ตอนที่แล้วChapter 61 – Tahrakhan Plateau (6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 63 – Tahrakhan Plateau (8)

Chapter 62 - Tahrakhan Plateau (7)


Chapter 62 - Tahrakhan Plateau (7)

แมนติคอร์ยังอยู่ไกลออกไป ซังจินจึงหยิบหนังสือขึ้นมาและตัดสินใจอ่านมัน

"กวนอูได้รู้สึกระมัดระวังเมื่อเขาได้ยินเสียงรั้งสายะนู แต่แล้วก็ไม่มีลูกธนูถูกจิงออกมา เขาจึงได้ไล่ตามผู้นั้นไปเรื่อยๆจนถึงสะพาน แต่แล้วในตอนนั้นเองก็ได้มีลูกธนูพุ่งออกมาและตัดสายรัดหมวกของเขาลง

วันเวลาในตอนนี้ผ่านไปได้นานกว่าปกติ

"ในตอนนั้นเองมันจึงได้ทำใผ้กวนอูรู้ว่าเขาผู้นั้นมีทักษะที่สามารถจะยิงได้แม้แต่ใบไม้ที่ร่วงลงมาในระยะ 100 ก้าวและเขาก็เอาชีวิตรอดไปได้"

ในขณะที่ซังจินกำลังอ่านหนังสือนั้น แมนติคอร์ก็ได้มาถึงด้านบนของยอดเขาใกล้ๆกับทางเข้าถ้ำและคำรามออกมา

"ก๊าซซ~"

แต่ซังจินก็ได้อ่านบทนั้นสำเร็จแล้ว

[การสิงสถิตของฮองตงทำงานแล้ว]

[ทักษะติดตัว การบุกรุก(IV) ความเร่ง(II) ใช้งานแล้ว]

ในขณะที่ลูกบาศก์กำลังประกาศอยู่แมนติคอร์ก็ได้กระโดดลงมาจากยอดเขาและโจมตีที่ซังจิน เขาจึงจำเป็นต้องพลิกตัวหลบการโจมตีนั้นไป

[ทักษะใช้งาน - ธนูชินกง ใช้งานในทันที]

'ธนูชิงกง...'

ในขณะที่ซังจินพยายามจะเข้าใจในชื่อของทักษะนั้น แมนติคอร์ก็ได้เหวี่ยงกรงเล็บเข้าใส่ซังจิน

"ก๊าซ!"

การโจมตีนี้มันมีความเร็วเป็นยากมาก แม้ว่าซังจินจะมีทักษะ ความเร่ง อยู่เขาก็ไม่สามารถจะหลบมันได้พ้น

"เคร๊ง"

กรงเล็บของมันได้ปะทะเข้ากับดาบของซังจิน แม้ว่าเพียงแค่การปะทะเพียงเล็กน้อยก็มีความเสียหายเป็นอย่างมาก จากนั้นแมนติคอร์ก็เหวี่ยงแขนซ้ายตามมาอย่างรวดเร็ว

"เคร๊ง~"

จากนั้นจู่ๆมันก็หันหลังให้กับซังจิน

'ทำไม...'

ในขณะที่ซังจำกำลังสงสัยในสิ่งที่มันทำ ทันใดนั้นหางก็ได้พุ่งเข้ามาใส่เขา มันมีเข็มเหล็กแหลมยาวโผล่ออกมาจากหาก สิ่งนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะป้องกันมันได้ด้วยดาบ

ซังจินกลิ้งตัวลบอย่างด้วยเร็ว เบื้องหลังของเขาเป็นหน้าผาสูงดังนั้นเขาจึงกลิ้งหลบถอยหลังไปเพียงไม่กี่ครั้ง ในขณะเดียวกันเขาก็คิดไปถึงทักษะ ธนูชินกง เขาไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้ แต่เขาคิดว่ามันจะต้องเป็นทักษะระยะไกลแน่นอน แมนติคอร์ตามซังจินเข้ามาต่อเพื่อไม่ให้เขามีเวลาตั้งตัว

"กรร~"

