ตอนที่แล้วGE344 ชื่อเสียงโด่งดังไม่เสื่อมคลาย [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE346 หยางกู่คุกเข่า [ฟรี]

GE345 ความลับของจิตวิญญาณสมุนไพร หยางกู่ผู้ตกตะลึง [ฟรี]


เมื่ออ่านความทรงจำ หนิงฝานก็รู้ทันทีว่าลู่เจี่ยเฟินอยู่ที่ไหน

มันกลับจากวังดาราด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส เมื่อมันกลับไปถึงวังผนึกอสูร มันก็เร่งเข้าเก็บตัวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทันที

หากลู่เจี่ยเฟินรู้ว่าคนของมันทำยั่วยุหนิงฝาน มันคงออกปากห้าม เพราะหนิงฝานแข็งแกร่งทัดเทียมผู้เชี่ยวกึ่งไร้ดัดแปลง ทั้งยังมีทาสในขอบเขตไร้ดัดแปลงอีก 2 ตน

เมื่อมันได้เห็นความแข็งแกร่งของหนิงฝานด้วยตา ต่อให้มันกล้ากว่านี้อีกหมื่นเท่า มันก็ไม่กล้ายั่วยุหนิงฝาน แต่ยามนี้ มันไม่รู้ว่าซื่อกู่ คนของมันคิดหวังสังหารหนิงฝาน

หนิงฝานแสดงสีหน้าเย้ยหยัน เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าลู่เจี่ยเฟินจะอธิบายเรื่องที่คนของมันก่อตั้งสมาพันธ์สังหารหมิงว่ายังไง?

ซัวหมิงกลับมาแล้ว!

เขากลับมาแล้ว!

ผู้เชี่ยวชาญในโถงหลักต่างหวาดกลัว พวกมันเร่งป้องมือและจากไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะถูกซัวหมิงสังหาร

หยางกู่เองก็ตั้งใจจะไป แต่หนิงฝานกลับรั้งชายชราไว้

“สหายเต๋าหยางเชิญอยู่ก่อน”

“เอ่อ… สหายเต๋าซัวหมิงมีสิ่งใดชี้แนะข้า! หรือสหายเต๋าจะสังหารข้าอีกคน?”

“สหายเต๋าหยางเข้าใจผิดแล้ว ได้ยินว่าท่านเป็นคนของเกาะโอสถ ข้าจึงอยากขอตำรับโอสถจากท่าน”

“ตำรับโอสถ? เกาะโอสถของข้าไม่เคยขายหรือมอบตำรับโอสถให้ผู้ใด… แต่หากท่านหมิงต้องการจริงๆ

จะสังหารข้าแล้วชิงไปก็ได้”

แม้จะไม่ได้ทรงพลัง แต่ในฐานะที่ชายชราเป็นนักปรุงโอสถ จึงมีความเย่อหยิ่งในตนเอง ต่อให้หนิงฝานคิดสังหารตน ตนก็ไม่กลัว

หนิงฝานส่ายหน้า เขาไม่ใช่คนที่จะสังหารผู้ใดอย่างไร้เหตุผล ฮวั๋งเย่สื่อสมควรตาย แต่หยางกู่อุตส่าห์มาเพื่อรักษาสู่ฉุ่ยหลิง จะให้สังหารชายชราได้ยังไง

หนิงฝานถอนแรงกดดัน ป้องมือพลางยิ้มให้ชายชราจนทำให้ชายชราตกตะลึง

ซัวหมิงผู้โหดเหี้ยมกลับสุภาพกับหยางกู่

“ข้ามีวิธีรักษาฉุ่ยหลิง ทำให้ปราณและธาตุโลหะของนางกลับมาสมบูรณ์ แต่วิธีรักษาค่อนข้างยุ่งยาก และสร้างภาระกับจิตในไม่น้อย อีกอย่าง ร่างกายของฉุ่ยหลิงอาจรับกับการรักษาไม่ได้ ดังนั้น ข้าจึงต้องการโอสถผันแปรที่ 5 ชนิดหนึ่งมาให้นางกินระหว่างการรักษา โอสถที่ว่านั้นคือ ‘โอสถเสริมใจ’ ที่ช่วยเสริมจิตใจที่เหนื่อยล้าได้ แต่ข้าไม่มีตำรับโอสถชนิดนั้นจึงได้ขอท่าน”

“อะไรนะ! ท่านต้องการตำรับโอสถเสริมใจ!”

หยางกู่ตกตะลึงที่หนิงฝานขอตำรับโอสถที่ล้ำค่าเช่นนั้น ที่สำคัญ เขายังมั่นใจด้วยว่าช่วยฉุ่ยหลิงได้

หยางกู่ขบคิด นอกจากซัวหมิงจะแข็งแกร่ง ยังดูเหมือนจะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 แต่นักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ไม่สมควรรักษาฉุ่ยหลิงได้ อีกอย่าง อายุกระดูกของซัวหมิงยังไม่เกิน 400 ปีด้วยซ้ำ

ยังเยาว์นัก… ยังเยาว์เกินไป! แต่การบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณได้ใน 400 ปีก็นับว่ามีพรสวรรค์มากแล้ว ถึงอย่างนั้น ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่การปรุงโอสถจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5

“สหายเต๋าซัว การปรุงโอสถไม่ได้ของเด็กเล่น!” หยางกู่ไม่พอใจ ชายชราคิดว่าหนิงฝานเป็นเพียงผู้เยาว์เฉกเช่นหวางเว่ย เข้าใจการปรุงโอสถเพียงผิวเผิน ไม่อาจเทียบชั้นกับตนที่ฝึกฝนมานานนับพันปี

“ข้าเจ้าใจที่ท่านกล่าว… การปรุงโอสถไม่ใช่ของเด็กเล่น หากผิดพลาดย่อมทำให้ผู้ที่กินถึงตาย… แต่ท่านจงรู้ไว้ ผู้เชี่ยวชาญจะทรงพลังหรือไม่นั้นไม่อาจวัดได้ด้วยอายุ… การปรุงโอสถก็เช่นกัน...” หนิงฝานไม่อยากโต้แย้งให้มากความ

เขาหันมองและพยักหน้าให้ ตงสู่ สู่ลู่ฉาน เหยียนซ่งสื่อ และยู่หลง ก่อนจะหันมองบุคคลที่ไม่ได้พบกันมานาน

“ข้ากลับมาแล้ว...” แม้เป็นเพียงคำกล่าวง่ายๆ แต่กลับเป็นโอสถบรรเทาจิตใจของสู่ฉุ่ยหลิงได้เป็นอย่างดี

“กลับมาก็ดีแล้ว...”

น้ำตานางไหลริน หนิงฝานกุมมือนางเบาๆ

“เจ้าทำอะไร… ที่นี่มีคนอยู่เยอะแยะ...” นางกระอักกระอ่วนที่ถูกหนิงฝานกุมมือ ใบหน้าเห่อร้อนด้วยความอาย นางยังไม่ได้อนุญาติให้หนิงฝานกุมมือเสียหน่อย

หนิงฝานถอนปราณปีศาจ ดวงตาเปล่งแสงสีคราม ทั่วร่างเปล่งแสงสีครามระยิบระยับ

กลิ่นอายรอบข้างแปรเปลี่ยนชั่วพริบตา จากปีศาจชั่วร้ายกลายเป็นนักปรุงโอสถที่ยิ่งใหญ่

“จิตวิญญาณสมุนไพร!” สู่ฉุ่ยหลิงตกตะลึง คนอื่นๆก็เช่นกัน

หากมีจิตวิญญาณสมุนไพร แสดงว่าคนผู้นั้นคือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 และตอนนี้ หนิงฝานกำลังใช้จิตวิญญาณสมุนไพร ตรวจชีพจรของนางอยู่

หยางกู่นิ่งค้าง มันไม่อยากเชื่อว่าเด็กที่อายุกระดูกยังไม่ถึง 400 ปี จะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือเครื่องพิสูจน์

ชายชราคูแคลนหนิงฝาน สิ่งที่ชายชรากล่าวว่าเท่ากับกล่าวหาว่าหนิงโอ้อวดเกินจริง ดูหมิ่นวิชาปรุงโอสถ คิดว่าตนเหนือกว่า

“ที่แท้สหายเต๋าซัวเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5… ข้าดวงตามืดบอดจนไม่อาจมองเห็น ขอสหายเต๋าอภัยให้ข้าด้วย!”

หยางกู่ป้องมือค้อมศีรษะ ตนเองได้เสียมารยาทกับนักปรุงโอสถที่สูงชั้นกว่าแล้ว

สายตาที่ชายชรามองหนิงฝานเปลี่ยนไป ราวหนิงฝานกลายเป็นผู้อาวุโสของตน

อายุกระดูกยังไม่ถึง 400 ปีแต่บรรลุถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5… แม้เป็นอาจารย์ของมัน เมื่อครามอายุได้ 400 ปียังไม่บรรลุถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่า พรสวรรค์เรื่องการปรุงโอสถของหนิงฝานเหนือกว่า อาจบรรลุถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 7 หรือสูงชั้นกว่านั้น

“ฮ่าฮ่า สหายเต๋าหยางมีเจตนาดี ยิ่งที่ท่านยอมเดินทางมาจากทะเลส่วนในเพื่อรักษาฉุ่ยหลิง ข้าก็ขอบคุณท่านมากแล้ว… หากท่านมอบตำรับโอสถเสริมใจให้ข้า ข้าก็จะแลกเปลี่ยนความลับเรื่องจิตวิญญาณสมุนไพรให้ท่าน”

ชายชราดวงตาเบิกกว้าง แววตาแสดงออกถึงความสุขล้น แต่ชายชราพยายามสงบใจและกล่าวถามซ้ำ

“สหายเต๋าซัวจะแลกเปลี่ยนตำรับโอสถเสริมใจด้วยความลับความของจิตวิญญาณสมุนไพรจริงๆเหรอ?”

ชายชราไม่อยากเชื่อหูของตน

การจะสร้างจิตวิญญาณสมุนไพรขึ้นมานั้น เป็นเรื่องยากราวกับปีนป่ายหน้าผาด้วยมือเปล่า แต่หากรู้ความลับของมันแล้ว สมควรสร้างจิตวิญญาณสมุนไพรขึ้นมาได้ง่ายๆ

หากเป็นตระกูลที่ตกทอดวิชาปรุงโอสถมานานนับล้านปี อาจมีความลับในการสร้างจิตวิญญาณสมุนไพรอยู่ แต่นั่นก็ใช่ว่าจะแพร่งพรายให้กับคนภายนอกได้

นอกจากนี้ แม้เป็นอาจารย์ของหยางกู ก็ยังไม่มีวิธีสร้างจิตวิญญาณสมุนไพร แต่ซัวหมิงกลับมี!

หรือซัวหมิงจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลโอสถที่ยิ่งใหญ่?

แม้ตำรับโอสถเสริมใจจะล้ำค่า แต่ความลับของจิตวิญญาณสมุนไพรนั้นเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้

ตำรับโอสถไม่อนุญาติให้บอกกล่าวต่อบุคคลภายนอก แต่กฏมีไว้แหก! หากนักปรุงโอสถคนอื่นรู้ว่าหนิงฝานจะใช้สิ่งใดแลกเปลี่ยน คนเหล่านั้นย่อมเต็มใจที่จะแลกเปลี่ยน!

ดังนั้นหยางกู่จึงเร่งนำตำรับโอสถเสริมใจออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นส่งให้หนิงฝานเพราะกลับว่าเขาจะเปลี่ยนใจ

หนิงฝานหัวเราะพลางส่ายหน้า เมื่ออ่านดูแล้วรู้ว่าตำรับโอสถที่ชายชรานำออกมานั้นถูกต้อง ตนเองจึงนำแผ่นหยกที่สลักความลับของจิตวิญญาณสมุนไพรไว้ออกมา

สิ่งที่สลักอยู่ภายในแผ่นหยกนั้น คือวิชาลับของเผ่าสมุนไพรที่ซีหลานเป็นคนมอบให้เขา

แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานไม่ได้มอบทั้งหมดให้หยางกู่ เขาให้แค่ 1 ใน 10 ส่วนเท่านั้น และส่วนที่ว่าคือวิธีที่จะปลุกและสร้างจิตวิญญาณสมุนไพร

สำหรับหนิงฝานแล้ว ส่วนที่ให้หยางกู่ไปไม่นับเป็นความลับอันใด แต่ในสายตาของยางกู่แล้ว สิ่งที่ได้มาล้ำค่าที่สุดในชีวิต

“นี่… วิชาลับที่ใช้สร้างจิตวิญญาณสมุนไพรจริงๆ! ถึงแม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่สามารถช่วยให้สร้างจิตวิญญาณสมุนไพรได้เร็วขึ้นหลายเท่า… แบบนี้ อีกไม่นานข้าคงบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5!”

ชายชรากลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางจ้องมองหนิงฝานด้วยความนับถือ เดิมทีชายชราคิดว่าไม่มีทางรักษาสู่ฉุ่ยหลิง และนางจะอยู่ได้ไม่เกิน 10 ปีเท่านั้น

แต่ตอนนี้ชายชราเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่าหนิงฝานมีวิธีรักษานาง

“หากข้าจะขออยู่ที่นี่ต่อสักระยะ เพื่อชมสหายเต๋าซัวปรุงโอสถเสริมใจ และรักษาแม่นางฉุ่ยหลิง จะได้หรือไม่?”

“ย่อมได้… แต่สหายเต๋าหยางไม่กลัวจะเข้ามาพัวพันกับสมาพันธ์สังหารหมิงหรอกเหรอ?” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าวถาม การที่ได้สหายที่นับถือตนจากใจจริงนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี

“มาพันธ์สังหารหมิง? ฮึ่ม! ข้าไม่กลัวพวกมันหรอก ข้าเป็นถึงนักปรุงโอสถกึ่งผันแปรที่ 5 แค่ข้าเอ่ยปาก ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณในทะเลส่วนในก็ปกป้องข้าแล้ว… ยิ่งสหายเต๋าซัวเป็นถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ทั้งยังมีจิตวิญญาณสมุนไพร อีกไม่นานสมควรบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นกลาง ขอแค่สหายเต๋าเอ่ยปาก ผู้เชี่ยวชาญทะเลส่วนในทั้งหมดย่อมทำตามคำกล่าวท่าน… สมาพันธ์ไร้สาระพวกนั้นไม่นับเป็นอันใด!”

หยางกู่ไม่เห็นสมาพันธ์สังหารหมิงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย เหตุใดต้องหวาดกลัวพวกดวงจิตแรกเริ่ม ในเมื่อมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณจำนวนมากคอยคุ้มกัน?

“หากพวกมันกล้าล่วงเกินสหายเต๋า ข้าหยางกู่จะช่วยท่านจัดการพวกมันเอง!”

หนิงฝานยอมมอบความลับในการสร้างจิตวิญญาณสมุนไพรให้ ชายชราย่อมทราบซึ้ง

หยางกู่เป็นถึงนักปรุงโอสถระดับสูง มีความเย่อหยิ่งถือดีในตัว แต่หนิงฝานกลับกล่าวไม่กี่คำ ก็ทำให้ชายชรานับถือจากใจได้ ทั้งยังลั่นวาจาด้วยตนเองว่าจะช่วยจัดการกับสมาพันธ์สังหารหมิงให้

เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หนิงฝานเป็นเพียงผู้ที่ทุกคนรู้ว่าแข็งแกร่งเป็นแนวหน้าของทะเลส่วนนอก แต่เมื่อผ่านไป 20 ปี หยางกู่แห่งทะเลส่วนในถึงกับยอมก้มหัวให้

สู่ฉุ่ยหลิงจ้องมองหนิงฝานด้วยสายตานับถือและชื่นชม นางมองคนไม่ผิด

“ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลับมารักษาข้า… ข้าจึงเฝ้ารอเจ้า” นางจ้องมองหนิงฝาน สบตาและกล่าวสิ่งที่รู้สึกอยู่ภายในออกไป

“เจ้าวางใจเถอะ ข้ากลับมาแล้ว...” หนิงฝานมั่นใจว่าจะรักษานางได้

ณ เกาะกระบี่แห่งทะเลส่วนใน

บุรุษผู้มีแขนข้างเดียวสะพายกระบี่ขนาดใหญ่ที่แผ่นหลัง มุ่งทะยานตรงไปยังเกาะกระบี่

เมื่อชายวัยกลางคนผู้นั้นไปถึงเกาะกระบี่ ข่ายอาคมระดับไร้ดัดแปลงที่ปกป้องเกาะถูกทำลายลง ผู้เชี่ยวชาญบนเกาะจำนวนมากเร่งมายังจุดที่ถูกลาย ก่อนที่สีหน้าพวกมันจะแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

บุรุษผู้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง ทั่วร่างแผ่นกลิ่นอายของปราณกระบี่ที่ทรงพลัง นับเป็นมือกระบี่ที่แข็งแกร่ง

“ข้าต้องการกระบี่เซียนของที่นี่!” บุรุษผู้นั้นกล่าวด้วยสีหน้าดุดดัน แววตาข่มขู่คุกคาม

แต่คำกล่าวของบุรุษผู้นั้นทำให้คนบนเกาะโกรธแค้น

“ฮึ่ม! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงคิดจะมาทำลายข่ายอาคมและช่วงชิงกระบี่ เจ้าของกระบี่คือนายท่านปู้ซัว ท่านปู้ซัวเป็นคนของวิหารพิรุณ เจ้าทำแบบนี้ก็เท่ากับยั่วยุวิหารพิรุณ!”

“หุบปาก!”

บุรุษผู้นั้นชักกระบี่ออกมา แรงกดดันที่รุนแรงปะทุจนไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวคำ

“ยกกระบี่ให้เขาไปเถอะ!” ผู้นำเกาะกระบี่กล่าว

“ไม่ได้! กระบี่เล่มนั้นคือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเกาะเรา หากนำมันออกไป ปราณในเกาะจะลดลงถึง 6 ส่วน แล้วแบบนี้ ผู้เยาว์ของเราจะฝึกฝนวิชายังไง!”

ผู้อาวุโสหลายคนของเกาะกล่าวแย้ง

“คนผู้นี้คือ ‘เทพกระบี่อาภรณ์ขาว’ ‘หยุนเทียนเฉว’!”

ผู้นำเกาะกระบี่ถอนหายใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆกลับหวาดกลัว

เทพกระบี่อาภรณ์ขาว… หยุนเทียนเฉว

“ย่อมได้… พวกข้าจะยอมมอบกระบี่เซียนให้...” ไม่มีผู้อาวุโสใดกล้ากล่าวอีก

หากมีคนหวังช่วงชิงสิ่งของ แต่ไม่จำเป็นต้องยอมให้คนผู้นั้น แต่หากอีกฝ่ายเป็นผู้ที่ทรงพลังยิ่งกว่า ย่อมไม่จำเป็นขัดขืน

ไม่นาน เหล่าผู้อาวุโสของเกาะเร่งนำกระบี่ที่ห่อด้วยผ้าสีฟ้าออกมา มอบให้หยุนเทียนเฉว

เมื่อได้กระบี่มา หยุนเทียนเฉวขมวดคิ้วพลางกล่าว

“ส่วนที่เหลือหายไปไหน?”

หลังจากระบี่มา หยุนเทียนเฉวรู้ว่าเศษชิ้นส่วนของกระบี่หายไปชิ้นหนึ่ง

“รายงานผู้อาวุโส… สหายของข้าเป็นผู้นำชิ้นส่วนของกระบี่ไปเพื่อช่วยรักษาชีวิตของศิษย์...”

ทันทีที่ผู้นำเกาะกระบี่กล่าวจบ เงาร่างของหยุนเทียนเฉวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“หยุนเทียน… มือกระบี่ที่ด่ำดิ่งลงสู่ความชั่วร้าย...” ผู้นำเกาะกระบี่กล่าว หากไม่ยอมทำตามสิ่งหยุนเทียนเฉวต้องการ มันสามารถทำลายเกาะกระบี่ได้ในพริบตา...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด