ตอนที่แล้ว288 ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป290 เม็ดยาจิ่วเฉา

289 เรื่องยุ่งยาก ยาใหม่


289 เรื่องยุ่งยาก ยาใหม่

หลังจากที่ศึกษาตำราการฝังเข็มได้สักพัก หวังเย้าก็หยิบมือถือของเขาขึ้นมา และคิดเกี่ยวกับเรื่องการสอบของเขา เขาสงสัยว่า ผลสอบน่าจะประกาศออกมาแล้ว

หลังจากที่ตรวจดูผลสอบแล้ว เขาก็อึ้งไป

ฉันสอบไม่ผ่านได้ยังไงกัน?

เมื่อมองไปที่คะแนนสองคะแนนที่แสดงอยู่บนหน้าจอมือถือของเขาแล้ว หวังเย้าก็ตรวจดูชื่อและเลขที่ของเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

มันไม่มีอะไรผิดพลาด มันเป็นผลคะแนนของเขาจริงๆ

แต่ปัญหาก็คือ คะแนนของเขาน้อยขนาดนี้ได้ยังไง? มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง คือกระดาษคำตอบของเขาหล่นหาย หรือไม่ก็คนที่ตรวจข้อสอบของเขาเรียนพละมา

ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่านั้น

ต้องจัดการแก้ไขเรื่องนี้!

เขาหยิบมือถือและกดโทรออกหาเหอฉีเชิง

“มันจะต้องมีปัญหาแน่นอน ผมจะช่วยคุณจัดการเรื่องนี้ให้เองครับ” หลังจากที่วางสายแล้ว เหอฉีเชิงที่อยู่ปลายสาย ก็มีใบหน้าที่มืดมน

เขาได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว และผลลัพธ์ก็คือไม่มีปัญหาอะไรเลย

ในเมืองจี้ เหอฉีเชิงก็ได้เจอตอเข้า คนที่เขาวางใจให้จัดการเรื่องนี้ ได้บอกกับเขาว่าปัญหานี้จัดการได้ค่อนข้างยาก ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีคนกำลังหาเรื่องใส่ตัวเองอยู่

เขาเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้อง ในครั้งนี้ เขาได้ใช้ชื่อตัวเองในการจัดการ ถึงแม้ว่ากั๋วซือหรงจะเข้ามาจัดการเอง เธอก็คงจะไม่สามารถมอบผลประโยชน์ที่น่าพอใจให้กับคนคนนั้นได้ ในตอนแรก เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากอะไรในการจัดการกับปัญหานี้ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นความผิดพลาดขึ้นมาได้

หรือฉันจะต้องไปขอร้องคนคนนั้นจริงๆ

...

ภายในที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งในเมืองจี้

โอ้ย ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูราวกับคนติดบุหรี่ ได้ก้าวเดินราวกับกำลังเหยียบอยู่บนก้อนเมฆ เขาดูคล้ายกับคนที่สามารถถูกลมพัดปลิวไปได้ทุกเมื่อ เขาใช้ผนังในการพยังตัวและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

คนคนนั้นก็คือหลี่เชาหยาง หลังจากที่ต้องทรมานจากการอาเจียนและท้องเสีย ทั้งยังต้องเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลถึงสองครั้ง คนเจ้าชู้ที่เคยดูดี ในตอนนี้น้ำหนักของเขาได้หายไปกว่า 30 กิโล เขายังมีอาการเบื่ออาหาร(Anorexia โรคเบื่ออาหาร)และไม่มีความอยากอาหารเลย สภาพของเขาในเวลานี้ดูราวกับผีดิบยังไงยังงั้น

ร่างกายของเขาอ่อนแรงมาก ไม่เพียงแค่เขาจะมีแรงเหลือไม่มากเท่านั้น แต่ภายในร่างกายของเขายังร้อนราวกับมีไฟเผาอยู่ภายในท้องของเขา

“เฮ้อ!” พ่อของหลี่เชาหยางมองไปที่ลูกชายของตัวเองด้วยความโกรธ แต่ก็รู้สึกสงสารลูกชายไปในเวลาเดียวกัน

“พี่ใหญ่อย่ากังวลไปเลย อาการของเชาหยางอีกไม่นานก็จะดีขึ้นแน่นอน” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆปลอบเขา

“อืม ฉันพึ่งได้รับสายมาเมื่อกี้ว่ามีคนต้องการคุยเรื่องของหวังเย้า แต่ฉันก็ปฏิเสธเขาไปแล้ว”

“ใครเหรอ?”

“เขาชื่อว่า เหอฉีเชิง”

“เหอฉีเชิงเหรอ?” หลังจากที่ได้ยินชื่อแล้ว น้องชายของหลี่เย้าเฉิงก็นิ่งคิดไป จากนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที “ที่ปรึกษาของตระกูลกั๋ว”

“ตระกูลกั๋ว? ตระกูลกั๋วไหนเหรอ?” หลี่เย้าเฉิงสะดุ้ง

“พี่ใหญ่ ในเมืองจี้แห่งนี้ พี่คิดว่ายังจะมีตระกูลกั๋วไหนอีกล่ะ?!”

หลี่เย้าเฉิงใช้ความคิด แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

“จะเป็นไปได้ไหมว่า เขาจะเกี่ยวข้องกับคนคนนั้น?”

“ไม่หรอก ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่มาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองแบบนี้หรอก บางที เขาอาจจะร็จักกับหวังเย้าเป็นการส่วนตัวก็ได้ แต่เราก็ต้องระวังเรื่องนี้ให้ดี เราไม่ควรท้าทาย”เทพ“เด็ดขาด”

“โอเค”

จุดสิ้นสุดของเรื่องนี้ ได้ดำเนินไปในจุดที่อาจจะทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง มันได้กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย

...

หวังเย้ากำลังกลั่นเม็ดยาอยู่บนเนินเขาหนานชาน นี่คือสิ่งที่เขาคิดจะทำตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว การทำยาในครั้งนี้ เขาตั้งใจทำมันขึ้นมาเพื่อตากับยายของเขาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นยาที่สามารถนำออกมาใช้ในยามฉุกเฉินได้ เช่นสถานการณ์ที่ตาของเขาเป็นลมแดดในตอนนั้น

ยาอายุวัฒนะที่เขาได้ไปบางส่วนแล้วนั้น เขายังได้แบ่งมันให้กับพ่อแม่และพี่สาวของเขาคนละหนึ่งเม็ดด้วย เขายังย้ำเตือนพวกเขาเอาไว้ด้วยว่า พวกเขาสามารถใช้มันกับตัวเองเท่านั้น และห้ามบอกเรื่องนี้กับคนอื่นๆ

เมื่อเทียบกับยาอายุวัฒนะที่ล้ำค่าแล้ว ยาที่เขากำลังทำอยู่นี้มีความธรรมกว่ามาก และเขาก็ได้เลือกสมุนไพรสำหรับทำยาในครั้งนี้เอาไว้แล้ว

หลินจือ, โสม, รากชะเอม, สมุนไพรดอกแสงจันทร์ และกุยหยวน

ถึงแม้มันจะมีสมุนไพรรากอยู่แค่สองชนิด แต่พวกมันก็เป็นสมุนไพรที่ล้ำค่าอย่างมาก นอกจากนี้ สมุนไพรตัวอื่นก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรป่าทั้งนั้น

สมุนไพรเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องนำไปบดให้ละเอียดก่อนที่จะนำไปใช้ต่อไป จากนั้น ต้องนำไปกรองกับตะแกรงเพื่อให้มีความละเอียดมากขึ้น และขั้นตอนต่างๆเหล่านี้ก็ต้องทำซ้ำๆอยู่หลายครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่หากได้หมกมุ่นอยู่กับมันแล้ว ก็จะพบว่ามันมีความสนุกแฝงอยู่ในขั้นตอนเหล่านี้ด้วย

เช่นเดียวกับที่หวังเย้าเป็นอยู่ในเวลานี้ เขาใช้วิธีสังเกตสมุนไพรที่ถูกบดจนละเอียดเหล่านี้ ด้วยการมองและการดมกลิ่น เขาพยายามจดจำจุดเด่นของสมุนไพรและใช้ข้อมูลที่ได้จากระบบมาช่วยยืนยันความถูกต้องอีกที และเขาก็ยังได้ค่าประสบการณ์จากการทำแบบนี้ด้วย

นอกจากนี้ การบด, การกรองและการนวดสมุนไพรก็ยังจำเป็นต้องมีทักษะอยู่พอสมควรด้วย ทักษะเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เหมือนที่คนพูดกันว่า การฝึกฝนสร้างความสมบูรณ์ และนั่นก็คือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการฝึกฝนนี้

สมุนไพรถูกเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว หวังเย้าก็ยังไม่ได้รีบฝึกฝนการทำเม็ดยาแต่อย่างใด แต่เขากลับมองดูสมุนไพรจำนวนมากที่เขาเคยเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ และยังไม่นำมันเอาไปใช้ พวกมันถูกใส่เอาไว้ในถาดและถูกนวดไปมา

สมุนไพรที่อยู่ภายในตะกร้าดูบางเบา แต่ความจริงแล้ว การที่จะใช้งานสมุนไพรเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะและความรู้จำนวนมาก

นวดแรงๆ, นวดเบาๆ, โยนขึ้นลง, นวดกลับไปกลับมา

หวังเย้าถือว่าขั้นตอนนี้ถือเป็นการฝึกฝนการใช้มือและอุ่นเครื่องไปในตัวด้วย ส่วนการกลั่นยาออกมาเป็นเม็ดเรียบร้อยแล้ว หวังเย้าก็เคยได้ทดลองตัวยามาก่อนแล้ว และมันถือเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งจากการที่ได้ทดลองกับตัวเองก่อน เขาเก็บยาเอาไว้ส่วนหนึ่ง แล้วนำที่เหลือไปละลายกับน้ำและใช้รดน้ำต้นไม้กับสมุนไพรในแปลง

เมื่อเขาทำความคุ้นเคยกับขั้นตอนพอสมควรแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้วเช่นกัน

เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า หวังเย้าก็คิดกับตัวเองว่า ฉันค่อยทำยาพรุ่งนี้ก็แล้วกัน

นอกจากจะให้ความสำคัญกับสมุนไพรที่ใช้แล้ว ส่วนสำคัญในการทำยาก็ยังมีเรื่องของเวลาที่เหมาะสม, สถานที่ที่เหมาะสม และคนที่เหมาะสม

สภาพอากาศที่เลวร้ายเช่น พายุและอากาศที่ร้อนอบอ้าวนั้นไม่เหมาะสำหรับการทำยา นอกจากนี้ ห้องที่ปิดทึบและไม่มีแสงส่องเข้าก็ไม่เหมาะสำหรับการทำยาเช่นกัน สุดท้าย คนที่ขาดความเข้าใจแก่นแท้และจิตใจไม่มั่นคงก็ไม่เหมาะสมที่จะทำยาเช่นกัน

ข้อกำหนดเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องปฏิบัติตาม

พรุ่งนี้เช้า เขาจะทำยาและตอนกลางวันเขาก็จะออกไปข้างนอก

ในตอนเย็น หวังเย้าได้ลงไปจากเนินเขาและกลับไปที่บ้าน ในระหว่างมื้ออาหาร หวังเย้าก็ได้ฟังเรื่องที่พ่อแม่ของเขาพูดคุยกัน เกี่ยวกับเรื่องการสอบของเด็กนักเรียนในหมู่บ้านในปีนี้

ผลการสอบได้ถูกประกาศออกมาแล้ว ซึ่งคะแนนของหนึ่งในคนที่ทำข้อสอบก็ออกมาดีมาก และยังดีกว่าผลสอบที่หวังเย้าเคยทำเอาไว้อีกด้วย

“ฉันได้ยินมาว่าลูกชายของเฟิงหลง ได้จดหมายตอบรับจากมหาลัยชิงหัวด้วยนะ”

มันเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศ ในเมืองเหลียนชานแห่งนี้ การที่จะผลิตนักเรียนชั้นยอดออกมาได้ในแต่ละปีก็แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากอยู่แล้ว การที่เด็กในหมู่บ้านในหุบเขาแบบนี้สามารถสอบได้คะแนนสูง จึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“เห็นหน้าแม่ของเขามีความสุขมาก และยังยิ้มให้ทุกคนไปทั่ว”

“ก็เป็นเรื่องดีนี่ครับ ไม่แปลกที่เขาจะยิ้มมีความสุข” หวังเย้าตอบ

ตอนที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ พ่อแม่ของเขาก็อารมณ์ดีตลอดทั้งวัน และตอนที่พวกเขาได้รับคำชื่นชมจากชาวบ้าน ไม่ต้องเดาเลยว่าพวกเขาจะทำหน้าแบบไหน

“แม่ยังได้ยินมาว่า ทางเมืองแล้วก็เขตจะมอบรางวัลให้เขาด้วยนะ”

“ก็มันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะเห็นกันบ่อยๆนี่ครับ ทุกๆปี เด็กที่สามารถเข้าเรียนในมหายาลัยชิงหัวกับมหาลัยปักกิ่ง ก็จะได้รับรางวัลจากทางเขตอยู่แล้ว ส่วนหนึ่ง มันก็เป็นการให้กำลังใจกับเด็กนักเรียน แล้วพวกเขาก็ยังถือว่าเป็นการลงทุนอีกแบบหนึ่งด้วยนะครับ” หวังเย้าอธิบายด้วยรอยยิ้ม

ในเวลาเดียวกันนี้ ในครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน

พวกเขาได้พบปะผู้คนที่มาเพื่อแสดงความยินดีกับพวกเขา และกำลังทานอาหารค่ำกันอย่างมีความสุข ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาต่างก็รู้สึกยินดีกับการที่ลูกชายของพวกเขาสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชิงหัวได้

“เหอ บอกพ่อมาซิ ว่าลูกอยากได้อะไร?”

“พ่อ ผมเคยบอกพ่อไปแล้วนี่ครับ ว่าผมอยากได้มือถือน่ะ” เด็กชายที่สวมแว่นตาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“โอเค ไม่มีปัญหา!”

“เหอ แม่ขอบอกลูกเอาไว้ก่อนเลยนะ เมื่อลูกไปอยู่ปักกิ่งแล้ว ลูกจะต้องตั้งใจเรียนให้หนักและหางานดีดีทำในอนาคต อย่าเป็นเหมือนกับหวังเย้า ที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดังๆได้ แต่กลับมาปลูกสมุนไพรที่หมู่บ้านอยู่แบบนี้” แม่ของเขาพูด

“นี่ ลูกเราไม่มีทางเป็นเหมือนเขาอยู่แล้วล่ะ” หวังเฟิฝหลงตอบ

แม้แต่ตอนนี้ ก็ยังมีชาวบ้านบางคนที่เอาเรื่องของหวังเย้า มาใช้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีในการสอนลูกหลานของพวกเขาอยู่ แม้ว่าเขาจะอยู่เงียบๆในที่ของตัวเอง แต่ก็ยังคงถูกนำชื่อวิพากษ์วิจารณ์อยู่ดี

ถ้าหากหวังเย้ามาได้ยินเข้า ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ก็เป็นเพียงแค่เหตุการณ์เล็กๆเท่านั้น ทุกครอบครัวก็ยังคงใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็นต่อไป

เช้าของวันต่อมา หวังเย้าได้เริ่มต้นการทำยาเม็ด

เขาโรยสมุนไพรผงลงไปและฉีดพ่นน้ำตามลงไปเล็กน้อย ซึ่งน้ำที่ใช้นั้นไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นน้ำแร่โบราณที่ผสมไว้ด้วยสมุนไพรดอกแสงจันทร์ จากนั้น เขาก็นวดสมุนไพรในถาด

เมื่อตัวยาถูกนวดพับไปพับมาอย่างต่อเนื่อง มันก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นและมีขนาดพอๆกับเม็ดข้าว

จากนั้น หวังเย้าก็โรยสมุนไพรผงลงไปเพิ่มและทำเช่นเดิมซ้ำไปซ้ำมา เมื่อตัวยาถูกนวดอยู่ซ้ำๆหลายครั้ง ขนาดของเม็ดยาในถาดก็เริ่มใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ผลมันจะออกมาเป็นแบบไหนกันนะ?

หลังจากที่เดินออกมาจากกระท่อมแล้ว หวังเย้าก็เรียกสุนัขของเขา “ซานเซียน”

“มา มาลองชิมนี่ดูหน่อย”

อู้วว! ซานเซียนจ้องยาที่หวังเย้าใช้นิ้วมือบิออกมาจากยาเม็ด และส่งเสียงครางออกมา

“มันเป็นของดีนะ ลองชิมดูสิ”

ในที่สุด หวังเย้าก็ยัดยาใส่ในปากของซานเซียนได้สำเร็จ

หลังจากที่กินยาเข้าไปแล้ว ซานเซียนก็ยืนนิ่งและแล่บลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของมัน

“นายรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” หวังเย้าสังเกตท่าทีของซานเซียนอย่างระมัดระวัง

ในความเป็นจริง เขารู้อยู่แล้วว่ายาเม็ดนี้ไม่มีผลข้างเคียง นอกจากฤทธิ์ของโสมที่ค่อนข้างแรงแล้ว สมุนไพรตัวอื่นๆต่างก็มีฤทธิ์อ่อนทั้งหมด

HNY2020!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด