ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0412 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0414 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0413 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 413 : วิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดงที่สูญหาย

คู่ต่อสู้ของฉินหยุน ก็คือฉื่ออวี้เก๋อ!

ฉื่ออวี้เก๋อแข็งแกร่ง นางคือศิษย์ของสำนักราชันจ้าวเหนือหล้า และยังเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งคนใหม่แห่งแดนเหนือ นางถือว่าได้รับความสนใจอย่างมากล้ำ

ฉื่ออวี้เก๋อยิ้มกว้าง “ฉินหยุน โชคเจ้าดูไม่ดีเอาเสียเลยนะ!”

“คงอย่างนั้น!” ฉินหยุนตอบอย่างเฉยชา

“ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและนางแพศยาเฟิงหงหลัน ดูเหมือนจะดีไม่เลวนี่ วิญญาณยุทธ์ของนางถูกนำออกมา ทั้งยังถูกทำให้เสียโฉม กระนั้นเจ้าก็ยังปกป้องนางไว้ ช่างเป็นเด็กใสซื่อยิ่งนัก! ฮ่าฮ่าฮ่า” ฉื่ออวี้เก๋อหัวเราะดัง

ขณะนี้เอง ฉินหยุนกลับมีโทสะ ต้องสูดลมหายใจหนักหน่วงครั้งหนึ่ง สะกดข่มความโกรธเอาไว้และตอบคำ “ข้าชักสงสัยแล้ว ว่าโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือแท้จริงเลือกที่อะไร พอมาคิดว่ากลับเป็นหญิงเช่นเจ้า! กล่าวตามตรง ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์หรือการวางตัว เจ้าล้วนต้อยต่ำกว่าหงหลันทุกด้าน!”

“ตำหนักจารึกเทวะคล้ายสายตามืดบอดหรืออย่างไร? พวกเขาเมื่อไม่มีตัวเลือก แทนที่จะปล่อยตำแหน่งเว้นว่าง กลับสุ่มเลือกขยะเปียกเช่นนี้ขึ้นมา ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงของภูมิภาคแดนเหนืออย่างแท้จริง!”

เขาตั้งใจกล่าวด้วยน้ำเสียงอันดัง ทำให้ใบหน้าของฉื่ออวี้เก๋อกลับกลายเป็นดำมืด

ฉื่ออวี้เก๋อมีโทสะรุนแรง กล่าวตอบโต้อย่างกราดเกรี้ยว “หากใบหน้าของเฟิงหงหลันเสียโฉมไปแล้ว ก็เท่ากับนางอัปลักษณ์ไปตลอดชาติ! จะมีอันใดให้นางเทียบเปรียบกับข้าได้กัน?!”

“ไม่ว่าเทียบกันด้านใด นางก็ดีกว่าเจ้าทุกตรง!” ฉินหยุนแค่นเสียง

ฝูงชนขณะนี้เงียบงันรับชมการโต้เถียง สำหรับโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือ หลายคนยังคงรู้สึก ว่าเฟิงหงหลันอย่างไรแล้วก็ดีกว่าฉื่ออวี้เก๋อ กระนั้นพวกเขาไม่มีใครกล้าพูดกล่าวกันออกมา

“คนจากภูมิภาคอื่นเองก็อยู่ที่นี่! แดนตะวันออก แดนใต้ แดนตะวันตก... พวกเขาล้วนแข็งแกร่ง ข้าสงสัยนักว่าพวกเขาจะมีผู้ฝึกตนโทเทมมาด้วยหรือไม่?” คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นอย่างกะทันหัน

ฝูงชนะขณะนี้ ล้วนหันมองทางถนนเส้นหลักที่นำไปสู่ลานฝึกฝน

ดังคาด กลุ่มคนที่เดินเข้ามา กำลังพูดคุยกันพลางหัวเราะ

“เหมือนจะมีหญิงสาวหลายคน... ใครจะรู้ บางทีสี่โฉมงามแห่งแดนยุทธ์อ้างว้าง อาจจะมารวมตัวกันที่นี่ก็ได้!”

“พละกำลังของอีกสามภูมิภาค ก็ต้องแข็งแกร่งไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน พวกเขาเองก็ต้องการทราบผลการแข่งขันของแดนเหนือเหมือนกันหรือ?”

ราชันยุทธ์หงหยิงขณะนี้ บอกต่อหงเหยียนและหงเมิ่งจู “ไปกันเถอะ พ่อจะพาพวกลูกไปพบสหายเก่า!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยติดตามไปด้วยความตื่นเต้นยินดี นี่จะยิ่งเป็นการเปิดขอบฟ้าให้แก่นาง ด้วยเหตุนี้ นางจะได้ไปหลอกลวงคนกลุ่มนี้ในภายหน้าได้

กลุ่มคนที่เพิ่งมาถึง หาได้มีผู้ใดเรียบง่ายไม่ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มที่ตามหลังผู้อาวุโส พวกเขาล้วนต้องแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

ได้เห็นเด็กหนุ่มและเด็กสาวรูปงามหลายคน สีหน้าของฉื่ออวี้เก๋อพลันแปรเปลี่ยน นางเป็นกังวลว่าเมื่อถึงเวลา นางจะถูกกระชากลงจากตำแหน่ง

ฉินหยุนขณะนี้คิด ว่าหากเฟิงหงหลันอยู่ที่นี่ ต่อให้ระดับการฝึกฝนของนางไม่สูงส่ง อย่างไรแล้วย่อมต้องดีกว่าโฉมงามอันดับหนึ่งของภูมิภาคอื่นอย่างแน่นอน

“ผู้จัดการขอรับ อะไรคือเกณฑ์การคัดเลือกโฉมงามอันดับหนึ่งกัน?” ฉินหยุนขณะนี้มองที่มู่เฟิง พร้อมเอ่ยถามขณะยิ้มให้

“ก็นะ... เป็นการแนะนำจากสำนักใหญ่หลายแห่ง จากนั้นค่อยตัดสินโดยบรรดาอาจารย์จารึกของตำหนักจารึกเทวะของเรา!” มู่เฟิงยิ้มตอบ

“เป็นเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่มีผู้อื่นจากแดนเหนือลงทะเบียนเข้าร่วมอย่างนั้นสินะ!” ฉินหยุนเอ่ยคำอย่างคิดจ้วงแทง

ฉื่ออวี้เก๋อเสียงเย็นตอบคำกลับมา “ฉินหยุน เจ้าก็ได้เห็นแล้ว ยอดฝีมือหนุ่มสาวจากอีกสามภูมิภาคล้วนอยู่ที่นี่! รอสักประเดี๋ยว ข้าจะแสดงให้พวกเขาได้เห็น ว่าเจ้าจะตายตกในมือข้าเช่นไร!”

“เหอะเหอะ! ไม่ว่าจะด้วยอะไร ข้าก็มีเรื่องกับสำนักราชันอัคคีไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังมีสำนักราชันทะยานสวรรค์ ข้าหาได้หวั่นเกรงยั่วยุสำนักราชันจ้าวเหนือหล้าของเจ้าไม่!” ฉินหยุนยิ้มอ่อน

รอบรองชนะเลิศกำลังจะเริ่มขึ้น ลานประลองทั้งสอง จะดำเนินไปพร้อมกัน!

“รอบสุดท้ายต้องเป็นอู่ขวนเซี่ยงจากตำหนักโทเทม ปะทะกับฉื่ออวี้เก๋อจากสำนักราชันจ้าวเหนือหล้าอย่างแน่นอน!”

“ฉินหยุนเองก็แข็งแกร่ง เขาอาจจัดการฉื่ออวี้เก๋อได้!”

“ไม่น่าได้!”

“ฉื่ออวี้เก๋อหาได้โง่เง่าเช่นเฟินไห่เถิง นอกจากนี้ นางยังทราบเป็นอย่างดีว่าฉินหยุนมีอะไรในมือ แต่เป็นฉินหยุนต่างหากที่ไม่ทราบ ว่านางครอบครองวิญญาณยุทธ์และโทเทมใด!”

ผู้คนต่างคาดคะเน ว่าโอกาสซึ่งฉินหยุนจะชนะในรอบนี้ออกจะต่ำเกินไป

กลุ่มคนที่มาจากอีกสามภูมิภาค ทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นแนวหน้า

ทั้งสำนักราชัน และราชอาณาจักรยุทธ์

เมื่อพวกเขาได้ทราบ ว่ามีผู้ฝึกตนโทเทมเสียชีวิต ก็เกิดความประหลาดใจไม่ใช่น้อย

เพราะเรื่องนี้เป็นข่าวชวนตื่นตะลึงเกินไป ในสถานการณ์ที่ไม่มีแรงกดดันในการต่อสู้สูงเช่นนี้ การยอมรับความพ่ายแพ้สามารถกระทำ ถือว่าหาพบได้ยากที่จะมีผู้อื่นตายในการประลอง

จากทั้งสามภูมิภาค มีคนกว่าร้อยคนเดินทางมา พวกเขาทั้งหมดขณะนี้เข้ามาหยุดที่แถวหน้า คิดอยากพบเห็นบุคคลอันมีชื่อเสียงจากภูมิภาคแดนเหนือ

ที่พวกเขาอยากรับชมจริงจัง ก็คือฝีมือของผู้ฝึกตนโทเทม

นี่ก็เพราะในสายตาของหลายผู้คน อู่ขวนเซี่ยงจากตำหนักโทเทม ถือเป็นผู้ฝึกตนอับดับหนึ่งในแดนเหนือที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สาม และยังมีความเป็นไปได้สูง ที่เขาจะครอบครองโทเทมถึงสอง!

หลังจากฉินหยุนและฉื่ออวี้เก๋อเตรียมการของตนเองกันเรียบร้อย การต่อสู้ก็ใกล้เริ่มขึ้นแล้ว ผู้คนต่างจับจ้องที่ลานประลองยุทธ์ของฉินหยุน

นี่ก็เพราะหลายคนเชื่อ ว่าอู่ขวนเซี่ยงสมควรชนะได้อย่างไม่มีอันใดผิดพลาด

ทางด้านฉินหยุน เขาอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สอง ด้วยเพราะเขามีดีบางอย่าง ผู้คนจึงอยากเห็นว่าเขาจะชนะหรือพ่ายแพ้

หลายคนต่างรู้สึก ว่าฉินหยุนแข็งแกร่งระดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่มีทางก้าวมาถึงตรงนี้ได้

พวกเขายังมีความคาดหวังซุกซ่อนในใจ ว่าฉินหยุนจะสามารถจัดการฉื่ออวี้เก๋อ และสามารถเผชิญหน้ากับตำหนักโทเทมได้

ระฆังลั่นการต่อสู้ ขณะนี้ดังขึ้นแล้ว!

ที่ฉินหยุนทำหาได้ใช่การโจมตี แต่เป็นเว้นระยะห่างออกมา!

ที่เขาเผชิญหน้าคือผู้ฝึกตนโทเทม หากไม่ทราบว่าอีกฝ่ายครอบครองโทเทมอันใด เช่นนั้นจะเป็นเขาเสียเปรียบหากบุ่มบ่ามลงมือ

ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ ฉื่ออวี้เก๋อยิ้มทรงเสน่ห์ ขณะร่างนั้นปลดปล่อยหมอกสีแดงอ่อนจางออกมา ปกคลุมรอบลานประลองยุทธ์เอาไว้แทบในทันที

“วิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดง!” ขณะนี้ ฉินหยุนทั้งตระหนักได้และโกรธแค้น

วิญญาณยุทธ์ของเฟิงหงหลัน แท้จริงอยู่กับฉื่ออวี้เก๋อ!

“วิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดงอยู่ในตัวเจ้า?” ฉินหยุนคำรามกราดเกรี้ยว

“ด้วยวิญญาณยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมนี้ ถือว่าเหมาะกับข้าเป็นอย่างยิ่ง! นางแพศยาเฟิงหงหลันที่ครอบครองวิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดง ถือเป็นการเสื่อมเสียประการหนึ่งที่ได้ครอบครองวิญญาณยุทธ์เลิศล้ำนี้!”

ฉื่ออวี้เก๋อหัวเราะอย่างอหังการ “ฉินหยุน ข้ามีวิญญาณยุทธ์ของเฟิงหงหลัน ทั้งยังเผชิญหน้ากับเจ้า ทว่าเจ้าเอามันกลับคืนไปจากข้าไม่ได้!”

“นอกจากนี้ ข้ายังจะใช้วิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดงสังหารเจ้า นี่จะยิ่งทำให้นางสารเลวเฟิงหงหลันได้เจ็บปวดใจยามทราบข่าว ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“เจ้าไม่คู่ควรกับวิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดง!” ด้วยเสียงคำรามต่ำ ฉินหยุนพุ่งทะยาน เข้าถึงและปรากฏตัวต่อหน้าฉื่ออวี้เก๋อ

ขณะเขากำลังจะโจมตี เขาได้เห็น ว่ารูปลักษณ์ของฉื่ออวี้เก๋อขณะนี้ แปรเปลี่ยนเป็นร่างของเฟิงหงหลัน นอกจากนี้ ใบหน้านั้นยังเหมือนอย่างละเอียดพร้อมให้สัมผัสถึงได้

ขณะฉินหยุนคิดโจมตีใส่ เขาพลันตระหนักได้จนเกิดอาการชะงักงัน

ตู้ม!

ฉื่ออวี้เก๋อสะบัดมือหลายครั้ง ปะทะใส่ร่างของฉินหยุนอย่างไม่ยั้ง

ฉินหยุนต้องถอยกลับกว่าสิบก้าว เสื้อผ้าฉีกขาดหลุดลุ่ย มีรอยประทับฝ่ามือปรากฏตามร่างหลายฝ่ามือ

ฝ่ามือสีแดงนำพามาพร้อมกลิ่นหอมของกล้วยไม้แดง พวกมันประทับเข้าที่ร่างของฉินหยุน!

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ฉื่ออวี้เก๋อหัวเราะ “ฉินหยุน เจ้านั้นตายไปแล้ว!”

โมโมเร่งรีบเอ่ยคำ “พี่หยุน นี่เป็นพลังของโทเทมเสน่ห์ มันจะทำให้วิญญาณยุทธ์หลงเสน่ห์ ทำให้ผู้ที่ได้รับผลต้องเกิดอาการกระสับกระส่ายและเสียกำลังใจ!”

ชายชราจากแดนใต้เอ่ยคำ “นี่สมควรเป็นโทเทมเสน่ห์! โทเทมเช่นนี้พิเศษยิ่ง สามารถมอบพลังพิเศษแก่ผู้ใช้งาน ประทับลงที่ร่างของผู้อื่น จากนั้นจะทำให้วิญญาณยุทธ์สับสน และทำให้วิญญาณยุทธ์ไม่อาจปลดปล่อยพลังออกมาได้!”

“ดูเหมือนตำหนักโทเทมจะรวบรวมโทเทมชั้นดีมาได้ไม่น้อย!”

“อู่ขวนเซี่ยงจากตำหนักโทเทมชนะ และเป็นชัยชนะโดยไม่ต้องสู้ เพราะไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรกับเขา อย่างไรแล้ว เขาก็เป็นคนของตำหนักโทเทม!”

สาเหตุว่าทำไมฉื่ออวี้เก๋อแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ ก็เพราะนางใช้พลังของโทเทม ถัดจากนั้น นางจึงใช้วิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดงของนาง ผสานรวมกับโทเทมเสน่ห์ เพิ่มพูนพลังทำให้มัวเมา ทำให้วิญญาณยุทธ์ของผู้อื่นยิ่งหลงเสน่ห์

ฉินหยุนขณะนี้ ใช้เคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณ ทำการควบแน่นพลังวิญญาณในฝ่ามือ ลบทิ้งประทับฝ่ามือที่อยู่ตามร่างกายของตนเอง

เขาสามารถลบพวกมันออกง่ายดาย ทำเอาฉื่ออวี้เก๋อหาได้เผยรอยยิ้มออกมาอีกไม่

“ดูเหมือนโทเทมของเจ้าจะไม่มีพลังอะไรมาก ทำได้แต่ช่วยสนับสนุนเท่านั้น!” ฉินหยุนยิ้มเย็น ผู้ฝึกตนโทเทมที่ไม่ต่างอะไรกับไม่มีโทเทม ก็แทบไม่ต่างอะไรไปจากผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สามทั่วไป

ในสายตาของฉินหยุน โทเทมของฉื่ออวี้เก๋อ มีก็เหมือนไม่มี!

เมื่อบรรดาผู้อาวุโสจากสำนักราชันจ้าวเหนือหล้า ได้เห็นฉินหยุนทำการลบรอยประทับฝ่ามือโดยง่ายดาย พวกเขาถึงขั้นหารือกันด้วยความตื่นตระหนกว่าเกิดอันใดขึ้น

โทเทมของฉื่ออวี้เก๋อ แน่นอนว่าแข็งแกร่ง หากวิญญาณยุทธ์ของเขาหลงเสน่ห์หลายครั้งเข้า พลังจะเกิดความปั่นป่วน ส่งผลกระทบต่อพละกำลังของเขาโดยตรง และไม่ช้า เขาก็จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเอง

ทว่าตอนนี้ ด้วยเคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณของฉินหยุน มันสามารถขับไล่รอยประทับฝ่ามืออย่างง่ายดาย!

“นี่... เป็นไปได้อย่างไร...”

ฉื่ออวี้เก๋อพอกล่าวคำจบ นางค่อยตระหนักได้ ว่าฉินหยุนขณะนี้พุ่งทะยานเข้าหาแล้ว นางเร่งรีบแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นเฟิงหงหลัน ทว่าขณะนี้เอง ใบหน้าของนางก็ถูกโจมตีเข้าด้วยฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์!

ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ที่กราดเกรี้ยว ทอแสงวูบด้วยอสนีบาตและอัคคี เข้าปกคลุมทั้งร่างของฉื่ออวี้เก๋อ!

ตู้ม!

ฝ่ามือของฉินหยุน ฟาดลงอย่างหนักแน่นเข้าที่ใบหน้าของฉื่ออวี้เก๋อ พร้อมปลดปล่อยสายฟ้าอสนีบาตทองม่วงออกมาสองสาย!

เสียงฟ้าคำรามดังสนั่น เปลวเพลิงปกคลุมทั่วทั้งลานประลองยุทธ์ แปรเปลี่ยนเป็นนรกอสนีบาตอัคคีอย่างสิ้นเชิง สภาพเช่นนี้ นับว่าขู่ขวัญผู้คนได้เป็นล้นพ้น!

ในช่วงเวลานี้เอง ฉื่ออวี้เก๋อจึงถูกปลิดปลงศีรษะ

ผู้ฝึกตนโทเทมอีกคนหนึ่ง ได้เสียชีวิตลงด้วยอีกฝ่ามือแล้ว!

ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของฉินหยุน เป็นอีกครั้งที่สะท้านสะเทือนหัวใจของเหล่าผู้ชม!

ผู้คนขณะนี้ล้วนขบขัน ยามได้ทราบว่าโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือ ต้องตายเพียงไม่นานหลังจากได้รับเลือก!

กลับเป็นบรรดาผู้คนของตำหนักจารึกเทวะ ที่ต้องลำบากใจ เนื่องจากต้องทำการคัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง

“ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ น่าสะพรึงนัก!”

“ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของเด็กน้อยผู้นี้ ช่างร้อนแรงนัก!”

“เขาเพียงขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สอง นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

“อย่าลืมสิ เขามีวิญญาณยุทธ์ทองม่วง และสองแก่นเต๋า เท่านี้ไม่น่าสะพรึงพอหรือไร!”

ผู้คนจากภูมิภาคอื่นที่เพิ่งมาถึง ได้ทราบว่าเฟินไห่เถิง ผู้ฝึกตนโทเทม ถูกสังหารด้วยฝ่ามือเพียงครั้งเดียว ในตอนนั้นพวกเขาต่างไม่เชื่อ

แต่คราวนี้ พวกเขารอคอยเพียงไม่นาน จึงได้เป็นประจักษ์พยาน ถึงการเสียชีวิตของผู้ฝึกตนโทเทมอีกคนหนึ่งบนลานประลองยุทธ์ ด้วยฝ่ามือเพียงหนึ่ง!

ฉินหยุนผลักเข้าที่หน้าท้องของฉื่ออวี้เก๋อด้วยฝ่ามือ ส่งบอลเปลวเพลิงออก จากนั้นจึงใช้เคล็ดวิชาแยกวิญญาณ ทำการดึงวิญญาณยุทธ์กล้วยไม้แดงกลับคืนมา

เพราะทั่วทั้งลานประลองปกคลุมด้วยอัคคีเพลิง มันจึงปกปิดความจริงที่เขาชักนำวิญญาณยุทธ์ของอีกฝ่ายออกมา

มีแต่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยและมู่หรงต้าเหริน ที่ทราบว่าฉินหยุนเมื่อครู่นี้นำวิญญาณยุทธ์ของเฟิงหงหลันออกมา

อสนีบาตและอัคคีทั่วทั้งลานประลองขณะนี้ค่อยเลือนหาย และเผยให้เห็นร่างของฉื่ออวี้เก๋อที่ถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน

ฉินหยุนทวงคืนวิญญาณยุทธ์กล้วยได้แดงกลับมาได้ ทำเขายินดีไม่น้อยเลยทีเดียว

“ผู้ฝึกตนโทเทมงั้นหรือ? มันก็ได้แค่นี้! ตอนแรกนึกว่าจะแข็งแกร่งอะไร ต้านรับหนึ่งฝ่ามือของข้ายังไม่ได้!” ฉินหยุนกล่าวยั่วยุเสียงเบาออกมา

ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของเขา เป็นการควบแน่นของพลังจากแก่นเต๋า พลังอำนาจของมัน นับว่าชวนสะพรึงอย่างถึงที่สุด

บรรดาผู้ที่ไม่เคยประสบพบเจอด้วยตนเอง ย่อมไม่มีทางเข้าใจถึงพลังอำนาจนี้

ฉินหยุนตอนนี้ได้เข้าใจ ว่าเหตุใดฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ถึงเป็นพลังที่น่าสะพรึง ก็ตอนที่เขาใช้พลังเต๋าจากแก่นเต๋าตะวันทมิฬ!

ก่อนหน้านี้ เขาไม่อาจปลดปล่อยพลังของวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬออกมาได้ แต่ตอนนี้ ด้วยฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ เขาสามารถปลดปล่อยพลังสุดหยั่งของมันออก

เสียงร่ำไห้ของบรรดาผู้อาวุโสจากสำนักราชันจ้าวเหนือหล้า ร้องดังระงมจนแทบทะลุท้องนภา

พวกเขาครานี้ขมขื่นยิ่งกว่าสำนักราชันทะยานสวรรค์ เพราะก่อนหน้านี้ยังมีร่างครึ่งหนึ่งเหลือให้เก็บ

ทว่าตอนนี้ ฉื่ออวี้เก๋อแม้เถ้าธุลีก็ไม่เหลือให้เก็บ!

มู่เฟิงประกาศ “การประลองรอบสุดท้าย จะเป็นฉินหยุนปะทะกับอู่ขวนเซี่ยง! ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สามซึ่งแข็งแกร่งที่สุดแห่งแดนเหนือ จะทราบกันในศึกครั้งถัดจากนี้!”

เป็นเขารู้สึก ว่าฉินหยุนเก็บงำพลังอันแข็งแกร่งกว่านี้เอาไว้ ทำให้เขาคาดหวัง ที่จะได้เห็นการประลองระหว่างฉินหยุนและอู่ขวนเซี่ยง ว่ามันจะดุเดือดเลือดพล่านเพียงใด

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด