ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0409 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0411 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0410 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 410 : ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์

ฉินหยุนมองไกลออกไป ที่เห็นเป็นหญิงสาวใบหน้างดงามผู้หนึ่ง นางสวมใส่ชุดหรูหราสีทอง ยิ่งทำให้ความสง่างามของนางถูกขับเน้นมากยิ่งขึ้น

เขารู้สึกว่าในแง่ของความรู้สึกส่วนตัว หญิงสาวคนนี้ค่อนข้างด้อยกว่าเฟิงหงหลันอยู่มาก

“ชื่อของนางคือ ฉื่ออวี้เก๋อ เป็นศิษย์ของสำนักราชันจ้าวเหนือหล้า อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สาม อายุยี่สิบเจ็ดปี ครอบครองเก้าเส้นวิญญาณ วิญญาณยุทธ์เป็นความลับเก็บเงียบเอาไว้แน่นหนา และนางก็เป็นผู้ครอบครองโทเทม!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวเสียงเบา

อัจฉริยะหลายคนที่ครอบครองวิญญาณยุทธ์และโทเทม มักเก็บงำความลับเอาไว้ นี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นกล้าลงมือโดยบุ่มบ่าม

จากนั้น เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยังบอกต่อฉินหยุน ถึงเรื่องราวของบรรดาศิษย์ที่ครอบครองโทเทม เพื่อให้เขาสามารถเตรียมการได้ถูก

“ยอดฝีมือที่เข้าร่วมทั้งหมด จงก้าวเดินออกมา!” น้ำเสียงที่กล่าวคำนี้ขึ้น ฉินหยุนค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคย

อย่างรวดเร็ว เขาหันมองทางด้านลานประลองยุทธ์ที่ด้านหน้า พบว่าอีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มร่างอ้วน

คนผู้นี้คือมู่เฟิง

“เป็นผู้จัดการคนนั้น ครั้งนี้เขารับหน้าที่ในงานประลองยุทธ์ ค่อยโล่งใจขึ้นหน่อย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะ “อย่างน้อยเขาก็ไม่มีทางก่อเรื่องโฉดชั่วละนะ!”

ด้วยมู่เฟิงอยู่ที่นี่ ไม่สมควรมีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น

ฉินหยุนขณะนี้ลอบคาดเดา ว่ามู่เฟิงคงบอกต่อเบื้องบนที่ตำหนักจารึกเทวะ ว่าเขาคืออาจารย์จารึกวิญญาณระดับสูง ดังนั้นแล้ว ตำหนักจารึกเทวะจึงส่งเขามา เพื่อทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้ใดแทรกแซงการแข่งขันได้

ฉินหยุนก้าวเดินออกไป ต่อแถวร่วมกับยอดฝีมือคนอื่น

บรรดาผู้ที่เข้าร่วมงานประลองยุทธ์ ต้องอายุน้อยกว่าสี่สิบปี ก่อนจะผ่านมาถึงตรงนี้ ต้องมีการทดสอบอายุเกิดขึ้นก่อน

อย่างไรแล้ว งานประลองยุทธ์ครั้งนี้ คือการเฟ้นหายอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของภูมิภาคทางตอนเหนือ

ผู้เข้าร่วมมีไม่มาก เพียงกว่าสิบคนเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สาม ในภูมิภาคทางตอนเหนือแห่งนี้ พวกเขาล้วนเป็นผู้เยาว์กันทั้งสิ้น***

หงเมิ่งจูยืนข้างฉินหยุน แรงกดดันของนางไม่ใช่ย่อย เพราะนางทราบจากราชันยุทธ์หงหยิงแล้ว ว่ามียอดฝีมือโทเทมที่แข็งแกร่งเข้าร่วม บางคนกระทั่งสามารถเผชิญหน้ายอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่ห้า ทั้งที่ตนเองอยู่ระดับที่สามได้!

“พวกเจ้าจะถูกแบ่งออกเป็นแปดสายการประลอง จากนั้น ผู้ชนะในแต่ละสายค่อยเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ก่อนเข้าสู้ในรอบชิงชนะเลิศตามลำดับ!” ขณะมองผู้คนที่รวมตัวกัน มู่เฟิงกล่าวต่อ “จงนำป้ายหยกประจำตัวออกมา ข้าต้องการยืนยันตัวตนก่อน!”

บรรดาผู้ฝึกตนที่เข้าร่วม ต่างนำป้ายหยกของตนออกมา

ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนมองไปยังชายในชุดสีดำ ร่างกายของเขามีแผนผังประหลาดประดับอยู่ สมควรเป็นคนของตำหนักโทเทม

แม้ไม่มีผู้ใดเคยได้ยินเรื่องราวของเขา ทว่าทุกคนต่างก็เชื่อ ว่าอีกฝ่ายนั้นจะต้องเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด

สำนักราชันหลายแห่ง ยังต้องยอมศิโรราบต่อตำหนักโทเทมที่แข็งแกร่งกว่า นอกจากนี้ พวกเขายังมีเคล็ดวิชาลับ ที่สามารถควบคุมการสืบทอดโทเทม ศิษย์บางคนที่ครอบครองโทเทม จะสามารถนำพลังของโทเทมออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

มู่เฟิงพอตรวจสอบป้ายหยกของทุกคนเรียบร้อย เขาจึงเริ่มกล่าวถึงกฎเกณฑ์การแข่งขัน

ไม่อนุญาตให้ใช้อาวุธหรือชุดเกราะ

และวิธีการตัดสินผู้ชนะ ก็คือการบังคับทำให้อีกฝ่ายยอมรับความพ่ายแพ้ ทำให้บาดเจ็บหรือล้มตายล้วนได้รับอนุญาต!

เมื่อทุกคนได้ยินว่าสามารถสังหารอีกฝ่าย ศิษย์หลายคนที่ครอบครองโทเทม ดวงตาต่างเผยประกายความชั่วร้ายออกมา! เมื่อพวกเขาลงมือต่อสู้ ย่อมต้องโจมตีออกโดยไม่หวั่นเกรงอันใดแล้ว

ผู้ชมหลายคนขณะนี้ ต่างเผยความประหลาดใจกันออกมาถ้วนหน้า

สามารถสังหารอีกฝ่าย เท่ากับมีโอกาสสูง ที่จะต้องสังเวยอัจฉริยะในการแข่งขันครั้งนี้!

ผู้ที่สามารถเข้าร่วมการแข่งขัน ล้วนเป็นรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา ออกจะเป็นเรื่องน่าเสียดายเกินไปหากพวกเขาต้องบาดเจ็บหรือถูกฆ่า

“เมิ่งจู ระวังตัวให้มากด้วย!” ฉินหยุนกล่าวเตือนนางเสียงเบา

“ข้าหาได้สนใจไม่ เพียงเข้าร่วมเพื่อหาประสบการณ์ เป็นข้าคิดอยากลองดูว่าพวกมันแข็งแกร่งเพียงใดกัน!” หงเมิ่งจูทราบ ว่านางไม่ใช่ผู้ฝึกตนสายต่อสู้ นอกจากนี้ นางยังไม่มีโทเทมในครอบครอง ดังนั้นนางจึงด้อยกว่าผู้ฝึกตนที่ครอบครองโทเทมอย่างเห็นได้ชัด

นางยังเอ่ยเตือนต่อฉินหยุนเช่นเดียวกัน “ท่านก็ด้วย อย่าได้กล้าได้กล้าเสียมากจนเกินไป! ยอดฝีมือโทเทมเหล่านั้น สามารถต่อสู้กับขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สี่เพียงลำพังได้!”

“ข้าย่อมทราบกำลังของตัวเองดี!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ ลึกลงไป เขาเองก็ลอบคาดหวังต่อเรื่องนี้ เขาต้องการเห็นกับตาตัวเอง ว่ายอดฝีมือโทเทมในแดนยุทธ์อ้างว้าง จะใช้งานพลังโทเทมกันอย่างไร

ฉินหยุนถูกจัดแจงสู่สายที่ห้า ในสายของเขา มียอดฝีมือโทเทมอยู่ด้วย อีกฝ่ายเป็นคนของสำนักราชันทะยานสวรรค์

การจัดสายแข่งขัน ผู้แข่งขันไม่อาจเลือก และไม่อาจเปลี่ยนแปลง

เมื่อทุกคนได้เห็นการแบ่งสายเช่นนี้ พวกเขาคิดว่าฉินหยุนออกจะโชคไม่ดีเกินไปแล้ว เขาต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือโทเทมในการต่อสู้

สายที่สองที่หงเมิ่งจูถูกจัดให้เข้าร่วม ก็มียอดฝีมือโทเทมเช่นกัน เป็นชายชุดดำจากตำหนักโทเทม!

นอกจากฉินหยุน มียอดฝีมือโทเทมทั้งสิ้นหกคน และก็เป็นเรื่องบังเอิญนัก พวกเขาต่างอยู่สายที่หนึ่งจนถึงหกติดกันหมด

ผู้ฝึกตนที่ถูกจัดให้อยู่สายที่เจ็ดหรือแปด นับว่าโชคดีที่สุดแล้ว พวกเขาเหล่านั้นในขณะนี้ ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกกันถ้วนหน้า เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็มีสิทธิ์ได้เป็นหนึ่งในผู้ชนะของสายการแข่งขัน

หากอันดับถูกเผยแพร่ในภายหน้า พวกเขาอย่างน้อยก็สามารถเป็นหนึ่งในแปดยอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สาม บางทีอาจสามารถได้อันดับที่ดีกว่านั้นก็เป็นไปได้!

มีแต่ผู้ชนะต่อเนื่องสองรอบ จึงสามารถกลายเป็นแถวหน้าของอันดับต้นได้

คู่ต่อสู้คนแรกของฉินหยุนไม่ใช่ยอดฝีมือโทเทม แต่เป็นศิษย์จากสำนักราชันอัคคี นามว่าซุนหยิงเฉิน

ซุนหยิงเฉินก้าวเดินมาที่ลานประลอง สวมใส่ชุดหรูหราลวดลายอัคคีเพลิงของสำนักราชันอัคคี แต่เพียงไม่นาน เขาก็ปลดเสื้อคลุมตัวนอกออก เพราะสิ่งนี้ก็นับเป็นชุดเกราะวิญญาณอย่างหนึ่ง

ซุนหยิงเฉินเป็นชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าอ้วนกลมเปี่ยมล้นด้วยความเป็นปฏิปักษ์ ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยอัคคีเพลิงร้อนแรงพร้อมจิตสังหาร

จ้าวสำนักราชันอัคคี ถูกเว่ยจงเจิ้งสังหารและเสียบหัวประจาน ดังนั้นแล้ว บรรดาศิษย์ของเขาจึงเกลียดชังประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์จนถึงกระดูกดำ

ตอนนี้ซุนหยิงเฉินได้มีโอกาสประมือกับฉินหยุน เขาย่อมไม่คิดพลาดเผยจิตสังหารออกมาอย่างแน่นอน

“ซุนหยิงเฉินมีชาติกำเนิดในสำนักราชันอัคคี ครอบครองหกชีพจรวิญญาณ มีวิญญาณยุทธ์หนามแพลทินัม เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สามด้วยวัยยี่สิบหกปี!”

“ฉินหยุนเองก็เชี่ยวชาญการใช้อัคคีเพลิง เขาย่อมไม่อ่อนด้อย! ตอนที่เขาทำฉู่หลงเจี่ยซึ่งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สี่บาดเจ็บ ก็เพียงแค่ปล่อยหมัดครั้งเดียว ชัดเจนว่าเขามีพลังที่แข็งแกร่งใช่ย่อย!”

“นั่นหาได้สำคัญไม่ ฉู่หลงเจี่ยขณะนั้นขาดความระวัง นอกจากนี้ เขายังเชี่ยวชาญวิถีจารึกแห่งเต๋า หาได้ใช่การต่อสู้ไม่! ซุนหยิงเฉินผู้นี้จึงเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้อย่างแท้จริง!”

“ซุนหยิงเฉิน ยังมีวิชายุทธ์ระดับโลกาในมือให้พร้อมหยิบใช้!”

“วิชายุทธ์ของฉินหยุนสมควรดาษดื่น ผู้คนล้วนทราบว่าวิชายุทธ์อันเลิศล้ำที่สุดของประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์สูญหาย นอกจากนี้ เขาเพียงเพิ่งเข้าร่วมประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์เมื่อไม่นานมานี้เอง!”

ฉินหยุนและซุนหยิงเฉินกำลังจะประลองกัน บรรดาผู้ชมล้วนอดไม่ได้ที่จะเริ่มสนทนากันถึงเรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อน

ลานประลองยุทธ์ทั้งแปดแห่งพร้อมแล้ว ค่ายอาคมใหญ่ก็เปิดใช้งานแล้ว มู่เฟิงขณะนี้ลั่นระฆังแห่งการต่อสู้ดังขึ้น!

ขณะระฆังดังขึ้น ผู้ฝึกตนของทั้งแปดลานประยุทธ์ก็เริ่มเข้าห้ำหั่นอย่างดุเดือดโดยทันที!

“ฉินหยุน ให้ข้าส่งเจ้าลงนรกเสีย ฮ่าฮ่าฮ่า!” ไม่ทราบว่าซุนหยิงเฉินโดนยาตัวไหนเข้า ก่อนเริ่มต่อสู้ ใบหน้าของอีกฝ่ายยังยิ้มแย้มเปี่ยมด้วยจิตสังหาร ขณะนี้ปุบปับแปรเปลี่ยนเป็นความโหดเหี้ยมขึ้นมาแทน

ซุนหยิงเฉินพุ่งตัวออกด้วยความเร็วสูง เปรียบดั่งสัตว์ดุร้ายเข้าหาฉินหยุนคิดขย้ำ

ลานประลองกว้างเพียงหนึ่งร้อยเมตร แทบจะในพริบตา เขาก็ข้ามผ่านมาถึง เมื่อห่างจากฉินหยุนเพียงสิบเมตร หมัดของเขาจึงลั่นออก

เปลวเพลิงแพลทินัมควบแน่นเป็นหนาม กรีดผ่านอากาศจนเกิดเสียงโหยหวนของสายลมดังขึ้น!

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!

หนามอัคคีเหล่านี้แข็งแกร่ง พวกมันคมกริบดังอาวุธ ทั้งยังสามารถยิงออกได้ไม่ต่างอะไรกับลูกธนู

ฉินหยุนหาได้แตกตื่นไม่ เขาเพียงเคลื่อนไหวสองกระบวนท่า ปลดปล่อยคลื่นกระแทกเกิดเป็นเสียง “ตู้ม ตู้ม” ดังขึ้น

แรงสั่นไหวไร้ลักษณ์ ประสานเข้ากับเปลวเพลิงรุนแรง เกิดขึ้นเป็นคลื่นสั่นสะเทือนเก้าระลอก ทำการสลายหนามอัคคีเหล่านั้นจนหมดสิ้น

ซุนหยิงเฉินได้เห็นเช่นนี้ น้ำเสียงคำรามออกกราดเกรี้ยว ร่างกายพุ่งเข้าปะทะใส่ฉินหยุนราวอุกกาบาตที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิง ฝ่ามือทั้งสองประสานด้วยกัน ชี้ไปยังร่างกายฉินหยุน เปรียบดั่งหอกอัคคีเพลิง เขาพุ่งทะยานคิดทะลวง!

“วิชายุทธ์โลกา ฝ่ามือทะลวงฟ้า!”

“ประสานฝ่ามือ ควบแน่นพลังอันแข็งแกร่ง พุ่งปะทะออกไป และโค่นล้มศัตรู!”

“โดนเข้าร่างได้แยกแน่!”

ผู้คนขณะนี้อุทานด้วยความตื่นตระหนก

ฉินหยุนพอได้เห็นซุนหยิงเฉินลงมือรวดเร็ว เขาจึงใช้ก้าวอุกกาบาตเคลื่อนหลบ

ซุนหยิงเฉินโจมตีพลาดเป้า!

กระนั้น แรงการพุ่งหาได้ลดทอนลงไม่ เขาปรับเปลี่ยนทิศทาง พุ่งไล่ตามฉินหยุนอย่างไม่ลดละ

ฉินหยุนเห็นดังนี้ จึงไม่คิดหลบเลี่ยงอีก กลับเลือกใช้พลังภายในเก้าสมบูรณ์ ผสานรวมกับพลังเต๋าของเขา ปลดปล่อยออกไปฝ่ามือหนึ่ง!

ชั่วขณะที่ฝ่ามือปะทะกับซุนหยิงเฉิน ฝ่ามืออัคคีสว่างวูบเป็นคลื่นแผ่กระจายวงกว้าง รวมเอาไว้ซึ่งสายฟ้าและมังกรพุ่งทะยานออก ปะทะเข้ากับซุนหยิงเฉินอย่างไร้ซึ่งความปรานี

ด้วยเสียงคำราม สายลมผ่านฝ่ามือร้องโหยหวนราวกับมังกรคำราม พลังที่ปลดปล่อยออกนี้ แทบสะท้านสะเทือนทั้งสวรรค์และพื้นโลก!

ซุนหยิงเฉินกระอักโลหิตออกคำโต ร่างถูกกระแทกด้วยฝ่ามือรุนแรงมหาศาลเพียงนี้ เขาแตกตื่นจนไม่อาจตอบโต้อื่นใด!

ชั่วขณะที่ตกอยู่ในความแตกตื่น ฉินหยุนก้าวเท้าออก ผลักฝ่ามืออีกครั้งหนึ่ง ราวกับมังกรที่กราดเกรี้ยว ก่อเกิดขึ้นเป็นทะเลสายฟ้าอสนีบาตพุ่งขึ้นสูงนับพันเมตร ร่างเงาฝ่ามือนี้ประสานเอาไว้ซึ่งสายฟ้าอสนีบาตรุนแรง

ฝ่ามือฉินหยุนเมื่อเข้าปะทะอีกครั้ง สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏ ควบแน่นออกเป็นพลังราวกับมังกรพิโรธโหมซัด!

ตู้ม!

ฝ่ามือสายฟ้าตกลงที่ร่างของซุนหยิงเฉิน ขณะนี้ร่างของอีกฝ่ายถึงกับปลดปล่อยกระแสสายฟ้าออกมาและชักกระตุกอย่างไม่อาจหยุดยั้ง!

สายฟ้านับไม่ถ้วนระเบิดออก ร่างกายซุนหยิงเฉินไม่อาจต้านรับ แตกระเบิดออกเป็นชิ้นเนื้อกระจาย!

เพียงสองฝ่ามือที่รวดเร็ว ก็เป็นการจบสิ้นชีวิตของซุนหยิงเฉิน แม้เป็นเช่นนั้น ขณะนี้เสียงฟ้าคำรามยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด

“พลังภายในเก้าสมบูรณ์! ฉินหยุนเข้าร่วมประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์เพียงไม่นาน เขาถึงขั้นฝึกฝนพลังภายในเก้าสมบูรณ์ได้ถึงระดับนี้แล้ว!”

“นั่นคือสามสิบหกฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์! ได้ยินว่าหลังฝึกฝนถึงระดับหนึ่ง จะสามารถใช้มันสังหารมังกรได้!”

“ฉินหยุนใช้เพียงสองฝ่ามืออย่างต่อเนื่อง ลื่นไหล และเป็นธรรมชาติมาก และเพียงแค่สองฝ่ามือนั้น ก็สังหารซุนหยิงเฉินได้แล้ว!”

“การประลองยุทธ์นี้จบเร็วเกินไปแล้ว!”

เบื้องล่างลานประลองยุทธ์ ผู้อาวุโสหลายคนต่างได้เห็นฉินหยุนแสดงศักยภาพของวิถียุทธ์แห่งเต๋าออกมา

ลานประลองทั้งแปด ที่จบการต่อสู้เร็วที่สุดเป็นฉินหยุน!

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินหยุนใช้ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ กระทั่งเขายังต้องอึ้งต่อพลังอำนาจของมัน ภายในใจกระทั่งหนักอึ้ง เพราะเมื่อใช้ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ พลังของเขาถูกสูบออก อย่างที่ไม่อาจรั้งพวกมันเอาไว้ได้เลยทีเดียว

ฉินหยุนก้าวเดินลงจากลานประลองพลางปาดเช็ดคราบเหงื่อ

บรรดาผู้อาวุโสของสำนักราชันอัคคีขณะนี้ ต่างกราดเกรี้ยว โทสะสุมจนแทบล้นฟ้า สายตาจับจ้องกินเลือดเนื้อที่ฉินหยุน กระนั้น พวกเขาก็ไม่อาจลงมืออันใดได้

“คนของสำนักราชันอัคคีสมควรขอบคุณต่อฉินหยุนแล้ว เพราะไม่เหลือซากศพเอาไว้ให้เก็บไปทำพิธี!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ผู้หนึ่งที่กล่าวคำขึ้น เป็นมู่หรงต้าเหริน เขาและหงเหยียนรับชมเรื่องราวจากที่ไกลออกไป และสวมใส่หน้ากากเพื่อปิดบังตัวตน

ฉินหยุนมองการประลองของหงเมิ่งจู ผู้ที่นางรับมือด้วย เป็นองค์ชายจากแคว้นยุทธ์เย่ว์ ความแข็งแกร่งถือว่าดีระดับหนึ่ง สามารถต่อสู้ได้อย่างมั่นคง

แม้วิญญาณยุทธ์ของหงเมิ่งจูไม่ใช่สำหรับสายต่อสู้ แต่มันก็มอบพลังภายในและพลังเต๋าอันแกร่งกล้าแก่นาง ด้วยการใช้วิชายุทธ์โลกา ฝ่ามือเหยี่ยวเมฆา ทำการโจมตีต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง

ร่างเงาฝ่ามือเปรียบดั่งปีกนกเหยี่ยวขนาดยักษ์ กระพือพัดเข้าใส่องค์ชายคนดังกล่าว เมื่อพลังเต๋าอันแข็งแกร่งถึงตัวองค์ชายคนนั้น เสียง “ปัง ปัง ปัง” ดังขึ้น แรงปะทะระดับนี้ ทำเอาองค์ชายผู้นั้นต้องถอยไปหลายก้าว

ภายใต้หงเมิ่งจูโหมโจมตีดุดันต่อเนื่อง องค์ชายผู้นี้โดนทุบตีจนฟกช้ำดำเขียว ด้วยเพราะไม่อาจตอบโต้อันใด จึงได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้ ไม่เช่นนั้นเขาคงได้ถูกทุบตีต่อไปจนเลือดตกยางออก

ที่ลานประลองแห่งอื่น ก็จบการแข่งขันคู่แรกเรียบร้อยแล้ว

บรรดายอดฝีมือโทเทมล้วนแข็งแกร่งกันทั้งสิ้น พวกเขาใช้เวลาเพียงน้อยนิดก็บดขยี้คู่ต่อสู้อย่างง่ายดาย!

ฉินหยุนและหงเมิ่งจู ทั้งสองได้ขึ้นสู้เป็นคู่แรกของสาย ตอนนี้พวกเขากำลังรับชมคู่ที่สองอย่างตั้งใจ เพราะผู้ชนะในคู่ที่สอง จะเป็นคู่ต่อสู้คนถัดไปของพวกเขา

คู่ต่อสู้ของพวกเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องเป็นยอดฝีมือโทเทม พวกเขาจึงตั้งใจรับชม มองดูรูปแบบการต่อสู้ของยอดฝีมือโทเทมทั้งสองอย่างใจจดจ่อ

4.5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด