ตอนที่แล้วตอนที่ 394 เยว่เสี่ยวเฉียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 396 ตัวอักษรอมตะ

ตอนที่ 395 โครงกระดูกปีศาจ


* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

ภาพตรงหน้าของพวกเขาคือโครงกระดูกขนาดยักษ์ ที่สูงถึงหนึ่งร้อยจั้ง มีลักษณะคล้ายกับโครงกระดูกของมนุษย์ เพียงแต่ด้านหลังนั้นกลับมีปีกขนาดใหญ่ กระดูกนิ้วมือนิ้วเท้ายาวกว่ามนุษย์ทั่วไป และงองุ้มดูคล้ายกับตะขอ

ศีรษะนั้นก็คล้ายกับกระโหลกศีรษะมนุษย์ แต่ส่วนฟันของมันกลับมีปลายที่แหลมและคมลักษณะคล้ายฟันเลื่อยไม่ผิดเพี้ยน โครงกระดูกขนาดยักษ์นี้ น่าหวาดกลัวยิ่งนัก สามารถเขย่าขวัญทุกผู้คนที่ได้พบเห็นให้หวาดผวาได้เลยทีเดียว

ในตอนนี้ หลงเฉินและเยว่เสี่ยวเฉียนหยุดยืนอยู่ไม่ไกลจากโครงกระดูกขนาดยักษ์ ทันใดนั้นเอง ม่านแสงของเยว่เสี่ยวเฉียนก็เกิดการสั่นไหวขึ้นอย่างรุนแรง หลังจากนั้นทั่วทั้งม่านแสงก็ค่อยๆปรากฎรอยแตกร้าว ราวกับแก้วร้าว หากว่าถูกแตะต้องแม้เพียงเล็กน้อยมันจะแตกกระจายไปในทันที รอบนอกของม่านแสงนั้น หลงเฉินรู้สึกได้ถึงพลานุภาพรุนแรงที่แผ่ขยายไปทั่ว สร้างความน่ากลัวถึงขีดสุดไปทุกอนุของพื้นที่

ในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความชั่วร้ายที่ตลบอบอวนไปทั่วทุกแห่ง คลื่นพลังที่รุนแรงและน่าหวาดกลัว ไหลวนอยู่อย่างบ้าคลั่งรอบตัวหลงเฉิน แผ่กระจายไปทั่วทั้งฟ้าและดิน ราวกับมีความกระหายเลือดของปีศาจร้ายรายล้อมรอบตัว หลงเฉินและเยว่เสี่ยวเฉียนสัมผัสรับรู้ได้ถึงความเย็นยะเยือกลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ

เห็นได้ชัดว่า สิ่งมีชีวิตนี้ตายมาหลายปีแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะยังคงมีพลานุภาพที่น่ากลัวเช่นนี้หลงเหลืออยู่ แทบไม่อยากจะคิดเลยว่าในตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่นั้น จะมีความน่าหวาดกลัวมากมายเพียงใด

ในตอนที่หลงเฉินกำลังตื่นตะลึงหวาดผวาอยูนั้น โครงกระดูกที่ตั้งตะหง่านอยู่บนผืนดินนั้นก็ค่อยๆสั่นไหว ตรงกลางเริ่มเปิดออก เหมือนกับถูกพลังงานบางอย่างตัดแยกเป็นสองส่วน เป็นส่วนครึ่งตัวบนและครึ่งตัวล่าง

หลงเฉินแปลกใจยิ่งนัก เมื่อพบว่าเยว่เสี่ยวเฉียนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แววตาคู่งามนั้นกลับแสดงถึงความแปลกใจระคนยินดี อีกทั้งร่างกายก็สั่นระริกทั้งตัวด้วยความตื่นเต้น

“หลงเฉิน นี่คือสิ่งที่ข้าตามหา” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าวออกมา น้ำเสียงแสดงความตื่นเต้นยินดีอย่างถึงที่สุด

“สิ่งนี้ มันคืออะไรกัน” หลงเฉินเอ่ยถามน้ำเสียงแหบพร่า

“นี่คือปีศาจสองปีก ตอนมีชีวิตมันแข็งแกร่งเหี้ยมโหด ถ้าหากในตอนนี้มันยังมีชีวิตอยู่ แค่แรงกดดันของพลังที่มันปล่อยออกมาก็เพียงพอจะฆ่ายอดฝีมือขอบเขตก่อฟ้าได้แล้ว” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าวอธิบาย

ทว่าบนใบหน้าของหลงเฉินก็ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจ เยว่เสี่ยวเฉียนจึงกล่าวต่อไปด้วยท่าทีที่ระมัดระวังว่า “ความเป็นมาของปีศาจร้ายตนนี้ ในตอนนี้เจ้ายังไม่ต้องรู้จะดีกว่า ความลึกลับของมันมากเกินกว่าจะเข้าใจได้”

เมื่อเห็นนางไม่เอ่ยอะไรอีก หลงเฉินก็ไม่อยากซักไซ้ให้มากความ ผู้ใดจะอยากให้ตนเองเป็นผู้ที่ดูไร้มารยาท หรือดูโง่งมไม่รู้ความในสายตาผู้อื่นกัน

“เจ้าจะเอาโครงกระดูกทั้งหมดนี้กลับไปด้วยอย่างนั้นหรือ” หลงเฉินเอ่ยถามเสียงต่ำ

“ข้าไม่ได้ต้องการโครงกระดูกทั้งหมดนี้ เพียงแต่ต้องการผลึกปีศาจก็เท่านั้น” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าว

“แล้วเจ้าจะทำอย่างไร?” หลงเฉินกล่าวถาม

เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ข้าจะถอดม่านแสงนี้สักครู่หนึ่ง เจ้าและข้าจะได้สัมผัสลิ้มรสของความน่ากลัวของปีศาจตนนี้ มิเช่นนั้นก็ไม่มีวิธีใดแล้ว เจ้าทำได้หรือไม่?”

เมื่อมองดูม่านแสงที่ยังคงสั่นสะเทือนอย่างไม่หยุดยั้ง และมองไปยังโครงกระดูกที่น่าหวาดกลัวนั้นแล้ว หลงเฉินก็อยากจะกล่าวออกไปว่าไม่เอาด้วย แต่ก็ทำได้เพียงแข็งใจตอบไปว่า “น่าจะไม่เป็นไร”

เยว่เสี่ยวเฉียนพยักหน้าแล้วกล่าว “ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝืน แค่ออกไปให้ห่างจากจุดนี้ อานุภาพอันน่ากลัวนี้ก็จะเบาบางลง”

เยว่เสี่ยวเฉียนมองไปยังปีศาจร้ายตนนั้นแล้วกล่าวต่อไปอีกว่า “ผลึกปีศาจนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างหัวคิ้ว ถ้าหากจะเอาผลึกออกมาก็จำเป็นต้องพบเจอกับการต่อสู้ที่โหดร้าย”

“สู้รบอย่างโหดร้ายหรือ?” หลงเฉินตื่นตกใจ เขายังคงไม่เข้าใจมากนัก

“อือ จิตวิญญาณของปีศาจร้ายตนนี้แข็งแกร่งไร้ขีดจำกัด ถึงแม้ว่าพวกมันจะตายไปนานแล้วก็ตาม แต่ผลึกที่อยู่ภายในร่างกายของมัน ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญและแข็งแกร่งที่สุดและยังคงเหมือนกับมีชีวิตอยู่

ผลึกปีศาจภายในนั้นเป็นที่รวมของเศษเสี้ยวของวิญญาณเท่านั้น เศษเสี้ยวของวิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับร่างหลักได้ ข้ากล่าวอย่างนี้เจ้าอาจจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับพวกกาฝาก เจ้าน่าจะเข้าใจมากขึ้น

วิญญาณของปีศาจสองปีกยังมีพลังงานอีกชนิดหนึ่งแฝงอยู่ ถ้าหากร่างกายสูญสิ้นเมื่อใด พลังงานชนิดนั้นจะปลุกขึ้นมาและกักเก็บไว้ในผลึกปีศาจ

ถ้าหากไม่ถูกกระตุ้นจากสิ่งภายนอก มันก็ไม่อาจเคลื่อนไหวใดๆได้ แต่เมื่อมันถูกรบกวน มันก็จะแสดงอาการต่อต้านขึ้นมา” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าว

หลงเฉินได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงตาค้าง แล้วอดถามไม่ได้ว่า “วิญญาณโจมตีได้ด้วยหรือ?”

“ไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันจะต่อสู้โดยการผสานหลอมรวมเข้ากับร่างปีศาจ ซึ่งก็คือโครงกระดูกที่เจ้าเห็นอยู่นั่นแหละ เจ้าก็ต้องระวังตัวไว้ ถึงแม้ว่าปีศาจจะตายไปแล้ว แต่ความน่ากลัวของมันก็ยังคงขีดจำกัดอยู่” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าวเตือน

ช่างเป็นเรื่องราวซับซ้อนยิ่งนัก หลงเฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าคิดว่าพอจะเข้าใจแล้ว งั้นเริ่มเลยดีกว่า”

“ฮู่!”

เยว่เสี่ยวเฉียนปลดม่านแสงนั้นออก ทันใดนั้นสภาวะพลังและแรงกดดันอันแรงกล้าน่าหวาดกลัวก็ตรงเข้าบีบอัด ร่างของคนทั้งสอง ราวกับจะบดขยี้ร่างให้แหลกละเอียดในทันที

ผ่านไปเพียงเสี้ยวลมหายใจก็ราวกับยาวนานนับปี เพื่อต่อต้านพลังแรงกดดันนั้นหลงเฉินจึงรีบเบิกวงแหวนแห่งเทพออกมา วงแหวนเทพปรากฎขึ้น ก็เสียงดังสนั่นไปไกลถึงขอบฟ้า ขุมพลังรุนแรงแผ่รัศมีไปไกลกว่าร้อยจั้ง สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งท้องฟ้าและพื้นดิน ถึงแม้สภาวะพลังและแรงกดดันนั้นจะน่าหวาดกลัวเพียงใด แต่ก็ยังคงมีวงแหวนแห่งเทพที่สามารถต้านทานพลังนั้นได้

ทว่าเมื่อวงแหวนแห่งเทพปรากฎขึ้น สภาวะพลังและแรงกดดันนั้นกลับไม่ได้ถูกทำให้หายไปในทันที แต่สั่นสะเทือนรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เสมือนพลังทั้งสองสายกำลังเกิดการปะทะกันในอากาศอย่างรุนแรง อานุภาพของการต้านกันของพลังทั้งสองทำให้อากาศเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงไม่หยุด ร่างกายหลงเฉินเองก็ยากที่จะต้านแรงนั้นไหว เอนเอียงโคลงเคลงไปพร้อมกับสถานการณ์ตรงหน้าราวกับพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางคลื่นมหาสมุทรที่กำลังคลั่ง

หลงเฉินพยายามมองไปยังเยว่เสี่ยวเฉียน แต่ก็มองเห็นเพียงแค่ผมของนางที่ปลิวไสวไปมาเท่านั้น ร่างกายยังคงยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ในตอนนี้นางดูพลิ้วไหวบางเบาราวกับเทพ สภาวะพลังอันน่าหวาดกลัวนั้นก็ไม่สะทกสะท้านเยว่เสี่ยวเฉียนเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้ที่ด้านหลังของนางก็ปรากฏเงาร่างขนาดใหญ่ขึ้น

หลงเฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนก และแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว หญิงสาวผู้นี้ก็น่ากลัวไม่น้อยไปกว่าปีศาจร้ายตนนั้นเลย เงาร่างขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่ด้านหลังของเยว่เสี่ยวเฉียนนั้น ไม่ได้มีพลังที่ด้อยไปกว่าวงแหวนแห่งเทพเลย นี่เป็นครั้งแรกที่หลงเฉินตกตะลึงกับทักษะที่น่าหวาดกลัวของนาง

“ระวัง ถ้าเจ้าทนไม่ได้ ก็ขอให้ถอยออกไปก่อน ไม่จำเป็นต้องเสี่ยง” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าวจบก็ก้าวตรงไปยังโครงกระดูกนั้น

หลงเฉินไม่เมินเฉยได้รีบจ้ำอ้าวตามเยว่เสี่ยวเฉียนไป เพียงแต่แรงกดดันนั้นแกร่งกล้ายิ่งนัก ทำให้ทั้งสองร่างก็ได้รับผลกระทบรุนแรงอย่างรวดเร็ว

ยิ่งทั้งสองเข้าใกล้โครงกระดูกนั้นมากเพียงใด โครงกระดูกนั้นก็ยิ่งสั่นเทือนมากขึ้นเท่านั้น บนส่วนกระโหลกของโครงกระดูก ที่จุดตรงกลางระหว่างคิ้ว ทันใดนั้นก็ปรากฏแสงสีน้ำเงินเข้ม ลักษณะคล้ายผลึกหินปรากฏนูนออกมา

“ตรงส่วนนั้นคือผลึกปีศาจ” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าว

“แล้วจะขุดมันออกมาอย่างไร แล้วมันก็ใช่ว่าจะร่วมมือให้ขุดออกมาง่ายๆ” หลงเฉินมองดูโครงกระดูกที่กำลังเริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เพียงชั่วขณะหนึ่งก็เกิดอาการชาที่หัว รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องบ้าบิ่นมาก ในโลกใบนี้ ยังมีคนที่บ้าบิ่นทัดเทียมกับเขา หรืออาจจะมายิ่งกว่าอยู่อีกงั้นหรือ

“ข้าเองก็ไม่ทราบ ก็คงต้องลองดู” เยว่เสี่ยวเฉียนกล่าว น้ำเสียงเจือแววขอโทษ

แท้จริงแล้ว การที่นางมาถึงขอบเขตแดนลับแห่งนี้ ก็เพียงแค่อยากแสวงหาโชค เสาะหาวาสนาเช่นเดียวกับผู้อื่นเท่านั้น แม้จะมีเวลาที่จำกัดก็ตาม นางเองคิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอโครงกระดูกอปีศาจจริงๆ

หลังจากรู้ตัวว่าถามคำถามที่ไม่เข้าเรื่องออกไป หลงเฉินก็หน้าเเดง

“อือ เช่นนั้นก็ลองดู”

หลงเฉินก้าวเดินอย่างยากลำบากจนเกือบจะโซเซ ภาพของของเยว่เสี่ยวเฉียนที่อยู่ตรงหน้า ให้ความรู้สึกคล้ายลักษณะของผู้รู้วิชาขั้นสูง ทว่าเพียงชั่วพริบตาก็หายไป

คนทั้งสองมุ่งตรงไปยังโครงกระดูกขนาดยักษ์ ทันใดนั้นเองในเบ้าตากลวงโบ๋คู่นั้น ก็ปรากฏรังสีสีแดงสะท้อนไปทั่วทุกทิศ ราวกับปีศาจร้ายตนนั้นได้ลืมตาขึ้นมา แล้วมองมายังคนทั้งสองอย่างมาดหมายเอาชีวิต โครงกระดูกเคลื่อนไหว โดยใช้กรงเล็บพยายามไล่ตะครุบร่างของทั้งสองคน

“แค่หลบอย่างเดียวก็พอ อย่าไปเผชิญหน้ากับมัน”

เยว่เสี่ยวเฉียนตะโกนบอก ทันใดนั้นร่างทั้งร่างก็เลือนลาง กลายเป็นเหมือนกับเงาสายหนึ่ง นางกลายเป็นกลุ่มหมอกจางๆ และหลบออกไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว

หลงเฉินนั้น ไม่ต้องให้เยว่เสี่ยวเฉียนเอ่ยเตือน เขาก็รีบหลบซ่อนในทันที แต่ทว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางอำนาจของพลังอานุภาพที่น่าหวาดกลัวนั้น หลงเฉินก็เหมือนจมอยู่ใต้มหาสมุทรลึก ความปราดเปรียวก็สูญสิ้นไปหมด

ถึงแม้จะพยายามหลบหลีกอย่างเต็มความสามารถแล้ว แต่ก็หลบไม่พ้นกรงเล็บอันใหญ่โตนั้นอยู่ดี ในที่สุดหลงเฉินก็พลาดท่า ถูกมือขนาดใหญ่ฟาดเข้าไป โดยตรง ทำให้เขากระเด็นไปกระเเทกกับพื้นที่เเข็งราวกับเหล็ก จนเกิดเป็นหลุมยุบขนาดใหญ่

“หลงเฉิน!”

เยว่เสี่ยวเฉียนร้องเรียกอย่างตื่นตระหนก นางคิดไม่ถึงว่าหลงเฉินจะไม่หลบเลี่ยง

เมื่อโครงกระดูกปีศาจตนนั้นยกกรงเล็บใหญ่ยักษ์นั้นขึ้น ก็เห็นร่างของหลงเฉินนอนอยู่ด้านล่างในสภาพที่เสื้อผ้าฉีกขาด ดูน่าอนาจ

“รีบหลบซ่อน มันมาอีกแล้ว” เยว่เสี่ยวเฉียนตะโกนก้องด้วยความตกใจ เมื่อพบว่า โครงกระดูกปีศาจตนนั้นผายฝ่ามือใหญ่พร้อมจะทุบตีลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งรวดเร็วและทรงพลังกว่าเดินเป็นสิบเท่า