มันกระโดดขึ้นไปบนฟ้าและกางปีกขึ้นบินเข้ามาหาซังจิน มันดูไม่มีข้อจำกัดในพื้นที่เลย มันได้บินเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง

พร้อมด้วยความเร็วในการบินที่เร็วแบ้ว มันก็ยังมีกรงเล็บที่แหบมคมหน้าหวาดหวั่นตามมาด้วย กรงเล็บของมันได้พุ่งเข้ามาหาซังจินทั้งสองทางปิดทางหลบหนีของเขาจนหมด ซังจินจึงไม่มีทางเลือกไก้แต่ใช้ทักออกมา

"แข็งตัว"

"ตูม"

เสียงของการปะทะกันได้ดังออกมา

"ครื๊ดดดด"

เสียงครูดกันได้ดังออกมารอบๆอากาศ มันเป็นเสียงที่เสียดหูเป็นอย่างมาก หลังจากการปะทะนั้นซังจินก็ได้จ้องมองไปที่แมนติคอร์ แมนติกอร์ก็จ้องกลับคืนมา ในตอนนี้พวกเขากำลังมองตาของกันและกัน

"กรร..."

แมนติคอร์มองไปอย่างประหลาดใจ ราวกับมันกำลังคิดอยู่

'มีมนุษย์ที่สามารถจะป้องกันการโจมตีนั้นได้'

จากมันแมนติคอร์มันก็ได้กระโดดขึ้นไปบนอากาศอีกครั้งและเหวี่ยงหางไปรอบๆ เข็มจำนวนนับไม่ถ้วนจากห่างได้พุ่งเข้าไปใส่ซังจิน

มันเหมือนกับลูกแก้วน้ำแข็งของลิซในบทที่สาม แต่ในตอนนี้ไม่มีเคนที่จะมารับการโจมตีแทนเขาและทักษะ 'แข็งตัว' ก็กำลังคูลดาวอยู่

ซังจินไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ก้มตัวลงต่ำและใช้เบสโกโร่และฟรีอาคป้องกันการโจมตีนี้

"ฟึบ ๆๆๆ'

เข็มได้หล่นลงรอบๆเขา มีเข็มเล่มหนึ่งที่สามารถจะผ่านการป้องกันและเจาะเขามาที่แขนขวาเขา

'อึก'

มันผ่านมานานแล้วตั้งแต่ที่เขาได้รับดาเมจครั้งสุดท้าย และมันก็เจ็บมาก ทันใดนั้นเองอยู่ๆแขนขวาของเขาก็ไม่ตอบสนอง

'อัมพาต?'

เขาจะไม่สามารถต่อสู้ได้หากว่าแขนขวาของเขายังเป็นอัใพาตอยู่ ซังจินจึงยืนขึ้นและรีบลบสถานนะนั้นออกไปในทันที

"ฟรีอาร์ค"

โว่ที่อยู่บนมือของเขาได้ส่องแสงออกมาครู่หนึ่งและอัมพาตก็หายไป ในขณะเดียวกันแมนติคอร์ก็ได้ลงสู่พื้น

"บูมม"

มันได้ลงมายืนบนเนินเขาและยิ้มออกมาให้เขา

'เป็นยังไงหละ เจ็บไหม'

มันดูเหมือนจะยั่วเขา มันได้ทำให้ซังจินเริ่มจะโกรธแล้ว และจากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ได้เริ่มนับถอยหลัง

[ผลของการสิงสถิตจะหมดลงในอีก 10 9]

ซังจินได้เก็บกลับเข้าไปในฝัก ตอนแรกเขาวางแผนที่จะใช้กับคนในอีกมิติหนึ่ง แต่แล้ว

"ก๊าซ"

แมนติคอร์ก็ไก้กระพือปีกบินมาหาเขา ซังจินได้ถือดาบบลัดเวเจนไว้ในมือซ้าย ในขณะที่มือขวากำลังค่อยๆชักมูนสเปคออกมา

"เสียงคร่ำครวญของคนตาย=

ครู่ต่อมา

"กรี๊ดดดดดดด~~"

เสียงกรีดร้องที่ดังอย่างหน้าเหลือเชื่อได้ดังออกมาจนทั่วทั้งท้องฟ้า ใบหน้าของแมนติคอร์ได้แปรเปลื่ยนกลับกลายเป็นหวาดกลัวและมันก็บินหนีไป มันดูน่าอับอายอย่างมากในตอนที่มันหนีไป

'และมันได้เรียกตัวเองว่าราชา...'

ซังจินต้องการจะเฝ้าดูการหลบหนีอย่างน่าอับอายของแมนติคอร์ต่อ แต่แล้ว

[5 4 3]

เขาแทบจะไม่เหลือเวลาที่จะใช้การสิงสถิตอีกแล้ว เขาไม่สามารถจะปล่อยให้การสิงสถิตหมดไปได้โดยที่ยังไม่ใช้ทักษะ เขาเลยตะโกนออกมา

"ธนูชินกง"

จากนั้นลูกธนูสามลูกได้ปรากฏขึ้นมากลางอากาศและพุ่งออกไป

'หืมม?

ซังจินเอียงหัวลง เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ยิงธนูมากนัก แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่าวิถีของธนูนี้ที่ยิงออกไปมันดูแปลกๆ ลูกธนูมันพุ่งไปในทางซ้ายของเส้นทางหนีของแมนติคอร์ หากมันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปลูกธนูทุกดอกก็จะพลาดเป้า

'ฉันว่า...'

ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถโจมตีแมนติคอร์ด้วยระยะไกล เขาก็จะต้องเข้าไปปะทะซึ่งๆหน้า ซังจินจึงดึงดาบออกมาและวิ่งไล่ตามหลังของแมนติคอร์ แต่ทันใดนั้นเบสโกโร่ก็กล่าวออกมา

'จงดู'

"ก๊าซ"

แมนติคอร์ผู้ซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ ทันใดนั้นมันก็หันมาในทางซ้าย เบสโกโร่ก็กล่าวต่อ

'ทั้งสามดอก'

หลังจากนั้นสั้นๆ ลูกธนูดอกแรกก็ได้ปักลงบนหางของมัน และอีกสองดอกที่เหลือก็ได้ไปปักที่ปีกแต่ละข้าง

หางได้ขาดออกไป และแมนติคอร์ก็อาจจะไม่สามารถบินได้อีกต่อไป

"การล้างบาปของโลหิต"

บลัดเวเจนได้เรืองแสงสีแดงออกมา และเขาก็ได้ไล่ตามต่อไปในขณะที่ร่ายเวท

ก่อนที่ซังจินจะกล่าวเบสโกโร่ก็ได้ร่ายเวทออกมาเช่นกัน ซังจินจึงรีบๆร่ายตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

"จงพันธนาการศัตรูด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"

"จงพันธนาการศัตรูด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"

เวทมนตร์ได้ร่ายเสร็จออกมาพร้อมกันในระยะเวลาสั้นๆ และมันก็ไก้แสดงผลของการพันธนาการออกมาพร้อมๆกัน แมนติคอร์ได้ถูกหยุดลงด้วยน้ำแข็ง

มันหันกลับมามองที่ซังจิน ใบหน้าของมันดูเหมือนกำลังหวาดกลัวก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะ 'เสียงคร่ำครวญของคนตาย' หรือเพราะสไาพแวดล้อมเขาก็ไม่สามารถจะบอกได้

มันได้ขยับเท้าเพื่อที่จะเข้ามาเผชิญหน้ากับซังจิน แต่มันก็ช้าเกินไป ในที่สุดซังจินก็พบโอกาสและดาบของเขานั้นก็ไม่รู้จำคำว่าปราณี

ซังจินได้เปลืยนให้เนินเขานี้กลับกลายเป็นเต็มไปด้วยเลือดของมอนสเตอร์ มอนสเตอร์ผู้ที่ข่มขู่คุกคามมอนสเตอร์ตัวอื่นๆและผู้ที่มีฉายาว่าเป็นราชาแห่งที่ราบสูงนี้มันได้ตายลงในขณะที่กำลังหวาดกลัวซังจิน

[บอสลับแมนติคอร์ได้ถูกกำจัดแล้ว]

โอเปอเรเตอร์ได้ประกาศออกมาอย่างยินดีและซังจินก็ถอนหายใจออกมา

"วูว~"

ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน การจะจัดการบอสลับก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จากนั้นซังจินก็ได้สลัดดาบเพื่อเอาเลือดออกจากใบดาบ เบสโกโร่ได้มองดูเลือดรอยไนอากาศและแสดงความคิดเห็นออกมา

'ดี ยอดเยี่ยม นี่ไงเลือดของข้าเดือดแล้ว ไปล่าศัตรูตัวอื่นต่อเถอะ'

เบสโกโร่นั้นบ้าเลือดไปแล้ว แต่ซังจินก็ยังคงใจเย็นอยู่เขาได้เก็บดาบเข้าฝักอีกครั้งและกล่าวถามโอเปอเรเตอร์

"โอเปอเรเตอร์เหลือเวลาอีกเท่าไหร่"

[คุณจะกลับสู่ตลาดมืดในอีก 41 นาที 57 วินาที]

'ใช้แล้ว เรายังมีเวลาอีกเหลือเฝือ ไปล่าพวกฮาปี้ที่เหลือรอดจากก่อนหน้านี้กันเถอะ...มันควรจะเหลืออยู่อีกมาก อย่าได้ไปเสียเวลาอีกเลย'

เบสโกโร่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากแต่ซังจินก็กล่าวออกมา

"รอก่อนเบสโกโร่ พวกเรากำลังจะไปที่อื่นกัน"

'ที่อื่น?'

"ใช่แล้ว"

'ที่ไหนหละ'

"...มันยังคบเป็นที่ราบสูงอยู่แหละนะ...แต่ว่าจะเป็นมนอีกมิติหนึ่ง"

'มันจะมีศัตรูมากไหม?'

"มันจะมีศัตรูแน่นอน และศัตรูมันก็จะเป็นมนุษย์"

ด้วยคำพูดนี้ เบสโกโร่ก็ร่าเริงขึ้นทันที

'มนุษย์ ? เยี่ยมยอด สมบูรณ์แบบไปเลย'

ดูเหมือนว่าเบสโกโร่ที่อาศัยอยู่ในสนามรบถึง 40 สิบกว่าปีเขาจะไม่ได้ทำเพียงแค่เพราะคำสั่งของเคาท์เดมิทรีเท่านั้น ดูเหมือนกับว่าเขาเองก็บ้าสงครามเป็นอย่างมาก

"ก่อนที่เราจะไป ฉันอยากจะเตรียมความพร้อมก่อนเป็นอยากแรก เราไม่รู้ว่าจะไปเจออะไรบ้างเมื่อไปอยู่ที่นั้น"

'ทำไมนายจะต้องเตรียมตัวด้วยเค นายแข็งแกร่ง แข็งแกร่งกว่าใครทั้งหมด'

ซังจินกล่าวตอบกลับ

"แน่นอนว่าพวกเขาอ่อนแอกว่าฉัน...แต่ว่ามันอาจจะมีศัตรู 3 ถึง 4 คน เมื่อฉันได้ไปที่นั่น มันไม่มีอะไรจะแย่ถ้าหากฉันจะใช้เวลาไปบางส่วนบ้างเพื่อที่จะเตรียมตัว"

'ฮึ..'

เบสโกโร่ส่งเสียงน่ารำคาญออกมา แต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้กลับไป เขาตระหนักดีว่าซังจินสามารถจะเอาเขาออกไปได้ตลอดเวลาถ้าต้องการซังจินเริ่มจากตรสจสอบพลังชีวิตและมานสก่อนเป็นอย่างแรก

"โอเปอเรเตอร์มานาของฉันบดไปเท่าไหร่"

[คุณมีพลังชีวิต 46912/49620]

'หืมมม?'

ซังจินเอียงหัวอย่างสงสัย เขาได้ใช้การล้างบาปของโลหิตไป มันจะลดเลือด 1000 ต่อวินาที แต่เขาได้เสียเลือดไปเพียงแค่ 3000

'ฉันคิดว่าฉันได้ใช้มันไปอย่างน้อยก็ 5 วินาทีแล้ว...'

ซังจินถามกลับมาอย่างสงสัย

"ทำไมกัน?"

จากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ได้ให้คำตอบซังจินกลับมา

[บันทึกเหตุการณ์พลังชีวิต]

[สูญเสีย : เข็มพิษจากแมนติคอร์ , บลัดเวเจน : ผลของทัักษะการล้างบาปของโลหิต]

[ได้รับ : บลัดซัคเกอร์ - ผลของทักษะดูดเลือด]

'อา...'

ซังจินเงยหน้าขึ้นฟปมองแหวนทับทินมือของเขาทันที

'ฉันพึ่งจะนึกออก...มันเป็นไอเทมที่เข้าค่กับบลัดเวเจนได้ดีจริงๆ...'

เขาสามารถใช้ผลของทักษะดูดเลือดเพื่อที่จะลดผลข้างเคืองของทักษะการล้างบาปแห่งโลลิตไปได้ เขาไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ว่าในตอนที่เขาต่อสู้อยู่อย่างน้อยมันก็ขะช่วยฟื้นฟูเลือดของเขาขึ้นมาได้

"แล้วมานาของฉันหละ?"

[มานาเหลืออยู่ 25641/44050]

เขาได้ใช่มานาออกไปเป็นจำนวนมาก แต่ว่ามันก็ได้ใช้มานาไปน้อยกว่าที่เขาคิดเอาไว้ นี่คงจะเป็นผลมากจาก 'ดูดวิญญาณ' ของดาบมูนสเปค คงต้องจะขอบคุณมันในสิ่งนี้ที่ทำให้เขาสามารถฟื้นฟูมานาไปในขณะต่อสู้ได้

จากนั้นซังจินกล่าวขึ้นกับเบสโกโร่

"ฉันจะปืนลงไปจากเขาและล่ามอนสเตอร์ในระหว่างทางด้วย มันอาจจะต้องใช้เวลานานเกินไปเพื่อรอให้ไอเทมคูลดาวเสร็จ...ดังนั้นฉันจะไปล่าฆาตกรในทันทีที่พลังชีวิตและมานาเต็ม"

'ล่าฆาตกร? ท่านกำลังบอกว่าจะไปสู้กลับมนุษย์'

เบสโกโร่รู้สึกเหมือนกับจะได้กลับไปสู้สนามรบอีกครั้ง

'อา เยี่ยม...เยี่ยมมาก...มนุษย์'

****

ซังจินถือดาบสองมือและตัดไปที่หลังของแพะภูเขา

"แบ๊ะๆ~"

แพะได้ขาดลงอย่างรวดเร็วด้วยดาบของซังจิน เขากำลังล่ามอนสเตอร์เพื่อมี่ขะฟื้นฟูมานาที่สูญเสียไป จากนั้นซังจินก็ถามกับโอเปอเรเตอร์

"โอเปอเรเตอร์มานาฉันมีเท่าไหร่แล้ว"

[44050/44050]

การเตรียมพร้อมมั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ซังจินจึงหยิบเขาหินแสวงหาฆาตกรออกมาและถือมันไว้ นี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาจะเข้าไปแทรกแซงการจู่โจมอื่น

ซังจินกลืนน้ำลายลงไปและกล่าวออกมา

"การแสวงหาความยุติธรรม"

ลำแสงจากท้องฟ้าได้ส่องโอบล้อมมาที่ตัวซังจิน และโอเปอเรเตอร์ก็ได้กล่าวกับเขา

[ทำการขอโอนย้ายมิติแล้ว]

[ก่อนที่การย้ายมิติจะเสร็จสิ้น การแจกรางวัลจะต้องทำการแบ่งเสร็จสิ้นในที่นี้]

[เริ่มต้นการแจกรางวัล]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด