ตอนที่แล้วEp 40
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp 41.2

EP 41.1


By loop

หลังจากการประชุมใหญ่สิ้นสุดลง พร้อมกับชัยชนะของผู้อำนวยการฮวง จึงเชิญผู้อำนวยการหลิวไปทานข้าวกันต่อ ส่วนแพทย์คนอื่นกระจัดกระจายตัวกันออกไป

ทุกวันนี้คนในแผนกมีกฎกันอยู่ว่า ห้ามมากินข้าวร่วมกันเด็ดขาด และดูเหมือว่าไม่มีใครโง่พอที่จะทำลายกฏข้อนี้ได้

หมอโจวลากหลิงรันไปอย่างเงียบๆ และออกจากสำนักงานไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เขาเดินไปตามทางเดินหมอโจว ก็อธิบายให้หลิงรันไว้ว่า "ฉันเป็นห่วงว่านายจะพูดสิ่งผิดพลาดในออฟฟิศไป! ถ้านายต้องอยู่ข้างในจะมีคนที่จะถามนายทุกอย่างแน่นอน "เขาเสริมหลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง "แม้ว่านายจะพูดสิ่งผิดไปเยอะแล้วก็ตาม"

"ผมพูดอะไรผิดหรือ?" หลิงรันเผยให้เห็นการแสดงออกที่น่างงงวย

หมอโจวเหลียวมองหลิงรันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสโดยไม่มีเหตุผลและพูดว่า "นายต้องพูดให้น้อยลงเมื่อพูดถึงหัวข้อต่างๆ เช่นกระบวนการทางการแพทย์ เนื่องจากเราไม่ได้พูดถึงสิ่งเหล่านี้บ่อยมากนัก นายสามารถพูดคุยกับคนเหล่านั้นเป็นการส่วนตัว  แต่อย่าเพิ่มประเด็นอื่นๆเข้ามาอีกโดยไม่มีเหตุผล ทุกคนมีความละเอียดอ่อนมากเกี่ยวกับเรื่องนั้น "

"ได้ครับ" หลิงรันพยักหน้า

"นายจะไมถามหรือว่าทำไม?" คุณหมอโจวค่อนข้างประหลาดใจ เขาเคยสอนเด็กหน้าใหม่จำนวนมากในอดีต และพวกเขาทั้งหมดมีหลายสิ่งที่จะพูดเกี่ยวกับประเด็นที่เขาพึงพูดไป

"ไม่ครับ" คำตอบของ หลิงรันนั้นชัดเจนผิดปกติ

แทนที่หมอโจวจะโวยวายเล็กน้อยจากการตอบของหลิงรัน แต่เขากับคิดถึงสิ่งต่างๆมากมายที่เขาอยากจะพูด ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสพูดว่าพวกเขาควรทำอย่างไร?

หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งหมอโจวพูดว่า "คืนนี้มากับฉันเถอะ"

“ได้ครับ” หลิงรันยังตอบอย่างชัดเจนและหมอโจวก็ไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร

มันเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่จะต้องปรับตัว มันเป็นส่วนที่รบกวนใจที่สุดเกี่ยวกับการทำงานในโรงพยาบาล รองจากข้อพิพาทระหว่างแพทย์และผู้ป่วย โดยปกติแล้วการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย จะใช้เวลานานถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ถ้าแพทย์ที่โชคร้ายอาจต้องทำงานถึงสามสิบหกชั่วโมงติดต่อกัน สิ่งนี้ทำให้มันยากสำหรับแพทย์ก็คือการหลีกเลี่ยง และการกำจัดความเกียจคร้านที่ทำลายสุขภาพและทำลายชีวิตแต่งงานของพวกเขา

อย่างไรก็ตามนักศึกษาแพทย์ก็ไม่สามารถใช้มาตรฐานทั่วไปของแพทย์เป็นบรรทัดฐานได้ คุณหมอโจวไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในการแสดงออกของหลิงรัน และพูดว่า "นายจะรู้ว่ามันโหดร้ายแค่ไหนเมื่อนายอยู่ในกะกลางคืน"

“เย็นนี้” . . .

แพทย์ที่อยู่ในกะดึกนั้นไม่ได้มีเพียงคนเดียว เนื่องมาจากหัวหน้าแพทย์มองว่าควรจะหาอะไรที่ทำให้แพทย์เหล่านั้นได้ผ่อนคลาย และพอจะมีเวลาร่าเริงได้บ้าง

แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวใหญ่กว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่เกรดเอธรรมดามาก โดยมีแพทย์ทั้งหมดหกคนที่เป็นหัวหน้าแพทย์หรือผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์ แพทย์ในแผนกถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มการรักษากับแพทย์ประจำจากแต่ละกลุ่ม การรักษาที่อยู่ในเวลากลางคืนในฐานะแพทย์คนแรก ร่วมกับแพทย์ที่เข้าร่วมการปฏิบัติหน้าที่จะมีแพทย์ชั้นนำหกคนทุกคืน

หัวหน้าแพทย์คนอื่นๆเท่านั้นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะแพทย์สำรอง

จำนวนแพทย์สายแรกและแพทย์สำรองจะมีอยู่ทุกคืนในโรงพยาบาลหยุนหัว ก็เปรียบได้กับจำนวนแพทย์ทั้งหมดในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหลายแห่ง

แน่นอนจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับในเวลากลางคืน ก็เทียบเท่ากับจำนวนผู้ป่วยแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอื่นๆที่ได้รับในหนึ่งวัน

คุณหมอโจวเดินไปรอบๆห้องสังเกตการณ์กับแพทย์ประจำแผนก ก่อนไปที่ห้องเรียกผู้ป่วยและแนะนำพวกเขาให้รู้จักหลิงรัน "แผนกฉุกเฉินของเรามีห้องพักเรียกรวมสี่ห้องสำหรับแพทย์สองห้อง สำหรับแพทย์ชั้นหนึ่งห้องหนึ่ง สำหรับแพทย์ระดับสองและห้องอีกห้องสำหรับแพทย์ชั้นสาม

ในขณะที่เขาพูดหมอโจวเปิดห้องให้หลิงรันดู

แพทย์สายแรกส่วนใหญ่ประกอบด้วยแพทย์ประจำบ้าน, พยาบาล, และแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ห้องเรียกนี้จัดสรรให้กับพวกเขาโดยแผนกคือห้องพักรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก มีห้องน้ำ แต่พวกเขาไม่สามารถใช้ห้องอาบน้ำ พวกเขาต้องนอนบนเตียงสองชั้นและห้องพักนั้นค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบกับหอพักของมหาวิทยาลัย

แพทย์สายที่สองส่วนใหญ่มีประสบการณ์การเข้าร่วมแพทย์ ห้องเรียกของพวกเขาเหมือนกับหมอชั้นเยี่ยม แต่มันมีไว้สำหรับนอนสองคนเท่านั้น แทนที่จะเป็นเตียงสองชั้นมีมันกับมีสองเตียงเดี่ยวซึ่งทำให้ห้องดูแคบลงเมื่อเทียบกับเตียงที่มีเตียงสองชั้น

แพทย์สายที่สามประกอบด้วยแพทย์หัวหน้าผู้ดูแลและหัวหน้าแพทย์ แม้ว่าห้องพักของพวกเขาจะยังคงเป็นห้องคู่ แต่มันก็ใหญ่กว่ามากและสิ่งอำนวยความสะดวกก็เปรียบได้กับห้องมาตรฐานในโรงแรมราคาประหยัด อย่างไรก็ตามห้องน้ำของพวกเขาก็ไม่พร้อมสำหรับการอาบน้ำเช่นกัน

หลังจากโชว์ให้เห็นครบทั้งสามห้อง - ซึ่งแสดงถึงลำดับชั้นอย่างมาก - ถึงหลิงรัน หมอโจวกล่าวว่า "ห้องพักไม่ได้ถูกจัดสรรให้กับบุคคลทั่วไป แพทย์ทุกคนในช่วงกลางคืนสามารถนอนหลับได้ แต่คุณเพียงเตรียมนำข้าวของส่วนตัวไปมากับนายเพื่อใช้มันในวันรุ่งขึ้น "

หลิงรันถามว่า "แล้วผ้าปูที่นอนและผ้าห่มล่ะ?"

“พยาบาลจะเปลี่ยนพร้อมกับผ้าปูที่นอนและผ้าห่มในหอผู้ป่วย” หมอโจวกล่าว

“บางครั้งเมื่อพวกเขายุ่งเกินไปพวกเขาจะวางผ้าปูที่นอนและผ้าห่มใหม่ข้างเตียง นายสามารถเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง” หมอประจำแผนกที่ดูธรรมดาๆจนคนอื่นจำชื่อเขาไม่ได้ หัวเราะเบา ๆ นิสัยดีและแบ่งปันประสบการณ์ของเขาด้วยความจริงใจ

"ที่จริงแล้วนายมักจะไม่มีโอกาสได้นอนเมื่อนายอยู่ในกะกลางคืน ในแผนกฉุกเฉินมีกรณีฉุกเฉินจำนวนมากในเวลากลางคืน" ในขณะที่แพทย์ประจำแผนกพูดเขาพูดและมุ่ยปาก "แต่หมอโจวอาจนอนหลับได้ดี "

"บ้านน่า... อย่าเหยียดหยามฉัน"เขาผู้กึ่งติดตลกหมอโจวหยุดแพทย์ประจำบ้านจากการคาดการณ์ และกล่าวว่า "ฉันจะนอนหลับได้ดีหรือไม่! ขึ้นอยู่กับพวกนายทุกคน เมื่อผู้ป่วยมาถึงพวกนายทุกคนจะเป็นผู้วินิจฉัยและดูแลพวกเขาก่อน ถ้าพวกนายสามารถจัดการพวกเขาได้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำ เช่นเดียวกัน ถ้าฉันสามารถจัดการพวกเขาได้ฉันก็ไม่ต้องตื่น  แพทย์สายที่สองพวกเขาจะนอนหลับสบายแน่นอน พวกเราทุกคนต้องจริงจังและเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้อง ไม่ทำให้ปัญหาไปถึงแพทย์สายสาม ไม่อย่างั้นพวกนายเตรียมตัวโดนดุได้เลย"

แพทย์ประจำแผนกพยักหน้าอย่างเมามัน แม้แต่หัวหน้าแพทย์ที่ไม่เคยด่าว่าคนอื่น ก็มักจะด่าถ้าพวกในกะเวลากลางคืน

"อีกอย่างหลิงรัน! นายไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานด้วยตัวเอง นายสามารถทำงานได้เมื่อมีหมออีกคนที่อนุญาตให้นายทำงานได้เท่านั้น" หมอโจวย้ำคำเตือนนี้

"ไม่เป็นไร" หลิงรันไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการทางการแพทย์เพียงคนเดียว เนื่องจากเขาไม่ได้รับใบอนุญาตทางการแพทย์ มีแพทย์จำนวนมากที่สามารถอนุญาตให้เขาทำงานในระหว่างวันได้ แต่ในเวลากลางคืนเขามันต่างออกไป

"ถ้าแพทย์คนแรกไม่สามารถจัดการกับคนไข้ได้ พวกเขาจะมองหาแพทย์คนที่สอง และถ้าแพทย์คนที่สองไม่สามารถดูแลคนไข้ได้ก็จะให้แพทย์คนที่สาม การเรียกผู้ป่วยมาจำนวนมากในเวลากลางคืนนายต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความปลอดภัยของผู้ป่วย เข้าใจไหม? "

เนื่องจากหลิงรันยังขาดประสบการณ์เขาจึงยอมรับสิ่งที่เขาได้ยิน

เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้แพทย์ประจำแผนกคนหนึ่งพูดพร้อมกับหัวเราะ“มันไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ฉันมาที่นี่สามปีแล้วและมีคนสองคนเท่านั้นที่ก่อปัญหาขึ้นทีนี้ตอนกลางคืน”

"มีผู้ป่วยที่ก่อปัญหาให้โรงพยาบาลปีละหนึ่งครั้งไม่พอหรือ" หมอโจวมองเขาแล้วพูดว่า "แม้แต่คนในกองทัพก็อาจไม่เจอกับการปะทะกันมากเท่าที่เราทำได้ โอเค! แค่ระวังทุกอย่างที่นายทำไปเถอะ"

หลังจากไล่ตามหลิงหรันและหมอประจำแผนกออกมา หมอโจวก็กลับไปที่ห้องเรียกแพทย์ที่สองและเรียกหาแพทย์ เขาเอนกายพิงเก้าอี้โดยขาของเขาหนุนและเปิดการออกอากาศข่าว เขาสบายมาก

สำหรับแพทย์ที่มุ่งมั่นการเป็นแพทย์นี้จุดเริ่มต้นของความฝัน ถ้าเขาโชคดีเขาอาจจะไม่ต้องลงมือทำทั้งคืน และยังคงได้รับเบี้ยเลี้ยงกะกลางคืน ซึ่งถือว่าเป็นสองเท่าของหมอประจำบ้าน

ณ สถานีพยาบาล

พยาบาลสาวในตอนกลางคืนรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นหลิงรัน แม้แต่นางพยาบาลหลิวที่แก่กว่าก็มีความสุขเมื่อเธอเห็นหลิงรัน เธอเทน้ำให้เขาและพูดด้วยรอยยิ้ม "นี้เป็นครั้งแรกที่อยู่กะดึกหรอ คุณหมอหลิง?"

"ใช้แล้วครับ ขอบคุณสำหรับน้ำนะครับ" หลิงรันหยิบเอาน้ำมา เขานั่งลงบนเก้าอี้พร้อมพนักพิงซึ่งพยาบาลให้เขาและเริ่มมองไปทางซ้ายและขวา

ในขณะที่เขาสังเกตสภาพแวดล้อมของเขาพยาบาลสาวรอบ ๆ หลิงรันก็สังเกตเห็นเขาเช่นกัน พวกเขาก้มหัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อเขามอง

"ผิวของหมอหลิงดีมากเลย" นางพยาบาลคนหนึ่งพูดอย่างกล้าหาญ และพยาบาลคนอื่น ๆ ก็เห็นด้วยทันที มีคนถามทันทีว่า "คุณดูแลผิวของคุณอย่างไร"

หลิงรันคิดและพูดว่า "ครีมล้างหน้าและสบู่มาจากแม่ของผม เธอให้ครีมบำรุงผิวหน้าผมด้วย"

ถ้าผู้ชายที่ไม่หล่อต้องตอบด้วยคำตอบเดียวกัน เขาจะถูกเรียกว่าเป็นไอพวกมัมมี่ อย่างไรก็ตามพยาบาลสาวรู้สึกเวียนหัวด้วยความตื่นเต้นแต่ไม่พบปัญหาใด ๆ กับคำตอบของหลิงรัน พวกเขาร้องอุทานพร้อมกัน

"แม่หมอหลิง เป็นคนที่ทันสมัยมากๆเลยนะ"

"โชคดีที่แม่ของ หมอหลิงรู้วิธีดูแลผิว"

มีแม้แต่นางพยาบาลคนหนึ่งที่กระซิบกับเพื่อนของเธอ "ฉันก็ดูเหมือนจะเข้ากับแม่สามีคนนี้ได้นะ แฮร่ๆ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด