ตอนที่แล้วEP 93
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 95

EP 94


By loop

ร้านอาหารของครอบครัวเฉา ตั้งอยู่บนริมถนนบริเวณในซอยที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่มีชื่อเสียงของหยุนหัว

ตรอกซอกซอยตามถนนแถวนี้มักมีลูกค้ามุ่งหน้ามาจากหลายแห่ง ทุกคืนร้านอาหารเหล่านั้นจะเต็มไปด้วยผู้คนทำให้ถนนทั้งซอยนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารชื่อดังมากมาย

ร้านอาหารของตระกูลเฉาตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซอยมันตั้งอยู่ในทำเลที่ดีและมีราคาอาหารไม่แพงมากอยู่ในระดับกลางๆ อีกทั้งมีครัวแบบเปิดพร้อมแผงกระจกขนาดใหญ่ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทำอาหาร โดยอาหารจานเด่นเป็นพวกอาหารว่างยามดึกเช่นบาร์บีคิวและทริปเนื้อตุ๋น

คุณหมอโจวเดินไปพร้อมกับหลิงรัน เขาเดินจนพบกับร้านอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับสถานที่แถวนี้เป็นอย่างดีเมื่อเขาก้าวผ่านประตูเขาก็ตะโกนออกมาว่า "เฮียฉาว เฮียมีแขกสองคนรอเฮียอยู่!"

“โอ้นี่มันหมอโจวดีใจที่เจอนายอีกครั้ง ขอโทษที่ต้องให้นายตะโกน” เฮียเฉาเช็ดมือของเขาที่เปื้อนอยู่ก่อนจะก้าวออกจากห้องครัวซึ่งตั้งอยู่ตรงผนังด้านหนึ่งของร้านอาหาร เขาเดินออกไปด้วยรอยยิ้มและพูดว่า "เหมือนเราพึงเจอกันไม่นานมานี้หนิ่"

"เอาหรอจริงหรอ" หมอโจวพูดพร้อมกับยิ้ม

หลิงรันแอบชำเลืองดูหมอโจวด้วยหางตา

หมอโจวลงแนะนำหลิงรันอย่างเป็นกันเอง "นี่คือเพื่อนร่วมงานคนใหม่ของฉันเขาชื่อหมอหลิง"

เฮียเฉาเคยสังเกตเห็นหลิงรันมาก่อนหน้านี้แล้วและเขาก็ยื่นนามบัตรให้กับหลิงรันอย่างสุภาพ เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม "ผมเฉาเจียงยินดีที่ได้รู้จัก เนื่องจากคุณเป็นเพื่อนของหมอโจวคุณจะได้รับส่วนสามสิบเปอร์เซนต์เมื่อใดก็ตามที่คุณมาที่ร้านอาหารของเรา"

"อย่าไปฟังเขาเลยหมอทุกคนจากโรงพยาบาลหยุนหัวที่มาที่นี่ก็จะได้รับส่วนลดสามสิบปอร์เซนต์กันทั้งหมดแหละ"

หมอโจวพูดอย่างโพงพางเพื่อให้หลิงรันรู้เกี่ยวโปรโมชั่นที่ทางร้านจัด

เฮียเฉาหัวเราะเบาๆ "หมอทุกคนที่มาที่นี่จะได้รับส่วนลดจากฉันถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์เลยนะ"

หลิงรันหยิบนามบัตรและมองดูไปรอบๆ ด้วยความงุนงงเล็กน้อย เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับร้านอาหารที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับแพทย์เป็นพิเศษและยังมอบส่วนลดให้กับแพทย์อีก ซึ่งแน่นอนว่าแพทย์ทำงานเหลังขดหลังแข็งและพวกเขาไม่เคยมีเวลาออกไปข้างนอกร่วมถึงการออกมาทานที่ร้านอาหารด้วย แพทย์อาวุโสส่วนมากจะพวกเซลล์ที่จัดค่าใช้จ่ายให้กับค่าอาหารและพวกเขาจะไม่มาที่ร้านอาหารเล็ก ๆ แบบนี้

พวกเขาทักทายและพูดคุยแรกเปลี่ยนกันเล็กน้อยตามมารยาท ก่อนที่เฮียเฉาเชิญหมอโจวและหลิงรันไปนั้งที่โต๊ะที่เขาเตรียมไว้ให้กับบริเวณหน้าต่างพอดี ซึ่งพวกเขาสามารถชมทิวทัศน์ด้านนอกได้อีกั้งการตกแต่งภายในของร้านอาหารเองนั้นค่อนสว่างมากและทำให้ดูเป็นร้านที่กว้าง

หมอโจวสั่งอาหารของเขาก่อนที่เขาจะเทน้ำชาใส่ในแก้วของเขา

จากนั้นเขาก็นั่งลงอีกครั้งและพูดสองสามคำเพื่อให้คำตอบสำหรับคำถามที่ไม่ได้พูดก่อนให้กับหลิงรัน "เฮียเฉาเป็นผู้ป่วยของเรา"

"เขาป่วยอะไรเหรอ?"

"เขาป่วยหลายอย่างมาก" หมอโจวเอานิ้วของเขาขึ้นมานับกับจำนวนโรคว่า ซึ่งในบทสนาระหว่างเขากับหลิงรัน ณ ขนาดนั้น เขาพูดไปว่า "เมื่อโรงพยาบาลหยุนหัวเริ่มให้การรักษาผู้ที่เป็นโรคหัวพิการ แต่ในตอนที่เขาเกิดเฮียเฉาเขาเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องของผนังกั้นหัวใจห้องล่างซึ่งสามารถพูดได้ว่ามันเป็นเรื่องทั่วไปของโรคหัวใจพิการตั้งแต่เกิด เขาอยู่ในโรงเรียนประถมเขาเคยแข่งกระโดดสูง แต่ในระหว่างที่จะเอาเขาลงพื้นมันบังเอิญว่าเจาไม่ได้ตกโดนที่ฟูกมันทำให้ขอเท้าขอเขาหักในเวลานั้นแผนกศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาลหยุนหัวเพิ่งเริ่มให้บริการซึ่งพึงพร้อมให้บริการ เขาเป็นหนึ่งในคนกลุ่มชุดแรกที่เข้ารับการรักษา ต่อมาเขาได้พบว่าเขาเป็นโรคไตและมันก็ได้ถูกผ่าตัดออกถือได้ว่าเป็นเคสการผ่าตัดไตครั้งแรกที่แผนกโรคไตโดยหลังจากนั้นแผนกโรคไตก็ได้แยกตัวออกมาเป็นแผนกอิสระ "

หมอโจวพูดอีกครั้งด้วยด้วยความสนิทสนมกับเฮียเฉา “พูดได้เลยว่านายเป็นแขกประจำของแผนกต่อมไร้ท่อและเมื่อแผนกโรคไขข้อถูกสร้างขึ้นนายก็ยังถูกหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคไขข้ออักเสบเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาซึ่งเมื่อมีการซื้อกล่องในการผ่าตัดมาใหม่นายก็เป็นรายแรกที่ได้ใช่มันเพราะพวกเราพบว่านายเป็นไส่ติ่งอักเสษ ต่อมาแผนกโรคหัวใจได้เปิดตัวโปรแกรม อินเทอร์เวนชั้นสำหรับโรคหัวใจนายก็ถูกใส่ขดลวดในหลอดเลือดแดงเพื่อขยายหลอดเลือด เมื่อเราซื้อเครื่องสแกนซีที่ นายก็ถูกตรวจพบว่าเป็นซีสต์ตับและโรคนิ่ว อีกครั้งในสัปดาห์แรกหลังจากที่เราปรับเครื่อง MRI เราพบเนื้องอกโชคดีที่มันเป็นเพียงเนื้องอกที่ยังไม่หนักมาก ...”

หลิงรันตั้งใจฟังและมีอาการอ้าปากค้างและพูดว่า "คนอะไรจะป่วยได้เยอะขนาดนี้"

“จากการตรวจสุขภาพคนมากกว่าสองร้อยคนเขาเป็นคนเดียวที่จะต้องเขาตรวจร่างกายมากกว่าสิบแผนก และพวกแพทย์ไม่หาข้อสรุปกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งเขาคงคิดว่าอาการเหล่านี้อาจจะเป็นเพราะโชคร้าย แต่สิ่งที่ฉันหมายถึงคือถ้าคนโชคร้ายจริงๆขนาดที่คนกำลังดีมน้ำเย็นๆอยู่เขาก็อาจะน๊อกไปได้เพราะเกิดอาการสมองตายเฉียบพลันซึ่งมันก็เกินกว่าวิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ได้ ”

หลิงรันหัวเราะเบา ๆ

หมอโจวกล่าวว่า "เฮียเฉาเป็นผู้ป่วยต้นแบบของโรงพยาบาลหยุนหัวแม้ว่าเขาจะมีอาการป่วยมากที่สุดที่นายอาจเคยเห็นมาในชีวิตของนาย แต่เขาก็ยังคงยิ้มเมื่อเขาไม่สบายหรือมีอาการป่วย เขาต้องไปโรงพยาบาลเป็นประจำจนเขาถูกไล่ออกจากงานเขาจึงกลับมาทำธุรกิจเพราะเมื่อเขาป่วยเขาจะอยู่ในโรงพยาบาลเท่าที่จำเป็ฯเท่านั้นอาจจะเป็นเหตุเพราะจะต้องเขารับผ่าตัดช่วงนั้นเขาก็จะปิดร้านเพราะว่าถถ้ารีบมาทำงานแผลของเขาอาจะติดเชื่อได้... "

"สเต๊กเนื้อทำถึงไหนแล้ว!" เฮียเฉานำกรวยเหล็กกล้าออกมา มีไม้ไผ่ยี่สิบหรือสามสิบแท่งติดอยู่ในซอสถั่วลิสงแบบทำเอง หลิงรันสามารถมองเห็นเนื้อส่วนผ้าขี้ริ้วสองชิ้นที่ม้วนงอและมีซอสราดอยู่บนเนื้อ

หลิงรันดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไร เฮียเฉายิ้มแบบไม่แปลกใจ เขาถามหมอโจว "คุณเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังบ้างไหม"

"นี่น่าจะครั้งแรก" หมอโจวกล่าว

"อย่าฟังเรื่องไร้สาระของหมอโจวเลยฉันแค่โชคไม่ดีและฉันประสบอุบัติเหตุบ่อย แต่ร่างกายของฉันยังคงสบายดี"

เฮียเฉา หัวเราะเอะอะ เขาบอกให้หมอทั้งสองคนทานอาหารแล้วเขาเดินกลับไปที่ห้องครัว

หลิงรันเข้าใจในทันใดว่าทำไมฮียเฉาจึงใจดีต่อลูกค้าที่เป็นแพทย์ เพราะแพทย์เหล่านั้นมีโอกาสสูงที่จะได้เฮียเฉาเป็นลูกค้าอีกเช่นกัน ซึ่งแพทย์คนอื่นๆหลังจากฟังเรื่องราวของเขา ส่วนใหญ่ก็จะทานข่าวไม่ลงในทันที

"ลองสิ่งนี้เป็นเทคนิคพิเศษในการปรุงเนื้อวัวของเฮียเฉาเลยนะ มันอร่อยมากมันคือสูตรลับของร้านนี้เลย... "

หมอโจวคว้าเนื้อไปสองชิ้นโดยไม่ต้องคิด

หลิงรันยังเงียบไปชั่วครู่หลังจากลังเลอยู่สองสามวินาที

แน่นอนมันอร่อย

เนื้อในจานของผมมีเนื้อนุ่มมาก แต่ก็ไม่มีรส หลังจากเนื้อถูกจุ่มในซอสถั่วลิสงบางๆ รู้สึกได้ถึงรสชาติเผ็ดที่ละลายในปาก

“แต่ละโต๊ะมีซอสหนึ่งถังหลังจากเราทานเนื้อวัวเสร็จเราก็สามารถเพิ่มเนื้อวัวได้อีก”

หมอโจวกล่าวต่อ "ซอสที่เหลือจะถูกทิ้งเดียวเฮียเฉาเขาจัดการเรื่องนี้เอง"

หลิงรันแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่จริงจังอะไร

แน่นอนว่าเขาค่อนข้างเก็บตัว

หมอโจวค้นหาหัวข้อเพื่อพูดคุยเล็กๆ เขากล่าวว่า "ทำไมคุณถึงมาที่ห้องไอซียูในวันนี้? ไม่มีผู้ป่วยบาดเจ็บเอ็นกล้ามเนื้อแล้วหรือ?"

“ผมต้องการลองใช้การควบคุมการตกเลือดด้วยมือเปล่า” หลิงรันตอบอย่างตรงไปตรงมา

หมอโจวพยักหน้าอย่างเข้าใจ "ทักษะจำเป็นต้องฝึกฝนถ้านายไม่ค่อยได้ใช้ทักษะก็อาจมีประสิทธิภาพลดลง แต่ฉันไม่เห็นคุณใช้มันในวันนี้เลยนะ"

"ไม่มีผู้ป่วยที่ตรงกับที่ผมต้องการ"

"จริงเราอาจมีผู้ป่วยตลอดทั้งวันและในขณะที่นายคิดว่านายเห็นความเจ็บป่วยหรือการได้รับบาดเจ็บทุกวันพวกเขาก็จะหายไปในอากาศเมื่อสิ่งที่นายต้องการมากที่สุด"

หมอโจวหัวเราะเบาๆ

"ร้านนี้ดีมาก มันเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมครั้งล่าสุดเมื่อฉันมองหาเคสแพทย์บางอย่างแต่เมื่อยังไม่เคสที่ต้องการก็จะมานั่งที่นี้รอบางที่ก็เจอกับแพทย์คนอื่นๆมานั่งที่นี่ด้วย บางทีฉันก็ได้เคสที่ฉันต้องการอยู่จากพวกเขาเหล่านั้น "

"หมอหลายคนมาแถวนี้ใช่มั้ย"

"ที่จริงนอกจากนี้ยังมีเฮียเฉาเขาเป็นคนรู้ทุกอย่างในบริเวณนี้"

หมอโจวเล่าเรื่องตลกทำให้เฮียเฉา ผู้เพิ่งนำจานบาบีคิวออกมารู้สึกตกใจในทันที่

"ตาแก่โจว ถ้านายยังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับร้านอาหารของฉันอีกครั้งฉันจะไม่ให้ส่วนลดกับนายอีกต่อไป" เฮียเฉากล่าว

"ที่นี่มีบาร์บีคิวที่ต้องทานคู่กับต้นทามาริก“หมอโจวพูดต่อว่า”แต่ถ้านายไม่พอใจฉันจะเล่าเรื่องอิ่นด้วยนะเฮียเฉา"

"ในร้านอาหารของนายมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเผชิญหน้ากับคนที่มีอาการป่วยทุกรูปแบบถ้านายจำเวลาที่แพทย์จากแผนกนรีเวชวิทยาเดินทางมาและบอกว่ามันเป็นเวลานานมากแล้วที่เขาหาเคสในการทำคลอสเด็ก และในวันนั้นบนถนนนั้น ผู้หญิงมีครรภ์กำลังจะคลอด แพทย์คนนั้นก็ทำคลอด ณ จุดนั้นเลย... "

"นั่นถือเป็นกรณีพิเศษ ... "

"และมีอีกครั้งนี้ ... "

คุณหมอโจวที่กำลังมีช่วงเวลาที่ดีในการพูดคุยเมื่อมีการจู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องจากฝูงชนนอกหน้าต่าง

เฮียเฉา, หมอโจว, และ หลิงรันรีบหันหน้าไปมอง พวกเขามองออกไปข้างนอก และพวกเขาเห็นคนสองสามคนที่วิ่งถือมีดและกำลังวิ่งไล่แทงคนอื่นอย่างบ้าคลั่ง

ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ที่สถานีชุมทางนำกระบองของเขาออกมา เขาชี้ไปที่กลุ่มคนที่เขาตะโกนอะไรบางอย่าง

ในเวลาเดียวกันผู้ชายคนหนึ่งควงมีดแทงเข้ากับอกของตำรวจและไม่สามารถหยุดตัวเองได้ เมื่อเขาหันกลับมาเพื่อตะวิ่งก็จะเห็นรอยเลือดสีแดงอยู่ที่หน้าอกและหน้าท้องของตำรวจแล้ว

หลิงรัน, หมอโจวและเฮียเฉาจ้องหน้ากันสภาพแวดล้อมอึมครึม

"ไปเลยไป"

สามวินาทีต่อมาหลิงรันที่มีเคยมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของหมอโจวก็หายไป พวกเขารีบออกจากร้านอาหารเพื่อออกไปหาตำรวจคนนั้นในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด