เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0412 [อ่านฟรี]
ตอนที่ 412 : ชะล่าใจ
ร่างของฉินหยุนถูกฝังภายใต้มวลน้ำ ทั้งร่างถูกแรงดันน้ำทะเลกดทับตรึงเอาไว้จนไม่อาจขยับ
คอของเขาถูกเกาะกุมเอาไว้จนสำลัก
“เหอะเหอะเหอะ...” ผู้อาวุโสจากสำนักราชันทะยานสวรรค์ ขณะนี้หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฉินหยุนหมดโอกาสให้ยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว!”
ความหมายก็คือ เพราะเขาสำลักน้ำ และขณะนี้ก็จมอยู่ใต้มวลน้ำ ดังนั้นเสียงจึงไม่อาจเปล่งออก
“มันคิดจริงหรือ ว่าสามารถจัดการไห่เถิงได้!” หนึ่งในผู้อาวุโสหัวเราะลั่น “ไห่เถิงคือผู้ฝึกตนโทเทม คนอย่างมันจะเอาชนะได้อย่างไร?”
ขณะผู้อาวุโสคนนี้กล่าวคำจบ ร่างของฉินหยุนพลันไหววูบด้วยแสงสีทองม่วง มวลสายฟ้าอสนีบาตทะลักล้นพุ่งเข้าปะทะใส่เฟินไห่เถิง
เฟินไห่เถิงขณะนี้ ร่างชักกระตุกเพราะมวลสายฟ้า เขาไม่คิด ว่าพลังสายฟ้าของฉินหยุนจะรุนแรงชวนสะพรึงระดับนี้ มันทำเอาเขาต้องเจ็บปวดอย่างสาหัส
ที่เลวร้ายกว่านั้น ก็คือน้ำทะเลที่ปกคลุมร่างพวกเขาทั้งสอง มันเชื่อมโยงถึงแก่นเต๋าของเขาด้วย!
ฉินหยุนฉับพลันระเบิดพลังสายฟ้าอสนีบาตรุนแรงออกมา มวลสายฟ้าวิ่งตามน้ำทะเล ไหลหลั่งเข้าสู่แก่นเต๋าของเฟินไห่เถิง โจมตีแก่นเต๋าด้วยกระแสสายฟ้ารุนแรง
“เป็นวิญญาณยุทธ์น้ำ!” ฉินหยุนหัวเราะเสียงเย็น เขายังปลดปล่อยพลังสายฟ้าออกอย่างต่อเนื่อง
ฉินหยุนและเฟินไห่เถิงขณะนี้จมอยู่ใต้น้ำ เสียงฟ้าคำรามและสายฟ้า ถูกส่งผ่านมวลน้ำ เกิดเป็นกระแสไฟฟ้าแลบแปลบปลาบทั่วทุกหัวมุม
ฉินหยุนครอบครองวิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคีทองม่วง เขาย่อมไม่หวาดเกรงสายฟ้า
ทางด้านเฟินไห่เถิง ร่างของเขาชักกระตุก ดวงตากลิ้งกลอกไม่อาจจับภาพ คิดอยากยอมแพ้ กระนั้นก็ไม่อาจพูดอันใดออกไปได้!
บรรดาผู้อาวุโสของสำนักราชันทะยานสวรรค์ล้วนแตกตื่น ใบหน้าเผยความกังวลกันทั้งสิ้น
พวกเขากล่าวโทษเฟินไห่เถิงที่โจมตีเช่นนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ฉินหยุนใช้พลังเต๋าสายฟ้าโจมตีเข้าใส่
“เฟินไห่เถิงทำตัวเองตกที่นั่งลำบากแล้ว!”
“ดูร่างที่สั่นกระตุกไม่หยุดจนเหมือนเต้นราวคนบ้านั่นสิ ต้องเจ็บปวดไม่ใช่น้อยแน่!”
“เขาถูกฉินหยุนทำให้ชะล่าใจ!”
“ไม่ควรใช้มวลน้ำจมร่างตัวเองและฉินหยุนเลยจริง ๆ”
ภายในมวลน้ำที่ยุ่งเหยิงบนลานประลอง กระแสสายฟ้าทองม่วงวูบไหวไปมาอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาเฟินไห่เถิงเจ็บปวดเหลือคนา ทั้งร่างดิ้นไปมาเพราะความเจ็บปวด
หงเมิ่งจูเอ่ยถามเสียงเบา “เสด็จพ่อ การประลองครั้งนี้ผลลัพธ์ปรากฏแล้วใช่หรือไม่?”
ราชันยุทธ์หงหยิงขมวดคิ้ว “ยังไม่ เฟินไห่เถิงเป็นผู้ฝึกตนโทเทม อย่างไรแล้วเขาก็สมควรต้องแข็งแกร่ง!”
ผู้ฝึกตนโทเทมคนอื่น ขณะนี้ก็ประหลาดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเช่นกัน
ผู้อื่นอาจไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งของเฟินไห่เถิง แต่บรรดาผู้ฝึกตนโทเทม ต่างทราบดีว่าพละกำลังอีกฝ่ายทัดเทียมตนเอง
แต่แล้วตอนนี้ อีกฝ่ายถูกฉินหยุนสะกดข่มเอาไว้โดยสมบูรณ์!
ผู้คนขณะนี้ต่างคิด ว่าเป็นเฟินไห่เถิงขาดความระวัง และได้ใจเกินไปจนปล่อยให้ฉินหยุนใช้สายฟ้าออกมาได้
“แก่นเต๋าของเฟินไห่เถิง เชื่อมต่อกับน้ำทะเล แต่ขณะนี้ มันถูกกระแสสายฟ้ากระทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ด้วยดีเหมือนเดิม กระทั่งเรียกน้ำทะเลกลับคืนก็ทำไม่ได้!”
“ชักสงสัยแล้วสิว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหนกัน!”
“ฉินหยุนแข็งแกร่งไม่เลว! ไม่นึกเลยว่าอาจารย์จารึกอย่างเขา จะมีฝีมือการต่อสู้สูงล้ำเพียงนี้!”
“ไปทางนั้นแล้ว คิดทำอะไรกันนั่น?”
ฉินหยุนผู้ซึ่งอยู่ภายในมวลน้ำ ฉับพลันรุกคืบเข้าไป ต่อยเข้าที่หน้าท้องของเฟินไห่เถิงด้วยหมัดซ้าย ใกล้บริเวณที่แก่นเต๋าคงอยู่
เมื่อหมัดซัดออก มวลน้ำทะเลมหาศาลพลันระเบิดกระจาย “ซ่า!” ตกเป็นสายฝนครั้งใหญ่กับพื้น น้ำกระเซ็นกระจายทั่วทั้งลานประลอง
หมัดของฉินหยุนที่เคลื่อนในน้ำเชื่องช้า แต่มันเป็นการใช้พลังสายฟ้าของราชสีห์สวรรค์ร่วมกับพลังภายในเก้าสมบูรณ์ เมื่อปะทะกับแก่นเต๋าของเฟินไห่เถิง แก่นเต๋านั้นถึงกับแตกสลาย!
“อ๊าก!” เฟินไห่เถิงกรีดร้อง ฉินหยุนเดินเข้าหารวดเร็ว ยกมือขึ้น ซัดออกด้วยฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์
ฝ่ามือเคลื่อนคล้อยลงเปรียบดั่งสายฟ้าอสนีบาต เสียงฟ้าคำรามระเบิดดังพร้อมอัคคีเพลิงทะลัก ราวกับมังกรพิโรธ มันปะทะเข้าที่ใบหน้าของเฟินไห่เถิง
ตู้ม! เสียงนี้ดังสนั่นกึกก้อง!
ฝ่ามือของฉินหยุน ปะทะเข้าที่ใบหน้าของเฟินไห่เถิง ด้วยอสนีบาตอัคคีทองม่วง เกิดประกายไฟและสายฟ้ากระจายทั่วทิศราวดอกไม้ไฟ!
ผู้คนต่างมองลานประลองด้วยอาการแตกตื่น!
ทุกคนล้วนได้เห็น ว่าทันทีที่พลังระเบิดออก ร่างกายท่อนบนของเฟินไห่เถิง กลับกลายเป็นฝุ่นผงธุลีเพราะฝ่ามือมังกรอสนีบาตอัคคี!
ร่างอีกครึ่งหนึ่งของเฟินไห่เถิง แน่นิ่งกับพื้นไม่ไหวติง ทำเอาหัวใจทุกผู้คนที่ได้เห็นกลายเป็นหนักอึ้ง!
ผู้ฝึกตนโทเทม ถึงกับตายอย่างน่าสังเวชเช่นนี้!
ฉินหยุนไม่เคยคิดมาก่อน ว่าการรวมพลังของแก่นเต๋าทั้งสาม ก่อเกิดขึ้นเป็นฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าสะพรึงกลัวเพียงนี้!
นี่คือพลังของฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ ความแข็งแกร่งที่มันปลดปล่อยออก ถึงกับมากล้นจนกระทั่งผู้ใช้ยังคาดไม่ถึง!
ราชันยุทธ์หงหยิงถอนหายใจยาว “จูเอ๋อ สหายของลูก... ช่างเด็ดขาดยิ่งนัก!”
“ไห่เถิง!” บรรดาผู้อาวุโสของเขาร้องออกด้วยทั้งความโศกและกราดเกรี้ยว
เสียงร่ำไห้จากบรรดาผู้อาวุโสของสำนักราชันทะยานสวรรค์ ปกคลุมทั่วทั้งสนามประลอง ขณะนี้ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงอันใด เพราะเกรงว่าจะเป็นการยั่วยุสำนักราชันเข้า
เมื่อผู้ฝึกตนโทเทมคนอื่นได้เห็นเฟินไห่เถิงถูกสังหาร พวกเขาเพียงถอนหายใจ หาได้หวาดกลัวฉินหยุนเพราะเรื่องนี้ไม่
นี่ก็เพราะพวกเขาต่างคิดเห็นเช่นเดียวกัน ว่าฉินหยุนสังหารเฟินไห่เถิงได้โดยอาศัยโชคช่วย
ผู้คนล้วนได้เห็น ว่าการโจมตีสุดแกร่งของฉินหยุนก็แค่ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์
เฟินไห่เถิงกล่าวได้ว่าประมาท ถูกสายฟ้าอสนีบาตของฉินหยุนพัวพันจนไม่อาจตอบโต้ เพราะเหตุนั้นจึงเรียกชัยชนะครั้งนี้ว่าโชคดี
ฉินหยุนเองก็ไม่คิด ว่าตัวเขาจะสามารถสังหารเฟินไห่เถิงได้ง่ายดายเพียงนี้ ตอนแรกเพียงคิดแค่ว่าจะขู่ให้กลัวก็เท่านั้น
เมื่อครู่ เขาเพียงคิดทำให้เฟินไห่เถิงบาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้ อีกฝ่ายกลับตายคามือเขาเสียอย่างนั้น!
“ฉินหยุนได้รับอันดับหนึ่งประจำสายการแข่งขัน!” มู่เฟิงประกาศเสียงดังเมื่อดึงสติคืนมาได้
เขาปลดค่ายอาคมออก พร้อมเข้ามายืนด้านข้างฉินหยุน เป็นการป้องกันไม่ให้บรรดาผู้อาวุโสสำนักราชันทะยานสววรรค์ลงมืออย่างบุ่มบ่าม
รอยสักโทเทมทะเล ที่แกะสลักบนร่างกายเฟินไห่เถิงขณะนี้เลือนหายไปแล้ว อย่างไรมันก็เป็นแค่ของที่ตำหนักโทเทมแกะสลักเอาไว้ หากเจ้าของตาย ย่อมไม่มีทางได้รับมาเหมือนอย่างโทเทมของจริง
ผู้ฝึกตนโทเทมที่แกะสลักพวกมันเอาไว้ตามร่างกาย ทุกชั่วระยะเวลาหนึ่ง พวกเขาจำเป็นต้องไปยังตำหนักโทเทม เพื่อขอให้มีการซ่อมบำรุงพวกมัน
ตำหนักโทเทมใช้วิธีการนี้ เพื่อทำให้สำนักราชันต้องยอมรับใช้พวกเขา
“ฉินหยุน เจ้าต้องตายอย่างน่าสังเวช!” ผู้อาวุโสที่เปี่ยมล้นด้วยโทสะคำรามใส่ฉินหยุน
“สำนักราชันของเรา จะไม่หยุดจนกว่าจะสังหารทุกผู้คนจากประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ได้!”
“ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ต้องถูกกวาดล้าง!”
“ไป กลับกันได้แล้ว ไปร่วมมือกับสำนักราชันอัคคี มุ่งหน้าไปจัดการประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์!”
บรรดาผู้อาวุโสเอ่ยคำอย่างกราดเกรี้ยวต่อฉินหยุนที่อยู่บนลานประลองยุทธ์
ฉินหยุนขณะนี้ยืนข้างหลังมู่เฟิง เขายังต้องลอบประทับใจในพลังอำนาจของตำหนักจารึกเทวะ กระทั่งผู้อาวุโสเหล่านั้นมีโทสะล้นพ้น พวกเขาก็เพียงแต่ชี้หน้าด่าเท่านั้น
“เป็นข้าบังเอิญทำหมอนั่นตาย... ใครกันจะคิดว่ามันอ่อนแอเพียงนี้ ถึงกับใช้ฝ่ามือเดียวทำลายร่างของมันได้เช่นนั้น!” ฉินหยุนพึมพำ
เมื่อครู่นี้ ทุกคนต่างก็ได้เห็น ว่าฉินหยุนมีสีหน้าตื่นตะลึงยามปล่อยการโจมตีออกไปแล้ว
เรื่องนี้ทำเอาทุกผู้คนที่นี้ ต่างต้องสูดลมหายใจลึก เพราะฉินหยุนเผลอลงมือสังหารเฟินไห่เถิงไปจริง
ผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งของสำนักราชัน ขณะนี้เมื่อก่นด่าจนสาแก่ใจแล้ว พวกเขาจึงออกไปจากพื้นที่
มู่เฟิงถอนหายใจโล่งอก เพราะเขาไม่จำเป็นต้องออกหน้าลงมือทำอะไร
จากนั้นเขาจึงตะโกน “ถัดจากนี้ ให้ออกมาสุ่มจับหมายเลข! ตัดสินว่าจะได้ต่อสู้กับใคร การประลองยุทธ์คู่ถัดจากนี้ คือการตัดสินรอบสี่คนสุดท้าย!”
สายที่เจ็ดและแปดไม่มีผู้ฝึกตนโทเทม แรงกดดันของพวกเขาในรอบที่ผ่านมาจึงค่อนข้างไม่ตึงเครียด ขณะนี้ได้แต่คาดหวังว่าจะจับได้ฉินหยุน
เพียงไม่นาน คู่ต่อสู้ก็ถูกกำหนดเรียบร้อย
ฉินหยุนประลองกับสายที่แปด คู่ต่อสู้เป็นองค์ชายแห่งยุทธ์ซ่ง นามว่าซ่งอวี้ สีหน้าอีกฝ่ายขณะนี้ดูยินดีไม่น้อยเลยทีเดียว
ฉินหยุนก็เป็นเช่นเดียวกัน ภายในใจของเขาขณะนี้ยินดีระดับหนึ่ง!
อีกทางหนึ่ง ชายชุดดำจากตำหนักโทเทม ขณะนี้ต้องประลองยุทธ์กับองค์ชายที่สืบทอดโทเทมจากแคว้นยุทธ์เย่ว์!
ผู้ฝึกตนโทเทมจากสำนักราชันอัคคี ก็ได้คู่ต่อสู้เป็นองค์ชายจากผู้ฝึกตนโทเทมแคว้นยุทธ์ซ่ง
สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเดือนเหนือ คือผู้มาจากสำนักราชันจ้าวเหนือหล้า ได้ประลองกับศิษย์ของสำนักราชันอัคคีในสายประลองที่เจ็ด
ขณะนี้ ฉินหยุนค่อยเข้าใจ ว่าศิษย์ของราชอาณาจักรยุทธ์ รวมถึงสำนักราชัน ที่พวกเขาครอบครองโทเทมเอาไว้ ก็มีแต่ผู้ที่ให้ความร่วมมือกับตำหนักโทเทม
แคว้นยุทธ์หงไม่มีผู้ฝึกตนโทเทม นี่หมายความถึง ความสัมพันธ์ของพวกเขาและตำหนักโทเทมไม่ลึกล้ำนัก
การประลองทั้งสี่คู่ จะเป็นการสู้โดยพร้อมกัน
ฉินหยุนก้าวเดินขึ้นบนลานประลอง มองไปยังซ่งอวี้ที่อ้วนฉุ พบว่าเรื่องราวชวนขบขันไม่น้อย
ซ่งอวี้สวมใส่ชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ขณะนี้อาจคิด ว่าได้ต่อสู้กับฉินหยุนเป็นเรื่องวิเศษประการหนึ่ง
เป็นเขาเชื่อมั่นในตนเอง ว่าสามารถจัดการฉินหยุนจนขึ้นเป็นสี่อันดับแรกได้!
กระทั่งว่าไม่อาจจัดการผู้ฝึกตนโทเทม อย่างน้อยได้อันดับที่สี่ ก็ยังถือว่าเหนือกว่าผู้ฝึกตนโทเทมคนอื่นที่พ่ายแพ้ไปก่อน!
มู่เฟิงหลังสั่นระฆัง ฉินหยุน ผู้ซึ่งรวบรวมพลังเป็นเวลานานแล้ว จึงเร่งรีบทะยานออกราวแสงวาบ
ซ่งอวี้เองก็ทะยานกายเข้ามา มืออ้วนฉุนั้นขณะนี้ กลับกลายเป็นอสรพิษตัวน้อยเลื้อยผ่านอากาศเย็นเยียบ
หากพิจารณาให้ใกล้ จะพบว่าแขนของซ่งอวี้กำลังปกคลุมด้วยวิญญาณยุทธ์อสรพิษน้ำแข็งระดับแพลทินัม มันคือวิญญาณยุทธ์สัตว์ เมื่อใช้งานในการต่อสู้ มันจะส่งเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งแก่ผู้ใช้งาน
ทว่า ความเร็วของมันเชื่องช้าอย่างยิ่ง!
ในหมู่ผู้ฝึกตน มีหลายคนที่ร่างอ้วนฉุ กระนั้นพวกเขาบางคนกลับมีความปราดเปรียว เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
ทว่าในกรณีของซ่งอวี้ ความเร็วออกจะช้าอย่างมหาศาลในสายตาของฉินหยุน
ซ่งอวี้โจมตีพลาด
ฉินหยุนที่หลบเลี่ยงได้ จึงโจมตีใส่ซ่งอวี้ที่สีข้าง ขณะพุ่งเข้าใส่ เขาใช้เคล็ดวิชาคลื่นยักษ์ต่อยออกไปพร้อมหมัด เกิดเป็นคลื่นกระแทกหลายระลอกปะทะจนร่างของซ่งอวี้กระเด็น
เมื่อพลังภายในแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นกระแทก มันจะสามารถขับไล่พลังภายในที่ควบแน่นเอาไว้ได้
ซ่งอวี้เตรียมตั้งป้องกัน ทว่า การป้องกันของเขาก็แตกออกโดยสมบูรณ์ ภายในใจขณะนี้เปี่ยมล้นด้วยความหวาดกลัวแทนแล้ว!
เขาไม่เคยคิด ว่าฉินหยุนจะรับมือได้ยาก ทั้งยังมีพลังอำนาจการโจมตีสูงล้ำถึงเพียงนี้
“ข้ายอมแพ้!” ซ่งอวี้เร่งรีบตะโกนออก
ฉินหยุน ผู้ซึ่งกำลังจะโจมตีออกอย่างรุนแรงอีกครั้ง เร่งรีบรั้งมือเก็บกำลังกลับคืน หากผู้อื่นยอมรับความพ่ายแพ้ แล้วเขายังกล้าโจมตีต่อ เขาจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้แล้ว
“ฉินหยุนชนะ ได้เข้ารอบรองชนะเลิศ!” การที่ซ่งอวี้ยอมแพ้ เขาหาได้แปลกใจอันใดไม่
กระนั้นผู้อื่นกลับไม่ใช่ พวกเขาแปลกใจ ซ่งอวี้เพียงประมือกับฉินหยุนไม่กี่กระบวนท่า กลับยอมรับความพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว ชัดเจนว่าในพริบตาหนึ่ง เขาต้องตระหนักได้ ว่าฉินหยุนแข็งแกร่งมหาศาลเพียงใด มันไม่ได้ง่ายดายดังที่พวกตนมองเห็นกันอย่างแน่นอน
ซ่งอวี้เดิมคิด ว่าตนได้เปรียบครั้งใหญ่ที่สุ่มจับอีกฝ่ายขึ้นมา แต่ตอนนี้ เขาไม่เคยนึกถึง ว่าเป็นฉินหยุนต่างหากที่ได้เปรียบครั้งใหญ่!
ฉินหยุนพอเดินลงจากลานประลองแล้ว ที่ลานประลองอีกสองแห่ง ก็ได้ข้อสรุปแล้วเช่นกัน
ชายชุดดำจากตำหนักโทเทมชนะ คู่ต่อสู้ยอมรับความพ่ายแพ้
แม่มดสาวฉื่ออวี้เก๋อจากสำนักราชันจ้าวเหนือหล้าเองก็ชนะมาได้ คู่ต่อสู้ที่เป็นศิษย์จากสำนักราชันอัคคี ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่น้อยเพราะการโจมตีเพียงหนึ่งกระบวนท่า ท้ายที่สุดจึงประกาศยอมแพ้และเร่งรีบไปจากลานประลอง
ที่บนลานประลองขณะนี้ เป็นสำนักราชันอัคคีและองค์ชายจากยุทธ์ซ่ง ผู้ฝึกตนโทเทมทั้งสองกำลังห้ำหั่นกัน ยิ่งผ่านไปยิ่งรุนแรงมากขึ้น!
ดูเหมือนพละกำลังขององค์ชายแห่งแคว้นยุทธ์ซ่งจะด้อยกว่า เขาไม่อาจเทียบได้กับศิษย์ของสำนักราชันอัคคี
“ข้ายอมแพ้!” องค์ชายแห่งยุทธ์ซ่งประกาศทันทีเมื่อมีโอกาส
ผู้ฝึกตนจากสำนักราชันอัคคี แสยะยิ้มกว้าง จากนั้นทั้งสองจึงหยุดมือและก้าวเดินลงมา
ผู้คนล้วนสบถภายใน การประลองทั้งสี่คู่ครานี้ หาได้มีอันใดสนุกไม่ ล้วนจบสิ้นรวดเร็วกันทั้งสิ้น
ถัดจากนี้ ทั้งสี่คนที่ได้ชัยชนะ จะออกมาจับชื่อคู่ต่อสู้รอบถัดไปของตนเอง
“ฉื่ออวี้เก๋อ!” ฉินหยุนมองที่หญิงสาวทรงเสน่ห์จากสำนักราชันจ้าวเหนือหล้า
