ตอนที่ 406 ไสหัวไปซะ!
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
คมวายุในมือของถังหว่านเอ๋อที่นำมาต้านการโจมตีของหานเทียนเฟิง ถูกการโจมตีที่น่าหวาดกลัวของเขาตวัดเข้าจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ทันใดนั้นเมื่อเห็นยินหวูซวงพุ่งดาบเข้ามา ถังหว่านเอ๋อก็รีบยื่นมือออกมาทำให้ตรงหน้าเกิดการรวมตัวกันของโล่วายุขนาดใหญ่ขึ้นมาป้องกันตัวของนางไว้
“ปัง”
โล่วายุระเบิดออก ถังหว่านเอ๋อถูกดาบนั้นปะทะจนกระเด็นลอยออกไป ขณะที่นางลอยอยู่กลางอากาศก็กระอักโลหิตออกมาจนเปื้อนเต็มอาภรณ์ที่สวมใส่ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ ดาบของยินหวูซวงนั้นมีพลังที่ร้ายกาจมาก จนทำให้อวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บ
“หวูซวงเจี่ย ข้าไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าให้จับเป็น หญิงนางนี้ข้าต้องการเพราะหากเป็นหญิงสาวที่ตายแล้วก็จะไม่มีประโยชน์อะไร” หานเทียนเฟิงกล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และดาบยาวในมือก็พุ่งโจมตีถังหว่านเอ๋ออย่างรวดเร็ว
ตอนที่ต่อสู้กับถังหว่านเอ๋อในคราก่อน แม้ว่าถังหว่านเอ๋อจะมีพละกำลังในการโจมตีที่ทรงพลัง แต่เมื่อเทียบกับเขาแล้วก็ยังมีบางอย่างที่เทียบกันไม่ได้
หากไม่ใช่เป็นเพราะม่อเนี่ยนที่โผล่ออกมากระทันหัน เขาก็คงจะฆ่าถังหว่านเอ๋อไปได้สำเร็จแล้ว ทว่าครั้งนี้เมื่อได้มาพบกับนางเขาก็เห็นว่าพลังโจมตีของนางนั้นทรงพลังมากขึ้น จนลดช่องว่างความห่างชั้นของพลังลงมาได้ ตอนนี้นางมีพลังมากพอที่จะต่อต้านเขาได้แล้ว
“ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงของหลงเฉิน หากเจ้าอยากจะเล่นอะไรสนุกๆ ก็แล้วแต่เจ้าเถอะ” ยินหวูซวงยิ้มด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
ครั้งก่อนที่นางถูกหลงเฉินโจมตีจนต้องหนีเอาชีวิตรอด หากไม่ใช่เพราะใช้ยันต์เคลื่อนย้าย หลงเฉินก็อาจจะฆ่านางตายไปแล้ว
ทำให้นางเกลียดหลงเฉินและคนรอบตัวของเขา ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเกลียดเข้ากระดูกดำเลยก็ว่าได้ การตามไล่ฆ่าหลงเฉินนั้นก็เป็นเพราะนางแจ้งชื่อประกาศตามล่ากับหานเทียนหวู่
ในเวลาเดียวกันไม่เพียงแค่หลงเฉินเท่านั้น ศิษย์หมู่ตึกที่หนึ่งร้อยแปดทั้งหมดก็ถูกรวมเข้าไปด้วย
ครั้งนี้ยินหวูซวงทั้งโกรธทั้งอาฆาตแค้น นางอยากจะเอาหลงเฉินและศิษย์หมู่ตึกที่หนึ่งร้อยแปดมาฆ่าให้ตายให้หมดในขอบเขตแดนลับแห่งนี้ อยากให้พวกเขาต้องอยู่ในนี้ไปตลอดกาล
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนางก็ไม่กลัว แม้ว่านางจะเป็นศิษย์ในสำนักพลิกสวรรค์ แต่ว่าตระกูลของนางก็ทรงอิทธิพลมาก นางไม่เชื่อว่าทางสำนักจะกล้ามาเอาเรื่องอะไรกับนางได้
ถึงตอนนั้นนางยังสามารถอ้างได้ว่าหลงเฉินเป็นโจรราคะผู้ชั่วร้าย และผู้ติดตามของเขาก็เลวทรามเช่นเดียวกัน ในเรื่องนี้นางก็มีหลักฐานเกี่ยวกับการทำผิดของหลงเฉินอยู่เป็นจำนวนมาก
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ยินหวูซวงในตอนนี้วางใจได้แล้ว นางต้องการจะเอาคืนอยากจะให้หลงเฉินเจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อให้เขารู้ว่าการเป็นปรปักษ์กับนางนั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาดร้ายแรงอย่างมหันต์
“พวกเจ้ามันพวกไร้ยางอาย”
ถังหว่านเอ๋อฝืนลุกขึ้นมาด้วยร่างกายที่สั่นคลอนพลางกัดฟันแน่น
“ไร้ยางอาย ไม่ไม่ไม่ นี่ไม่ถือว่าไร้ยางอาย ข้ามีวิธีการที่ไร้ยางอายมากกว่านี้อีก รอให้เจ้าถูกจับไปอยู่บนเตียงก่อนเถอะ เจ้าจะเข้าใจเอง ฮ่าฮ่าฮ่า” หานเทียนเฟิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
การควบคุมน้ำเสียงของเขานั้นอยู่ในขั้นดีเยี่ยม มีเพียงแค่สามคนในที่นี้เท่านั้นที่ได้ยิน คนนอกที่ดูอยู่ไม่สามารถมีใครได้ยินคำพูดนี้ได้
“ข่มใจไว้ให้ดีเถอะนังแพศยา ถึงเวลาที่ข้าใช้หยกบันทึกภาพเอาไว้ ข้าจะส่งเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่หลงเฉิน ฮ่าๆๆๆ” ยินหวูซวงหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
“ดี งั้นก็เก็บชีวิตของนางไว้ให้ดี อย่าประมาทจนทำให้ต้องตาย เพราะคนตายไม่สามารถไปเล่นบนเตียงได้” หานเทียนเฟิงพูด
“ปัง”
คมวายุในมือของถังหว่านเอ๋อถูกฟันจนแตกออกเป็นเสี่ยง นางเพิ่งจะเข้าสู้ขอบเขตปรือกระดูก จึงยังไม่ได้เสริมสร้างรากฐานที่สำคัญ และยังไม่มีการบวงสรวงกระดูก
การฝึกยุทธ์ของสองคนนี้แข็งเเกร่งเป็นอย่างยิ่งและยังมีสมบัติล้ำค่าอยู่อีกนับไม่ถ้วน ที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองคนได้มีบวงสรวงกระดูกได้ถึงสองชิ้นแล้ว ดังนั้นพลังของถังหว่านเอ๋อจึงยากที่จะเปรียบเทียบกับพวกเขาได้
หากไม่ใช่เพราะทั้งสองคนอยากให้นางยังมีชีวิตอยู่ ป่านนี้นางเองก็คงจะตายไปแล้ว ทว่าการต่อสู้ที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ก็ทำให้พลังจิตวิญญาณของนางค่อยๆหมดไป
สายตามองเห็นดาบยาวสองเล่มนั้นที่หากพุ่งมาฆ่านาง นางก็คงไม่มีปัญญาจะต้านทานได้ ทำได้เพียงแค่รอรับความตายจากดาบยาวเล่มนั้น
“อยากตายรึ ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ”
บนใบหน้าของหานเทียนเฟิงและยินหวูซวงเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย เสียเวลามากไปแล้ว ควรจะให้นางตายไปเสียยังจะดีซะกว่า
“ไสหัวไป”
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงคำรามขึ้น ราวกับเสียงของเทพที่กำลังระเบิดโทสะ ในเวลาเดียวกันกำปั้นก็พุ่งไปยังดาบยาวของทั้งสองคน
“ตูม” เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น หานเทียนเฟิงและยินหวูซวงรับรู้ได้ถึงพลังที่คุ้นเคย ภายในใจของพวกเขาร้อนรุ่มขึ้นมา
เงาร่างหนึ่งมายืนปรากฎอยู่ตรงหน้าของถังหว่านเอ๋อ อาภรณ์ที่สวมใส่พริ้วไหวเส้นผมก็พริ้วสไวตามแรงลม ดวงตาคู่นั้นราวกับดวงดาราที่เปล่งประกายแสง
การปรากฎตัวขึ้นของบุคคลหนึ่ง ทำให้คนทั้งหมดตกตะลึงเพราะไม่มีใครไม่รู้จักเขาคนนี้
“หลงเฉิน”
ถังหว่านเอ๋อเห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย จึงอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงเรียกชื่อออกมาเบาๆ ดวงตาคู่งามนั้นเกิดเป็นหยดน้ำใสๆไหลรินออกมา
หลงเฉินค่อยๆหันกลับมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดพร้อมกับพูดว่า “ขอโทษนะที่มาช้าเกินไป จนทำให้เจ้าต้องถูกรังแก”
ถังหว่านเอ๋อกัดฟันเบาๆ น้ำตาที่ไหลรินออกก็หยุดไม่อยู่ โผเข้าสู้อ้อมกอดของหลงเฉิน
“เจ้าตัวบัดซบทำไมถึงเพิ่งมา ถ้ามาช้าอีกแค่ก้าวเดียวก็คงไม่ได้เห็นเจ้าแล้ว ข้ากลัวเหลือเกิน......” ถังหว่านเอ๋อร้องไห้เสียงดัง
ตอนที่เผชิญหน้ากับความเป็นความตาย นางไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้นแต่ทว่าเมื่อเห็นหลงเฉินปรากฎตัวออกมา นางก็รู้สึดหวาดกลัวขึ้นมาในทันใดราวกับเด็กที่ถูกรังแก
“เอาล่ะ มันผ่านไปแล้วนะ ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะไปฆ่าพวกมันให้เจ้าเอง” หลงเฉินใช้มือตบที่แผ่นหลังของถังหว่านเอ๋อเบาๆเป็นการปลอบใจ
“ข้าจะไปกับเจ้า พวกมันแข็งแกร่งมาก”
ถังหว่านเอ๋อเช็ดน้ำตา พร้อมกับยื่นมือออกมาปรากฎคมวายุ นางรู้ดีถึงความน่ากลัวของสองคนนั้น
หานเทินเฟิงและยินหวูซวงจริงๆแล้วยังไม่ได้ใช้พละกำลังทั้งหมด ทำไมนางจะถึงไม่รู้ ? ก่อนหน้านี้นางตั้งใจจะยืดเวลาไว้ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นางเพียงรอหวังให้เกิดปฎิหาริย์ที่จะปรากฎออกมา และตอนนี้ปาฏิหาริย์ของนางก็ได้ปรากฎตัวออกมาแล้ว
ทว่าหลงเฉินนั้นอยู่เพียงแค่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นระดับกลาง ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่มีทางสู้สองคนนั้นได้
“สองคนนั้นมันก็แค่เศษสวะ หากวันนี้ไม่สามารถลากคอมันมาฆ่าได้ ก็อย่าเรียกข้าว่าหลงเฉิน” หลงเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับค่อยๆหันกลับไปมองหน้าของทั้งสองคนนั้นที่กำลังตกใจอยู่
หลงเฉินมองไปที่สองคนนั้นด้วยสายตาอาฆาตจนอยากจะคร่าชีวิตของพวกเขา ในตอนนี้เขาคร้านที่จะพูดจาใดๆแล้ว เขาค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาสองคนนั้นทันที
ถังหว่านเอ๋อเห็นเงาหลังที่ค่อยๆไกลออกไป เงาที่เหมือนราวกับเทพเจ้าแห่งการต่อสู้นั้น ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความปลอดภัย
“หลงเฉิน เจ้ามาก็ดี เจ้ามันปีศาจร้าย วันนี้ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้”
หานเทียนเฟิงรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับการปรากฎตัวของหลงเฉิน ในเวลาเดียวกันก็ตะลึงกับพลังของเขา ที่สามารถต้านเขาและยินหวูซวงได้ ในตอนนี้หลงเฉินเดินเข้ามาแล้วและท่าทางสบายใจนั้น ก็ทำให้เขารู้สึกไม่วางใจขึ้นมา
“หลงเฉิน เจ้ามันโจรถ่อย วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นศพ เป็นเถ้าถ่าน จนทำให้เจ้ารู้สึกผิดที่มาที่นี่” ยินหวูซวงกัดฟันพูด
ครั้งก่อนที่ล้มเหลวในการต่อสู้กันกับหลงเฉินนั้นทำให้นางรู้สึกคับแค้นใจ เมื่อไรก็ตามที่นางหลับตาลง นางก็จะเห็นแววตาของหลงเฉินที่เต็มไปด้วยรังสีสังหาร เมื่อนางเข้าสู่ขอบเขตปรือกระดูกนางก็ถูกจิตมารเข้าเเทรก ทำให้นางเกือบจะล้มเหลมในการทะลวงพลัง ถือว่านางโชคดีที่มากที่ทะลวงพลังได้สำเร็จ
ทว่าหากไม่ฆ่าหลงเฉินจิตใจของนางเองก็คงอยู่ไม่สุข ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่ต้องคิดที่จะเข้าถึงขอบเขตเชื่อมชีพจรได้เลย
“เจ้าอย่าขยับ ให้ข้าได้ข้าเขา เขาคือของข้า”
ยินหวูซวงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ร่างกายพลุ่งพล่านไปด้วยสภาวะพลังที่แข็งเเเกร่งและรังสีสังหาร กระดูกแขนขวาส่งเสียงดังออกมาพร้อมกลับปลดปล่อยพลังกดดันที่น่าหวาดกลัว
หลังจากที่ยินหวูซวงได้เลื่อนขั้นเข้าขอบเขตปรือกระดูก สิ่งแรกที่นางทำคือการบวงสรวงกระดูกสองท่อนบนแขนของนาง เช่นนี้จึงทำให้พลังของนางเพิ่มขึ้นจนถึงขอบเขตที่น่ากลัว
“ตายซะ”
ยินหวูซวงเปล่งเสียงออกมา ดาบยาวสีเงินในมือพุ่งตัดกลางอากาศมุ่งไปยังหลงเฉิน
“เป็นดาบที่น่ากลัวมาก แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้นางยังไม่ได้ใช้มันออกมา”
“แข็งแรงจริงๆ ดาบเล่มนี้หากพุ่งแทงมาก็สามารถฆ่าข้าได้ภายในชั่วพริบตา” ผู้อยู่เหนือขอบเขตท่านหนึ่งกล่าว
ผู้ที่ชมเหตุการณ์อยู่ในที่นี้ทั้งหมดล้วนแต่เป็นยอดฝีมือขอบเขตปรือกระดูก พวกที่พึ่งเข้าถึงขอบเขตอย่างพวกเขามักจะรู้สึกมั่นใจในตัวเองมาก
ทว่ามองเห็นดาบของยินหวูซวงเล่มนี้ คนทั้งหมดที่เคยมีความมั่นใจตัวเองต่างก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ถ้าหากพวกเขาโดนดาบนี้เข้าไปก็คงจะไม่พ้นกลายเป็นศพอย่างแน่นอน
พวกเขาเริ่มตระหนักถึงความจริงที่ว่าพวกเขาเลื่อนระดับขึ้นมาได้ คนอื่นก็เลื่อนระดับได้เช่นกัน ผู้มีพรสวรรค์ระดับเเนวหน้ายังไงก็เหนือกว่าพวกเขาอยู่วันยันค่ำ
“หลงเฉินคงไม่ถูกฆ่าตายภายในชั่วพริบตาหรอกนะ เช่นนั้นก็คงจะน่าเบื่อแย่” เสียงจากคนที่ดูเหตุการณ์อยู่ดังขึ้น
“ตูม”
ทันใดนั้นหลงเฉินก็นำดาบยาวสีแดงโลหิตออกมา ดาบยาวสีแดงโลหิตนั้นได้ฟันเข้าไปยังดาบของยินหวูซวงอย่างหนักหน่วง
ดาบยาวสีเงินที่อยู่ต่อหน้าดาบสีแดงโลหิตนั้นค่อยๆแตกสลายไป ในเวลาเดียวกันพลังดาบที่น่ากลัว ก็ผลักให้ยินหวูซวงต้องกระเด็นออกไป
“พรวด”
ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์เกิดความตกตะลึงขึ้น ยินหวูซวงกลิ้งออกไปไกลพร้อมทั้งกระอักโลหิตออกมา
พลังที่บ้าคลั่งนั้นได้ตัดผ้าผูกผมของนาง จนทำให้ผมยาวนั้นปกคลุมลงมา ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
ทั่วทั้งสนามการต่อสู้เกิดความเงียบงันขึ้น ทันใดนั้นดาบยาวสีแดงโลหิตในมือของหลงเฉินนั้นก็ได้แกว่งราวกับเทพแห่งนภาองค์หนึ่ง
“หากไม่รนหาที่ตายก็ไม่ตาย ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่เข้าใจ พวกเจ้าจึงได้ชอบรนหาที่ตาย งั้นข้าก็จะตอบสนองความต้องการของพวกเจ้าให้ก็แล้วกัน”
“ซูม”
ทันใดนั้นด้านหลังร่างของหลงเฉินก็ปรากฎวงแหวนแห่งเทพสูงใหญ่กว่าร้อยจั้ง พลังกดดันอันน่ากลัวถูกปลดปล่อยออกมาพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา
.
.
.
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**