อาจเป็นเพราะปีศาจร้ายตนนี้พึ่งจะฟื้นคืนชีพ พละกำลังจึงค่อยๆเพิ่มขึ้นมาทีละน้อย ในตอนนี้ยังไม่ได้แสดงพลังทั้งหมด พลังที่แท้จริงของมันสามารถฆ่ายอดฝีมือในขอบเขตปรือกระดูกไปได้ในชั่วพริบตา

ข้าก็อยากจะหลบซ่อน แต่ก็ไม่รู้จะไปซ่อนตรงไหนที่จะรอดปลอดภัย ไม่ใช่ทุกคนจะมีวิชาเคลื่อนไหวพิสดารเหมือนเจ้าสักหน่อย หลงเฉินคิดอย่างอับจนหนทาง

เห็นเยว่เสี่ยวเฉียนตะโกนด้วยความตระหนกตกใจ หลงเฉินจึงกล่าวกลับไปว่า “เจ้าไม่ต้องสนใจข้า ข้าจะเผชิญหน้ากับมัน เจ้าไปคิดหาวิธีเอาผลึกปีศาจออกมาเถอะ”

หลงเฉินกล่าวจบก็เห็นกรงเล็บนั้นฟาดลงมาใส่อีกครั้ง ดาบทลายมารปรากฎขึ้นในมือหลงเฉิน แผ่สภาวะพลังอันมหาศาลราวกับคลื่นมหาสมุทร เกิดลำแสงพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า อักขระบนใบดาบเรืองแสงสีทองออกมาชัดเจนแวบหนึ่ง หลงเฉินเงื้อมทลายมารในมือขึ้นหมายจะตัดกรงเล็บนั้นให้ขาดสิ้น

“อ่าห์!!!!”

เสียงดังก้องไปทั่วปฐพี หลงเฉินก็ถูกแรงสะเทือนนั้นกระแทกชนกับหินใหญ่ สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดทั่วร่างกาย ห้าอวัยวะภายในถูกแรงสะเทือนราวกลับจะหลุดออกมา

ในใจของหลงเฉินในตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นตะลึงปนตระหนก โครงกระดูกปีศาจสองปีกนั้น ไม่มีเลือดเนื้อ ไม่มีความรู้สึก มีเพียงพลังแห่งจิตวิญญาณอันน้อยนิดเท่านั้น ในการขับเคลื่อนร่างกาย คิดไม่ถึงว่ามันจะมีพละกำลังน่ากลัวถึงเพียงนี้ ตอนมีชีวิตอยู่ต้องเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน และคงไม่ต้องคาดเดาถึงความน่าหวาดของมัน

“ผ่าจันทรา”

ทันใดนั้นเสียงแผดเสียงตะโกนของเยว่เสี่ยวเฉียนก็ดังขึ้น นางทยานขึ้นไปบนอากาศ ส่งพลังโจมตี เพื่อป้องกันหลงเฉินจากการโจมตีของปีศาจตัวนี้ การฟันของนางทำให้เกิดแสงของพลังรูปดวงจันทร์เสี้ยวขึ้น พุ่งตรงไปยังโครงกระดูกยักษ์นั้น

ลำแสงรูปดวงจันทร์ที่มีความยาวกว่าร้อยจั้งตัดผ่านอากาศ คล้ายกับเคียวของยมทูต ฟันเข้าใส่ส่วนคอของโครงกระดูกอย่างรุนแรง

“อ้ากกกก”

เสียงคำรามดังลั่น กระดูกตรงส่วนคอของโครงกระดูกปีศาจร้ายนั้น ได้แตกออกไปส่วนหนึ่งจากการฟันที่รุนแรง แต่แม้ว่าจะถูกฟันด้วยพลังที่รุนแรงถึงเพียงนั้น แต่ก็ยังไม่พอที่จะตัดมันให้ขาดไปได้

ร่างกายเพียงครึ่งตัวของปีศาจลุกกลับขึ้นมา มันกางกรงเล็บหมายจะจับเยว่เสี่ยวเฉียน ร่างทั้งร่างของเยว่เสี่ยวเฉียนเลือนลางไปในชั่วพริบตาเดียว แล้วก็สลายหายไปปรากฎยังอีกที่หนึ่ง กรงเล็บคู่นั้นจึงจับได้เพียงความว่างเปล่า

แต่ทว่าร่างกายปีศาจนั้นใหญ่โตมาก เมื่อมันพยายามใช้กรงเล็บของมันจับเยว่เสี่ยวเฉียน นางก็ทำได้เพียงแค่เลี่ยงหลบความเร็วและแหลมคมของกรงเล็บเท่านั้น ไม่อาจต่อกรกับมันได้

หลงเฉินเข้าใจขึ้นมาอย่างฉับพลัน เยว่เสี่ยวเฉียนมีฝีมือด้านการสู้รบสูงอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ชำนาญ พลังทางกายภาพของนางก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ทั้งประสบการณ์การต่อสู้ก็ไม่ได้สูงมากด้วย

“ลี้ลมตัด”

สิ้นเสียงตะโกนของหลงเฉิน ทลายมารในมือก็ปรากฏแสงรังสียาวกว่าหนึ่งร้อยจั้ง ฟันลงไปที่ปีศาจร้ายตนนั้นในทันที

สิ่งที่หลงเฉินนึกไม่ถึงก็คือ โครกระดูกนั้นมีสัมผัสที่ยอดเยี่ยมมาก มันละทิ้งการไล่ตามเยว่เสี่ยวเฉียน แล้วหันกลับมารับมือกับทลายมารของหลงเฉินอย่างรวดเร็ว โดยการส่งกรงเล็บเข้าปะทะ

ผลลัพธ์ก็คือทลายมารของหลงเฉินถูกกรงเล็บนั้นทำลายจนแตกหักไปสิ้น แต่เมื่อดูจากพลังทำลายล้างของกรงเล็บนั้นแล้ว ถ้าหากหลงเฉินพลาดไปโดนเข้า แค่ครั้งเดียวและเพียงเสี้ยวเดียมเขาก็อาจจะบาดเจ็บสาหัสและถึงตายได้

“เสี่ยวเฉียน ข้าจะล่อมันเอาไว้ เจ้าแค่ลอบโจมตี เล็งที่คอตรงที่เจ้าทำรอยไว้จากการโจมตีครั้งก่อน”

หลงเฉินตะโกนบอกพร้อมใช้ดาบฟันลงไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หลงเฉินเริ่มฉลาดเพื่อป้องกันไม่ให้มันคาดเดาทิศทาง และกลยุทธ์ของเขาได้ เขาจึงเลือกใช้ดาบพลังปราณเข้าโจมตีแทนที่จะใช้ดาบจริง

ปีศาจร้ายตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มันทำลายดาบปราณของหลงเฉินที่โจมตีเข้ามา

แต่ครั้งนี้การทำลายดาบปราณไป ทำให้หลงเฉินไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เขาจึงใช้ดาบปราณโจมตีต่อไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปีศาจขนาดยักษ์

อย่างไรเสียมันก็คือสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว ไม่มีสติปัญญา เพียงแค่ใช้สัญชาตญาณของมันเข้าต่อสู้ หลงเฉินรู้จุดอ่อนของเจ้าปีศาจร้ายนี้ได้อย่างรวดเร็ว และนั่นก็ยิ่งทำให้เสี่ยวเฉียนอดไม่ได้ที่จะยินดี

เยว่เสี่ยวเฉียนลอบเข้าไปทางด้านหลังของปีศาจ และใช้ท่าผ่าจันทรา ของนางตัดกระดูกคอของมัน ถึงแม้ว่าหลงเฉินยังต่อสู้อย่างดุเดือดกับปีศาจ แต่เขาก็ยังมองเห็นการโจมตีของนางอย่างชัดเจน

เยว่เสี่ยวเฉียนใช้ความความสามารถของนาง นางจะใช้ทักษะที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง ซึ่งแตกต่างที่จากหลงเฉินใช้ในการต่อสู้ การโจมตีของนางนั้นไม่มีสัญญาณหรือเคล้าลางบอกถึงการโจมตีของนางเลย จนกระทั่งนางเริ่มโจมตีออกไปจริงๆ

นั่นเอง เป็นเหตุให้ปีศาจร้ายถึงทำได้เพียงเเค่จ้องมองการโจมตีของนาง แต่ไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน

เยว่เสี่ยวเฉียนฟันลงไปครั้งหนึ่ง แล้วฟันโจมตีลงไปย้ำๆตรงจุดเดิมบนกระดูกคอนั้น จนในที่สุดโครงกระดูกขนาดใหญ่ก็แบกรับไม่ไหวระเบิดแตกกระจายออกไป ทำให้ส่วนศีรษะของมันร่วงหล่นลงมา

.

.

.

* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด