขึ้น
เมื่อตอนที่เจ้านายของเขาตกอยู่ในอันตราย เขาก็จะเข้าไปช่วยเหลือเสียสละตนเองเพื่อปกป้องซังจิน แต่เมื่อคนู่นี้ที่ซังจินกำลังปะทะกับคนแปลกหน้า เขาก็ได้นั่งนิ่งๆอยู่กับที่
เขาตระหนักดีว่าเจ้านายของเขากำลังทดสอบคนแปลกหน้าอยู่
'ฉลาดจริงๆ'
เคนได้ลูบหัวเคนในขณะที่เขาหยุดก้าวท้าวลงบันไดเมื่อเขาตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
'จริงด้วย...ชิ้นส่วนลับสามารถใช้ได้ทุกคน'
ซังจินได้หยุดลงและหันหน้าไปพูดกับนักล่าคนอื่นๆ
"เฮ้มานี่เดี๋ยวสิ นี่น่าจะเป็นการแสดงออกถึงการขอโทษ....ไม่สิแต่ว่าเนื่อวจากที่นี่มีชิ้นส่วนลับอยู่ ดังนั้นมาเอามัน"
รักล่าคนอื่นๆยังคงยืนอยู่กับที่แม้ว่าจะได้ยินคำพูดของซังจิน พวกเขายังคงระแวงซังจิน
"ไมเป็นไรทำตามที่นายต้องการเถอะ ที่ด้านมันนั้นมันไม่มีอะไรแล้วนอกจากศพ"
ซังจินได้เดินลงไปหลังจากที่พูดจบ ในตอนนี้เขาได้ให้ความสนใจกับกำแพงบันได ความสูงของบันไดในแต่ละชั้นปกตืแล้วจะเท่ากัน
ยกเว้นแต่ในชั้นที่ 5 ไปชั้นที่ 6 ช่องว่างมันจะห่างกันต่างจากชั้นอื่นๆ ซึ่งก็คือมันมีห้องลับซ่อนเอาไว้อยู่
'ฉันคิดว่ามันควรจะเรียกว่า ชั้นที่ 5.5...'
ซังจินได้ตรวจสอบในอิฐแต่ละก้อนในระหว่างที่เขาเดินลงไป
'มีบางอย่างแปลกๆ...'
แต่ในมี่สุดเขาก็ได้ลงมาถึงที่ชั้น 5 บนชั้น 5 นี้มีศพของสัตว์ที่มีหัวเป็นสิงโตและร่างกายของฟมาอยู่ เมื่อเคนได้มองเห็น เขาก็เริ่มคำรวมออกมา
"กรร~"
ซังจินก็ได้มองไปที่มอนสเตอร์ตัวนี้เช่นกัน มันเป็นการผสมกันระหว่างสิงโตและสุนัข
'...เวทย์ต้องห้าม...'
ซังจินไม่ต้องการที่จะมองมันนานนัก เขาได้หันหลังกลับไปและเดินขึ้นไปที่ชั้นบนในระหว่างทางเขาก็ลูบไปที่อิฐแต่ละก้อน
"คลิ้ก"
มีอิฐก้อนหนึ่งที่หลวม
'นี้แหละ'
ซังจินได้ดึงอิฐก้อนนั้นออกมา มันหลุดออกมาโดยไม่มีแรงด้านใดๆเลย และที่ด้านในนั้นมีปุ่มสีแดงอยู่ จากนั้น
"คลืน คลืน"
กำแพงตามแนวบันไดก็ได้เปิดขึ้นมา และในเวลาเดียวกับโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศขึ้น
[ขอแสดงความยินดีด้วย]
[คุณได้พบกับ 'สถานที่ลับ - ขุมทรัพย์ของจอมเวทย์]
ซังจินได้เข้าไปในห้องนั้น แสงได้สว่างออกมาในอัตโนมัตและส่องสว่างไปทั่วทางเข้า ในห้องแห่งนี้มันเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า
ในระหว่างกองภูเขาเหรียญทอง มันก็มีถ้วยเงิน กล่องอัญมณีที่ทำมาจากทับทิมและไพลินผสมกันกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ถ้าหากว่าคนธรรมดามาเห็นสิ่งเหล่านี้พวกเขาก็จะถูกครอบงำด้วยภาพดังกล่าว แต่ซังจินก็ไม่ได้สนใจทองเหล่านนั้นเลย มีเพียงเหรียญดำเท่านั้นที่เนาสนใจ ทองมันไร้ซึ่งคุณค่า
ซังจินคิดว่ากองทองเหล่านั้นก็เหมือนกับกองเศษหินธรรมดา ในระหว่างที่เขากำลังเดินเข้าไปดูสมบัติ ในขณะเดียวกันนั้น
'นั่นมันอะไร?"
เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหล
"เดี๋ยวก่อน....ทั้งหมดนั่นคือ...ทอง?"
"รวยแล้ว พวกเรารวยแล้ว!"
พวกเขาเหล่านั้นได้ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น คนอื่นๆคงจะติดตามซังจินลงมา ซังจินได้มองไปที่พวกเขา ทั้งสามคนได้แสดงอาการร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าชาวภูเขาไม่ได้แสดงออกเช่นคนอื่ขๆมีเพีงตาของเขาที่โตขึ้นเท่านั้น ดูเหมือนเขาก็ถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเหล่านี้
จอมเวทย์เขียวได้วิ่งเข้ามาและเก็บสร้อยคอเพรชเข้าไปในลูกบาศก์ ซังจินมองไปที่เขาด้วยสายตาที่แคบลง
"ทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น...'
แต่เมื่อเขาวางสร้อยคอไว้บนลูกบาศก์ ด้านล่างของลูกบาศก์ก็เปิดขึ้นและสร้อยก็ตกลงไปบนพื้น
'นายไม่สามารถจะเอามันกลับไปได้แม้แต่ชิ้นเดียว...'
เขาได้พยายามมันครั้งแล้วครั้งเลา แต่ว่าไอเทมที่ไม่ได้เป็นเจ้าของจะถูกปฎิเสธโดยลูกบาศก์ ซังจินได้ปล่อยเขาเอาไว้ตามลำพังและเดินลึกเข้าไปในห้อง
ด้านในนั้นมีหมวกแหลมสูงของจอมเวทย์วางเอาไว้อยู่ ซังจินได้หยิบมันขึ้นมาและจากนั้น
"นายเป็นใคร?"
หมวกได้พูดกับเขา ซังจินก็ได้ตอบกลับไปโดยที่ไม่ประหลาดใจเลย
"ฉันเค เป็นนักล่า"
"...หืมมมม จริงหรอ? นายไม่ได้แปลกใจเลยกับการปรากฏตัวของฉัน นายจะต้องเป็นนักล่าทีมีประสบการณ์มาก"
'มีประสบการณ์...ใช่แล้ว...นี้มันเป็นครั้งที่สองของฉัน..'
หมวกเวทย์ยังคงพูดออกมาต่อ
"ฉันไม่รู้ว่านายเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ถ้าเป็นไปได้ออกไปซะ เจ้าของหอคอยเริ่มที่จะบ้าคลั่งมากๆยิ่งขึ้น สิ่งที่อันตรายมันอาจจะเกิดขึ้นได้"
สิ่งที่อันตรายมันได้สิ้นสุดไปแล้ว
"ฉันรู้ ถ้านายหมายถึงเรนินละก็ ฉันได้ฆ่าเขาไปแล้ส"
"ฆ่า?"
ซังจินหยักหน้ารับ
"ใช่ ฉันฆ่าเขา"
หมวกได้เงียบไปเป็นเวลานาน
"งั้น...ความบ้าคลั่งก็ได้จบลงแล้ว?"
ซังจินหยักหน้ารับ
"ใช่ เขาได้เสียสติไปหมดแล้ว ในความบ้าของเขา เขาได้ทำลายเมืองทิ้งไปและเริ่มทดลองสสิ่งแปลกๆในหอคอย"
"ทดลอง...นายหมายถึงการรวมสายพันธุ์ที่ต่างกัน?'"
"ใชดังนั้นในตอนท้าย...เกิดอะไรขึ้น..."
บทสนทนาของหมวกได้เปลื่ยนไปอย่างมากจากตอนแรก
'ฉันคิดว่าในครั้งนั้นที่ฉันเจอกับเขา เขาได้เพิ่มสเตตัสฉันนิดหน่อย...ฉันจะต้องพูดยังไงให้เขาทำมันอีกครั้ง?'
ในขณะที่ซังจินกำลังพยายามนึกถึงเรื่องในอดีต หมวกเวทย์ก็ได้กล่าวกับเขา
"เรนินเป็นเพื่อนของฉัน"
มันเป็นคำพูดที่แฝงไปด้วยความเสียใจ ซังจินจึงตัดสินใจที่จะฟังเขา
"ในครั้งแรกที่เขาได้รับมอบหมายให้มาเมืองนี้ เขาได้ปกป้องเมืองนี้จากมอนสเตอร์และได้รับความนับถือ แต่เขาก็เปลื่ยนไปเมื่อเขาทำภารกิจเสร็จและกลับไปเมืองหลวง"
ในตอนที่เขาคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็จำคำพูดนี้ได้ แต่ซังจินก็ยังคงฟังเรื่อวราวอย่างเงียบๆ
"อาจารย์ที่เมืองหลวง 'ออคินแห่วมหาสมุทรสีน้ำเงิน' เป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้เลือกเรนินเป็นศิษย์ เขาได้เลือกเด็กที่ไหนไม่รู้มาแทน"
ซังจินรู้สึกได้ว่ามีคนได้เดินมาจากด้านหลัง นักล่าคนอื่นๆได้มาถึงและมาฟังเรื่องราวนี้
"เขาได้อุทิศทั้งชีวิตให้กับอาจารย์คนนี้...และในตอนแรกเขาก็พยายามที่จะทำความเข้ามจกับสิ่งที่อาจารย์เลือก...แต่เขาก็ไม่เคยเอาชนะความรู้สึกที่ถูกปฏิเสธและเขาก็ได่สูญเสียจิตใจไปช้าๆ และในที่สุดเขาก็ได้ข้ามเส้นมาทดลองเวทย์ต้องห้าม..."
หมวกได้หยุดพูดในขณะที่ฝืนห้ามอารมณ์ของเขา
"ฉันพยายามจะหยุดเขา...และได้จบลงเช่นนี้หลังจากที่พ่ายแพ้เขา นักล่า ฉันขอขอบคุณสำหรับการที่หยุดเขาแทนฉัน"
ซังจินได้ก้มหัวรับคำขอบคุณ จากนั้นหมวกก็กล่าวต่อ
"และฉันก็อยากจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ ดังนั้นฉันอยากจะมอบพลังเวทย์ที่เหลืออยู่ให้แก่นาย นายจะยอมรับไหม?"
ถ้าเขาคิดถึงในอดีตบทสนทนามันจะต่างกันเล็กน้อย เมื่อในอดีตตอนที่เขาพบเจอกับหมวกมันเป็นในตอนก่อนที่เขาจะฆ่าเรนิน
'รับพลังเวทย์บางส่วนจากฉัน ได้โปรดฆ่าเพื่อนของฉันเรนินแทนฉันที'
มันมีบางอย่างที่เกิดขึ้นในทางใดทางหนึ่ง จากนั้นซังจินก็หยักหน้ารับ
"ฉันจะขอรับมันไว้ด้วยความเต็มใจ
หมวกได้จากลงไปครู่หนึ่งและแสงสีฟ้าก็ได้ส่องมาที่ซังจิน จากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ได้ประกาศออกม
[คุณได้รับแต้มสเตตัส 5000 แต้ม]
เมื่อได้รับรางวัลแล้ว ซังจินก็เตรียมตัวจะวางหมวก แต่แล้วหมวกก็ได้ถามเพิ่มออกมา
"คนที่ยืนอยู่ข้างหลังนาย...พวกเขาใช่พรรคพวกของนายหรือป่าว?"
ซังจินได้มองกลับไป ที่ด้านหลังเขาชาวภูเขาและนักล่าทั้งสามคนกำลังดูอยู่
เขาไม่สามารถจะใช้ไทดท์เพื่อที่จะอ่านจิตใจได้ แต่ว่าท่าทางความคิดของพวกเขาสามารถจะได้ยินได้อย่างชัดเจน
'ขอร้องหละ ได้โปรดพูดว่าใช่"