ตอนที่แล้วEP 58
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 60

EP 59


By loop

การรักษาเส้นเอ็นนั้นเป็นงานที่พิถีพิถันงานหนึ่ง มันใช้เวลานานและมีความยุ่งยากสำหรับเอ็นกล้ามเนื้อในต้มขาหมู

หลิงรันไม่รีบร้อนเช่นกัน เขาเพิ่งจะผ่านขั้นตอนในการเตรียมอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว มันเป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะฝึกฝนและยังเป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะอธิบายเทคนิคเอ็มถังให้กับผู้ช่วยอีกสองคนของเขา

เทคนิคระดับมาสเตอร์ เทคนิคเอ็มถังนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ แต่มันก็ยังห่างไกลจากระดับที่สมบูรณ์แบบ ความแตกต่างที่สำคัญคืออัตราความสำเร็จของการผ่าตัดและการฟื้นตัวในความสามารถของมือหลังการผ่าตัด

แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บของเอ็นกล้ามเนื้อทั่วไปนั้นไม่แตกต่างกันสำหรับแพทย์ที่อยู่ในระดับมาสเตอร์หรือระดับสมบูรณ์แบบของเทคนิคเอ็มถัง ความน่าจะเป็นที่จะเกิดความล้มเหลวในการผ่าตัดสรับทั้งสองระดับนั้นต่ำมาก หากมีใครทำการผ่าตัดโดยใช้วิธีนี้เป็นวิธีหลัก นอกจากนี้แม้ว่าจะล้มเหลวในการทำตามขั้นตอนการผ่าตัดเองก็ยังคงประสบความสำเร็จ มันอาจฟื้นตัวได้ช้าลงกว่าเดิมราวๆร้อยละยี่สิบถึงสามสิบจากอัตราความสำเร็จเดิม อย่างไรก็ตามระดับการฟื้นตัวจะยังถือว่าสูงกว่ากรณีที่แพทย์ส่วนใหญ่รักษาด้วยวิธีอื่น

แต่หลินรันได้หวังว่าจะใช้เทคนิคนี้ได้ตลอด เพราะส่วนใหญ่จะเป็เคสที่เกี่ยวกับเอ็นกล้ามเนื้อทั่วไปส่ะส่วนใหญ่ที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้เทคนิคนี้

เคสที่เกิดความล้มเหลวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยเกิดอาการผิดปกติ

กรณีที่ผิดปกติก็เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับแพทย์ การพัฒนายาทางคลินิกนั้นเป็นกระบวนการที่ค่อยๆแนะนำคนที่มีความเจ็บป่วยทางการแพทย์ที่ผิดปกติโครงสร้างทางกายวิภาคที่ผิดปกติสภาพร่างกายที่ผิดปกติและการบาดเจ็บที่ผิดปกติไปสู่ผู้ป่วยทั่วไป

ยกตัวอย่างเช่นการผ่าไส้ติ่งอักเสบซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นต้อองผ่าตัดผ่านกล้องที่มันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดตามมาตรฐานความทันสมัย อัตราการเสียชีวิตเนื่องจากสภาพทางการแพทย์ในอดีตช่วงร้อยถึงหนึ่งพันปีที่ผ่านมามากกว่านักกวีที่ตีพิมพ์บทกวีของพวกเขาเสียอีก ต่างจากในปัจจุบันที่ใช้เพียงยาก็ความสามารถในการพิชิตไส้ติ่งอักเสบเนื่องจากประสบการณ์ที่ได้รับจากแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดมาบ่อย ตัวอย่างเช่นคอรินรวบรวมข้อมูลจากเคสที่เกี่ยวกับไส้ติ่งอักเสบย้อนหลังในปี สองพันห้าสามแปดถึงห้าหมื่นเคส ทำให้สรุปเกี่ยวกับตำแหน่งของไส้ติ่งอักเสบในร่างกายมนุษย์ได้อย่างถูกต้อง สิ่งนี้ยืนยันว่าไส้ติ่งของคนทั่วไป นั้นอยู่ตั้งอยู่ที่หน้าท้องด้านล่างขวาราวร้อยล่ะเก้าสิบห้าจุดสี่สอง มีเพียงร้อยล่ะศูนย์จุดห้าแปดของคนที่มีไส้ติ่งอยู่ที่ช่องท้องด้านบนขวา นั่นทำให้ศัลยแพทย์มีความคิดที่จะผ่าตัดส่วนล่างขวาก่อนสำหรับไส้ติ่ง หากแพทย์ไม่สามารถหาไส้ติ่งที่นั่นพวกเขาจะมองหาที่ด้านบนขวา หากพวกเขายังหาไม่พบพวกเขาก็จะย้ายไปที่ด้านล่างซ้าย พวกเขาไม่จำเป็นต้องมองผ่านลำไส้ในกระเพาะอาหารทั้งหมดแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ...

ศัลยแพทย์ได้มีการจัดประเภทของโรคขึ้นมา ได้แก่มีความผิดปกติของไส้ติ่งแปดตำแหน่ง, ปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ [1] ที่มีความผิดปกติสี่ประเภท, และเนื้อเยื่อนอกมดลูกที่ผลิดปกติอีกสี่ประเภท [2] กรณีเหล่านี้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นกรณีที่ผิดปกติแต่ได้รับการจัดให้อยู่เคสทั่วไป

ในอดีตเมื่อแพทย์ต้องการรักษาอาการไส้ติ่งอักเสบ พวกเขาจำเป็นจะต้องสอดมือเข้าไปในท้องของผู้ป่วยซึ่งการสอดเข้าไปนั้นมีข้อจำกัดคือแพทย์สามารถสอดได้แค่นิ้วเท่านั้นโดยเข้าไปได้ลึกสุดตามความยาวของนิ้วมือของแพทย์ต่อมามันได้รับการปรับปรุงการผ่าตัดให้ดีขึ้นโดยศัลยแพทย์ใช้เพียงกล้องที่มีท่อสามท่อสอดเข้าไปเพียงเท่านั้น

มันเหมือนกันสำหรับเทคนิคเอ็มถัง

ตั้งแต่ยุคเก้าศูนย์ที่มีการพูดถึงเทคนิคนี้ถูกนำมาใช้เพื่อเป้าหมายในการรักษาอาการบาดเจ็บของเอ็นกล้ามเนื้อทั่วไป หลังจากนั้นก็มีการปรับปรุงวิธีการให้ดีขึ้นอย่างช้าๆ

หลิงรันประเมินว่าเทคนิคเอ็มถังในระดับสมบูรณ์แบบ น่าจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเอ็นกล้ามเนื้อส่วนใหญ่ได้ในโซนสอง ซึ่งแท้จริงแล้วการใช้มันในระดับกลางที่หลิงรันมีก็ควรมีอัตราความสำเร็จและประสิทธิผลเช่นเดียวกัน แต่อาจมีบางกรณีที่เกิดความผิดปกติซึ่งมีโอกาสที่ยากในแสดงผลลัพธ์ที่ไม่ดีออกมา

อย่างไรก็ตามแพทย์ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเจอผู้ป่วยประเภทไหน

เนื่องจากผู้อำนวยการฮวง หวังว่าจะมีการแย่งผู้ป่วยวจากแผนกศัลยกรรมมือโดยได้รับผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการบาดเจ็บที่เอ็นกล้ามเนื้อเส้นเอ็นซึ่งปกติจะถูกส่งไปที่นั่นโดยมันจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นผู้ป่วยที่ผิดปกติก็จะปรากฏขึ้นเช่นกันและพวกเขาก็จำเป็นต้องดูว่าเคสที่ผิดปกติเหล่านี้มันยากมากว่าเคสทั่วไปมากแค่ไหน

หลิงรัน ไม่ได้หวังว่าระบบจะส่งเทคนิคเอ็มถังระดับสมบูรณ์แบบมาให้เขาเป็นของขวัญ

จนถึงปัจจุบันเขาได้รับหนังสือทักษะระดับหนึ่งจากการเปิดหีบสมบัติระดับกลางและได้รับการอัพเกรดเป็นทักษะระดับที่สมบูรณ์แบบ ช่วงของตัวเลือกสำหรับการอัพเกรดนั้น จำกัด อยู่ที่ทักษะพื้นฐาน

สำหรับเทคนิคระดับเอ็มถังได้รับมาจากการเปิดใช้งานหนังสือทักษะเล่มหนึ่ง มันเป็นวิธีการผ่าตัดประเภทหนึ่ง อย่างไรก็ตามหลิงรันไม่ได้รับประกันว่าเขาจะได้รับเทคนิคเอ็มถังระดับสมบูรณ์แบบหรือเทคนิคการซ่อมแซมเส้นเอ็นอื่นๆจากหนังสือทักษะที่คล้ายกันเล่มอื่นที่จะได้ในอนาคต

ความจริงก็คือความจริงถึงแม้ว่าระบบจะมอบหนังสือทักษะใหม่ให้เขา แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือเขาต้องขยายห้องสมุดทักษะส่วนตัวของเขา เขาไม่สามารถอัพเกรดเทคนิคเอ็มถังจากระดับมาสเตอร์แล้วไปเป็นระดับสมบูรณ์ได้

ค่าทักษะสำหรับการอัพเกรดมันต่ำเกินไป เขาจะทำการตัดสินใจแบบนั้นก็ต่อเมื่อเขาเป็นคนที่โง่มากแต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ หลิงรันได้มีการทดสอบระดับทักษะของเขาก่อนหน้านี้แล้ว

เขาได้รับคำตอบจากสิ่งที่เขาควรทำเมื่อเขาวิเคราะห์สถานการณ์อย่างจริงจัง วิธีที่ดีที่สุดสำหรับหลิงรันในการพัฒนาทักษะให้ดีขึ้นคือการปรับปรุงมาตรฐานการรักษาของเขาด้วยตัวเอง

เขาเป็นแพทย์ที่ดีที่สุดในหยุนหัวในการใช้เทคนิคเอ็มถัง หากเขายังคงทำการผ่าตัดต่อไปจะเห็นได้ชัดว่าเขาจะมีการปรับปรุงทักษะให้ดีขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับการอ่านบทความ เมื่อคุณจะหาใจความสำคัญของบทความมันจะได้มาหลังจากที่คุณอ่านมันมากกว่าร้อยครั้ง เช่นเดียวกันสำหรับการผ่าตัด

หากใครสามารถทำวิธีการผ่าตัดแบบเดียวกันได้มากกว่าร้อยครั้งจากคนไร้ฝีมือก็จะสามารถทำเทคนิคนั้นได้ตามมาตรฐานทางการแพทย์ที่กำหนดได้

หากแพทย์สามารถทำการผ่าตัดด้วยวิธีเดียวกันได้มากกว่าหนึ่งพันครั้งแพทย์คนนั้นก็จะเก่งในสาขานั้นได้เลย

หลิงรันคือผู้เชียวชาญด้านการเย็บเอ็นกล้ามเนื้อ ส่วนที่เขาตัดเป็นหลังเท้าและเขาจัดการมันอย่างเป็นระเบียบ เขาจะพูดเป็นครั้งคราว

"หลังจากที่คุณเจาะเส้นเอ็นด้วยเข็มในแนวนอนแล้ว ให้สอดเข็มเข้าไปทางด้านตรงข้ามของเส้นเอ็นพอที่จะเจาะเข็มกลับเข้าไปในเอ็นในแนวตั้งได้ ...

"ขมวดปมเมื่อใกล้เสร็จ”

"ล็อคลูปที่สองของด้ายเข้ากับปมของลูปแรกของด้ายแล้วสอดเอ็นอีกครั้งด้วยเข็ม”

“คุณสามารถผูกปมอีกอันที่ปลายเอ็นได้ดีกว่าถ้าคุณทำตรงกลางฝ่ามือ”

หลิงรันสวมใส่แว่นขยายผ่าตัดคู่หนึ่ง เขามุ่งเน้นไปที่ตรงกลางสายตาของเขา เขาไม่หันหลังกลับ

แต่หมอลู่รู้ว่าหลิงรันกำลังพูดกับเขา

มือของหมอลู่ก็เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆเช่นกัน เขาไม่ได้ตระหนักถึงมัน

เขายังห่างไกลจากการฝึกฝนเทคนิคเอ็มถังอาจกล่าวได้ว่าเขายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่หลิงรันกำลังทำอยู่ และทำไมเขาจึงทำสิ่งเหล่านั้น นี่คือความจริงที่ว่าแม้หลิงรันได้อธิบายขั้นตอนทั้งหมดให้เขาฟังแล้ว

อย่างไรก็ตามเราต้องเรียนรู้ทีละขั้นตอน เช่นนี้เพื่อที่จะเข้าใจและฝึกฝนวิธีการผ่าตัด

กระบวนการของการเย็บไม่ใช่เทคนิคการต่อสู้เหมือนคัมภีร์ลับในหนัง ผู้ที่ต้องการเรียนรู้สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมันได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตามมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้เห็นเทคนิคที่เป็นเทคนิคส่วนตัว ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่ในการเรียนรู้สาระสำคัญของวิธีการเหล่านั้น

หมอลู่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในทันที ถ้าเขาสามารถฝึกฝนเทคนิคเอ็มถังได้จริงๆ แล้วชีวิตการทำงานของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร

ถ้าแผนกฉุกเฉินจะดึงผู้ป่วยมาจากแผนกศัลยกรรมมือจริงๆ แผนกฉุกเฉินเองก็ไม่สามารถพึ่งพาหลิงรันคนเดียวได้ แต่อย่างไรก็ตามหลิงรันก็ยังเป็นคนแรกที่สามารถผ่าตัดเทคนิคเอ็มถังในแผนกของเราได้ เข้าเหมือนกับแม่ทัพที่ยื่นอยู่หน้าสนามรบ ดังนั้นผู้อำนวยการฮวงจะต้องหาบุคลากรเพื่อมาแทนที่หลิงรันอย่างแน่นอนหลังจากที่หลิงสำเร็จจากการฝึกงาน

ในเวลานั้นเขาอาจทำสิ่งต่าง ๆ เช่นรับแพทย์จากโรงพยาบาลอื่นถ่ายโอนกำลังคนจากแผนกศัลยกรรมมือหรือแม้กระทั่งการฝึกอบรมภายในแผนกฉุกเฉินสำหรับเทคนิคเอ็มถัง

และไม่ว่าจะใช้วิธีใด ผู้อำนวยการฮวงการตัดสินใจใช้มันจะนำโอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาให้กับแพทย์ประจำแผนกเช่น หมอลู่

สิ่งที่โชคดีที่สุดสำหรับอหมอลู่คือการพบว่าหลิงรันพร้อมที่จะสอนเทคนิคนี้ให้กับเขา

แม้ว่าเขาจะแตกต่างจากแพทย์บางคนที่แนะนำพวกเขาด้วยปากเปล่าและต้องการให้พวกเขาหาวิธีเอาเอง หมอลู่ยังคงมีโอกาสค่อนข้างมาก มันง่ายสำหรับ หมอลู่ที่จะมีความคาดหวังไว้สูงในเรื่องนี้

เมื่อนำเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับที่ความอึดอัดใจของการเป็นเพียงผู้ช่วยของแพทย์ฝึกงาน ดูเหมือนเขาจะรู้สึกดีขึ้นและเริ่มจะลืมสิ่งที่เขาไม่คาดหวังที่จะเป็นผู้ช่วยในตอนแรก ตอนนี้ใจของเขาพร้อมที่จะเริ่มเรียนรู้กับหลิงรัน

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมันควรเป็นเรื่องที่น่าอายสำหรับแพทย์หนุ่มที่จะขอให้หมอฝึกงานมาฝึกฝนเทคนิคการรักษาให้

"หมอหลิง" พยาบาลหวังกลับมาหลังจากที่เธอออกไปรับโทรศัพท์ "ผู้อำนวยการฮวง กำลังจะกลับมาและคาดว่าเขาน่าจะมาถึงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า"

"มันน่าจะถึงเวลาที่จะต้องเลิกทำงานแล้ว" หลิงรันไตร่ตรองสักครู่แล้วพูดว่า "เราจะต้องคิดถึงเรื่องอาหารเย็นของเรา"

หมออลู่ เงยหน้าขึ้นเป็นครั้งที่สามและมองที่เท้าของหมูซึ่งแขวนอยู่ในอากาศก่อนที่เขาจะโพล่ง "ฉันรู้วิธีในการทำพะโล้ตีนหมูนะ"

หลิงรัน และ พยาบาลหวังทั้งคู่มองไปที่ หมอลู่

“ในเวลาที่ฉันอยู่บ้านนะฉันชอบทำอาหารกินเองบ่อยๆ บางครั้งฉันก็จะซื้อตีนหมูเพื่อเอามาทำอาหาร…” หมอลู่รู้สึกภูมิใจเล็กน้อยในขณะที่เขาพูด

"อย่าลืมเอาการฝึกไปบ่นตอนที่คุณทำอาหารนะ" หลิงรันยิ้มอยู่ครู่หนึ่งทำให้แพทย์ประจำแผนกร่างใหญ่คนหนึ่งรู้สึกไร้ความกดดันและเขาเริ่มที่จะมีกำลังใจในการทำงานร่วมกับหลิงรันมากยิ่งขึ้น

พยาบาลหวังรีบช่วยเขาเอาขาหลังของหมูออกจากห้อง เธอถอดด้ายออก เธอถามอย่างไม่แน่ใจ "ผู้ป่วยและครอบครัวคงจะตกใจและวิ่งๆไปรอบตึก ถ้าพวกเขาเคยเห็นเราเคี้ยวตีนหมูอยู่"

หลิงรันยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาในขณะที่เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ผู้ป่วยจะไม่วิ่งเร็วเพราะเจ็บ เราสามารถจับพวกเขากลับมาเย็บได้แน่ๆ"

แสงจากพระอาทิตย์ตกนั้นสาดส่องมายังห้องและประกอบกับอากาศที่แจ่มใส

ในห้องเก็บของเก่าที่มีผนังสีขาวและเพดานสีขาวเท้าหมูแกว่งไปมาอย่างอิสระ มันทำให้เกิดเงาที่แปลกประหลาดในห้อง.

หมายเหตุของนักแปล:

1.การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ: คำที่ใช้ในพยาธิวิทยาเพื่ออ้างถึงความผิดปกติของการพัฒนาหรือความผิดปกติของเยื่อบุผิวของการเจริญเติบโตและความแตกต่าง (ที่มา: Wikipedia)

2. Ectopic tissue: Ectopic เป็นคำที่ใช้กับคำนำหน้า, ecto, ความหมาย "out of place." นี่หมายถึงเนื้อเยื่อที่อยู่ในสถานที่ห่างไกลจากตำแหน่งปกติ (ที่มา: Wikipedia)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด